บทที่ 1639 กายาสวรรค์

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1639 กายาสวรรค์

 

‘กายาสวรรค์!’ ฟางหยวนประหลาดใจแต่ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์เป็นปีศาจต่างโลก เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งห้วงมิติและเส้นทางแห่งการโจรกรรม เขายังมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ไม่ธรรมดา

 

เขาอุทิศทั้งชีวิตเพื่อหาวิธีกลับบ้าน

 

เขาเป็นผู้อมตะระดับเก้าที่ร่ำรวยที่สุด เขาค้นหาทรัพยากรอมตะทั่วโลกและหลอมรวมวิญญาณอมตะจํานวนมาก เขาเดินทางสํารวจห้าภูมิภาคและสองสวรรค์อย่างละเอียด

 

วันหนึ่งเมื่อเขาสํารวจสวรรค์สีขาว เขาบังเอิญพบสิ่งมีชีวิตลึกลับ หลังจากค้นคว้า เขาตั้งชื่อมันว่าจิตวิญญาณแห่งสวรรค์

 

กระทั่งพลังอํานาจของเทพปีศาจที่ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่สามารถปรับแต่งมัน

 

ตามคํากล่าวของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ จิตวิญญาณแห่งสวรรค์ไม่สามารถนําออกจากสวรรค์ สีขาวเมื่ออยู่ในสวรรค์สีขาว มันจึงถูกเจตจํานงสวรรค์เติมเต็มตลอดเวลา หากผู้อมตะต้องการปรับแต่งมัน พวกเขาต้องใช้เจตจํานงของตนเองเพื่อกําจัดเจตจํานงสวรรค์ออกไป

 

แม้เจตจํานงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์จะแข็งแกร่ง แต่เผชิญหน้ากับการเติมเต็มของเจตจํานงสวรรค์อย่างต่อเนื่อง เขาก็ยังไม่ประสบความสําเร็จ

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์ล้มเหลวแต่ไม่ท้อแท้ เขาแก้ปัญหาด้วยการสร้างท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า

 

สิ่งนี้ทําให้ฟางหยวนนึกถึงท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผี มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า เช่นกัน แม้เทพปีศาจปล้นสวรรค์จะใช้มันมานานแล้ว แต่ท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าของเขาก็ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน

 

ปัญหาคือแม้เทพปีศาจปล้นสวรรค์จะพบวิธีเปลี่ยนจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ให้เป็นท่าไม้ตาย อมตะระดับเก้ากายาสวรรค์ เขาก็ยังไม่สามารถจัดการและใช้งานมัน

 

เหตุผลเป็นเพราะเขาไม่สามารถปรับแต่งจิตวิญญาณแห่งสวรรค์

 

แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถปรับแต่งจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ในเวลาอันสั้น ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ให้เป็นท่าไม้ตายอมตะกายาสวรรค์

 

ด้วยวิธีนี้ความเร็วในการเติมเต็มของเจตจํานงสวรรค์จึงลดลงอย่างมาก

 

หลังจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์สร้างกายาสวรรค์ เขาไม่เคยใช้งานมันก่อนที่เขาจะหายตัวไปอย่างลึกลับ เขาทิ้งมรดกที่แท้จริงเอาไว้มากมาย กายาสวรรค์เป็นหนึ่งในนั้น

 

“ท่าไม้ตายอมตะกายาสวรรค์ยังไม่ถูกปรับแต่งอย่างสมบูรณ์ ข้าไม่สามารถทําสิ่งนี้ เพียงลําพัง มันต้องใช้เวลาและความพยายามหลายชั่วอายุคนก่อนที่การปรับแต่งจะประสบความสําเร็จ”

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์ยังกล่าวอีกว่าแม้เขาจะทิ้งท่าไม้ตายนี้เอาไว้เบื้องหลัง แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมมันและไม่ใช่มรดกที่แท้จริงของเขา

 

มันต้องการความร่วมมือจากคนรุ่นหลัง

 

ฟางหยวนสามารถอนุมานสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นได้ด้วยตนเอง

 

เมื่อเวลาผ่านไปนักสํารวจห้าเซียงบังเอิญพบมรดกนี้

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าท่าไม้ตายอมตะระดับเก้านี้ใช้ได้เพียงคนเดียว แต่นักสํารวจห้าเชียงต่างต้องการมัน พวกเขาไม่สามารถหาข้อยุติมันจึงเกิดเป็นความขัดแย้ง

 

นักสํารวจห้าเชียงพยายามแล้วแต่ทั้งห้าไม่สามารถปรับแต่งมัน ในที่สุดพวกเขาก็วางเดิมพัน และตัดสินใจใช้สิ่งนี้เพื่อตัดสินผู้ที่จะได้ครอบครองท่าไม้ตายนี้

 

เวลาผ่านไปอย่างไร้ปรานี เหตุการณ์นับไม่ถ้วนเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ในที่สุดนักสํารวจห้าเซียงก็เสียชีวิต บุตรหลานผู้อมตะของพวกเขาปรากฏตัวขึ้นและจากไป จวบจนวันนี้ที่ตระกูลฉีกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างเด็ดขาด หลังจากหลายปีของการทํางานหนักจากรุ่นสู่รุ่น สุดท้ายพวกเขากําลังจะประสบความสําเร็จ

 

แต่ฟางหยวนกลับเข้าแทรกแซง!

 

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากผู้อมตะตระกูลฉีจะรู้สึกโกรธ

 

บรรพชนของพวกเขาทํางานหนักมาตลอด ความพยายามของพวกเขากําลังจะบังเกิดผล แต่ฟางหยวนกลับมาที่นี่เพื่อแย่งชิงมัน

 

ไร้ยางอายและน่ารังเกียจเกินไป!

 

ความรู้สึกเหล่านี้เป็นเชื้อเพลิงที่ทําให้ผู้อมตะตระกูลฉีกล้าเผชิญหน้ากับฟางหยวน

 

ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับแปด พวกเขาเชื่อว่าตราบเท่าที่ตระกูลนี้ได้รับท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า พวกเขาจะสามารถเอาชนะฟางหยวนหรืออย่างน้อยมันก็จะทําให้พวกเขาสามารถเจรจาต่อรอง

 

ฟางหยวนส่งเจตจํานงของตนเองเข้าสู่กายาสวรรค์

 

ภายในกายาสวรรค์ มันเหมือนทะเลแห่งเจตจํานงอันกว้างใหญ่

 

เจตจํานงสวรรค์เหมือนป้อมปราการที่กีดขวางอยู่

 

การเดิมพันห้าเชียงตลอดหลายปีที่ผ่านมามีผู้อมตะมากมายทิ้งเจตจํานงเอาไว้เบื้องหลัง ท่ามกลางพวกมันมีเจตจํานงของผู้อมตะระดับแปดรวมถึงผู้อมตะระดับเจ็ดชั้นสูงเช่นหนี่เอ่อรวมอยู ด้วย

 

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก

 

แต่สิ่งที่ทําให้ฟางหยวนประหลาดใจก็คือเจตจํานงเหล่านี้ไม่เคลื่อนไหว พวกมันดูเหมือนคนตายหรือก้อนหินที่ไร้ชีวิต

 

มีเพียงเจตจํานงที่พึ่งเข้ามาเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆและต่อสู้กับเจตจํานงสวรรค์

 

สามในห้าเจตจํานงของผู้อมตะตระกูลฉีกําลังจัดการเจตจํานงของไปหนิงปิง อีกสองเจตจํานง โจมตีเจตจํานงสวรรค์

 

“นั่นคือแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะกายาสวรรค์ ผู้ใดที่สามารถปรับแต่งมันจะกลายเป็นเจ้าของกายาสวรรค์!”

 

“ปีศาจฟางหยวนเข้ามาแล้ว!”

 

“อดทนไว้ เราไม่สามารถผ่อนคลายในเวลานี้ เราต้องทําให้สําเร็จ!”

 

“นี่เป็นความพยายามตลอดหลายปีของตระกูลฉี ในช่วงเวลาสําคัญ เราจะปล่อยให้คนนอกฉกชิงไปไม่ได้”

 

เจตจํานงของผู้อมตะตระกูลฉีพูดคุยและกระตุ้นกันเพื่อยกขวัญกําลังใจ

 

แท้จริงแล้วพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ทุกคนรู้จักธรรมชาติที่โหดเหี้ยมของฟางหยวนเป็นอย่างดี หากพวกเขาไม่สามารถปรับแต่งท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า พวกเขาจะจบลงในสภาพที่น่าสมเพช

 

โดยปราศจากความลังเล เจตจํานงของฟางหยวนพุ่งเข้าไป

 

เจตจํานงของเขาเคลื่อนไหวราวกับมังกรที่ดุร้าย

 

เจตจํานงของสามผู้อมตะตระกูลร่วมมือกันแต่พวกเขายังไม่สามารถต่อต้านเจตจํานงของฟางหยวนและถูกบังคับให้ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง

 

พวกเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณขณะที่ฟางหยวนมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ในแง่นี้

 

“อดทนไว้ ไม่ว่าพวกเราต้องจ่ายด้วยสิ่งใด พวกเราก็ต้องถ่วงเวลาเอาไว้!”

 

“โจมตีอย่างรวดเร็วและเข้าควบคุมแกนกลางของมัน!”

 

“ตราบเท่าที่พวกเราสามารถยึดครองท่าไม้ตายนี้ เราจะมีโอกาสสังหารราชาปีศาจตนนี้และ ได้รับมรดกของผู้อมตะระดับเก้ามากมาย!”

 

“แม้เราจะไม่สามารถหยุดเขา เราก็ต้องกําจัดเจตจํานงของเขาให้มากที่สุด ด้วยวิธีนี้เขาจะไม่สามารถฉกชิงกายาสวรรค์ไปจากพวกเรา!”