มีเสียงดังปัง ความตายปรากฏขึ้นทันใด!
ตั้งแต่แมวตัวแรกตายแล้วฟื้นคืนชีพจนถึงตอนจู่โจมฟีน่า แมวเห็นภาพเคลื่อนไหวรวดเร็วทุกอย่างนี้ได้ชัดเจน แต่สำหรับคนแล้ว แค่เวลาพริบตาเดียวสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเยอะมาก
การตอบสนองของเหล่าฉาพูดไม่ได้ว่าช้า แต่มันเสียเปรียบตรงที่อีกฝ่ายโจมตีฉุกละหุกเกินไป อีกอย่างมันเป็นแมวที่ใจกว้างและตรงไปตรงมา เกลียดการวางแผนเจ้าเล่ห์ และอีกฝ่ายก็ปิดบังตัวมานานแล้ว แถมยังหน้าเนื้อใจเสือและเหลี่ยมจัด ซึ่งวางแผนทุกอย่างไว้รอบด้านแล้ว
ด้วยเหตุนี้ หนึ่งหมัดของเหล่าฉาแลกกับกรงเล็บซ้ายของผู้จู่โจมตัวที่สองจะส่งเสียงปังดังกังวาล อีกฝ่ายฝืนรับการโจมตีครั้งนี้ ร่างกายก็ถูกกระแทกจนล้มไถลออกไปหลายนิ้ว อุ้งเท้าขวาของมันก็เอียงไปหลายส่วน
ตอนนี้วลาดิเมียร์กับฟีน่าสังเกตเห็นผู้จู่โจมที่มาใหม่ แต่ก็สายไปแล้ว วลาดิเมียร์ทำได้แค่หอบหายใจ แล้วหลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็วสุดชีวิต
ระยะห่างเล็กน้อยนี้ทำให้วลาดิเมียร์พ้นจากจุดยุทธศาสตร์ไปได้ แต่อุ้งเท้านี้ยังคงเหวี่ยงมาหาตัวมัน ถูกข่วนจนเนื้อตัวเกิดแผล
ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือของเหล่าฉา พลังของกรงเล็บนี้จะต้องหนัก แม่นยำ และรุนแรงกว่านี้แน่
วลาดิเมียร์ร้องโอดครวญเสียงดัง ไหล่ซ้ายถูกข่วนจนเลือดไหล ร่างกายซวนเซจะล้มลง ฟีน่าจะรีบมาประคองมัน
หางตาของเหล่าฉาแดงก่ำ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พลางชี้ไปที่แมวสองตัวนั้น “เจ้าคนชั่วช้า!”
“ฮ่าๆ! น่าขันเสียจริง!”
แมวสองตัวยืนเรียงกัน แมวตัวที่สองที่เพิ่งปรากฏตัวอ้วนท้วนเล็กน้อย แต่เด็กและแข็งแรงกว่าแมวตัวแรก กรงเล็บอันแหลมคมเป็นสีดำ ปลายกรงเล็บเปื้อนเลือดของวลาดิเมียร์ด้วย
แมวตัวแรกเงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะแฝงไว้ด้วยการถากถางฟีน่า “แม้เจ้าจะยิ่งใหญ่ แต่โชคดีเช่นนี้ไม่มีอีกเป็นครั้งที่สองแน่!”
ฟีน่าทั้งร้อนใจทั้งโกรธ มันเคยบาดเจ็บในสงคราม และเคยเสียเพื่อนไปในสงคราม แต่ไม่เคยทำให้เพื่อนบาดเจ็บล้มตายเพราะความผิดพลาดของตัวเอง และไม่เคยเจอศัตรูเจ้าเล่ห์และโหดร้ายขนาดนี้ ถ้าสายตาฆ่าคนได้ มันคงใช้สายตาฆ่าแมวสองตัวนี้ไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
เหล่าฉารู้สึกได้ถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ เดิมทีเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ แต่ตอนนี้กลับเสียเปรียบแล้ว ทีแรกคิดว่าต่อสู้สองต่อสองก็ไม่เท่าไร เพราะเหล่าฉากับฟีน่าไม่กลัวศัตรู แต่พวกมันต้องแบ่งความสนใจไปดูแลวลาดิเมียร์ แถมต้องระมัดระวังฝูงแมวโดยรอบ ยังต้องระวังอีกว่าจะมีศัตรูตัวอื่นซ่อนตัวอยู่หรือเปล่า มีอุปสรรค์รอบด้าน
แม้วลาดิเมียร์จะไม่ได้บาดเจ็บหนัก แต่แผลก็ค่อนข้างลึก เลือดไหลไม่ยอมหยุด ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ช้าก็เร็วคงต้องเสียเลือดตายแน่
ถึงแม้ความเป็นความตายอยู่ตรงหน้า มันก็ยังฝืนยิ้มออกมา มองโลกในแง่ดีโบกมือพูดว่า “พวกนายไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันทนได้ เพราะความตายไม่เป็นของผู้นับถือลัทธิเหมียวเหมียว!”
พอโบกมือแล้วก็สะเทือนไปถึงแผล เจ็บจนมันเกือบสลบไป
ฟีน่าสูดหายใจเฮือกหนึ่ง กำลังจะสั่งให้แมวสองตัวนี้ฆ่าตัวตายอีก พวกมันฟื้นคืนชีพได้กี่ครั้งก็ให้มันฆ่าตัวตายไปเท่านั้นแหละ แต่พวกมันไม่คิดจะเหลือเวลาพร่ำอะไรยืดยาวให้มันขนาดนั้น จึงยกอุ้งเท้าและโค้งตัวเตรียมจู่โจมทันที
ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่การ์ตูนญี่ปุ่นที่ตอนตัวเอกแปลงร่างหรือร่ายคำสาป ฝ่ายศัตรูแค่ยืนมองโง่ๆ
ตอนนี้เอง ต้นไม้และพงหญ้าก็ส่งเสียงโครมดังสนั่น มีเงาดำสายหนึ่งกระโจนออกมาในป่า
ฟีน่ากับเหล่าฉาอกสั่นขวัญแขวน ถ้าศัตรูมีผู้ช่วยเพิ่มขึ้นอีก วันนี้พวกมันสามตัวคงต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว
แต่แมวสองตัวนั้นก็ตกใจไม่ใช่ย่อย เพราะที่ปรากฏตัวเป็นฟราเทอร์ที่พวกมันตัดสินให้ฆ่าตายไปแล้ว
บนตัวของฟราเทอร์มีกิ่งไม้และใบไม้ติดอยู่เต็มไปหมด มันดมกลิ่นของศัตรูตามรอยมาอย่าวเร็วที่สุด แต่สถานที่ที่แมวเดินได้ไม่เหมาะให้หมาป่าเดิน เพื่อทำเวลา มันไม่ได้เดินทางอ้อม แต่ตรงเข้ามาเลย
มันกวาดสายตาครั้งหนึ่ง เห็นวลาดิเมียร์ที่ได้รับบาดเจ็บ จึงเดาได้คร่าวๆ ว่าฝ่ายตนเองเสียเปรียบแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู ดวงตาจะลุกโชนด้วยไฟแห่งความเกลียดชัง
ฟราเทอร์คำรามเสียงดัง “พามันไปรักษา ข้าจะจัดการที่นี่เอง!”
ถ้าเป็นเวลาปกติ ฟีน่าจะต้องอยู่แทงศัตรูให้ตาย แต่วลาดิเมียร์บาดเจ็บหนักมากเพื่อช่วยมัน เห็น วลาดิเมียร์เสี่ยงตาย ตอนนี้มันจึงได้แค่ลดความเย่อหยิ่งของตัวเอง
ฟีน่าพูดเสียงเบาว่า “ข้าจะพามันไปที่บ้าน หากเจอจางจื่ออันจะให้เขารีบไสหัวมา! ช้าไปแค่วินาทีเดียวข้าจะให้เสวี่ยซือจื่อตอนเขาทิ้งเสีย!”
วลาดิเมียร์ที่ต้องได้รับการรักษา จะต้องรักษาแผลในสถานที่ปลอดภัย สะอาด และมีแสงสว่าง ทำอยู่กลางป่าไม่ได้แน่นอน และสถานที่เดียวที่ปลอดภัยและสะอาดก็มีแค่บ้านหลังใหญ่ที่เมแกนอยู่เท่านั้น
ฟีน่าไม่สะดวกพูดต่อหน้าศัตรู แต่เหล่าฉาเข้าใจความหมายของมันแล้ว จึงพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ
ศัตรูไม่ปล่อยโอกาสฆ่าวลาดิเมียร์ไปทั้งอย่างนี้ แมวแก่ที่อายุค่อนข้างมากแล้วถูกฟราเทอร์เพ่งเล็ง พอแมวอ้วนที่อายุค่อนข้างน้อยขยับตัวหมายจะไปสกัดฟีน่า ก็ถูกเหล่าฉาขวางไว้ทันที
เหล่าฉาตั้งท่าเรียบร้อย แล้วพูดเสียงดังกังวาน “พี่ฝ่าต่อสู้ลำพัง ข้าไม่ประมาณตนเอง ขอช่วยพี่ฝ่าสักครั้ง!”
ศัตรูตัวฉกาจอยู่ตรงหน้า ฟราเทอร์ไม่ได้แซ่ฝ่า แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาโต้เถียงว่าอะไรคือพี่ฝ่า มันก็ไม่รู้ว่าศัตรูแข็งแกร่งและปลิ้นปล้อนมากแค่ไหน ศัตรูสองตัวยากจะรับมืออยู่แล้ว แน่นอนว่าเหล่าฉายอมอยู่ช่วยก็ดีอย่างยิ่ง
แมวแก่ยังไม่ยอมปล่อยฟีน่า มันร้องเสียงแหลม ฝูงแมวโดยรอบพร้อมก่อความวุ่นวายขึ้นมาโดยพลัน ไม่สนใจเหล่ากับฟราเทอร์ และรวมตัวกันเข้าไปล้อมฟีน่า
ปกติฟีน่าจะไม่เห็นฝูงแมวอยู่ในสายตา แต่ตอนนี้มันประคองวลาดิเมียร์อยู่ ความสามารถในการเคลื่อนไหวไม่ได้เต็มร้อยเหมือนปกติ
วลาดิเมียร์กัดฟันยืนยันอีก “ไม่ต้องสนใจฉัน ไปจัดการศัตรู ฉันทนไหว ความตายไม่เป็นของผู้นับถือลัทธิเหมียวเหมียว…เหมียวเขาสิ เจ็บเหลือเกิน!”
เสียงของมันอ่อนแรงลงเรื่อยๆ พร้อมจะสลบไปได้ตลอดเวลา ใช้ความแน่วแน่ดังเหล็กกล้าฝืนตื่นอยู่ทั้งนั้น
“เก็บแรงเอาไว้! อย่าพูดไร้สาระ!”
ฟีน่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขณะที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็มีสัตว์ป่าขนาดใหญ่หลายตัวกระโดดออกมาจากในป่าอันมืดสนิทอย่างต่อเนื่อง เป็นฝูงหมาป่าอเมริกาเหนือนั่นเอง
พวกหมาป่าได้ยินเสียงเรียกของฟราเทอร์ ในที่สุดก็มาถึงที่นี่แล้ว
แล้วฟราเทอร์ก็หอนยาวๆ สั่งให้หมาป่าตัวหนึ่งในนั้นไปหาจางจื่ออัน ส่วนหมาป่าตัวอื่นคุ้มกันฟีน่าและวลาดิเมียร์ฝ่าวงล้อมออกไป
กฎของป่า จำนวนและขนาดตัวก็คือลำดับความสำคัญ ฝูงหมาป่าจัดแถวคุ้มกันข้างหน้าและทั้งสองข้างของฟีน่าราวกับหัวลูกศร
ฝูงหมาป่าไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะฆ่าฝูงแมว พอเจอแมวขวางทาง ถ้าไม่โบกอุ้งเท้ากวาดกระเด็นไป ก็จะคาบไว้แล้วสะบัดไปอีกด้านหนึ่ง แต่พวกมันพบว่าใช้ร่างกายพุ่งชนโดยตรงแบบหมูป่าได้ผลที่สุด สำหรับฝูงแมวที่น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยไม่ถึงสิบกิโลกรัม หมาป่าอเมริกาเหนือที่มีน้ำหนักตัวหกสิบถึงเจ็ดสิบกิโลกรัมก็เหมือนรถถังบดรถยนต์คันเล็ก ชนทีหนึ่งแมวก็กระเด็นไปไกล
ด้วยการคุ้มกันไปส่งของฝูงหมาป่า ฟีน่าก็ประคองวลาดิเมียร์เดินโงนเงนตีฝ่าวงล้อมออกไปทางหมู่บ้านอินเดียแดงได้ในที่สุด แต่ฝูงหมาป่าก็ทั้งสู้ ทั้งถอย เพื่อขวางไม่ให้พวกนั้นตามล่ามาข้างหลัง