เมื่อแน่ใจในจุดนี้แล้ว สกุลสุ่ยจะได้เตรียมการรับมือเอาไว้ตั้งแน่เนิ่นๆ
หมัดนี้เขาเรียกว่า โยนหินถามทาง สกุลหลิวก็คือหินในมือของเขาอย่างไรเล่า!
“ท่านพ่อ ระยะนี้ลูกถูกใจมงกุฎประดับศีรษะอยู่ชุดหนึ่ง! ลูกชอบมันมาก!”
เมื่อเห็นสีหน้าของสุ่ยเจ๋อซีเปลี่ยนจากถมึงทึงเป็นสดใส สุ่ยจู่เอ๋อร์รู้ในทันทีว่า นั่นคือสัญญาณบอกว่าบิดาอารมณ์ดีขึ้นแล้ว นางจึงรีบก้าวไปด้านหน้าเกาะแขนออดอ้อนผู้เป็นบิดาทันที
“ได้ๆ! เจ้าไปเบิกเอาเงินที่ห้องบัญชี! พ่อให้เจ้าเป็นรางวัล!”
สุ่ยเจ๋อซีอารมณ์แจ่มใสยิ่งนัก จึงใช้เงินมือเติบ สุ่ยจูเอ๋อร์ก็พลอยอารมณ์ดีไปด้วย ดังนั้นจึงรีบประจบสอพลอต่อทันที
“ท่านพ่อใจดีที่สุดเลย! ท่านพ่อคือพ่อที่ดีที่สุดในปฐพีนี้เลย!”
“ฮ่าๆ!”
ได้ยินสุ่ยจู่เอ๋อร์พูดเช่นนั้น สุ่นเจ๋อซีก็หัวเราะออกมายกใหญ่
ความวิตกกังวลที่วนเวียนเกาะกุมจิตใจของเขาก่อนหน้านี้มลายหายไป และถูกแทนที่ด้วยท้องฟ้าที่สดใสสวยงาม
เมื่อคิดหาวิธีรับมือได้แล้ว สุ่ยเจ๋อซีจึงตัดสินใจเดินทางไปที่สกุลหลิวสักครั้ง
พอดีกับที่เมื่อสองวันก่อน ทางสกุลหลิวส่งคนมาแจ้งข่าวดี ว่าบุตรสาวของสุ่ยเจ๋อซี สุ่ยอวิ๋นเอ๋อร์ที่แต่งเข้าสกุลหลิวตั้งครรภ์แล้ว เขาก็จะได้ใช้ข้ออ้างว่าไปเยี่ยมบุตรสาวและพอดี ‘บังเอิญ’ แพร่งพรายความจริงเรื่องนี้ออกไป
ในเมื่อต้องการที่จะไปแจ้งอีกฝ่ายว่าฆาตกรคือใคร ก็จำเป็นต้องมีพยาน ไม่เช่นนั้นก็ไม่แน่ว่าประมุขแห่งสกุลหลิวจะเชื่อ
ศิษย์ของสกุลสุ่ยสองคนที่ติดตามสุ่ยจูเอ๋อร์ไปนั่น ก็คือพยานชั้นดี!
ยิ่งคิด สุ่ยเจ๋อซีก็ยิ่งดีอกดีใจ ให้สุนัขกัดกันเองเถอะ! สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นสกุลหลิวที่ชนะ หรือประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นชนะ ล้วนแต่เป็นข่าวดีสำหรับสกุลสุ่ยทั้งสิ้น
เขาเพียงแค่นั่งรอชมเสือกัดกันก็พอแล้ว! หากว่าประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นพ่ายแพ้ละก็ อู๋โยวก็จะกลับคืนสู่ความสงบเฉกเช่นที่ผ่านมา แต่หากว่าเขาชนะ…
หึๆ สกุลอื่นๆ มิใช่พวกถือศีลกินเจเสียด้วย
ไม้เด่นเกินไพร มักถูกลมพัดหักโค่น!
จู่ๆ ก็มีประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นที่วรยุทธ์ร้ายกาจโผล่ขึ้นมามีชื่อเสียงได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้ ย่อมต้องมีผู้คนมากมายไม่ยินดีที่จะเห็นเขาแข็งแกร่งขึ้นมาได้อยู่แล้ว
เหวินจู๋เคยเพลี่ยงพล้ำในน้ำมือเขามาก่อน แล้วสกุลเหวินจะเลิกราเพียงเท่านี้อย่างนั้นหรือ? ยังมีตระกูลอื่นๆ จะนั่งรอดูให้ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นก้าวขึ้นมากระเทือนถึงตำแหน่งของตนเอง?
ถึงตอนนั้น สกุลสุ่ยก็แอบเป็นกองสนับสนุนทุกคนอยู่อย่างลับๆ ก็พอ
ในตอนนั้นสุ่ยเจ๋อซีจึงตัดสินใจเดินทางไปที่สกุลหลิวทันที
ในเมื่อต้องไปจากจวนสกุลหลิวเป็นระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น ก่อนไปสุ่ยเจ๋อซีจึงแวะไปหาสุ่ยเยว่เอ๋อร์
หลังจากได้รับยาของตี้อู่เฮ่ออี้แล้ว จุดแดงบนใบหน้าของสุ่ยเยว่เอ๋อร์ก็จางลงไปบางส่วน อย่างน้อยที่สุดมันก็ไม่ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้สำหรับสุ่ยเจ๋อซีแล้วนับว่าเป็นข่าวดีอย่างยิ่งยวด!
เมื่อได้ยินตี้อู่เฮ่ออี้บอกว่าขนมที่สุ่ยเยว่ร์เอ๋อร์กินเข้าไปมีพิษ สุ่ยเจ๋อซีจึงสั่งการให้คนไปจับสาวใช้ที่ทำขนมนั่นถึงในห้องครัว
ใครจะคาดคิดว่าสาวใช้ผู้นั้นกลับชิงตัดหน้าดื่มยาพิษปลิดชีวิตตนเองไปเสียก่อนแล้ว เรื่องทุกอย่างจึงจบลงเพียงเท่านี้ อีกทั้งหลังจากที่ได้รู้ว่าสุ่ยเยว่เอ๋อร์ดื่มยาอีกราวครึ่งเดือนก็จะหายเป็นปกติได้ สุ่ยเจ๋อซีก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก!
ตอนนี้เขาจึงเห็นตี้อู่เฮ่ออี้เป็นดาวโชคดีของสกุลสุ่ยไปเสียแล้ว
นับตั้งแต่ที่สุ่ยเยว่เอ๋อร์ล้มป่วย สุ่ยเจ๋อซีก็ได้เสาะแสวงหาเชิญหมอมามากมายนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครสามารถตรวจหาสาเหตุของอาการป่วยของนางได้
แต่ท่านหมอเหอผู้นี้ เพียงแค่มองดูก็รู้ทันทีว่านางถูกพิษ ดื่มยาเข้าไปเพียงครั้งเดียวก็สามารถควบคุมอาการป่วยของสุ่ยเยว่เอ๋อร์ได้ ทั้งยังตามหาที่มาของพิษตลอดจนผู้ที่วางยาพิษจนเจอ เขาช่างเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ยิ่งนัก!
คนที่มีความสามารถเช่นนี้ จะต้องรั้งเอาไว้ให้ได้
“ท่านหมอเหอ ท่านสนใจเป็นหมอประจำตระกูลสุ่ยบ้างหรือไม่? ท่านวางใจได้เลย ข้าจะตอบแทนท่านอย่างงาม!”
สุ่ยเจ๋อซีรู้ดีว่าหมอที่มีวิชาแพทย์สูงส่งมีความสำคัญมากเพียงใด และ ‘เหออี้’ คนนี้ อายุยังน้อย วิชาแพทย์ของเขายังยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ ต่อไปภายภาคหน้าจะต้องยิ่งเป็นเลิศมากขึ้นอย่างแน่นอน
แม้ว่าสกุลสุ่ยเองจะมีหมอประจำตระกูลอยู่แล้ว แต่หากเทียบกับเหออี้ละก็ คนพวกนั้นกลายเป็นพวกเลี้ยงเสียข้าวสุกในทันใด!
“เรื่องนี้ ข้าต้องขอปรึกษากับฮูหยินของข้าก่อน”
ว่าแล้วตี้อู่เฮ่ออี้ก็หันหน้าไปหาเชียนเย่เสวี่ย เอ่ยว่า
“ฮูหยิน เจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไร?”
“ไม่ว่าพวกเราจะไปที่ไหนก็ต้องรักษาคนเลี้ยงชีพอยู่ดี ดังนั้นหากว่านายท่านยอมจ่ายละก็ พวกเราก็ยินดีที่จะอยู่ที่นี่!”
เชียนเย่เสวี่ยทำท่าทางราวกับเป็นหญิงที่ละโมบโลภมากเสียเต็มประดา
“ฮ่าๆ! ฮูหยินช่างเป็นคนตรงไปตรงมาดีจริงๆ!” สุ่ยเจ๋อซีหัวเราะร่วน
“ปีละห้าหมื่นหลิงปี้! นอกจากนั้น ยาละสมุนไพรต่างๆ ห้องยาของข้า พวกท่านเลือกใช้ได้ตามสบาย!”
“ปีละห้าหมื่นหลิงปี้——”
เชียนเย่เสวี่ยกระพริบตาปริบๆ พร้อมกับทำท่าทางนับนิ้วคำนวณรายได้
“ดี! ท่านพี่ พวกเราตกลงอยู่ที่นี่กันเถอะ!”
เชียนเย่เสวี่ยถึงกับเอ่ยปากเรียก ‘ท่านพี่’ ทำเอาตี้อู่เฮ่ออี้ถึงกับหน้าแดงก่ำ เขาพยักหน้ารัวๆ ราวกับไก่กำลังจิกข้าวสารก็ไม่ปาน
“ข้าเชื่อคำน้องหญิงทุกอย่าง!”
เมื่อเห็นว่าตี้อู่เฮ่ออี้รับปาก สุ่ยเจ๋อซีก็ถูกอกถูกใจเป็นที่สุด
วันนี้ทุกอย่างช่างราบรื่นยิ่งนักเชียว!
ทั้งเรื่องที่เขาวิเคราะห์จนเปิดโปงแผนชั่วของสกุลเสิ่นถูได้อย่างง่ายดาย ยังได้หมอที่เก่งกาจอย่างเหออี้เข้ามาอยู่ในจวน เรื่องราวดีๆ มักทำให้คนสดชื่นเบิกบาน!
“นายท่าน ท่านไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ตี้อู่เฮ่ออี้ก็ยื่นหน้าเข้ามากระซิบถามที่ข้างหูของสุ่ยเจ๋อซีเสียงแผ่วเบา
แม้ว่าเชียนเย่เสวี่ยจะไม่รู้ว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไรกัน แต่ที่แน่ๆ หลังจากที่สุ่ยเจ๋อซีได้ฟังแล้วถึงกับหน้าถอดเลยทีเดียว
“ท่านหมอเทวดาเหอ หากว่าท่านสามารถรักษาโรคเรื้อรังของข้าให้หายละก็ ข้าจะตอบแทนท่านอย่างงาม!”
สุ่ยเจ๋อซีจ้องมองตี้อู่เฮ่ออี้ด้วยสายตาใสซื่อ คำเรียกตี้อู่เฮ่ออี้ก็เปลี่ยนจาก ‘ท่านหมอเหอ’ เป็น ‘ท่านหมอเทวดาเหอ’ ไปโดยปริยาย
ใช้เพียงการคาดเดาก็สามารถหยั่งรู้ถึงปัญหาสุขภาพของเขาได้ สุ่ยเจ๋อซียอมรับในตัวตี้อู่เฮ่ออี้จริงๆ
เขามีปัญหาสุขภาพหนักอกที่ยากจะเอื้อนเอ่ยมาโดยตลอด นั่นก็คือเขาเป็นหมันไม่อาจมีลูกได้นั่นเอง!
นี่เป็นความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิด พื้นฐานร่างกายของเขาเย็นเกินไปจนไม่สามารถสืบสกุลได้
ในอดีตเมื่อครั้งที่เผ่าตันยังไม่แยกออกจากกันนั้น เขาเคยไปหาผู้เฒ่าแห่งเผ่าตัน ตี้อู่เจ๋อ ให้ช่วยรักษา ตี้อูเจ๋อได้สั่งยาให้กับเขา หลังจากที่ดื่มยานั้นได้สองปี จึงสามารถมีลูกสาวได้ถึงสี่คน แต่กลับไม่มีลูกชายที่เขารอคอยเลยสักคน
ภายหลัง หลังจากที่เผ่าตันแตกหักจนแบ่งเป็นสองฝั่งแล้ว ตี้อู่เจ๋อก็นำพาชาวตันซ้ายหายไปจากยุทธภพ ซึ่งสุ่ยเจ๋อซีก็เคยไปที่ตันขวาเพื่อขอให้ช่วยรักษา แต่ชาวตันขวากลับไม่ไร้สามารถรักษาเขาไม่ได้
ดังนั้น หลายปีหลังจากนั้น ไม่ว่าสุ่ยเจ๋อซีจะพยายามมากเพียงใด แต่งอนุเข้าบ้านสักกี่คน เข้าก็มิอาจทำให้พวกนางตั้งครรภ์ได้!
เพียงเพราะเรื่องนี้ ทำให้สุ่ยเจ๋อซีกลัดกลุ้มเป็นกังวลอย่างหนัก!
ตอนนี้ตี้อู่เฮ่ออี้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ทำเอาสุ่ยเจ๋อซีแทบจะคุกเข่าอ้อนวอนให้เขาช่วยเหลือเลยทีเดียว
จะชั่วดีอย่างไรเขาก็เป็นหัวหน้าครอบครัว หากแม้แต่มีลูกชายเอาไว้สืบสกุลยังทำไม่ได้ คงจะมีคนที่คอยหัวเราะเยาะเขาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่เป็นแน่
หากตี้อู่เฮ่ออี้สามารถรักษาเขาจนหายได้จริงๆ ละก็ อย่าว่าแต่เงินเลย ไม่ว่าอะไรเขาก็ยอมให้ทุกอย่าง
“เรื่องนี้ไม่ยาก ไม่ยาก!”
ตี้อู่เฮ่ออี้ยิ้มบางๆ
“แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเดี๋ยวประด๋าวก็สามารถรักษาให้หายได้ เชิญนายท่านนอนลงบนเก้าอี้รับรองนี้ก่อน เพื่อให้ข้าได้ตรวจอาการโดยละเอียดอีกครั้ง!”
ในเวลานี้ สุ่ยเจ๋อซีเห็นตี้อู่เฮ่ออี้เป็นหมอเทวดาไปแล้ว ไหนเลยจะสงสัยเขาได้