บทที่ 353

เห็นหลิวเยว่ดูท่าทางเหมือนจะหลุดพ้นจากการควบคุมของตัวเอง ในใจอู๋ฉีรู้สึกกังวลมาก ไม่ว่างไปสนใจเหยื่อสาวสวยในบาร์ที่ตัวเองคิดจะลงมือ รีบวิ่งกลับไปที่โรงเรียน

ทันทีที่เข้าโรงเรียน อู๋ฉีก็รีบไปที่สระน้ำ ในที่สุดที่ริมสระน้ำ ก็เห็นหลิวเยว่

เขาเดินอย่างรวดเร็วมาถึงข้างหน้าของหลิวเยว่ จี้ถาม “เยว่เยว่ คุณมีของขวัญอะไรให้ผม?”

ทันใดนั้นเย่เฉินก็ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยรอยยิ้ม “เธอไม่มีของขวัญให้คุณ แต่ผมมี!”

“คุณเป็นใคร?” อู๋ฉีขมวดคิ้วมองหลิวเยว่ จี้ถาม”คนนี้เป็นญาติของคุณเหรอ?”

เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “ผมไม่ใช่ญาติของเธอ”

อู๋ฉีจี้ถาม “งั้นคุณเป็นใคร?”

เย่เฉินพูดเบา ๆ “ผมเป็นคนธำรงคุณธรรมแทนสวรรค์!”

พูดจบ เย่เฉินก็ตบหลังหลิวเยว่และพูดว่า “หลิวเยว่ คุณไปหาพวกเอ้าเสวี่ยนเถอะ กลับไปหอพักเปลี่ยนชุดสะอาดก่อนเถอะ ที่นี่ไม่มีเรื่องของคุณแล้ว”

หลิวเยว่พยักหน้าอย่างซาบซึ้ง เพราะเรื่องเมื่อกี้ ดังนั้นเธอจึงไว้ใจเย่เฉินเป็นหมื่นเท่า โค้งคำนับด้วยความเคารพ ก้าวเดินไปหาพวกฉินเอ้าเสวี่ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

ฉินเอ้าเสวี่ยนกับเพื่อนร่วมชั้นทุกคน เห็นว่าเธอเลิกล้มความคิดที่จะฆ่าตัวตาย รีบกอดเธอร้องไห้ด้วยความดีใจ

หลิวเยว่ก็รู้สึกซาบซึ้งถึงความเป็นห่วงของเพื่อนๆ

ต่อมา เพื่อนร่วมชั้นสองสามคนก็มาส่งเธอกลับไปที่หอพัก

อู๋ฉีมองจากที่ไกลๆ รู้สึกว่าท่าทางของหลิวเยว่ตอนนี้ดูแปลกๆ หรือว่าเธอจะหลุดพ้นจากจิตวิทยาของตัวเองแล้ว? !

ในใจเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขมวดคิ้วและจ้องมองเย่เฉินที่อยู่ตรงหน้า “เป็นคุณใช่ไหมที่ให้หลิวเยว่โทรหาหลอกผมมา คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”

เย่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วถามว่า “หมายความว่าอย่างไร? ผมแค่อยากถามคุณ? พ่อแม่ของคุณให้กำเนิดคุณออกมาเพื่อให้คุณมาทำร้ายเพศหญิงหรอ? คุณเลวขนาดนี้ พ่อแม่คุณรู้รึเปล่า?”

ท่าทางอู๋ฉีเยือกเย็นลง เขาตระหนักได้ว่า ตัวเองถูกเปิดเผยจนแพ้แล้ว ดังนั้นจึงด่าว่า “กูจะทำผู้หญิงมันเป็นความสามารถของกู จะทำผู้หญิงเท่าไหร่ยิ่งเป็นความแข็งแรงของกู คุณมีธุระอะไร? คุณเป็นตัวอะไร? คิดจะมายุ่งกับผม? รู้ไหมว่าผมเป็นใคร? ทุกนาทีทำให้คุณตายได้เชื่อไหม?”

เย่เฉินยิ้มแล้วพูดว่า “ทำไม? ที่มาคุณใหญ่โตมากหรอ?”

ใบหน้าอู๋ฉีเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส พูดว่า “ตระกูลอู๋แห่งซูหางคุณเคยได้ยินไหม? ถ้าหากไม่เคยได้ยินล่ะก็ สามารถไปสืบดูๆ ตระกูลอู๋ของพวกเรา เป็นครอบครัวอันดับต้น ๆ ของเจียงหนาน !”

“โอ้” เย่เฉินหัวเราะแล้วพูด “ครอบครัวอันดับต้น ๆ ของเจียงหนาน เก่งกาจมาก ผู้ชายที่มาจากครอบครัวอันดับต้น ๆ ของเจียงหนาน เลวเหมือนคุณทุกคนไหม? จ้องแต่ทำร้ายเพศหญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์?”

อู๋ฉีหัวเราะอย่างเย็นชา “ผมชอบ คุณไม่พอใจหรอ? ก็ผมชอบท่าทางผู้หญิงพวกนี้ที่ถูกผมควบคุม ก็คือชอบดูพวกเขาเพื่อผมแล้วยอมทำร้ายตัวเองและฆ่าตัวตาย คุณต้องมายุ่งหรอ? อีกอย่าง คุณมีปัญญายุ่งหรอ?”

เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าครอบครัวของคุณสุดยอดใช่ไหม เพราะฉะนั้นทำอะไรก็มีคนหนุนหลัง? อีกอย่าง ทำไมผมได้ยินมาว่า ครอบครัวที่ใหญ่จริงๆมันอยู่ที่ทางเหนือ โดยเฉพาะเย่นจิง ที่นั่นถึงจะเป็นสถานที่ที่ครอบครัวใหญ่อยู่กัน ครอบครัวที่อยู่ข้างนอก ส่วนใหญ่จะเทียบไม่ได้สักนิด ”

อู๋ฉีพูดอย่างดูถูก “ แม้ว่าตระกูลอู๋ของพวกเราจะเทียบไม่ได้กับตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ ในเย่นจิง แต่พวกเราก็ยังเป็นหนึ่งในตระกูลที่ดีที่สุดในเขตเจียงหนาน แม้แต่ตระกูลซ่งในจินหลิง อำนาจยังไม่แหนือกว่าตระกูลอู๋ ดังนั้นคุณพิจารณาๆล่วงเกินผม คุณรับไหวหรอ?”

เย่เฉินพยักหน้า พูดเกินจริงว่า ” ตระกูลอู๋แห่งซูหางใช่ไหม? ร้ายกาจนะ ผมกลัวมาก!”

อู๋ฉียิ้มอย่างเย็นชา “กลัวก็รีบไสหัวไป แม่งอย่ามายุ่งเรื่องชาวบ้าน ถ้าไม่อย่างนั้น ผมโทรศัพท์ทีเดียวก็ทำให้ครอบครัวคุณตายหมดได้!”

เย่เฉินพูดอย่างหัวเราะ “กลัวก็ส่วนกลัว แต่คนอย่างผมเป็นโรคอย่างหนึ่ง ยิ่งกลัว ก็ยิ่งอยากลองดู!”

พูดจบ เย่เฉินจ้องมองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอาฆาต พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?”

“แม่งผมไม่สนหรอกว่าคุณเป็นใคร!” อู๋ฉีกัดฟันพูด “ล่วงเกินผม ถึงแม้จะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ ก็ต้องชดใช้!”

————