“เจ้าพูดถึงใครกัน?”
หมาดำยืนสองขาขาหน้ากอดอกเบ่งกล้าม
“ร่างกายข้าไร้พ่าย!ขนเส้นเดียวของข้าทำลายอาวุธได้หลายพันชิ้น โลหิตหยดเดียวของข้าจบชีวิตคนธรรมดาได้ การมองเดียวของข้าประหารได้กระทั่งเทพเจ้า เจ้าหนู เจ้าดูหมิ่นนิสัยข้าได้ แต่ถ้าดูถูกร่างกายข้า เจ้าจะพบกับความฉิบหาย…”
ตู้ม!
ทันใดนั้นมุกกลมถูกขว้างใส่หมาดำ หมาดำไม่มีโอกาสหลบและถูกมันบดขยี้ ขาทั้งสี่ชี้ขึ้นสู่นภา ฟองขาวกระจายออกจากปาก
“อ๊าาาเอา…เอามันออกไป…”
หมาดำร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อฟองขาวไหลออกจากปากขาทั้งสี่ของมันสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ฮั่นเฟยกับคนที่เหลือมองหน้ากันด้วยสายตาว่างเปล่า
“พี่ซือแข็งแกร่งนัก!จับร่างต้นของหมาดำได้ง่ายดายเช่นนี้!”
ตงฟางเถียนเฟิงอุทาน
ฮั่นเฟยกับคนที่เหลือคิดถึงสิ่งที่เพิ่งได้เห็นตามที่หมาดำทำ มันไม่น่าจะมีโอกาสอ่อนแอถึงขั้นนี้แม้ว่าร่างปลอมจะถูกทำลายไป
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะอ่อนแอขนาดนี้หรอกแต่ถ้าหากพลังเจ้าถูกใช้ไปเพราะไม้เท้าเซียนมณีล่ะ?”
ซือหยูถามอย่างใจเย็นเมื่อมองไม้เท้าถ้าหากหมาดำใช้ไม้เท้าก่อนหน้านี้จนทุกคนสูญเสียพลัง มันจนถูกต้อนจนมุมขนาดนี้หรือ?
ชัดอยู่แล้วว่าการใช้ไม้เท้าเซียนมณีนั้นกินพลังงานมากหมาดำทำได้แค่ใช้มันในยามสำคัญ
ร่างปลอมทั้งห้าไม่ใช่แค่ร่างปลอมของหมาดำมันสร้างจากพลังที่เหลืออยู่ แต่หมาดำก็ไม่คิดว่าซือหยูจะทำลายร่างปลอมทั้งห้าได้
ดังนั้นหมาดำจึงอ่อนแอลงไปมากนั่นทำให้ซือหยูจับมันได้อย่างง่ายดาย
หากหมาดำถูกจับไม้เท้าเซียนมณีก็หยุดทำงานเพราะเสียแหล่งพลัง พลังที่มองไม่เห็นหายไป พลังของทุกคนกลับคืนมา
สิ่งที่ยากที่สุดในหอวิชาถูกจับได้แล้วสีหน้าตึงเครียดของทุกคนผ่อนคลายลง
ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้เก็บเกี่ยวผลกำไรสักที!
หากลืมเรื่องจ้าวสวรนวิชาและเรื่องการได้เข้าสู่สวนที่หกลำพังแค่ไม้เท้าเซียนอย่างเดียวก็เป็นสมบัติชั้นสูงแห่งจิวโจวแล้ว! มันมีชิ้นเดียวเท่านั้น! ใครกันจะกล้าคุกคามผู้ที่ถือครองมัน?
แต่ไม่มีใครกล้าจะเข้าไปชิงไว้กับตัวนั่นก็เพราะว่าชายคนหนึ่งยังคงนิ่งเงียบ เขาคือซือหยู! สายตาฮั่นเฟยและคนอื่นๆ จับตาดูเขาด้วยความระแวง
หลังจากการต่อสู้หลายครั้งพวกเขาทุกคนเริ่มกังวลในตัวเขา เขาคือคนที่มีพลังซ่อนเร้นมหาศาล แต่เขาก็เก็บซ่อนปิดบังทุกอย่างไว้อยู่เสมอ พวกเขายิ่งกังวลมากขึ้นในเรื่องนี้
ตอนนี้ซือหยูยืนกอดอกนิ่ง ราวกับว่าเขาไม่คิดจะต่อสู้ชิงไม้เท้าเซียนมณี มันทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ หรือว่าจะมีความลับซ่อนอยู่ในไม้เท้าที่ซือหยูรู้อยู่ก่อน?
เรื่องที่หมาดำได้ควบคุมไม้เท้าเซียนเมื่อครู่ทำให้ทุกคนระวังตัวขึ้นมาก
“เอ๋?ไม่มีใครอยากได้รึ? เช่นนั้นข้าจะไม่ถามใครแล้ว”
ซือหยูหัวเราะเบาๆ
คนอื่นๆ เบิกตากว้างแต่ก็ไม่กล้าจะเคลื่อนไหว พวกเขามองซือหยูและเตรียมที่จะลงมือเมื่อเขาขยับตัว
แต่พวกเขาก็ลืมไปว่ามีอีกคนอยู่ที่นี่ด้วย “ไม่เลวข้าจะเก็บมันไว้แทนเจ้าเอง”
ปิงหวูชิงปรากฏตัวใกล้ไม้เท้าในพริบตานางยื่นมือหยิบไม้เท้าและโบกมาทางซือหยู ส่งสัญญาณว่าภารกิจสำเร็จแล้ว
มันเป็นกับดัก!เมื่อฮั่นเฟยกับคนที่เหลือเข้าใจสถานการณ์ มันก็สายไปแล้ว
“ซือหยูเซี่ยนเจ้าไม่คิดว่าทำเกินไปหน่อยรึที่หลอกพวกข้าด้วยวิธีนี้?”
ฮั่นเฟยถามอย่างใจเย็นนางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้
ตงฟางเถียนเฟิงกู้ไทซู และปี้หลิงเทียนล้วนจ้องมองปิงหวูชิงอย่างเคียดแค้น
เมื่อพลังกลับมาการชิงไม้เท้าเซียนมณีจากมือปิงหวูชิงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แต่เมื่อพวกเขาคิดแผนต่อไปรอยแยกหนึ่งก็แตกที่ไม้เท้าเซียนมณีในมือปิงหวูชิง รอยแตกปกคลุมทั่วไม้เท้า
“ไม้เท้ากำลังแตก!”
ปิงหวูชิงตกใจนางใช้พลังชีวิตขัดขวางไม่ให้มันแตก
“ข้ารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ง่าย!”
ซือหยูถอนหายใจ
หมาดำยังคงนอนแผ่หลังขาชี้ฟ้ามันระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจ
“ด้วยปัญญาของข้าข้าจะไม่คิดถึงความเป็นไปได้เลยรึ? ข้าคิดเผื่อตอนที่ข้าถูกจับตัวเอาไว้แล้ว ข้าจะทิ้งสมบัติสูงสุดไว้ให้พวกเจ้าเรอะ?”
“ไม้เท้าเซียนมณีของปลอมรึ?”
ปิงหวูชิงขมวดคิ้ว
หมาดำหัวเราะอย่างเย็นชา
“เจ้าคิดว่าไม้เท้าเซียนมณีของปลอมจะมีพลังขนาดนั้นหรือ?แน่นอนว่ามันเป็นของจริง ข้าแค่หักมันเมื่อหลายปีก่อน”
เจ้าน่ะเรอะ?คนที่ได้ฟังเต็มไปด้วยความสงสัย สมบัติอันดับหนึ่งแห่งจิวโจวสามารถถูกทำลายได้ด้วยหรือ? “ไอ้หมาเฮงซวยเจ้าจะตายอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเรอะ?”
ซือหยูเดินเข้าไปถาม
วิญญาณทมิฬปรากฏตัวเมื่อเก้าพันปีก่อนหมาดำประหลาดได้เปลี่ยนโชคชะตาของเขตกลางในคราเดียว มันเป็นใครกัน
ทำไมมันถึงเปลี่ยนสิ่งที่เซียนมณีสร้างขึ้นเองกับมือได้?
“ฮ่าๆๆๆๆๆข้าคือสุนัขรูปหล่องดงามที่ไม่มีใครเทียบไ…”
ในตอนนั้นเองขาทั้งสี่ของมันสั่นอีกครั้ง
“จ๊ากกกเบา ๆ สิ ข้าจะพูด ข้าจะพูด!”
ด้วยคำสั่งในใจน้ำหนักของมุกบาดาลลดลง
“จริงๆ แล้ว ข้าคือ…”
หมาดำหายใจเข้าลึกมันขยับปากด้วยความยากลำบาก มันกำลังจะเปิดเผยตัวตน ในตอนนั้นเองวิหคเพลิงกรีดร้อง หมาดำที่ติดอยู่ในมุกบาดาลถูกแทนที่ด้วยวิหคเพลิง!
“ฮ่าๆๆๆสวนที่หกอยู่ในมือข้าแล้ว!”
เสียงหัวเราะอวดดีดังถึงหูทุกคน
ทุกคนหันไปมองและได้เห็นหมาดำในมือตงฟางเถียนเฟิงผู้หัวเราะอย่างบ้าคลั่งมีความวิปริตอยู่ในเสียงหัวเราะของนาง
เพียงมองครั้งเดียวทุกคนก็ได้ความรู้สึกดุร้ายนี่คือคนที่แตกสลาย จากเด็กสาวธรรมดาตงฟางเถียนเฟิง นางกำลังจะแตกสลาย
“ช้าก่อน!เจ้าพูบดว่าสวนที่หก มันหมายความว่ายังไง?”
กู้ไทซูเลิกคิ้วถาม
ทุกคนที่มีจ้าวสวนในมือควรจะได้เข้าสวนที่หกแล้วทำไมการจับหมาดำได้ถึงเท่ากับได้สวนที่หกอยู่ในมือเล่า?
แต่ไม่นานพวกเขาก็ได้ตระหนักว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องคนที่บอกพวกเขาให้จับตัวจ้าวสวนเพื่อเข้าสวนที่หกก็คือตงฟางเถียนเฟิง! นางหลอกพวกเขา!
“เจ้ามันพวกโง่!พวกเจ้ายังไม่รู้ว่าสวนที่หกคืออะไรอีกรึ?”
ตงฟางเถียนเฟิงยิ้มยั่วนางสะบัดตัวหมาดำในมือ
หมาดำคือสวนที่หกรึ?
“เจ้าคิดว่าไม้เท้าเซียนมาจากไหนกัน?ลูกแก้วที่มันคายออกมา มันมาจากไหนกัน? แน่นอนว่ามันคือสวนที่หก! ขุมทรัพย์สุดท้าย!”
ตงฟางเถียนเฟิงบอกความจริง
“สวนที่หกอยู่ในท้องของมัน!”
“ในการปลดประตูสวนหกสิ่งที่ต้องใช้ไม่ใช่จ้าวสวนห้าคน แต่เป็นเลือดตระกูลตงฟาง!”
ตงฟางเถียนเฟิงแสยะยิ้มนางกัดนิ้วหยดโลหิตที่เหนือศีรษะหมาดำ จากนั้นหมาดำก็สลายไปเป็นควัน
ต่อมาควันเหล่านั้นได้ก่อตัวเป็นประตูยักษ์สีดำสนิท! ประตูนี้ดูเหมือนจริงแต่ก็ดูเหมือนมายาด้วย ประตูนี้นำไปสู่โลกสีดำสนิทที่เต็มไปด้วยพลังอสูร
สวนที่หกเปิดแล้ว!