บทที่ 1638 สมบัติล้ำค่าที่สุดของการเดิมพัน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1638 สมบัติล้ำค่าที่สุดของการเดิมพัน

 

แสงสว่างค่อยๆจางลง

 

ฟางหยวนกวาดตามองสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ตอนนี้เขาอยู่ในโลกใบเล็กหลังประตูเมือง

 

ไป่หนิงปิงอยู่ด้านข้างเขา

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่การแสดงออกของไปหนิงปิงเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ข้อมูลลึกลับพุ่งเข้าสู่จิตใจของนาง นางมองฟางหยวน เมื่อเห็นเขาไร้ความรู้สึก นางลังเลเล็กน้อยก่อนจะเปิดปากกล่าว “นี่คือถ้ำสวรรค์ห้าเซียง นักสํารวจห้าเชียงบริจาคถ้ำสวรรค์ส่วนหนึ่งของพวกเขาเพื่อสร้างสถานที่แห่งนี้ ที่นี่แบ่งออกเป็นห้าส่วน พวกมันเชื่อมต่อกันโดยภูเขาที่อยู่ตรงกลาง สมบัติของการเดิมพันอยู่ที่นั่น ตราบเท่าที่ผู้อมตะได้รับการยอมรับจากประตูเมืองและถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ พวกเขาสามารถตามหาสมบัติ ระหว่างทางนักสํารวจห้าเซียงทิ้งทรัพยากรเอาไว้ ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งสามารถนําพวกมันออกไป แต่มีคําแนะนําว่าพวกเขาไม่ควรนําทุกสิ่งออกไปเพื่อให้ทรัพยากรสา มารถเติบโตขึ้นอีกครั้งในอนาคต”

 

ไปหนิงปิงได้รับข้อมูลนี้แต่ฟางหยวนไม่ได้รับ

 

‘แม้ข้าจะสามารถปิดบังตัวตนและเข้ามา แต่มันก็เป็นการเคลื่อนไหวที่เร่งรีบ’

 

ฟางหยวนมองไปในระยะไกล ‘นี่หมายความว่าเราอยู่ห่างจากผู้อมตะตระกูลฉีค่อนข้างมาก พื้นที่ของเราไม่ได้เชื่อมต่อกัน หลังจากปลอมตัวเป็นทายาทของไปเชียง ข้าสามารถเคลื่อนไหวในส่วนของไปเชียงเท่านั้น?’

 

ฟางหยวนต้องการทดลองใช้วิญญาณท่องแดนอมตะแต่เขาไม่รู้จักภูมิประเทศในส่วนของฉีเซียง

 

เขาเคยฆ่าฉีช่ายของตระกูลฉี แต่คนผู้นั้นไม่เคยมาที่นี่หรือมีความทรงจําใดเกี่ยวกับมัน

 

จากการตรวจสอบประตูเมือง สถานที่แห่งนี้มีการป้องกันที่เข้มงวดมาก วิธีบนเส้นทาง แห่งห้วงมิติถูกขัดขวาง ข้าเกรงว่ากระทั่งวิญญาณท่องแดนอมตะก็อาจไม่สามารถใช้งาน

 

ฟางหยวนตัดสินใจในที่สุด

 

“ไปที่จุดศูนย์กลางกันเถอะ”

 

ถ้ำสวรรค์ห้าเชียงแบ่งออกเป็นห้าส่วน ที่จุดศูนย์กลางของมันเก็บสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของการเดิมพันเอาไว้ หากฟางหยวนมุ่งหน้าไปที่นั่น เขาจะได้พบกับผู้อมตะตระกูลนี้ในที่สุด

 

ฟางหยวนและไปหนิงบิงบินไปยังจุดหมายด้วยความเร็วสูง

 

ไป่เชียงบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งและหิมะ แม้ที่นี่จะมีภูเขามากมาย แต่พวกมันถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาทึบ

 

“ดูนั่น!” ไปหนิงบังกล่าว นางมองไปยังภูเขาสูงชันลูกหนึ่ง บนยอดเขามีบัวหิมะนับร้อยเติบโตอยู่ นี่เป็นทรัพยากรอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งและเส้นทางแห่งไม้

 

ใกล้กับทุ่งบัวหิมะมีอสูรหิมะจํานวนมาก หากคนผู้หนึ่งต้องการเก็บเกี่ยวบัวหิมะ อสูรหิมะเหล่านี้จะหยุดพวกเขา

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนพบมันนานแล้วแต่เขาไม่สนใจ เขาเพียงชาเลืองมองก่อนจะบินต่อไปพร้อมกับไปหนิงปิง

 

แม้อสูรหิมะจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาแต่ฟางหยวนไม่ต้องการเสียเวลาอยู่ที่นี่

 

ระหว่างทางฟางหยวนพบแหล่งทรัพยากรมากมาย ยิ่งลึกเท่าใด แหล่งทรัพยากรก็ยิ่งล้ำค่าเท่านั้น แน่นอนว่ามีสัตว์อสูรหรือพืชอสูรปกป้องพวกมันอยู่เช่นกัน นี่เป็นสิ่งที่นักสํารวจห้าเซียงเตรียมไว้เพื่อทดสอบบุตรหลายของพวกเขา

 

แม้พลังการต่อสู้ในปัจจุบันของฟางหยวนจะสามารถกวาดล้างทุกสิ่ง แต่เขาเพิกเฉยต่อผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง เขาให้ความสนใจกับภูเขากลางเท่านั้น

 

“โฮก…”

 

เสียงคํารามของสัตว์ร้ายดังขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่พวกมันโผล่ออกมาเพื่อโจมตีฟางหยวน และไปหนิงปิง

 

พวกมันคือละมั่งหยกน้ำแข็ง

 

ละมั่งหยกน้ำแข็งที่ตัวโตที่สุดมีขนาดเท่าวัง ตัวเล็กที่สุดมีขนาดเท่าบ้านสามชั้น ดวงตาของพวกมันเป็นสีเขียวหยกและไม่มีรูม่านตา แม้พวกมันจะไม่มีปีกแต่พวกมันสามารถเดินบนท้องฟ้า

 

ละมั่งหยกน้ำแข็งเหล่านี้ค่อนข้างแปลก นั่นทําให้การแสดงออกของฟางหยวนและไปหนิงปิงเปลี่ยนไป

 

ฟางหยวนสะบัดพัดที่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าออกไป

 

ท่าไม้ตายอมตะพัดฤดูร้อน!

 

“ฟื้ว…”

 

พายุฤดูร้อนพุ่งออกไป มันอาจดูเหมือนลมแต่แท้จริงแล้วมันเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

ละมั่งหยกน้ำแข็งที่เข้ามาในระยะการโจมตีของพายุฤดูร้อนตกตายทันที ศพของพวกมันร่วงหล่นลงจากท้องฟ้า

 

ฟางหยวนบินลงไปเมื่อพบกําแพงหินขนาดใหญ่ หลังจากตรวจสอบ เขาตระหนักว่ามันเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ

 

“ดูเหมือนข้อจํากัดของถ้ำสวรรค์ห้าเซียงจะไม่สามารถหยุดผู้อมตะของตระกูลฉี” ฟางหยวนกล่าวกับไปหนิงปิง

 

ไป่หนิงปิงพยักหน้า “เข้าใจแล้ว พวกเขาเคยมาที่นี่หลายครั้ง พวกเขาต้องมีความเข้มใจที่ลึกซึ่งเกี่ยวกับมัน ข้อจํากัดของถ้ำสวรรค์ห้าเซียงไม่สามารถหยุดพวกเขาได้อีกต่อไป นี่หมายความว่าการเดินทางของเราจะไม่ราบรื่น”

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา “ผู้อมตะตระกูลฉีพยายามขัดขวางพวกเรา พวกเขาต้องการรับสมบัติเป็นคนแรก เราไม่ควรเสียเวลาอยู่ที่นี่

 

ทั้งสองบินต่อไป

 

ดังคาดพวกเขาพบฝูงสัตว์อสูรมากมายกีดขวางอยู่บนเส้นทาง

 

แต่ฝูงสัตว์อสูรเหล่านั้นก็ถูกสังหารอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้แทบไม่สามารถชะลอความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกเขา

 

“วิธีการของฟางหยวนช่างน่ากลัวนัก คลื่นสัตว์อสูรของเราไร้ความหมาย!”

 

“เขาฆ่าพวกมันเหมือนมด นี่น่ากลัวเกินไป”

 

“พวกเขากําลังมา พวกเขาอยู่ใกล้ภูเขากลางแล้ว”

 

“อย่าตกใจ ยังมีปราการป้องกันภูเขา”

 

“การป้องกันถูกทําลาย ฟางหยวนและไปหนิงปิงกําลังมา!”

 

ผู้อมตะตระกูลฉียังพูดคุยต่อไป บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อฟางหยวนมาถึงกลุ่มผู้อมตะตระกูลฉีกลายเป็นตื่นตระหนก

 

พื้นที่เก็บสมบัติชัดเจนมาก ฟางหยวนสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล

 

บนยอดเขากลางมีวังที่ตกแต่งลักษณะเดียวกับประตูเมือง

 

มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะ!

 

ฟางหยวนประสบความสําเร็จในการเข้าสู่คฤหาสน์วิญญาณอมตะและพบว่าผู้อมตะตระกูลฉีนั่นอยู่รอบๆสมบัติล้ำค่ากลางห้องโถง

 

ฟางหยวนมองไปยังสมบัติของการเดิมพัน

 

สมบัติลึกลับนี้คือนกกระเรียนสีขาว

 

มันเป็นนกกระเรียนสีขาวที่มีขาข้างเดียว ขนของมันขาวราวหิมะและไม่มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกติดอยู่ จงอยปากของมันเป็นสีแดง ปีกของมันถูกซ่อนไว้ ดวงตาของมันปิดสนิท

 

ฟางหยวนขมวดคิ้ว เขาบอกได้ว่านกระเรียนขาวตัวนี้ไม่ธรรมดา

 

มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แท้จริง มันไม่ใช่วิญญาณอมตะ แต่มันปลดปล่อยกลิ่นอายระดับเก้าออกมา!

 

“อัศจรรย์นัก!” ฟางหยวนหัวเราะ “ดังนั้นสมบัติล้ำค่าที่สุดของการเดิมพันก็คือท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า!”

 

เสียงหัวเราะของฟางหยวนทําให้ร่างกายของผู้อมตะตระกูลฉีสั่นสะท้าน

 

พวกเขาทั้งหวาดกลัวและโกรธ

 

ตระกูลฉีพยายามปกป้องสมบัติชิ้นนี้อย่างระมัดระวัง แต่คนนอกกลับมาที่นี่และพยา ยามขโมยมันไปจากพวกเขา

 

ตระกูลฉีปฏิบัติกับสมบัติชิ้นนี้ราวกับมันเป็นสมบัติของพวกเขาแล้ว ฟางหยวนต้องการน้ำมันไป นี่หมายความว่าความขัดแย้งระหว่างตระกูลฉีกับฟางหยวนไม่สามารถแก้ไข

 

ฟางหยวนไม่พูดแต่ชี้นิ้วส่งแสงดาบออกไปโจมตีผู้อมตะตระกูลฉี

 

ผู้อมตะตระกูลฉีกําลังส่งเจตจํานงของพวกเขาเข้าไปในร่างกระเรียนขาว แต่เผชิญหน้ากับการโจมตีของฟางหยวน พวกเขากลับเพิกเฉยอย่างสิ้นเชิง

 

ในช่วงเวลาสําคัญแสงห้าสีก็ส่องประกายขึ้นขณะที่แสงดาบของฟางหยวนหายไปอย่างเงียบๆ

 

“ดังคาด” ฟางหยวนไม่แปลกใจ

 

ห้องโถงแห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลางของถ้ำสวรรค์ห้าเชียงและยังเป็นสถานที่ผนึกสมบัติล้ำค่าที่สุด มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่สถานที่แห่งนี้จะไม่อนุญาตให้เกิดการต่อสู้

 

แน่นอนว่าฟางหยวนสามารถใช้กําลังทําลายการจัดเตรียมของนักสํารวจห้าเซียง แต่มันจะทําให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่

 

‘ไม่แปลกใจเลยที่ผู้อมตะตระกูลนี้ไม่เคลื่อนไหว แต่เมื่อพวกเขามีคุณสมบัติที่จะปรับแต่งสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ ข้าก็ทําได้เช่นกัน!’ ไปหนิงปิงคิดและเดินเข้าไป

 

หลังจากนั้นนางก็เลียนแบบการกระทําของผู้อมตะตระกูลและส่งเจตจํานงของนางเข้าไปในกระเรียนขาว

 

ผู้อมตะตระกูลนี้รู้สึกประหม่าขณะที่ร่างกายของไป่หนิงปิงสั่นสะท้านขึ้น นางตะโกนใส่ฟางหยวน “เร็วเข้า!”

 

แม้จะไม่มีการแจ้งเตือน ฟางหยวนก็เข้ามาอยู่ด้านข้างนางแล้ว เขาส่งเจตจํานงเข้าไปและตระหนักถึงสถานการณ์ทั้งหมด

 

ในเวลาเดียวกันข้อมูลบางอย่างที่มีต้นกําเนิดมาจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์ก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของเขา

 

“ผู้คนแห่งอนาคต ข้าคือเบนเจนสันหรือรู้จักกันในนามของเทพปีศาจปล้นสวรรค์”

 

“ครั้งหนึ่งเมื่อข้าสํารวจสวรรค์สีขาว ข้าบังเอิญพบสิ่งมีชีวิตลึกลับ มันเหมือนจิตวิญญาณสวรรค์ มันว่องไวมาก ข้าคว้ามันมาอย่างยากลําบาก หลังจากค้นคว้า ข้าพบว่ามันเป็นสิ่งลึกลับที่สุดของโลกใบนี้ มันเกี่ยวข้องกับตํานานมนุษย์คนแรก”

 

“ข้าเรียกมันเป็นการชั่วคราวว่าจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ มันไม่สามารถนําออกจากสวรรค์สีขาว หรือวางไว้ในถ้ำสวรรค์ของคนผู้หนึ่ง มันเต็มไปด้วยเจตจํานงสวรรค์ กระทั่งข้าก็ยังไม่สามารถใช้เจตจํานงของตนเองปรับแต่งมัน”

 

“หลังจากครุ่นคิด ข้าพบวิธีแก้ปัญหา ข้าบีบอัดมันและสร้างท่าไม้ตายอมตะนี้ขึ้นมา ข้าเรียก มันว่ากายาสวรรค์!”