บทที่ 732 เคราะห์ร้ายไม่เคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

ณ นครเรนทาโต บนท้องถนนอันมืดมิด

บุรุษสองนายที่แบกบางอย่างหนักๆ กำลังเดินไปตามถนนอย่างลับๆ ล่อๆ แต่ทันใดนั้น คนกลุ่มหนึ่งก็กระโจนออกมาและผลักทั้งสองคนลงไปกระแทกกับพื้นอย่างแรง

เคร้ง!

ของหนักที่ว่านั้นร่วงลงไปกองที่พื้น

“หมาดำแห่งถนนแกรนลิน!” ชายร่างเล็กโพล่งออกมา

จากนั้น เพราะสิ่งที่เขาพูด ทำให้เขาถูกตบหน้าจนเกิดเสียงดังเพี้ยะ ชายในชุดเครื่องแบบเดินออกมาจากเงามืดและย่อตัวนั่งลงตรงหน้าชายผู้นั้น

“ข้าชอบคำว่านายตำรวจหรือท่านมากกว่า”

เนื่องจากสำนักงานใหญ่ของสถานีตำรวจแห่งโฮล์มตั้งอยู่บนถนนแกรนลิน พวกอันธพาลจึงคุ้นชินกับการเรียกสถานีตำรวจว่าถนนแกรนลิน

แรงตบเมื่อครู่นั้นทำให้ชายร่างเล็กหวาดกลัว “ขอรับท่าน…”

เขาได้ยินมาว่าหมาดำแห่งถนนแกรนลินมีอุปกรณ์แปรธาตุชนิดพิเศษบางอย่างที่สามารถทรมานพวกเขาด้วยความเจ็บปวดและเหน็บชาจนขยับตัวไม่ได้ เขาจึงไม่ควรผลีผลามเมื่ออยู่ต่อหน้าตำรวจ

“จับได้คาหนังคาเขา…ขโมยฝาท่อ เขาจะถูกส่งไปที่ศาลเพื่อรับโทษทัณฑ์และเจ้าจะได้รับข้อหาทำลายความมั่นคงของประเทศ หากไม่ผิดพลาดอะไร เจ้าสองคนจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในเหมือง แน่นอนว่าหากเจ้าสองคนเต็มใจเป็นหนูทดลอง เจ้าก็อาจจะได้กลับมาที่เรนทาโตหลังจากนั้นสักปีหนึ่ง” นายตำรวจอาวุโสกล่าวพลางตบใบหน้าของชายร่างเล็ก

ชายร่างเล็กตื่นตะลึงโดยพลัน “ทำ…ทำลายความมั่นคงของประเทศ…งั้นหรือขอรับ ท่าน เราไม่ได้ตั้งใจขอรับ เรา…เราทำไปเพื่อเงินเพียงเท่านั้น!”

ข้อกล่าวหานั้นฟังดูร้ายแรงอย่างยิ่งสำหรับเขา

“ข้าบอกกับเจ้างั่งอย่างพวกเจ้ามาหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าให้ฟังวิทยุเพื่อจะได้รู้กฎระเบียบและกฎหมาย เจ้าไม่รู้กฎหมาย เจ้าไม่รู้กฎระเบียบใดๆ เจ้ายังไม่มีแม้แต่คุณสมบัติจะเป็นโจร!” นายตำรวจอาวุโสยืนขึ้น

ข้อกล่าวหาทำลายความมั่นคงของประเทศนั้นมาจากรัฐสภาแห่งขุนนางและองค์ราชินีเป็นผู้เสนอแนะ ในตอนที่รัฐสภาหารือกันเรื่องกฎข้อบังคับสำหรับความปลอดภัยบนท้องถนนและอากาศยาน นาตาชาได้เสนอแนะว่าควรจะมีกฎหมายห้ามปรามผู้คนจากการใช้อากาศยานหรือรถยนตร์เพื่อการฆาตกรรม

“มันคือฝาท่อ! แค่ฝาท่อเองนะขอรับ!” โจรทั้งสองแทบจะร้องไห้โฮ พวกเขาไม่อาจนึกจินตนาการว่าการใช้แรงงานในเหมืองนั้นจะเป็นเช่นไร

ส่วนการเป็นหนูทดลองให้กับนักเวทสักคนนั้น นี่เป็นตัวเลือกที่ไม่มีทางเกิดขึ้น! นั่นมันน่าหวาดกลัวเสียยิ่งกว่าความตาย!

นายตำรวจอาวุโสเอ่ยเสียงเยาะ “เจ้าขโมยฝาท่อ เจ้าอาจจะทำให้มีคนตกลงไปในท่อระบายน้ำ นั่นคือการที่เจ้าสองคนทำลายความมั่นคงของประเทศ จงไปสำนึกผิดอยู่ในเหมืองเสียเถิด!”

“ไม่นะ ได้โปรดเถิดท่าน! นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย! เราย่อมไม่ทำเช่นนี้หากว่าเรารู้ล่ะก็!” ทั้งสองคนรีบอ้อนวอน

“ท่าน! ข้ามี…ข้อมูลสำคัญ สำคัญมาก!” หนึ่งในนั้นร้องบอกเสียงดัง

พวกเขายอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตตน!

นายตำรวจอาวุโสพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและหันไปพูดกับตำรวจอีกนาย “พาสองคนนี้ไปสอบปากคำ นำคำสารภาพมาให้ข้าดูก่อนจะส่งไปด้วยล่ะ”

สองโจรในยามนี้น้ำตาอาบหน้า หลังจากที่พวกเขาเดินตามตำรวจนายนั้นไป หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาก็เอ่ยขึ้นอย่างป้อยอ “ดียิ่งนักขอรับท่าน สองคนนั้นกลัวแทบตาย! ท่านได้ข้อมูลชิ้นสำคัญมาอย่างง่ายดายจริงๆ!”

“เป็นความผิดของพวกนั้นเองที่ไม่ฟังวิทยุ บอกตามตรง ข้าหวังว่าข้าจะทำให้พวกนั้นได้รับข้อกล่าวหาจริงๆ! บัดซบ! เมื่อเช้ามีคนเห็นข้าเดินสะดุดตั้งหลายคน!” นายตำรวจอาวุโสกล่าวด้วยอย่างฉุนเฉียว

‘มิน่าเล่า หัวหน้าถึงได้เดินกะเผลกเมื่อเช้านี้…’

นายตำรวจอาวุโสออกคำสั่ง “นำฝาท่อกลับไปปิดที่เดิมแล้วปิดให้แน่นด้วยเล่า”

แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำว่า “น่ารำคาญเสียจริง…เหตุใดเราจึงต้องทำเรื่องทั้งหมดนี้ด้วย เรายังมีงานอีกมากมายให้สะสาง เราไม่ควรจะเป็นคนมาทำเรื่องพวกนี้!”

หลังจากที่นายตำรวจคนอื่นๆ นำฝาท่อกลับไปปิดที่เดิม หนึ่งในนั้นก็เอ่ยกับคนอื่นว่า “คงไม่มีใครอยู่ข้างล่างนั้นหรอกมั้ง…ฝาท่อหายไปนานหลายนาทีเหมือนกันนะ…”

“เป็นไปไม่ได้! นี่ก็ดึกมากแล้ว และมันก็แค่ไม่กี่นาทีเอง” เพื่อนร่วมงานของเขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นเขาก็หยิบเอาน้ำยาแปรธาตุระดับฝึกหัดออกมาและเทมันลงไปตามขอบระหว่างฝาท่อกับพื้น น้ำยานี้จะติดฝาท่อให้แน่นสนิทช่วงกลางคืนที่แสนหนาวเหน็บและจะค่อยๆ ละลายไปในช่วงกลางวัน

นักเวทบางคนได้ให้การช่วยเหลือพวกเขาด้วยน้ำยานี้

จากนั้นกลุ่มนายตำรวจก็กลับไปที่สำนักงานบนถนนแกรนลิน พวกเขาต้องการชาร้อนๆ สักแก้ว

หลังจากนั้นครู่ใหญ่ ใครสักคนก็เริ่มเคาะฝาท่อจากทางด้านล่าง ทว่า ฝาท่อนั้นกลับไม่ขยับเขยื้อนเลยเพราะกาวชนิดพิเศษนั้น

ท่ามกลางความมืดมิดในท่อระบายน้ำเสีย เส้นเลือดบนศีรษะของแนสเดลกำลังเต้นตุบ เขาเดือดดาลอย่างยิ่ง และไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเหตุใดจึงมีหลุมขนาดใหญ่อยู่กลางถนนเช่นนี้ เมืองนี้มันอะไรกัน ตอนที่เขาตกลงมาในท่อน้ำเสีย เขายังไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ดีนักเพราะยังมีอาการชาหนึบ ตอนนี้เขาเนื้อตัวอาบโลหิตอยู่ข้างล่างนี้ และไม่ทราบอย่างไรเขาจึงไม่สามารถออกไปได้!

ความโกรธ ความรำคาญ และความสับสนผสมปนเปกันอยู่ในอก เขานึกหวังให้ตนสามารถกลายร่างกลับเป็นมนุษย์หมาป่าแล้วต่อยฝาท่อปลิวในหมัดเดียวได้!

แต่เขากลับต้องฝืนบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง หากมีใครมาเห็นเขาในรูปลักษณ์มนุษย์หมาป่า เขาอาจประสบปัญหาใหญ่ในการทำภารกิจที่ได้รับจากเจ้าชายก็เป็นได้

เขาพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่กลิ่นเหม็นเน่าข้างล่างนี้กลับทำให้เขาแทบจะสำรอกออกมา

“แนสเดล เจ้าต้องใจเย็นๆ เจ้าห้ามทำให้เจ้าชายผิดหวังเด็ดขาด อย่าทำตัวเหมือนพวกโง่ไร้ความรอบคอบเช่นนั้น” เขาบอกกับตัวเองขณะเดินกะโผลกกะเผลกไปตามท่อน้ำเสีย

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสียงคำรามด้วยความโกรธาก็ดังก้องมาจากท่อน้ำเสียข้างใต้อีกครั้ง “บัดซบ! มันเปิดไม่ได้!”

แนสเดลไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าคนในเรนทาโตจะทำเช่นนี้ทำไม

หลังจากเดินมาไกลพอสมควร และเป็นตอนที่แนสเดลใกล้จะถึงขีดกำจัดแล้วนั้น ในที่สุดเขาก็เจอฝาท่อที่ไม่ถูกทากาว

เขาดันฝาเปิดแล้วตลานออกมา อากาศเย็นสดชื่นไม่เคยให้สัมผัสแสนหวานสำหรับเขาเท่านี้มาก่อนในชีวิต

แม้ว่าจะเป็นมนุษย์หมาป่าโตเต็มวัย แต่แนสเดลก็ยังเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ามากหลังจากเจอเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เขาจึงเดินเข้าไปในบ้านหลังเก่าที่ถูกทิ้งให้รกร้างแล้วนั่งพิงกำแพง เขาต้องการเวลาในการรักษาตนเองและพักผ่อน

บาดแผลจากการตกลงไปในท่อน้ำเสียนั้นหายดีแล้ว แต่อาการบาดเจ็บลึกล้ำภายในจนถึงกระดูกที่เกิดจากการถูกไฟฟ้าช็อตยังคงอยู่ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากรอคอย

แนสเดลพึมพำกับตัวเอง “เรนทาโตมีสิ่งดีๆ อยู่มากมาย แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่อันตรายมาก พวกเขาขุดหลุมใหญ่ขนาดนั้นไว้กลางถนนและเอาวงแหวนเวทสายฟ้าไปไว้ตรงจัตุรัสโดยไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ ได้อย่างไรกัน”

เขาย่อมไม่ยอมรับว่าตนเองไม่รู้เรื่องความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า เพราะเขาเชื่อว่าเป็นเหล่านักเวทที่ทำอะไรไร้ความรอบคอบเกินไป

ราตรีนั้นเงียบสงบ แนสเดลสงบขึ้นมาก เขาปลอบใจตัวเองว่าสิ่งต่างๆ จะดีขึ้นในอีกไม่นาน

ทว่า ทันทีที่คิดเช่นนั้น สัญชาตญาณอันเฉียบแหลมของเขาก็ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงภยันตรายร้ายแรง เขารีบพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีโดยไม่หยุดคิด

แต่ด้วยร่างกายที่ยังไม่หายดีจากการถูกไฟฟ้าช็อต การเคลื่อนไหวของเขาจึงค่อนข้างเชื่องช้า

ตูม!

บ้านร้างพลันระเบิดตูมก่อนจะพังครืนลงมา!

“นี่พวกเจ้าบ้าไปแล้วรึ! นี่เจ้าถึงกับระเบิดบ้านตัวเองทิ้งเลยงั้นรึ!” แนสเดลไม่รู้เลยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่

สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นอยู่เหนือความคาดหมายของเขาไปไกล และแน่นอนว่า การระเบิดนี้ไม่ได้เล็งเป้ามาที่เขา แนสเดลคงจะสัมผัสถึงมันได้เร็วกว่านี้แล้วหากเป็นเช่นนั้น

ตูม!

แรงระเบิดกระแทกเข้ากับตัวแนสเดลอย่างแรง ทำให้เขาจมอยู่ในกองอิฐและฝุ่นผงในทันที

“ทะ…ทำไม…” เจ้ามนุษย์หมาป่าพึมพำ

อีกทางด้านหนึ่งของถนน ฝูงชนกำลังเฝ้ามองการระเบิดนั้นอยู่

“ท่านขอรับ ระเบิดแบบให่ที่นักเวทเสนอมาใช้การได้ดียิ่งนัก!” ชายผมสีน้ำตาลกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น บ้านสองสามหลังถูกทำลายลงภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้น!

“ดี แบบนี้จะทำให้เราลดงานและระยะเวลาลง อีกไม่นาน เราจะสามารถขยายทางเท้าเพื่อที่ทั้งบริเวณนี้ของเรนทาโตจะสะดวกสบายขึ้นมาก” ผู้จัดการพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

เพื่อให้ได้ระเบิดแบบใหม่นี้มา เจ้านายของพวกเขาต้องไปเยี่ยมเยือนนครอัลลินเป็นพิเศษเพื่อขอให้ผู้เชี่ยวชาญมาชี้แนะการทำงานของพวกเขาที่นี่

หนึ่งในคนงานของเขาเอ่ยขึ้น “ทำไมเราถึงต้องมาที่นี่ตอนเที่ยงคืนกันด้วยล่ะขอรับ ผู้คนกำลังหลับกัน…”

“เจ้าหมายความว่าเราควรจะปิดถนนช่วงกลางวันอย่างนั้นรึ ถนนสายนี้เชื่อมต่อกับเขตตลาดกับประตูเมืองนะ! เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากเราทำเช่นนั้น จะก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้มากเท่าไหร่ พาคนงานเกียจคร้านพวกนั้นไปได้แล้ว ถนนจะต้องสะอาดก่อนย่ำรุ่ง!” ผู้จัดการสั่งเสียงดัง

เหล่าคนงานเริ่มทำงานของตน แต่หนึ่งในนั้นกลับเอ่ยขึ้นมาด้วยความหวั่นหวาด “เราจะไม่ตรวจดูก่อนทำการระเบิดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่ในนั้นหรือขอรับท่าน…”

“ไม่มีใครอยู่ในนั้นหรอก! เรากั้นถนนจากทุกทิศทางและใช้ตะเกียงคริสตัลเวทมนตร์เป็นสัญญาณเตือนแล้ว เราจับตามองมันอยู่ตลอดเวลา ถ้าจะมีก็คงเป็นคนที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นแล้วล่ะ!” ผู้จัดการตะคอกใส่เขา

ช่วงเช้าตรู่ อาลีออกมาจากบ้านเช่าและเดินไปตามถนนแสนพลุกพล่านเพื่อตรงไปยังเขตขุนนาง

เขาไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่นักเพราะเสียงระเบิดตูมตามเมื่อคืนก่อนทำให้เขาไม่ได้หลับไม่ได้นอน

โชคดีที่ทีมรื้อถอนได้บอกกับผู้อยู่อาศัยแถบนั้นพร้อมกับติดประกาศเตือนไว้ก่อนแล้ว เขาอ่านออก เมื่อคืนนี้จึงมิได้หวาดกลัวอันใด

ข้างๆ ทางเข้าเขตขุนนาง มีอารามหลวงแห่งหนึ่งถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงเรียน นักเรียนต่างกำลังอ่านออกเสียงอยู่ภายในห้อง รถม้าหรูหราเคลื่อนผ่านประตูโรงเรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเด็กๆ ชนชั้นสูงเข้าเรียน

โรงเรียนมิลส์บนถนนไคนิง เขตขุนนาง นครเรนทาโต…นั่นคือโรงเรียนที่เพื่อนทางจดหมายของเขาเข้าเรียน

‘เจน ห้องหนึ่ง ชั้นปีที่สอง’ อาลีคิดในใจ

ปีที่สองหลังจากที่โรงเรียนสายสามัญเริ่มก่อตั้งขึ้น เหล่าขุนนางก็ตัดสินใจสร้างโรงเรียนสำหรับชนชั้นสูงเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีเพียงเด็กชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถเข้าเรียนที่นี่ หลังจากได้เห็นว่าโรงเรียนสายสามัญทำอะไรได้บ้าง เหล่าขุนนางก็ต้องยอมรับว่าการให้ลูกๆ ของตนอยู่ในสภาพแวดล้อมของโรงเรียนจะทำให้เด็กๆ เกิดไฟปรารถนาในการเรียนได้มากกว่า และยังช่วยให้พวกเขากสร้างแวดวงสังคมของตนเองได้ตั้งแต่วัยเยาว์

อาลีเฝ้ามองรถม้าและรถยนตร์หรูหราขับเข้าไปในโรงเรียน เช่นเดียวกับอากาศยานรูปแบบต่างๆ ทั้งเรือเหาะและรถเหาะบนท้องฟ้า แล้วก็ให้รู้สึกว่าเบื้องหน้าเขามีกำแพงล่องหนกางกั้นอยู่

เขาถอนหายใจ แล้วหันหลังจากไปเหมือนกับหลายๆ วันที่ผ่านมา ในหัวเขาเต็มไปด้วยความคิดมากมายหลากหลาย ทั้งความเศร้าซึม ความรู้สึกด้อยค่า และความปรารถนา

ตอนนี้เขาเดินกลับมายังถนนที่มีบ้านหลายหลังถูกทำลายลงเมื่อคืนก่อน และในตอนนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงร้องครวญครางแปลกหู

อาลีเดินตามเสียงครวญครางนั้นไป แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่ามีสุนัขตัวโตนอนอยู่บนหญ้ายาวเฟื้อย ดวงตาของมันปิดสนิท และขนสีเงินของมันก็อาบไปด้วยเลือดกับฝุ่น

สำหรับอาลีแล้ว เจ้าสุนัขตัวนี้ดูเหมือนหมาป่ามาก จากตำราทั้งหลาย ทำให้เขารู้ว่ามีสุนัขอยู่พันธุ์หนึ่งที่มีรูปลักษณ์เหมือนกับหมาป่าอย่างมาก

ด้วยความเมตตาเห็นใจ อาลีจึงเดินเข้าไปหามันและก็ได้สังเกตเห็นว่าบนตัวเจ้าสุนัขมีบาดแผลอยู่มากมาย

“เจ้าโชคดีแล้ว เพื่อนยาก” อาลีแย้มยิ้ม

เขาเพิ่งได้เรียนรู้วิธีการพันแผลมาจากการทำงานชั่วคราวในโรงพยาบาลของสภาเวทมนตร์ เขาลากเจ้าสุนัขตัวโตกลับไปที่บ้านแล้วพันแผลรอบตัวมันจนเหมือนเป็นมัมมี่

หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เจ้าสุนัขตัวโตก็ตื่นขึ้น ไม่ทราบอย่างไร น้ำตาสองสายกลับไหลลงมาจากดวงตาว่างเปล่าของมัน

นับเป็นครั้งแรกที่อาลีได้เห็นอะไรแบบนี้ เขารีบปลอบโยนเจ้าสุนัขตัวโตเหมือนกับพูดกับมนุษย์คนหนึ่ง “มันจะต้องดีขึ้น ไม่ต้องเสียใจถึงเพียงนั้น ข้าเพิ่งทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ต้องร้อง ชีวิตเราจะต้องดีขึ้นเมื่ออยู่ในเรนทาโต”

เมื่อได้ยินคำว่าเรนทาโต เจ้าสุนัขตัวโตยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม