ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
กระทั่งอ้าวปาเอง ขณะมองเซียวอวี๋ก็ยังทอดถอนใจ พรสวรรค์ของเซียวอวี๋ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถลอกเลียนได้จริงๆ มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว สามารถปั่นหัวอีกฝ่ายทั้งยังพลิกสถานการณ์ให้มาเข้าทางเขาได้อย่างง่ายดาย การตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาก็คือการตกลงร่วมเป็นพันธมิตรกับเซียวอวี๋ โถวปาหงเดินเข้าค่ายทหารขณะที่เซียวอวี๋เดินตามอยู่ทางด้านหลัง เหล่าทหารที่ประจำค่ายต่างมองมายังกลุ่มของพวกเขาด้วยความเทิดทูน ทหารม้าที่เคยมาล้อมพวกเขาเองก็ติดตามอยู่ทางด้านหลังอย่างเงียบขรึม คล้ายกับคอยทำหน้าที่อารักขากลุ่มของโถวปาหง สิ่งที่เซียวอวี๋ได้กล่าวไปนั้นทำให้พวกเขาคิดได้และเลือกที่จะเชื่อมั่นในองค์จักรพรรดิ จักรพรรดิที่คอยต่อสู้ในแนวหน้าเพื่อปวงประชาเช่นนี้หาได้ง่ายนักหรือ? ไม่ว่าผู้อื่นจะยอมรับเขาเป็นจักรพรรดิหรือไม่ แต่เพียงข้อที่ต่อสู้เพื่อประชาชนแล้ว เหล่าทหารม้าก็ยอมรับนับถือจนหมดหัวใจ ระหว่างทาง เซียวอวี๋กวาดสำรวจดูภายในค่ายและต้องรู้สึกตกตะลึง ทั้งการจัดวางกระโจม การแบ่งสรรพื้นที่ การจัดวางกำลังล้วนแต่เป็นระบบระเบียบ ไพร่พลมีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม พวกม้าพาหนะก็สมบูรณืพร้อมออกศึก กองทัพนี้คู่ควรแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นทัพอันดับหนึ่งของจักรวรรดิเมฆา ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดภายใต้การนำของแม่ทัพใหญ่โถวปาหู่ถึงมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วแดนดิน ดูเหมือนว่าเซียวอวี๋จะประเมินทหารม้าสองนายที่หน้าค่ายนั้นเกินไปหน่อย และยิ่งโดยเฉพาะกับม้าพาหนะสองตัวนั้น อาชาอัสนีสองตัวนั้นไม่ธรรมดาเลย มันเทียบได้กับม้าจากระบบเสียด้วยซ้ำ ม้าของระบบทรงพลังมาก พวกมันสามารถเร็วได้เหมือนเบนท์ลีย์ กระโดดได้เหมือนกับรถออฟโร้ด เซียวอวี๋หวนนึกถึงรถฮัมวี่ในชีวิตก่อน ไม่คิดเลยว่าจะพบม้าที่มีความสามารถถึงขนาดนี้ได้ที่นี่ จะเป็นอย่างไรหากถูกพุ่งชนด้วยรถฮัมวี่? แรงกระแทกที่ได้คงรุนแรงน่าดู เซียวอวี๋เกิดความสนใจในม้าพวกนี้เข้าแล้ว หากว่าเขาสามารถครอบครองกองทัพเช่นนี้ได้ เขาก็จะมีอำนาจมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หันกลับมาดูทางโถวปาหงแล้ว กองทัพที่เขาครอบครองกลับเป็นเพียงทัพม้าธรรมดาทั่วไป จากข้อนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าม้าพันธุ์เหล่านี้หาได้ยากเพียงใด เซียวอวี๋กวาดสายตามองดูกระโจมก่อนจะประมาณกำลังทหารในใจ จำนวนของกองทัพที่อยู่ที่นี่มีอยู่ราวสองหมื่นคน จำนวนเท่านี้ไม่นักว่ามากเท่าใด อย่างไรก็ดี หากเป็นทัพม้าชั้นเลิศแล้ว จำนวนสองหมื่นก็เรียกได้ว่ามีอำนาจเหนือทุ่งกว้างแล้ว เซียวอวี๋ลองเทียบทัพม้าอัสนีพวกนี้กับกองทัพอัศวินของเขาก่อนจะพบว่าทัพม้าทัพนี้ดูเหมือนจะเหนือกว่ากองทัพอัศวินจากระบบของเขาอยู่ขั้นหนึ่ง ข้อได้เปรียบเพียงหนึ่งเดียวของทัพม้าอัศวินของเขาก็คือ คนและม้าล้วนหลอมรวมเป็นหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ ทัพม้าทัพอื่นๆย่อมไม่สามารถมีเปรียบในข้อนี้ หากเทียบระหว่างทัพม้าทั้งสองนี้ในจำนวนหนึ่งพันนายเท่ากัน ทั้งสองฝ่ายคงต้องสูญเสียอย่างหนัก แม้แต่เขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่ากองทัพไหนจะกำชัยในที่สุด จากจุดนี้ก็สามารถบ่งบอกได้อีกข้อว่าทัพม้าอัศวินก็ธรรมดาเช่นกัน ฉินเช่อสามารถบัญชาการทัพอัศวินหนึ่งพันนายนั้น เมื่อผสมรวมเข้ากับทัพหมาป่าและทัพอื่นอีกบางส่วน ฉินเช่อย่อมสามารถท่องไปได้ทั่วทั้งทุ่งกว้างแห่งนี้ แต่หากว่าฉินเช่อได้รับทัพม้าจำนวนสองหมื่นนี้ไปอีก ฉินเช่อย่อมกวาดพิชิตจักรวรรดิแห่งนี้ได้เลย กองทัพม้านั้นทรงพลังเกินไป ไม่แปลกที่ว่าเมื่อไรได้ยินขื่อของทัพพยัคฆ์ ชาวเมฆาทั้งหมดจึงรู้สึกให้ความเคารพ และไม่แปลกที่โถวปาหงเมื่อได้ยินว่าอ๋องหู่เดินทางมาพบ เขาถึงมีทีท่าประหลาดใจเช่นนั้น ด้วยกองทัพเช่นนี้ พวกเขาสามารถเข้าจัดการกับพวกเซิกได้โดยตรง ติดก็แต่เพียงไม่ทราบว่าอ๋องหู่นั้นเป็นบุคคลเช่นไร ครัง้นี้ใช่มีแผนการอยู่เบื้องหลังหรือไม่? ดูจากท่าทีของโถวปาเฟิงแล้ว เซียวอวี๋ก็ไม่พบเห็นข้อพิรุธอะไร เพียงแต่พวกเขาดูเหมือนจะยังไม่ได้ยอมรับโถวปาหงในฐานะจักรพรรดิ ในเรื่องนี้ เซียวอวี๋สามารถเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน เขาจะต้องพิชิตใจอ๋องชราผู้นี้ ไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็หน้ากระโจมบัญชาการขนาดใหญ่ กระโจมหลังนี้สูงถึงสิบเมตรและกว้างกว่าร้อยเมตร ดูโอ่อ่าภูมิฐานอย่างยิ่ง ภาพบนกระโจมแสดงสัตว์ร้ายต่างๆที่ดูราวกับมีชีวิต เซียวอวี๋หรี่ตามองกระโจมหลังใหญ่นี้ก่อนจะลอบผงกศีรษะ การตั้งกระโจมเช่นนี้ขึ้นสามารถแสดงบารมีออกผู้สูงศักดิ์ออกมาได้ดีจริงๆ ที่เบื้องหน้าของกระโจม ทหารชั้นยอดหลายสิบนายยืนยามอยู่สองฟากข้าง ท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง แต่ละคนล้วนมีฝีมืออยู่ขั้นที่ห้า ‘มารดามันเถอะ เอานักรบขั้นที่ห้ามายืนเฝ้ายามให้แบบนี้มันช่างรู้สึกดีมากจริงๆ’ เซียวอวี๋มองดูฉากที่เบื้องหน้าก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ให้พวกเราเดินผ่านทหารเหล่านี้เข้าไปหรือ? ลูกไม้เล็กน้อยเหล่านี้ เมื่อนำมาใช้ต่อหน้าจักรพรรดิ พวกเจ้าก็ยังคิดจะใช้ออกอีกหรือ?” ได้ยินวาจาของเซียวอวี๋ โถวปาเฟิงก็รุ้สึกอับอายเล็กน้อย อันที่จริง องค์รักษ์เหล่านี้เป็นองคืรักษ์ประจำตัววังอ๋อง เรียกว่าองค์รักษ์พยัคฆ์ พวกเขามักต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่อยู่ข้างกายอ๋องหู่ ที่นำพวกเขาออกมาแสดงในวันนี้ อันที่จริงเพียงเพื่อลอบสร้างแรงกดดันให้กับโถวปาหง ทว่าเมื่อถูกเซียวอวี๋กล่าวถากถาง โถวปาเฟิงก็ทราบแล้วว่าลูกไม้เช่นนี้ไม่ได้ผล