ตอนที่ 1135 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดย Ink Stone_Fantasy
“ทะเลน้ำวนใหญ่ขนาดนี้ จะมีภูมิประเทศแปลกๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร” ธันเดอร์นิ่งเงียบไปครู่ก่อนจะพูดออกมาว่า “ข้าเคยเห็นหน้าผาที่ผุกร่อนไปเพราะลม ดูแล้วคล้ายๆ กับเสาหินพวกนี้เลย เพียงแค่ไม่ยาวขนาดนี้เท่านั้น”
แต่ในน้ำมันไม่มีลมนะ…ถึงแม้คามิล่าจะคิดเช่นนี้ แต่เธอก็ไม่ได้พูดออกมา
‘ลม?’ ภายในหัวเธอพลันมีเสียงโจนดังขึ้นมา ‘ที่นี่มีลมนะ’
“เจ้าว่าอะไรนะ?” คามิล่าพูดออกมาทันที
“เอ่อ เมื่อกี้ข้าพูดไม่ชัดเจนเหรอ?” ธันเดอร์กระแอมเล็กน้อย “อย่างนั้นข้าจะพูดใหม่แล้วกัน…ก่อนหน้านี้ข้าเคย…”
“ข้าไม่ได้ถามเจ้า ข้าถามโจน!” คามิล่าพูดตัดบทอีกฝ่าย ถึงแม้จะเสียมารยาทไปบ้าง แต่เธอไม่มีเวลามานั่งสนใจขนาดนั้น “เมื่อกี้เหมือนโจนจะบอกว่า…ด้านล่างทะเลมีลม!”
ทุกคนที่อยู่บนดาดฟ้าเรือรู้สึกตกใจ
‘ยังรู้สึกถึงลมไม่ได้ แต่ว่าได้ยินเสียงลมดังฟิ้วว…ฟิ้วว…ฟิ้วว เจ้าไม่ได้ยินเหรอ?’
ใช่แล้ว นี่คือการสื่อสารทางจิต ขอเพียงโจนได้ยิน ตัวเองก็น่าจะได้ยินเหมือนกัน คามิล่ารีบรวบรวมสมาธิ จากนั้นเธอถึงเหมือนจะได้ยินเสียงลมดังมาจากทะเลลึกที่อยู่ด้านล่างเท้าโจน เหมือนกับมีกระแสอากาศพัดผ่านโพรงถ้ำอย่างรวดเร็วอย่างไรอย่างนั้น
‘ข้าจะลงไปลึกอีกหน่อยแล้วกัน’ โจนพูด ‘แต่ว่าต้องเปลี่ยนท่านิดหน่อย’
พูดจบเธอก็ปลดสายรัดกระโปรงออก ขาทั้งสองข้างของเธอสัมผัสกับน้ำทะเลอย่างใกล้ชิด เกล็ดสีเขียวงอกขึ้นมาบนขาของเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะห่อหุ้มขาทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกัน….กลายเป็นเหมือนหางของปลา
พริบตานั้นเอง คามิล่ารู้สึกว่าแรงต้านที่อยู่ด้านหน้าพลันหายไป เพียงแค่สะบัดหางทีเดียว ร่างกายของเธอก็พุ่งไปได้ไกล เรียกได้ว่าคล่องแคล่วมากกว่าปลาเสียอีก
นี่คือร่างที่แท้จริงของโจนสินะ!
ความเร็วในการดำลงไปในน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“สองร้อยเมตร เสียงลมเหมือนจะดังขึ้น…ด้านล่างยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
“สี่ร้อยเมตร รอบๆ มืดลงทั้งหมด…แต่โชคดีที่โจนไม่ต้องอาศัยแสงสว่างในการมองเห็น เสาหิน…ยังยาวลงไปด้านล่าง แถมยังมีเสาหินอันใหม่ปรากฏขึ้นมาด้วย”
“เชือกที่ใช้วัดความลึกสุดปลายแล้ว พวกเจ้าต่อเชือกเพิ่มได้ไหม?”
“บ้าเอ้ย ตอนนี้ลึกเท่าไรแล้วเนี่ย? หกร้อยเมตรหรือว่าแปดร้อยเมตร? โจนเองก็ไม่มั่นใจ ส่วนเสาหิน…” พอพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ คามิล่าที่พูดบรรยายสิ่งที่เห็นอยู่ตลอดก็เงียบไปทันที “ไม่ เป็น…ไปไม่ได้…”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” ธันเดอร์รีบถามทันที
คามิล่ารู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นอย่างที่ยากจะบรรยายได้แผ่ขึ้นมาจากแผ่นหลัง ก่อนจะลามไปทั่วทั้งร่างกาย “เสา เสา…ไม่มีแล้ว!”
“ไม่มี หมายถึงหายไปแล้วเหรอ?” ธันเดอร์ขมวดคิ้วขึ้นมา ก่อนจะมองไปยังผิวน้ำ โขดหินที่อยู่รอบๆ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดูยังไงก็ไม่เหมือนว่ามันจะหายไปเลย
คามิล่ากำมือที่กำลังสั่นเทา “ไม่มีก้นทะเล…ไม่มีอะไรเลย…พวกมันลอยอยู่ในน้ำทะเล!”
คำพูดนี้ทำเอาทุกคนรู้สึกตกใจขึ้นมา
จากภาพที่โจนมองเห็น เธอมองเห็นเสาหินจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังลอยอยู่กลางน้ำ ส่วนปลายของมันเหมือนถูกอะไรตัดขาดออกไป เหลือเพียงแค่ส่วนบนที่ลอยอยู่ในน้ำ ไม่เพียงแต่เสาหินเท่าไร แต่หินโสโครกก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ก้อนหินขนาดใหญ่เหล่านี้สามารถลอยอยู่ในน้ำได้โดยไม่ต้องมีอะไรมาค้ำเอาไว้
ภาพเหตุการณ์แปลกประหลาดเกินกว่าที่เธอจะเข้าใจได้
“ลอยอยู่? เจ้าจะบอกว่าเกาะพวกนี้มันลอยอยู่บนน้ำเหรอ?”
“พระเจ้า นั่นมันก้อนหินทั้งก้อนนะ!”
“คุณผู้หญิง เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้ดูผิด?”
“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้พวกมันลอยได้ มันก็ไม่มีทางที่จะลอยอยู่เฉยๆ ไม่ขยับแบบนี้ ถ้าไม่มีสมอยึดเอาไว้ เพียงแค่กระแสน้ำธรรมดาก็พอที่จะพัดมันไปถึงฟยอร์ดแล้ว!”
บนดาดฟ้าเรือมีเสียงพูดคุยดังขึ้นมาทันที
“เงียบ!” ธันเดอร์ตะโกนเสียงดังจนคนอื่นๆ พากันเงียบลง “หินโสโครกทั้งหมดมันลอยอยู่งั้นเหรอ?”
“ข้าไม่รู้….ความยาวของพวกมันไม่เหมือนกัน” คามิล่าพูดพึมพำ “เสาหินที่ปรากฏขึ้นมาใหม่เหล่านั้นยังคงยืดยาวลงไปข้างล่าง
ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วในการดำลงไปของโจนก็ช้าลงด้วย
เห็นได้ชัดว่าถึงแม้ความสามารถของเธอจะสามารถรับแรงดันใต้ทะเลลึกได้ แต่มันก็มีขีดจำกัดของมันอยู่
ในเวลานี้เอง คามิล่าได้สังเกตเห็นภาพที่แปลกประหลาด
เสาหินที่อยู่ใกล้ๆ โจนเหมือนจะถูก ‘ยืดยาว’ ออก
มันเป็นเหมือนลำต้นของต้นไม้ที่ยืดยาวลงไปใต้ทะเลลึกจนมองไม่เห็นปลายของมัน สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกสนใจก็คือรายละเอียดของมัน รายละเอียดที่ว่านั้นคือลวดลายบนเสาหินและเพรียงที่เกาะอยู่ ลวดลายที่อยู่บนเสาหินเหมือนจะยาวขึ้นกว่าลวดลายบนเสาหินในช่วงแรก ส่วนตัวเพรียงจากตอนแรกที่รูปร่างเป็นวงกลมก็เปลี่ยนเป็นวงรี นี่จึงทำให้เธอรู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ
‘เจ้าอยากจะเข้าไปดูใกล้ๆ เหรอ?’ โจนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกประหลาดใจของเธอ ‘นั่นมันแปลกจริงๆ’
‘อื้อ’ คามิล่ากระแอมลำคอที่เริ่มแห้งผาก “เจ้าระวังด้วยนะ”
โจนค่อยๆ ว่ายเข้าไปใกล้เสาหิน ก่อนจะยื่นมือออกไปเพื่อไปจับเพรียงที่มีรูปร่างประหลาดพวกนั้น แต่ทันใดนั้นเอง เรื่องราวที่ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวก็เกิดขึ้น
คามิล่ามองเห็นนิ้วมือที่มีเกล็ดปลาปกคลุมอยู่ยืดยาวออก
‘เอ๋? นี่มันอะไรกันเนี่ย?’ เธอยื่นมือออกไปอย่างงุนงงพร้อมกางมือออก ‘ข้าตาฝาดงั้นเหรอ?’
ภายในใจคามิล่าพลันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
ในขณะที่เธอกำลังจะแจ้งธันเดอร์ เธอพลันเห็นปลาตัวหนึ่งว่ายปาดหน้าโจนไป
มันคือปลาไหลเงินธรรมดาตัวหนึ่ง ความยาวของมันประมาณหนึ่งช่วงแขน แต่ในตอนที่มันผ่านหน้าโจนไป ร่างกายของมันพลันยืดยาวออก ในระยะสั้นๆ ไม่ถึง 5 เมตร ปลาไหลธรรมดาตัวหนึ่งกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือน ‘งูทะเล’ แต่มันยังไม่หมดแค่นี้ ส่วนหัวของมันจมลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว หลังผ่านไปไม่กี่อึดใจ ปลาไหลเงินพลันถูกดึงจนยาวถึงขีดจำกัดของมัน เธอยังคงมองเห็นหางของมันอยู่ แต่ส่วนหัวของมันจมลงไปในความมืดที่ลึกสุดลูกหูลูกตา ความยาวของมันอย่างน้อยๆ ก็มีมากกว่าหนึ่งร้อยเมตร! แค่พริบตา มันก็เป็นเหมือนแสงสีเงินที่หายไปในทะเลลึก คล้ายกับว่ามันถูกอะไรบางอย่างดูดเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
คามิล่ารู้สึกขนลุกไปทั้งตัว!
เธอตะโกนออกมาเสียงดัง “รีบออกมาจากตรงนั้น! การสำรวจจบลงแล้ว รีบว่ายขึ้นมาเร็ว!”
แต่เสียดายที่มันช้าไปเสียแล้ว
โจนสะบัดหางอยู่สองสามครั้ง แต่ร่างกายเธอกลับไม่ขยับไปไหน พูดอีกอย่างก็คือความเร็วในการถูกดึงให้ยาวของเธอเท่ากับความเร็วที่เธอจะว่ายขึ้นมา คามิล่ามองเห็นหางปลาของเธอถูกดึงให้ยาวออกไปสิบกว่าเมตร แต่ความกว้างกลับไม่เปลี่ยน ภาพเหตุการณ์นี้น่ากลัวอย่างมาก
โจนเองก็ลนลานขึ้นมา ‘ข้า…ข้าเป็นอะไรเนี่ย? คามิล่า…ข้าควรทำยังไง?’
“ออกแรงหน่อย…อย่าหยุด ออกแรงว่ายหน่อย! เจ้าทำได้!” คามิล่าตะโกน
แต่ความพยายามของเธอมันก็เปล่าประประโยชน์ ไม่ว่าโจนจะว่ายยังไง ร่างกายของเธอก็ยังจมลงไปไม่หยุด เหมือนกับตกลงไปในโคลนตมอย่างไรอย่างนั้น ในตอนนี้ไม่ใช่แค่หางเท่านั้น แม้แต่ร่างกายและสองมือของเธอก็เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยเหมือนกัน
โจนเหมือนจะรู้ตัวเหมือนกัน เธอยื่นมือขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง ‘ใครก็ได้ มาช่วยขาที….’
“ม่ายยยยยยยยยย!”
เสียงตะโกนยังไม่ทันหยุด ทัศนวิสัยพลันจมดิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำ
คามิล่าลืมตาทิ้งตัวคุกเข่าลงไปกับพื้นอย่างอ่อนแรง เหงื่อไหลลงมาอยู่ที่ปลายจมูก ก่อนจะหยดลงไปบนหลังมือของเธอ ในเวลานี้เธอถึงได้พบว่าร่างกายตัวเองมีเหงื่อไหลออกมาจนเปียกไปหมด
“เกิดอะไรขึ้น? โจนเจออันตรายเหรอ?” ธันเดอร์เดินเข้ามาประคองเธอ
เป็นเวลาครู่ใหญ่กว่าที่คามิล่าจะได้สติคืนนี้ “ข้าไม่รู้ การเชื่อมต่อทางวิญญาณ…ถูกตัดขาดไปแล้ว”
……………………………………………………………………