แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1041
เฉินตงหวาพยักหน้าอย่างแรง “จริงๆ ลูกชายของท่านไม่มีความสามารถอย่างอื่น แต่ก็ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์คุณค่าของของขวัญเหล่านี้”

เฉินกั๋วต้งเชื่อแน่นอน เพราะการวิเคราะห์เกี่ยวกับมูลค่าสิ่งของเหล่านี้คือสิ่งที่ลูกชายของเขาหลงใหลมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตามมามันทำให้เฉินกั๋วต้งตกใจอย่างมาก

“งานเลี้ยงวันเกิดหนึ่งรอบ ได้รับของขวัญวันเกิดมูลค่าหลายร้อยล้าน นี่มันเป็นงานฉลองที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!”

“ฉันมีชีวิตอยู่มาจนป่านนี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นงานเลี้ยงวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”

เฉินกั๋วต้งถอนหายใจ ในฐานะสมาชิกระดับสูงคนหนึ่งของตระกูลเฉินก็ตกใจจนแสดงท่าทางแบบนี้ แล้วสมาชิกรุ่นน้องของตระกูลเฉินที่ได้ยินข่าวนี้สามารถจินตนาการได้ว่าพวกเขาจะมีความรู้สึกยังไง!

เฉินหลินตกตะลึงและบ่นพึมพำกับตัวเอง “งานเลี้ยงวันเกิดครั้งหนึ่ง ได้รับของขวัญมูลค่าหลายร้อยล้าน! นี่ มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”

แม้ว่าตอนนี้ความจริงจะอยู่ตรงหน้า เฉินหลินและสมาชิกรุ่นน้องหลายคนในตระกูลเฉินก็ยังไม่เชื่อ

“โอ้พระเจ้า! ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม! ของขวัญมูลค่านับพันล้าน!”

“เฉินเข่อเอ๋อร์เจ้าเด็กโง่คนนี้ ทำไมถึงโชคดีขนาดนี้? ในที่สุดครั้งนี้เฉินเข่อเอ๋อร์ก็ได้ครอบงำเฉินเข่อซิน!”

“ถูกต้อง ของขวัญที่เฉินเข่อเอ๋อร์ได้รับในครั้งนี้มีมากกว่าของขวัญที่เฉินเข่อซินได้รับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา! ช่างน่าอิจฉาพี่สาวและน้องสาวงคู่นี้จริงๆ!”

เมื่อได้ยินความคิดเห็นของผู้คนเหล่านี้ สีหน้าของเฉินเข่อซินยังคงไม่เปลี่ยน แต่ได้เกิดไฟลุกโชนขึ้นในใจ

เธอทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เธอเป็นในวันนี้ แต่เฉินเข่อเอ๋อร์กลับไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง ถึงกับครอบงำเขาจนหมด

มันไม่ยุติธรรมจริงๆ

แม้ว่าเธอจะเป็นน้องสาวแท้ๆของเธอ แต่เฉินเข่อซินซึ่งมักจะดำรงอยู่ในฐานะที่คนรอบข้างต่างพากันอิจฉามาตลอด ยังไงก็ไม่สามารถยอมรับความแตกต่างที่ห่างกันมากขนาดนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ยังไงเฉินเข่อเอ๋อร์เป็นน้องสาวของตัวเอง และเธอไม่สามารถเกลียดชังเฉินเข่อเอ๋อร์ได้ แต่ถ้าเธอไม่โยนความโกรธไปที่เฉินเข่อเอ๋อร์ เฉินเข่อซินก็ไม่รู้จะระบายความโกรธไปที่ใคร

เป็นผลให้เฉินเข่อซินตกอยู่ในสภาพที่ขัดแย้งกับความรู้สึกอย่างมาก ซึ่งทำให้เธออึดอัดและเสียใจมาก

แม้ว่าเฉินกั๋วเหลียงจะตกใจกับมูลค่าของของขวัญที่เฉินเข่อเอ๋อร์ได้รับ แต่ว่า สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดคือคุณเฉินผู้ลึกลับท่านนั้น

เมื่อมองเฉินเข่อเอ๋อร์ที่ในมือถือพู่หยกไว้และยิ้มอย่างมีความสุข เฉินกั๋วเหลียงค่อยๆเดินไปภายใต้สายตาที่จับตามองของสมาชิกตระกูลเฉินทุกคน และถามด้วยรอยยิ้ม “เข่อเอ๋อร์ ฉันมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะถามเธอ!”

เฉินเข่อเอ๋อร์ยิ้มและเงยหน้าขึ้นมองเฉินกั๋วเหลียง แล้วพูดอย่างมีความสุข “ท่านปู่รอง ท่านต้องการถามอะไรเข่อเอ๋อร์?”

เฉินกั๋วเหลียงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ถ้าลองเชิงถามจากปากรุ่นน้อง คงเป็นการเสียมารยาท ดังนั้นเฉินกั๋วเหลียงจึงตัดสินใจถามตรงๆ

“เธอกับคุณเฉินท่านนั้นรู้จักกันใช่ไหม?” เฉินกั๋วเหลียงถามด้วยรอยยิ้ม

ตอนนี้ สมาชิกตระกูลเฉินทุกคนที่อยู่รอบๆต่างมองไปที่เฉินเข่อเอ๋อร์อย่างอยากรู้อยากเห็น และรอคำตอบของเธอ

ทุกคนอยากรู้อยากเห็นมาก คุณเฉินท่านนั้นคือใครกันแน่?

เฉินเข่อเอ๋อร์มองไปที่สีหน้าตึงเครียดของทุกคน สาวน้อยที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆก็ประหลาดใจเล็กน้อยและพูดว่า “รู้จัก! ท่านปู่รองมีเรื่องอะไรคะ?”

เฉินกั๋วเหลียงพูดว่า “ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะถามว่า คุณเฉินท่านนั้นคือใครกันแน่? พวกเธอรู้จักกันได้อย่างไร?”

ทุกคนในตระกูลเฉินกลั้นหายใจ ดวงตาเบิกกว้างและจ้องมองที่เฉินเข่อเอ๋อร์ เพื่อรอคำตอบของเธอ

โดยไม่คาดคิดจู่ๆเฉินเข่อเอ๋อร์ก็หัวเราะแปลกๆ และเสียงหัวเราะนั้นทำให้ทุกคนงุนงงเล็กน้อย

“ท่านปู่รอง ท่านปู่ก็รู้จักคุณเฉินด้วย! พวกเราทุกคนรู้จักเขา!” เฉินเข่อเอ๋อร์พูดด้วยรอยยิ้ม

อะไรนะ!

ทุกคนในตระกูลเฉินตกตะลึง เป็นไปได้ไหมว่าคุณเฉินท่านนั้นคือคนของตระกูลเฉินจริงๆ?