ตอนที่ 1716 จิตต่อสู้ของเย่หยวน

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“น-แนวคิดแห่งห้วงมิติ เย่หยวนคนนี้รู้แนวคิดแห่งห้วงมิติ!”

“พระเจ้าช่วย ไม่แปลกใจเลยที่มันจะกล้าขึ้นสังเวียน ที่แท้มันเองก็เป็นสัตว์ประหลาดเช่นกัน!”

“แน่นอนสิ คนที่กล้าจะมาร่วมสังเวียนร้อยศึกได้ย่อมต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว!”

“หลี่คุนเองก็ประมาทศัตรูเกินไป ไม่เช่นนั้นด้วยพลังฝีมือของมันมีหรือที่จะพ่ายแพ้ง่ายๆ เช่นนี้”

คำพูดเดียวของนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวคนนั้นเปลี่ยนคลื่นฝูงชนไปทันที

แนวคิดแห่งห้วงมิตินั้นเป็นยอดแนวคิดในตำนาน

จู่ๆ หากตำนานมาปรากฏตรงหน้า จะยังมีใครไม่ตื่นเต้นได้?

แต่ว่าพลังบ่มเพาะของเย่หยวนนั้นมันแสนจะชัดเจนต่อสายตาผู้คน ไม่ว่าแนวคิดแห่งห้วงมิติมันจะแข็งแกร่งปานใดแต่การจัดการหลี่คุนนั้นมันก็คงเรียกได้ว่าสุดที่จะทำแล้ว

ที่สำคัญพลังฝีมือของหลี่คุนเองก็ไม่ได้อ่อนแอ หากเขาคิดจะต่อสู้จริงๆ จังๆ มันย่อมไม่จบลงเช่นนี้แน่

สุดท้ายพวกเขาก็แค่เข้าใจว่าเย่หยวนใช้ประโยชน์จากความประมาทของศัตรูและบังเอิญเอาชนะมาได้

การต่อสู้ดำเนินต่อไป ตอนนี้เหล่าผู้เข้าสมัครในกลุ่มหกต่างก็ค่อยๆ แสดงพลังฝีมือของตัวเองออกมา

แต่การต่อสู้ในรอบแรกนั้นส่วนใหญ่มันเอามาใช้วัดพลังที่แท้จริงของใครไม่ได้นัก

เพราะแม้พวกเขาทั้งหลายจะนับว่าเป็นอัจฉริยะ แต่อัจฉริยะเองก็ยังมีระดับแตกต่างกันไป

แม้จะเป็นนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวเหมือนๆ กัน แค่หากมีพลังความเข้าใจในแนวคิดที่ต่างกัน มันก็ทำให้ความสามารถฝีมือแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง

“ข้ารู้สึกว่าเกาชุนนั้นแข็งแกร่งไม่น้อย! เขาใช้แค่กระบวนท่าเดียวก็จัดการคู่ต่อสู้ลงได้แล้ว”

“แล้วก็ซ่งเทียนเฉียงผู้นั้นยังไม่ทันได้ชักอาวุธและจัดการศัตรูได้ด้วยมือเดียวด้วย”

“เซียโหหยุนเองก็ยังไม่ได้ขึ้นสู้เลย ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน!”

ทุกคนต่างพูดคุยกันอย่างออกรสชาติ คาดเดากันไปว่าใครแข็งแกร่งแค่ไหน ใครอ่อนแอกว่าใคร

แต่สิ่งที่การต่อสู้รอบแรกมันแสดงออกมานั้นช่างน้อยอย่างแสนน้อย พวกเขาจึงได้แต่พยายามคาดเดาเอาจากความเร็วของการต่อสู้ว่าใครจบได้เร็วกว่า

แต่เหล่ายอดคนที่แท้จริงนั้นแทบจะยังไม่ได้แสดงพลังใดๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย

“ต่อไป เซียโหหยุนปะทะจางเฟิง!”

ตอนนั้นเองที่ในที่สุดชื่อของเซียโหหยุนก็ถูกเรียก

ทุกคนเริ่มมีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นทันที พวกเขาต่างมองไปยังร่างของเซียโหหยุนอย่างไม่ละสายตา

คนทั้งสองมาถึงสังเวียนและขึ้นไปพร้อมๆ กัน

จางเฟิงนั้นมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เขาไม่คิดว่าตัวเองจะโชคร้ายจนต้องมาเจอเซียโหหยุนตั้งแต่รอบแรกเช่นนี้

เพราะมันไม่มีทางใดที่จะชนะเลย!

“ข้าให้เวลาเจ้าสามอึดใจ จงยอมแพ้ไป หากนายน้อยผู้นี้ลงมือเจ้าคงไม่เหลืออะไรให้ยอมแพ้แล้ว! หนึ่ง…”

เซียโหหยุนนั้นแสดงออกมาอย่างดุดัน เริ่มทำการนับถอยหลังทันที

จางเฟิงเองก็มีสีหน้าที่แย่สุดขีด เหงื่อเม็ดโตไหลย้อยลงมาจากหน้าผากของเขาเพราะรู้สึกได้ถึงความกดดันที่มหาศาลตรงหน้า

แต่เซียโหหยุนนั้นไม่ได้ปล่อยปราณเทวะของตัวเองออกมาเสียด้วยซ้ำ เขาแค่ยืนตรงนั้นเฉยๆ

“สอง…”

“ข้า…ข้ายอมแพ้!”

แม้จะไม่อยากยอมอย่างสุดใจ แต่ที่สุดจางเฟิงก็ต้องเลือกขอยอมแพ้ไป เขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะโจมตีอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ

ตัวตนอันดุดันของเซียโหหยุนนั้นมันทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกได้ถึงแรงกดทับโดยตรง

ทุกคนรู้ดีว่าเซียโหหยุนนั้นศึกษาแนวคิดแห่งการทำลายล้าง เขาจึงมีพลังต่อสู้ที่สุดแสนจะสูงส่ง

คนที่ไม่มั่นใจจริงๆ ยังจะมีใครกล้าไปลอง?

แค่หมัดเดียวมันก็ลบร่างกายของผู้คนให้หายไปได้อย่างไม่มีโอกาสให้ได้ยอมแพ้!

หากเป็นคนอื่นพูดแบบนั้นมันคงเหมือนเป็นแค่เรื่องตลก

แต่สำหรับเซียโหหยุนแล้ว เขามั่นใจถึงขนาดนั้น!

อาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาวผสานกับแนวคิดแห่งการทำลายล้าง แนวคิดที่แสนทรงพลังเช่นนี้ ใครจะยังกล้าไปท้าทายเขาอีก?

นี่แหละคือยอดฝีมือที่แท้จริง!

ตัวตนที่เหนือล้ำกว่าทุกผู้คน!

“เซียโหหยุนนั้นมีพลังที่รุนแรงเกินไป! ข้า…แม้แต่ข้าก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน แค่จางเฟิงไม่คุกเข่าลงมันก็เยี่ยมยอดพอแล้ว”

“อืม แข็งแกร่งจริงๆ! แค่คำพูดเดียวก็ทำลายจิตใจอีกฝ่ายลงได้ คนแบบนี้เราจะเอาอะไรไปสู้ได้!”

“ข้าสงสัยจริงๆ ว่าจะมีใครทำให้เขาลงมือไหม หรือว่าเขาจะชนะได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธประจำกายแบบนี้ไปเรื่อยๆ?”

“เรื่องนี้…คงพูดยาก ข้าจำได้ว่ากลุ่มเรามีราชันพระเจ้าห้าดาวหลายคนที่อยากลองของอยู่ อย่างน้อยๆ มันก็น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นบ้าง”

ตอนนั้นเองสีหน้าของเหล่านักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวทั้งหลายก็ซีดลงทันที

เพราะแรงกดดันที่ปล่อยออกมาจากตัวเซียโหหยุนนั้นมันแสนที่จะรุนแรง

แต่เย่หยวนกลับเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น ราวกับกำลังรอเหยื่ออยู่

ร่างของเซียโหหยุนคนนี้มันก็ส่งแรงกดดันใส่เขาไม่ต่างจากคนอื่นๆ

แต่ความกดดันนี้มันกลับทำให้เย่หยวนรู้สึกตื่นเต้นจนเลือดเดือดพล่านแทน

ตอนนั้นเองที่สายตาของเซียโหหยุนมองลบงมาเจอเย่หยวนพอดี

ดวงตาทั้งสองฝ่ายจ้องมองปะทะกัน ทีแรกเป็นเซียโหหยุนที่ตื่นตกใจไปก่อน จากนั้นเขาก็หัวเราะเยาะในใจ เด็กน้อยคนนี้มันกลับคิดจะสู้กับเขาจริงๆ ช่างไม่รู้จักรักชีวิต!

“เจ้าเด็กนี้มันท้าทายเซียโหหยุนเหรอ?”

“นี่ตาข้าไม่ได้ฝาดไปใช่ไหม?”

“มันคงไม่ได้ฝึกจนสมองเพี้ยนใช่ไหม? มันคิดว่าแค่มีแนวคิดแห่งห้วงมิติแล้วจะต้านสวรรค์ได้เหรอ?”

“ไปแล้วๆ เซียโหหยุนเดินไปหาเย่หยวนแล้ว! ฮ่าๆ ชักน่าสนุกแล้วสิ”

จิตต่อสู้ของเย่หยวนนั้นไม่มีท่าทียอมแพ้แม้แต่น้อย แต่เมื่อทุกคนได้เห็นภาพนั้นมันกลับเป็นได้แค่เรื่องตลก

นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาวกลับกล้าท้าทายยอดคนอย่างนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหกดาว ดูยังไงมันก็คือการเดินเข้าไปหาที่ตายชัดๆ

แนวคิดแห่วงห้วงมิติมันไม่สามารถช่วยกลบความต่างที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้หรอก

นี่เป็นสามัญสำนึก สิ่งที่ทุกคนต่างรู้กันดี

แต่ดูท่าเจ้าโง่นี่จะไม่รู้จักมัน

เซียโหหยุนค่อยๆ เดินเข้าไปหาเย่หยวนและกล่าวด้วยรอยยิ้มแสนดูถูก “เจ้าอยากท้าทายข้า?”

เย่หยวนไม่รู้ว่าเจียนปิงและเซียโหหยุนมีการตกลงใดๆ กันมาก่อน เขาแค่รู้สึกมาจากสัญชาตญาณว่าอยากสู้กับผู้แข็งแกร่ง

ได้ยินแบบนั้นเขาจึงยิ้มตอบไป “เจ้าแข็งแกร่ง! แต่ข้าคงต้องขอชนะเจ้า!”

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเก่งกาจแค่ไหน เย่หยวนก็ต้องชนะเท่านั้น!

แต่คนที่ได้ยินมันกลับรู้สึกเหมือนพวกตนได้ยินมุกตลกแห่งปีมาก็ไม่ปาน

“ฮ่าๆ ช่างเป็นเจ้าโง่ที่ไม่รู้จักประมาณตนเสียจริง!”

“เด็กน้อย เจ้ามันอวดเก่งเกินไปแล้ว! เจ้าคิดว่าแค่มีแนวคิดแห่งห้วงมิติแล้วเจ้าจะแข็งแกร่งไร้เทียมทานเรอะ?”

“เด็กน้อย เจ้าเคยได้ยินคำว่าเอาไข่ไปทุบหินไหม?”

ที่ด้านข้างเสียเยาะเย้ยต่างดังไปทั่ว

เพราะคำประกาศสงครามนี้มันช่างฟังดูอ่อนแอ!

เซียโหหยุนยิ้ม “หึๆ แนวคิดแห่งห้วงมิติ นายน้อยคนนี้อยากลองปะทะกับมันจริงๆ! อยากท้าทายข้าก็ไปชนะมาให้ถึงข้าก่อนเถอะ!”

เย่หยวนยิ้มสบายๆ “อย่าได้กังวล ข้าไปถึงแน่”

รอยยิ้มนั้นยังอยู่บนใบหน้า แต่เย่หยวนก็ตกใจไม่น้อย

เพราะเขาเคยฝึกสังหารยอดเจตนาแท้มาก่อน เขาจึงอ่อนไหวกับจิตสังหารมากๆ

และเซียโหหยุนผู้นี้ก็มีจิตสังหารต่อเขา!

แม้ว่าเซียโหหยุนจะเก็บซ่อนมันไว้อย่างดี แต่เย่หยวนก็ยังรับรู้ได้

มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกันแท้ๆ แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงคิดสังหารเย่หยวน? หรือว่า…เจียนปิง? เย่หยวนนึกถึงหน้าเจียนปิงขึ้นมาในทันที

เพราะในเมืองจักรพรรดิเลิศประกายนี้ นอกเสียจากเจียนปิงแล้วเขาก็นึกไม่ออกเลยว่าตัวเองไปมีเรื่องกับใครไว้อีก

แม้ว่าเซียโหหยุนจะมีนิสัยเสียแค่ไหน การที่อยากสังหารเขาตั้งแต่เจอหน้ามันก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่

นั่นทำให้เหลือแค่ความเป็นไปได้เดียว เจียนปิงตกลงอะไรบางอย่างกับเซียโหหยุนไว้ก่อนหน้า!

เย่หยวนยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น เจียนปิงคนนี้มันช่างน่ารำคาญเหมือนผีไม่ยอมตาย!

ไม่นานรอบที่สองก็เริ่มขึ้น!

แน่นอนว่าผู้เข้ามาถึงรอบที่สองย่อมแข็งแกร่งกว่ารอบแรกมาก ทำให้การต่อสู้เองก็เริ่มดุเดือดขึ้น

แต่กับเย่หยวนแล้วมันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย

เขายังคงจัดการศัตรูลงด้วยกระบวนท่าเดียวเช่นเดิม!

………………………