ในกระเป๋าสะพายของจางจื่ออันมีขวดใส่น้ำสะอาดเล็กน้อย เพื่อรักษาชีวิตยามคับขันในสถานการณ์ที่หาแหล่งน้ำไม่ได้ แต่ตลอดทางมานี้เขาไม่เคยขาดน้ำเลย จึงไม่ได้ใช้แม้เพียงสักนิด
เขาหยิบออกมาขวดหนึ่ง และล้างแก้วใบหนึ่งจนสะอาด จากนั้นใช้เข็มฉีดยาดูดน้ำสะอาดมาปริมาณหนึ่ง แล้วนำไปอังความร้อนบนเทียน แล้วเทโซเดียมไซเตรทในปริมาณหนึ่งลงบนตราชั่งเล็กๆ ในห้องครัว เมื่อผสมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันแล้วก็เขย่าให้เข้ากัน แม้ปัจจัยจะมีจำกัดจึงไม่ได้ถึงขั้นแม่นยำ แต่ก็ได้ระดับความเข้มข้นประมาณสี่เปอร์เซ็นต์แล้ว
หลังจากเข้ากันแล้ว เขาก็ใช้เข็มฉีดยามาตรฐานห้าสิบมิลลิลิตรดูดสารละลายโซเดียมไซเตรทออกมาห้ามิลลิตร ตามสัดส่วนหนึ่งต่อเก้า จากนั้นต้องดูดเลือดมาสี่สิบห้ามิลลิลิตร
“เฟยหม่าซือ นายวางอุ้งเท้าลงก็ได้ เดี๋ยวจะเจาะเลือดตรงคอ”
เขาเห็นเฟยหม่าซือวางอุ้งเท้าไว้บนโต๊ะด้วยสีหน้าจริงจัง ราวกับเลียนแบบท่าทางเจาะเลือดของมนุษย์ จึงเผลอหัวเราะออกมา
เฟยหม่าซือดึงอุ้งเท้าหน้ากลับไปอย่างเก้ๆ กังๆ “ต้องตัดขนตรงคอให้สั้นหน่อยไหม? ฉันไม่ถือนะ”
จางจื่ออันพยักหน้า เมแกนไม่รอให้เขาสั่งก็ลงมือเองเลย ตัดขนตรงคอของมันและวลาดิเมียร์ให้สั้นขึ้นหน่อยตามคำชี้แนะของเขา
หลังจากเย็บแผลเสร็จ อาการของวลาดิเมียร์ก็ไม่ได้ย่ำแย่ลง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน สติเลื่อนลอยและเริ่มสะลึมสะลือแล้ว มันพยายามต่อต้านกับความง่วง ถึงแม้เมแกนตัดขนให้มันก็ทำได้แค่หันมองเธอช้าๆ
เจาะเลือดและถ่ายเลือดสองขั้นตอนนี้ ถ่ายเลือดต้องใช้ความอดทนมากกว่า เพราะตอนถ่ายเลือดให้แมวต้องถ่ายช้าๆ เลือดหนึ่งหลอดในเข็มฉีดมาตรฐานห้าสิบมิลลิลิตรนี้ ปกติต้องใช้เวลาฉีดเข้าไปในตัววลาดิเมียร์ถึงหนึ่งชั่วโมง และครึ่งชั่วโมงแรกต้องฉีดช้ามากๆ ช้าจนเหมือนกับเวลาหยุดนิ่ง
ด้วยปริมาณเลือดที่วลาดิเมียร์เสียไป เลือดหนึ่งหลอดไม่เพียงพอแน่นอน ดังนั้นไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเสียเวลามาก คาดว่าฟ้าสางแล้วก็ยังถ่ายเลือดไม่เสร็จ
แน่นอนว่าวลาดิเมียร์ร่างกายแข็งแรง และตอนนี้ก็เป็นสถานการณ์คับขันที่ต้องการเลือด ถ่ายเลือดเร็วกว่านั้นได้นิดหน่อย
จางจื่ออันมอบหน้าที่ถ่ายเลือดให้เมแกน ส่วนตัวเองรับผิดชอบเจาะเลือด เพราะเขายังมีเรื่องอื่นต้องทำ เขาอยากทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รวมถึงเหล่าฉาและฟราเทอร์ที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้อาจจะเจออันตรายแบบเดียวกันหรือเปล่า
เขาเน้นย้ำข้อควรระวังในการถ่ายเลือดให้เมแกนฟังหลายครั้งจนเธอจำขึ้นใจแล้ว
เขาอาศัยแสงไฟฉายและแสงเทียน รวมถึงคลำหาเส้นเลือดตรงคอของเฟยหม่าซือกับวลาดิเมียร์ แล้วใช้ปากกามาร์คเกอร์ทำเครื่องหมายเอาไว้ จากนั้นเจาะเลือดจากร่างกายของเฟยหม่าซืออย่างช้าๆ ระหว่างนั้นหยุดหลายครั้ง รอให้เลือดผสมกับสารละลาย จากนั้นค่อยดูดต่อ ใช้เวลาค่อนข้างนานถึงจะเต็มหนึ่งหลอด พอเขย่าให้เข้ากันแล้วก็ส่งให้เมแกน
เมแกนแทงหัวเข็มเข้าไปในเส้นเลือดตรงคอของวลาดิเมียร์ และเริ่มดันส่งเข้าไปช้าๆ อย่างระมัดระวัง
จางจื่ออันก็เริ่มดูดเลือดหลอดที่สอง
ในบ้านเงียบสนิท พวกภูตสัตว์เลี้ยงมองพวกเขาสองคนดูดเลือดและถ่ายเลือดอย่างเงียบๆ แม้แต่ถอนหายใจก็ยังไม่กล้าทำ
เฟยหม่าซืออยากให้ดูดมากหน่อย มันทนได้ แต่สุดท้ายจางจื่ออันก็ดูดเลือดใส่เข็มฉีดยาเต็มๆ แค่ห้าเข็มเท่านั้น นี่พอจะช่วยวลาดิเมียร์ให้พ้นขีดอันตรายไปได้แล้ว
ตอนเขาดูดเลือดเสร็จ เมแกนยังฉีดเลือดเข้าไปในร่างกายวลาดิเมียร์ไม่เสร็จสักหลอด
เธอกำลังมีสมาธิจดจ่อ บางครั้งทำอะไรช้าๆ ก็ต้องใช้สมองมากกว่าทำอะไรเร็วๆ
วลาดิเมียร์เหมือนจะหลับไปแล้ว แต่นี่ไม่ใช่การนอนหลับที่อันตราย มันที่ได้รับเลือดเสริมเข้าไปเล็กน้อย จึงหายใจคงที่กว่าเมื่อครู่มากแล้ว
เฟยหม่าซือหมอบลงด้วยความเหนื่อยล้าเล็กน้อย “ฉันขอพักหน่อย อีกเดี๋ยวก็ดีขึ้น…”
จางจื่ออันวางเข็มฉีดยาที่เหลืออีกสี่อันเรียงไว้บนโต๊ะน้ำชา ก่อนจะขยิบตาให้ฟีน่า แล้วพวกเขาสองคนก็ออกไปข้างนอกบ้านเงียบๆ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เขาอยากถามนานแล้ว แต่ก็ห้ามใจไม่ถามออกมา เพราะมันกังวลว่าพอรู้เรื่องราวแล้วจะไม่มีกะจิตกะใจรักษาวลาดิเมียร์
ฟีน่าเล่าเรื่องราวที่เจอหลังจากแยกย้ายกันคร่าวๆ มันทั้งเกลียดชังและตำหนิตัวเอง
จางจื่ออันฟังเรื่องราวน่าตื่นตระหนกและซับซ้อนแล้วก็แอบตกใจ “หมายความว่า ตอนนี้เหล่าฉากับฟราเทอร์กำลังตกที่นั่งลำบาก?”
ฝีมือของเหล่าฉานั้นไม่ต้องพูดถึง ก่อนฟราเทอร์จะกลับตัวกลับใจก็เป็นนักฆ่าที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ ทักษะการล่าสัตว์สูงมาก แต่ถึงตอนนี้พวกมันสองตัวยังไม่กลับมา ก็ยืนยันแล้วว่าพละกำลังและความเจ้าเล่ห์ของศัตรูเกินจินตนาการจริงๆ
แค่เห็นวลาดิเมียร์ก็รู้แล้ว เขาเป็นห่วงสถานการณ์ในตอนนี้ของเหล่าฉากับฟราเทอร์อยู่ลึกๆ เขาไม่กล้าคิดจริงๆ ว่าถ้าหากแม้แต่เหล่าฉากับฟราเทอร์ก็เจออันตรายเหมือนกัน…
ฟีน่าพยักหน้าอย่างแรง “ใช่ หากที่นี่ไม่มีเรื่องต้องให้ข้าทำแล้ว ข้าจะมุ่งหน้าไปช่วยทันที!”
ที่จริงมันคิดจะไปนานแล้ว แต่ถ้ามันไป จางจื่ออันไม่มีทางรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น มันจึงกลั้นใจอยู่ที่นี่ต่อ
จางจื่ออันพิจารณารอยเลือด ฝุ่น ใบไม้ รวมถึงแผลถลอกเล็กน้อยบนตัวมัน รู้ว่ามันประคองวลาดิเมียร์ตีฝ่าวงล้อมออกมาตลอดทางนั้นไม่ง่ายเลย จึงปลอบใจว่า “เธออย่าโทษตัวเองเลย วลาดิเมียร์ก็คงไม่โทษเธอหรอก แต่ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ดีกว่า ไม่อย่างนั้นถ้าฝูงแมวหาที่นี่เจอ ใครจะต้านพวกมันไว้ล่ะ เธอก็เห็นแล้วว่าการถ่ายเลือดต้องใช้เวลา ห้ามอะไรมารบกวนทั้งนั้น”
เขาเข้าใจความรู้สึกเร่งรีบกระหายสงครามและชะล้างเรื่องอับอายของฟีน่า แต่ที่มันต้องการที่สุดตอนนี้คือการพักผ่อน เมแกน วลาดิเมียร์ และเฟยหม่าซือที่เหนื่อยล้าจากการเจาะเลือดก็ต้องให้มันคอยคุ้มกัน เพราะหวังพึ่งพาเสวี่ยซือจื่อกับริชาร์ดไม่ได้สินะ?
ฟีน่ารู้สึกอัดอั้นและร้อนใจ แต่มันปฏิเสธคำพูดของจางจื่ออันไม่ได้ ถ้าไปรบกวนการถ่ายเลือดของวลาดิเมียร์เข้า มันก็จะทำพลาดซ้ำอีกครั้ง
“เอาล่ะ…” หลังจากมันชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย มันก็ยอมตกลง แล้วถลึงตาพูดกับเขา “แต่เจ้าต้องสัญญากับข้า ว่าให้ไอ้เลวทรามสองตัวนั้นชดใช้ด้วยเลือด! ไม่เช่นนั้นเจ้าก็ห้ามกลับมาเจอข้า!”
“วางใจเถอะ ฉันรับรอง” เขาตีอกพูด
ตลอดชีวิตของเขาอาจจะหลอกล่อฟีน่าหลายครั้ง แต่อย่างน้อยครั้งนี้เขาก็จริงใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความเกลียดชังในใจของเขาไม่ได้น้อยไปกว่าฟีน่า เขาอยากจะตัดพวกมันเป็นชิ้นๆ ถึงจะระบายความเกลียดชังได้!
“เจี๊ยกๆ!”
พายยันกระบองทำสัญญาณมือ บ่งบอกว่าแม้มันจะไม่มีความสามารถอะไร แต่ก็อยากแก้แค้นแทนวลาดิเมียร์
“แกว๊กๆ! เรื่องแบบนี้จะขาดข้าได้ยังไง!”
ริชาร์ดใจฝ่อมาโดยตลอด ถ้าเป็นมันปกติ จะต้องขออยู่อย่างปลอดภัยในบ้านแล้ว
“เมี๊ยว โค่นล้มแมวชั่ว!”
แม้แต่ซิงไห่ที่กลัวคนก็ยังกำหมัดแน่นอย่างหาได้ยาก
“ดี งั้นพวกเราไปด้วยกัน ไปแก้แค้นให้วลาดิเมียร์!”
เขาก็ยกกำปั้นขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว
ฟีน่ากลับเข้าไปในบ้าน ช่วยเขาล็อกประตูบ้านจากข้างใน
หมาป่าที่พาจางจื่ออันกลับมายังหมู่บ้านกำลังหมอบอยู่ข้างนอก จางจื่ออันเดินเข้าไปตีมัน แล้วชี้ไปในป่า “พาฉันไปช่วยพี่ใหญ่ของนาย”