ตอนที่ 257.2: ขอความช่วยเหลือ

Princess Medical Doctor องค์หญิงแพทย์ผู้เชียวชาญ

ดาบของผู้นำชี้ไปที่เด็กคนหนึ่ง ดังนั้นปลายของดาบจึงเกือบจะถูกหน้าเด็กน้อย หลิน ชูจิ่วพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจในทันที“ ถือดาบในมือของเจ้าให้มันดีๆ หน่อย ถ้าเจ้าทำร้ายเด็กๆ เจ้าตายแน่”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องทำให้ผู้คนแตกตื่น เจ้าคิดว่าถ้าเจ้าเรียกชายผู้นั้นว่า หวางเย่ แล้วเราจะเรียกเจ้าว่าหวางเฟยอย่างนั้นหรือ?” เมื่อหัวหน้าเห็นว่าชายคนนั้นไม่เคลื่อนไหวใดๆ เขาก็เชื่อว่าหลิน ชูจิ่วกำลังโกหก ดังนั้นเขาจึงเต็มไปด้วยความไม่พอใจอีกครั้ง

       นางต้องล้อเล่นใช่ไหม จะมีหวางเย่และหวางเฟยแบบไหนที่จะมายังสถานที่ของภูตผีแบบนี้? ไม่เพียงแค่นั้น แต่พวกเขายังอุ้มเด็กสกปรกอีก นางคิดว่าพวกเขาโง่หรืออย่างไร?

       ผู้นำชี้ดาบของเขาไปในทิศทางของเสี่ยวเทียนเหยา“ เจ้า……ออกมาจากที่ตรงนั้น อย่าบังคับชายชราคนนี้ให้เริ่มการต่อสู้ หากข้าฆ่าเด็กเหล่านี้โดยไม่ตั้งใจ อย่าคิดว่าชายชราคนนี้จะปล่อยเจ้าไว้”

       เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง ผู้นำคว้าเด็กขึ้นมาแล้วพูดขึ้น“ข้าจะนับถึงสาม หากเจ้ายังไม่ให้ความร่วมมือ ข้าจะฆ่าเด็กคนนี้ซะ”
“หนึ่ง”

“ อุแว้ๆ…” เด็กร้องออกมาดัง ๆ ในขณะที่เขาคว้าที่หลังคอของเด็กขึ้นมา คอของเด็กรู้สึกตึงแน่น ดังนั้นใบหน้าของเขาจึงเปลี่ยนสี

       หลิน ชูจิ่วช่วยไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น“หวางเย่ ท่านแน่ใจหรือว่าท่านจะไม่พูดอะไรเลย?”

       เสี่ยวเทียนเหยา ยังคงเพิกเฉยต่อ หลิน ชูจิ่ว

       หลิน ชูจิ่ว เป็นกังวลและอยากจะก้าวไปข้างหน้า แต่นางก็ถูกปิดกั้นโดยเจ้าหน้าที่ “อย่าเข้ามา”

“หวางเย่ ……” ในตอนนี้เขาก็ยังคงปฏิเสธที่จะพูดอีกหรือ? ถ้าเช่นนั้นแล้วเขามาทำอะไรอยู่ที่นี่ เพื่อดูความสนุกอย่างนั้นหรือ?

“สอง” ผู้นำส่งเสียงขึ้นอีกครั้ง

“ อุแว้ๆ …” เสียงร้องของเด็กก็เริ่มอ่อนลง เพราะเหตุนี้หลิน ชูจิ่วจึงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เธอตะโกนขึ้นทันที“ เสี่ยวเทียนเหยา ท่านจะรออะไรอยู่อีกก่อนที่ท่านจะพูด?”

       เสี่ยวหรือ?

       นามสกุลของราชวงศ์ไม่ใช่หรือ!

       พวกเขาพบกับคนในราชวงศ์จริง ๆ เข้าแล้วหรือ?

       หัวหน้ารู้สึกไม่สบายใจ เขามองชายคนนั้นที่มุมห้อง เขาไม่กล้าที่จะดื้อดึงอีกต่อไป เขารีบอุ้มเด็กทารถแทนอย่างเงียบ ๆ และตัดสินใจที่จะรอดูไปก่อน

       พวกเขาจะโชคร้ายจริงๆ ถึงขนาดได้พบเข้ากับท่านอ๋องเชียวหรือ?

       ผู้นำมองไปที่เสี่ยวเทียนเหยา และรอการเคลื่อนไหวของเขา …

“ นี่ควรจะเป็นทัศนคติของเจ้าในการขอร้องคนหรือ” เสี่ยวเทียนเหยาพูดขึ้นและในเวลาเดียวกันเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปทางหลิน ชูจิ่ว

       ฝีเท้าของเขางดงามและสง่างาม ไม่มีทหารอยู่ข้างหลังเขา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเชื้อพระวงศ์ ร่างกายทั้งหมดของเขาเปล่งกลิ่นอายซึ่งอาจทำให้ผู้คนไม่กล้ามองเขาออกมา

       โอ้มารดาข้า เป็นท่านอ๋องจริงๆ!

       ผู้นำถอยหลังออกไปโดยไม่ตั้งใจ ใบหน้าของเขาซีดลง ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่เสี่ยวเทียนเหยา คนที่เดินใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ

       ผู้ที่เพิ่งจะลุกขึ้นนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเมืองหลวง เขาคงไม่ใช่เทพเจ้าแห่งสงครามเสี่ยวหวางเย่ใช่ไหม?

       เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ผู้นำก็เกือบจะกลายเป็นบ้าแล้ว เขารีบวางเด็กลงไปบนพื้น เพื่อไม่ให้เกิดเสียงใดๆ ขึ้น การกระทำของเขานั้นเงียบเหมือนหัวขโมย

       หลังจากที่เด็กถูกวางลงแล้ว หัวหน้าก็ถามขึ้นด้วยเสียงที่สั่น “ข้าไม่รู้ว่าควรจะเรียกคุณชายท่านนี้ว่าอย่างไร”

       เสี่ยวเทียนเหยาไม่สนใจเจ้าหน้าที่คนนี้แม้แต่น้อย แต่สีหน้าของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไป เขายังคงมองไปที่หลิน ชูจิ่ว และรอคำพูดของนาง

       หลิน ชูจิ่ว ถอนหายใจออกมาอย่างหมดปัญญา“หวางเย่ เราต้องแก้ปัญหานี้ก่อนไม่ใช่หรือ?”

“เจ้าเห็นอะไร? มันมีปัญหาตรงไหน?” เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ เหล่านี้นะหรือ แล้วจะอย่างไร?

“ให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ออกไปและเปิดทางไม่ได้หรือ?” เมื่อหลิน ชูจิ่วพูดจบ ผู้นำก็ตะโกนขึ้นทันที“ ออกไปข้างนอก เร็วเข้า”

       ไม่ว่าผู้ชายข้างหน้าเขาจะเป็นท่านอ๋องหรือไม่ก็ตาม เขารู้ว่าเขาไม่ควรทำให้เขารำคาญ ดังนั้นพวกเขาควรเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวก่อน

“ หยุด!” เสี่ยวเทียนเหยามองดูผู้นำ ก่อนจะพูดอย่างง่ายๆ ขึ้นว่า‘หยุด’ แต่เจ้าหน้าที่ก็หยุดในทันที “ คุณ…คุณชาย……”

       เจ้าหน้าที่ทีละคนๆ มองไปที่เสี่ยวเทียนเหยาด้วยความหวาดกลัวและรอคำพูดของเขา

       หลิน ชูจิ่ว รู้สึกกดดันเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นสิ่งนี้ ทำไมถึงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขา เธอเองก็ยังกล่าวถึงตัวตนของเธอ แต่ก็ไม่มีใคร เชื่อเธอ ในทางกลับกันเมื่อเสี่ยวเทียนเหยาก้าวออกมา เขาไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่คนพวกนี้ก็กลัวเขามากขนาดนี้แล้ว นี้มัน… …

       หักหน้ากันชัดๆ!