ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
เซียวอวี๋ขี่มังกรน้อยมองลงมาจากบนฟ้า อีกชั่วอึดใจ ทัพพยัคฆ์จะเข้าปะทะกับกองทัพเซิก ในใจของเขาตื่นเต้นขึ้นมา เขาคาดว่าแนวหน้าของกองทัพเซิกจะพังทลายทันทีภายใต้กีบเท้าของทัพพยัคฆ์ พวกเซิกคาดไม่ถึงว่ามนุษย์จะตอบโต้กลับ พวกมันไร้รูปขบวนใดๆ แต่ละตัวกระจัดกระจายไม่มีการพร้อมรับมือ โครม! เมื่อทัพพยัคฆ์โถมเข้าใส่ พวกเซิกก็ลอยกระเด็นเป็นทางยาว แม้ในหมู่พวกมันจะมีบางตัวที่แข็งแกร่งอยู่บ้าง แต่ทัพพยัคฆ์ก็ยังทะลวงผ่านร่างของพวกมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ภายใต้การเหยียบย่ำของกีบเหล็ก พวกเซิกพลันถูกเปลี่ยนเป็นเนื้อบดทันที ยอดทัพก็คือยอดทัพ เซียวอวี๋มองดูฉากเบื้องล่างด้วยความตื่นเต้น กองทัพของพวกเซิกราวกับนาข้าวที่ถูกเก็บเกี่ยว พวกมันถูกเข่นฆ่าเป็นทางยาวในทุกที่ที่ทัพพยัคฆ์พุ่งผ่าน เซิกบางส่วนที่หลบรอดมาได้ก็จะถูกนักรบออร์คและอสูรโคโดที่ตามมาฉีกร่าง พวกออร์คราวกับเป็นเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก พวกมันยกขวานขึ้นและฟันลงราวกับกำลังฟันหญ้าต้นหนึ่ง อสูรโคโดอาศัยแรงพุ่งและร่างที่ใหญ่โตของมันเหยียบร่างของพวกเซิกจนแหลกเละและพุ่งต่อไปข้างหน้าโดนไม่สนใจสิ่งใด มองจากด้านบน ทัพพยัคฆ์ราวกับมังกรยักษ์ที่กำลังแหวกว่ายในสนามรบ โดยเฉพาะตำแหน่งที่โถวปาหู่และโถวปาเฟิงสองพ่อลูกประจำอยู่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของโถวปาหู่จะด้อยกว่าอ้าวปาอยู่เล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตัวเขาที่ทำหน้าที่เป็นหัวลูกศรของรูปขบวนดูยิ่งใหญ่ราวเทพเจ้าไร้เทียมทาน เมื่อทัพม้าพุ่งออกไป ผู้ใดก็ยากจะหยุดยั้ง พวกเซิกไม่มีค่ายไม่มีกำแพง พวกมันจึงถูกทัพพยัคฆ์บดขยี้อย่างไร้ปราณี พวกมันตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าไม่อาจปล่อยให้ทัพม้าทะลวงต่อไปเช่นนี้ พวกมันรีบส่งเซิกที่ทรงพลังออกมาเกาะกลุ่มกันเพื่อหวังทำลายหัวลูกศรและตัดตอนรูปขบวน นี่เป็นกลยุทธ์ที่ไว้ใช้รับมือกับทัพม้า อย่างไรก็ตาม เซียวอวี๋ได้เตรียมการแก้ไขไว้แล้ว ตัวเขาทำหน้าที่เป็นทัพอากาสคอยคุ้มกันขบวนม้าจากบนฟ้า เมื่อเห็นว่าที่เบื้องหน้ามีพวกเซิกหนาแน่นจนทัพพยัคฆ์ไม่อาจทะลวงผ่าน เซียวอวี๋ก็ให้กองทัพคิเมร่าล่วงหน้าไปเผาทำลาย นอกจากเซียวอวี๋แล้ว จ้าวมนตราทั้งสามเองก็อยู่บนหลังของพวกคิเมร่า เมื่อเห็นตำแหน่งที่พวกเซิกมารวมกัน เวทชุดใหญ่ก็กระหน่ำลงไปทำลายฝูงเซิกทันที หรือในกรณีที่มีพวกเซิกจากทางด้านหลังรวมกลุ่มกันจะตัดตอนขบวนทัพ เซียวอวี๋ก็จะสั่งทัพอากาศจู่โจมทำลายไป ทัพพยัคฆ์เองก็ไม่ได้พุ่งเป็นเส้นตรงเพียงอย่างเดียว บางคราพวกเขายังแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยออกไปเก็บกวาดพวกเซิกที่จะเข้าโจมตีรูปขบวน หลังจากเข่นฆ่าได้ครู่หนึ่ง พวกเขาก็จะกลับเข้ารูปขบวนและมุ่งหน้าต่อไป ในวันนี้ ทัพพยัคฆ์นับเป็นแกนหลักในการบุกทะลวง ด้วยภูมิประเทศที่เปิดโล่ง พวกเขาสามารถพุ่งไปข้างหน้าโดยปราศจากอุปสรรค พวกเขาพุ่งตรงไปข้างหน้าโดยปราศจากความกังวล การสนับสนุนจากทางอากาศทำให้พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าได้ดั่งใจนึก พวกเซิกที่ไม่ถูกพวกเขาสังหารก็จะถูกกองทัพที่ตามมาด้านหลังจัดการ ครืนนนนน แสงอาทิตย์เริ่มสาดส่อง กองทัพพวกเซิกเริ่มตื่นขึ้นมา พวกมันเริ่มเข้ามารวมกันจนมีจำนวนมหาศาลราวฝูงมด เมื่อเห็นศัตรูบุกเข้ามาในอาณาเขต พวกมันก็กรูกันเข้าโจมตีทันที พวกมันรู้ว่าภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดก็คือทัพพยัคฆ์ที่บุกทะลวงเข้ามา หากว่าสกัดยับยั้งทัพพยัคฆ์เอาไว้ได้ พวกมันก็จะสามารถใช้จำนวนที่มากกว่ากลืนกินกองทัพอีกฝ่ายจนสิ้นซาก ติดก็เพียงแต่พวกมันจะสกัดไว้ได้หรือ? หากไม่มีเซียวอวี๋ ไม่มีสามจ้าวมนตรา บางทีพวกมันอาจจะทำสำเร็จ แม้ว่าทัพพยัคฆ์จะแข็งแกร่ง แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็มีกันเพียงหนึ่งหมื่นห้าพันคน ขณะที่พวกเซิกนั้นมีดุจหยดน้ำในมหาสมุทร อย่างไรเสียทัพพยัคฆ์ก็มีวันเหนื่อย เมื่อความเร็วของพวกเขาตกลง พวกเขาก็จะถูกโอบล้อมจากทุกทิศทาง ถึงตอนนั้นพวกเขาย่อมต้องสูญเสียอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม การมีอยู่ของเซียวอวี๋และสามจ้าวมนตราแบ่งเบาภาระของทัพพยัคฆ์ไป พวกเขาเพียงต้องพุ่งไปข้างหน้า ไม่จำเป็นต้องแบ่งสมาธิไปจัดการส่วนอื่นๆ อาจกล่าวได้ว่า การประสานของพวกเขาทำให้สามารถดึงศักยภาพของทัพพยัคฆ์ออกมาถึงขีดสุด ที่บนฟ้า เซียวอวี๋คอยแจ้งตำแหน่งต่อโถวปาหู่และบอกเขาว่าควรใช้ทิศตัดผ่านพวกเซิกเพื่อสร้างความเสียหายให้กับพวกมันมากที่สุด แม้ว่านี่จะเป็นการร่วมมือกันครั้งแรก แต่เซียวอวี๋และโถวปาหู่ต่างประสานกันได้เป็นอย่างดี นี่เป็นการผสานกำลังระหว่างสองผู้บัญชาการชั้นยอดเพื่อรีดเค้นความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพออกมาถึงขีดสุด ทัพพยัคฆ์พุ่งวนซ้ำไปซ้ำมาท่ามกลางกองทัพของพวกเซิก พวกเขาเข่นฆ่าพวกมันไปมากเท่าใดก็ไม่อาจนับได้แล้ว ในการต่อสู้นี้ สามจ้าวมนตราและทัพพยัคฆ์ร่วมมือกันสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงราวกับการจู่โจมสายฟ้าแลบของกองทัพเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง สาเหตุที่ทำให้ทัพพยัคฆ์สามารถโลดแล่นได้อย่างอิสระในทัพของพวกเซิกเป็นเพราะการคุ้มครองจากสามจ้าวมนตรา พวกเขาสามารถพุ่งต่อไปได้โดยไม่เกิดการชะงักใดๆ มิเช่นแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงการพุ่งวนซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบครั้ง เพียงพุ่งไประยะหนึ่งพวกเขาก็คงถูกพวกเซิกสกัดไว้แล้ว หนึ่งบวกหนึ่ง แต่ผลลัพธ์กลับมากกว่าสอง บางทีกระทั่งอาจมากเป็นสิบเท่า หากสามจ้าวมนตราลงมือเพียงลำพัง แม้พวกเขาจะฆ่าพวกเซิกได้เป็นจำนวนมาก เว้นแต่จะใช้เวทมนตร์บทใหญ่ พวกเขาก็ยากจะสร้างความเสียหายต่อทัพของพวกเซิก ตู้มมมมมมมมม! เวทมนตร์ห่าใหญ่ปูพรมถล่มพวกเซิกเป็นแถบราวกับถูกมีดกรีดลงไป เพื่อที่จะสกัดยับยั้งทัพพยัคฆืแล้ว พวกเซิกจำต้องรวมกัวเกาะกลุ่มกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันมารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ พวกมันก็จะถูกห่าเวทมนตร์นับสิบจากสามจ้าวมนตราที่อยู่บนฟ้าถล่มจนย่อยยับ ถึงจะเหลืออยู่บางส่วน พวกมันก็ยังจะถูกเวทมนตร์จากคาเอลและมู่เสวี่ยถล่มตามหลังมาอยู่ดี สถานการณ์ในสนามรบเอนเอียงมาเข้าข้างฝั่งเซียวอวี๋ พวกเซิกบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน พวกมันวิ่งสะเปะสะปะไร้ทิ้งทางจนโกลาหลไปหมด เซียวอวี๋ไล่ล่าโจมตีพวกมันไปตอลดทาง แต่ดูเหมือนพวกเซิกจะมีไม่หมดไม่สิ้น ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มถอยทัพ เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ในวันพรุ่ง เซียวอวี๋ที่อยู่บนฟ้าส่งสัญญาณถอนกำลังให้กับกองทัพที่อยู่ด้านล่าง เหล่านักรบที่อยู่ด้านล่างต่างชูมือโห่ร้องยินดีกับชัยชนะครั้งใหญ่ เพียงวันนี้วันเดียว พวกเซิกต้องตายไปหลายล้านชีวิต นี่เป็นชัยชนะครั้งใหญ่อย่างที่พวกเขาไม่เคยจินตนาการมาก่อน แม้ว่าพวกเซิกจะยังคงเหลืออยู่อีกมาก แต่ดูจากความก้าวหน้าในวันนี้ สักวันพวกเซิกจะต้องถูกกวาดล้างทั้งหมด!