ตอนที่ 1033 ฉายเดี่ยว

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

เป็นเวลาพักใหญ่ที่ฝ่ายเสี่ยวเซียวแบ่งกองกำลังออกเป็นทีมย่อยๆกระจายไล่ตามทีมเขี้ยวหมาป่าไปคนละทิศทางเสี่ยวเซียวเองก็เข้าร่วมในการไล่ล่าครั้งนี้เช่นกัน หากทีมที่เสี่ยวเซียวเข้าร่วมด้วยคือทีมที่มีแต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดรวมตัวกันอยู่…
  ”มีร่องรอยอยู่ตรงนี้”ระหว่างเส้นทางไล่ล่า ชายคนหนึ่งในทีมที่คอยสอดส่องหาเบาะแสอยู่ก็รีบรายงานเสี่ยวเซียวทันทีที่พบเห็น
  เสี่ยวเซียวที่มีความรู้มากมายอัดแน่นในหัวเพียงแค่เหลือบตามองดูร่องรอยแวบเดียวเขาก็สามารถทำการวิเคราะห์ออกมาได้ในทันที “มันเป็นร่องรอยที่พวกนั้นจงใจทิ้งเอาไว้เพื่อล่อให้เราไปทางซ้าย ทั้งๆที่ความจริงไม่มีใครอยู่ด้านซ้ายหรือถ้ามีก็มีคือดักซุ่มรอโจมตีเราอยู่”
  ”ถ้างั้นเราจะไปทางไหนดีครับ?”คนในทีมได้ฟังการวิเคราะห์ก็ตัดสินใจไม่ออกว่าควรจะไปทางไหนดี
  ”ไปทางขวากัน”สีหน้าของเสี่ยวเซียวเหมือนกำลังคิดวางแผนบางอย่างอยู่ “เพราะทางซ้ายจะต้องไม่มีชูฮันอยู่แน่ๆ”
  สมาชิกทีมกุ้งเสือดำที่โจมตีอยู่ทางซ้ายต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอกกันทั้งนั้นในแววตาของทุกคนมีความอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด ต้องยอมรับเลยว่าการตัดสินใจของเสี่ยวเซียวนั้นถูกต้องอย่างสมบูรณ์แต่ก็ใช่ว่าจะหนีพ้นแผนการของหัวหน้าชูฮันซะที่ไหน
  ฟรึบ!พรึบ! ตึก!
  ในพื้นที่อื่นๆภายในสนามรบอันกว้างใหญ่หลายคนต่างกำลังเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไปตามพุ่มไม้สูงใหญ่ทั้งหลาย และในท่ามกลางกลุ่มคนมากมาย หนึ่งในนั้นกำลังจะปะทะกันในอีกไม่ช้าแล้ว
  จางโบฮั่นซึ่งเป็นสมาชิกหญิงเพียงคนเดียวของทีมกุ้งเสือดำตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งปัจจุบันแม้จะเป็นผู้หญิงแต่เธอไม่แสดงความอ่อนแอหรือเมตตาออกมา เมื่อถึงเวลาต้องสู่เธอสามารถฆ่าทุกคนได้ทันทีอย่างไม่ลังเลจนกระทั่งบางทีเธออดไม่ได้ที่จะกลัวความบ้าคลั่งหัวรุนแรงของตัวเอง
  ขณะนี้จางโบฮั่นกำลังซ่อนตัวอยู่หลังลำต้นไม้หนาความสามารถของเธอนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากสุดๆ ในตอนระยะต้นๆเธอสามารถใช้เกราะที่มีป้องกันการรับรู้ของซอมบี้ภายในระยะที่กำจัด ทว่าขณะนี้จางโบฮั่นซึ่งเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 5 มีเกราะหนาภายในรัศมีกว้างไกลและเป้าหมายก็มากกว่าแค่ซอมบี้อย่างเมื่อก่อน
  ที่จริงเธอกลายเป็นไพ่สำคัญที่คอยปกป้องทีมกุ้งเสือดำ
  กริชสีดำในมือมีประกายเย็นแวบผ่านจางโบฮั่นหลับตาลงเพื่อให้หูของเธอทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เธอได้ยินเสียงบางอย่างจากตรงข้างหน้าฝั่งซ้าย มันคือเสียงของกิ่งไม้ที่แตกหักและก็เสียงหายใจ สิ่งที่ได้ยินทำให้เธอตัดสินใจได้ว่า…   มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ผู้ชายประมาณระยะ4
  พั้วะ!
  เมื่อพิจารณาตำแหน่งและจังหวะได้อย่างเหมาะสมแล้วจางโบฮั่นก็ไม่มีความลังเลเลยสักนิด เธอดึงกริชสีดำออกมาและพุ่งไปยังตำแหน่งของศัตรู
  ร่างของเธอเหมือนกับวิญญาณที่มองไม่เห็นและไม่มีเสียงใดๆมีเพียงแค่กริชสีดำในมือและจิตสังหารจำนวนมากที่ระเบิดโพล่งใส่ศัตรูอย่างทันที!
  พัฟ!
  กริชสีดำปักเข้ากลางหัวใจของศัตรูอย่างง่ายๆตาของจางโบฮั่นเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก เธอไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
  ตายภายในการโจมตีครั้งเดียว!
  ปั่ก!
  ร่างของศัตรูล้มลงกระแทกพื้นตามมาด้วยเลือดที่ไหลออกมานองจนเป็นแอ่ง  กุ้งเสือดำเก่งที่สุดในด้านการลอบสังหารเมื่อเทียบกับการแบ่งเป็นทีมย่อยทีมละสิบคน การฉายเดี่ยวนั้นจะทำให้ความสามารถที่แท้จริงตามธรรมชาติถูกปลดปล่อยออกมาได้ดีกว่า
  นี้ก็เป็นอีกหนึ่งชั้นในกระบวนการแผนการของชูฮันชูฮันจงใจให้ทีมกุ้งเสือดำแบ่งออกเป็นทีมย่อยเพื่อก่อกวนและลอบทำร้ายฝ่ายศัตรู จากนั้นก็ถอยห่างและหนีจากไปโดยใช้ต้นไม้สูงหนารอบๆเป็นที่กำบัง
  ทันทีที่ทีมกุ้งเสือดำกระจายหายเข้าไปในป่าทึบถ้าพวกเขาไม่ต้องการให้ใครหาเจอก็จะไม่มีทางหาได้เจอเด็ดขาด
  ถ้าพวกเขาต้องการลอบสังหารศัตรูศัตรูก็จะถูกฆ่าโดยไม่ทันรู้ตัว จากนั้นพวกเขาก็จะจากไปโดยไม่มีแม้แต่ร่องรอยใดๆทิ้งไว้
  นี้คือแง่มุมที่น่ากลัวที่สุดของกุ้งเสือดำ…ความสามารถที่แท้จริงซึ่งปิดซ่อนอยู่ในความมืดมายาวนาน!
  ทันทีที่จางโบฮั่นฆ่าอีกฝ่ายสำเร็จแต่แล้วจู่ๆสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
  ”ปัง!”
  หูของจางโบฮั่นได้ยินเสียงยิงปืน
  พลั่ก!
  ปฏิกิริยาตอบสนองของจางโบฮั่นรวดเร็วอย่างมากเธอขยับตัวเบี่ยงหลบกระสุนที่มาจากทางด้านหลังจนล้มลงไปอยู่ที่พื้น แต่ถึงกระนั้นกระสุนก็ยังเฉียดผิวตรงหัวไหล่ไปทำให้เกิดเลือดซึม ความเจ็บเล็กน้อยพลันก่อตัวขึ้น
  ขณะเดียวกันไม่ไกลออกไปจากตำแหน่งของจางโบฮั่นก็มีร่างของฝ่ายศัตรูปรากฏตัวขึ้นมาจากพุ่มหญ้าสูง ในมือของฝ่ายมีปืนที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในตอนนี้อยู่พร้อมกับค่อยๆขยับเข้าใกล้ตำแหน่งของจางโบฮั่นอย่างระมัดระวัง กระสุนยังคงถูกยิงฝ่าออกไปจนเกิดเสียงดังสนั่นไปรอบบริเวณ
  จางโบฮั่นพยายามถอยหนีและใช้พุ่มหญ้าสูงหนาเพื่อช่วยปกปิดตัวตนและหลีกเลี่ยงกระสุนจากศัตรูหากมันกลับดูไร้ประโยชน์เพราะอีกฝ่ายกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆทุกขณะ เขาสามารถมองเห็นและหาตำแหน่งที่ซ่อนของจางโบฮั่นได้อย่างง่ายๆจากมุมมองระดับสูงที่ได้เปรียบกว่า
  และในตอนนั้นเอง!
  ทันใดนั้นที่ด้านหลังของศัตรูก็มีร่างหนึ่งกระโดดถีบขาคู่จากที่สูงลงใส่บ่าของศัตรูอย่างกระทันพร้อมกับกริชสีดำที่ถูกแทงจ้วงเข้าใส่
  พัฟ!
  กริชคมกริบปักเข้าที่ลำคอของอีกฝ่ายอย่างแรง
  เสียงยิงปืนพลันหยุดลงเลือดพุ่งกระเซ็นราวกับน้ำพุ และคอของอีกฝ่ายก็หักและห้อยโตงเตงจนเหมือนจะหลุดแยกออกจากตัวอยู่ร่อมร่อ ก่อนร่างของมันจะลงไปกองอยู่ที่พื้น
  จางโบฮั่นถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะยืนขึ้นและเอ่ยขอบคุณเสี่ยวเคินที่ช่วยชีวิตเธอไว้ “ขอบคุณ”
  เสี่ยวเคินไม่ได้พูดอะไรตอบเขาก้มลงหยิบปืนที่พื้นขึ้นมาโยนให้จางโบฮั่น “เวลาฆ่าอย่าหุนหันพลันแล่น มันอาจจะมีคนซุ่มอยู่ข้างหลังเธอได้”
  หลังจากพูดจบเสี่ยวเคินก็จากไปยังทิศทางที่มีศัตรูอยู่
  แกร๊ก!ปั่ก!
  จางโบฮั่นสำรวจปืนให้พร้อมใช้งานไม่สนใจบาดแผลบนหัวไหล่ตัวเองและมุ่งหน้าไปยังทิศทางตรงกันข้ามกันเสี่ยวเคิน
  เหตุการณ์ลอบสังหารคล้ายกันนี้ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่รอบๆทั้งหมดมีการปะทะ การสูญเสีย ไหนจะขาดข้อมูลและการติดต่อจากพวกเดียวกัน ทำให้ตอนนี้มันไม่สามารถนับได้เลยว่าฝ่ายตัวเองเสียคนไปเท่าไหร่และเหลือคนเท่าไหร่
  สำหรับชูฮันที่อยู่เพียงคนเดียวไม่เหมือนกับทีมกุ้งเสือดำชูฮันไม่ได้ทำการลอบสังหารใคร กลับกันเขายืนถือขวานยักษ์ซิ่วโหลที่แสนจะโดดเด่นอยู่ในที่แจ้งอย่างไม่คิดหลบซ่อนใดๆ
  แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่สร้างทีมสังหารอย่างกุ้งเสือดำขึ้นมาเองแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวชูฮันจะชอบใช้วิธีนั้น เทียบกับการลอบสังหารแล้ว…เขาชอบการประจันหน้าแบบตัวต่อตัวในที่สว่างมากกว่า
  ”มันคือชูฮัน!”ทันทีที่ได้เห็นขวานยักษ์สีดำในมือชูฮัน ทีมฝ่ายศัตรูที่มีคนสิบคนก็ส่งเสียงร้องลั่น แถมหนึ่งในนั้นยังหมุนตัวเพื่อเตรียมจะวิ่งออกไปแจ้งให้ที่เหลือได้ตามมาสมทบ
  ”อยากไปงั้นเหรอ?!”ชูฮันพูดเสียงดัง ตาเป็นประกายวาวขณะมองชายคนหนึ่งที่วิ่งหนีห่างออกไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นชูฮันก็ปล่อยสนามพลังงานสีดำออกมาครอบคลุมศัตรูที่เหลืออีก 9 คนเอาไว้
  ชูฮันรู้ว่าทหารระดับสูง70 คนของกุ้งเสือดำจะสามารถจัดการปัญหาเรื่องกองกำลังมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะสูงที่เป็นศัตรูได้อยู่แล้ว เพราะงั้นชูฮันจึงไม่ได้เครียดและปล่อยให้อีกคนรอดไปคาบข่าวบอกพรรคพวก ยิ่งถ้ามันสามารถพาตัวเสี่ยวเซียวและพรรคพวกส่วนใหญ่ทั้งหมดมาได้ก็ยิ่งดีเพราะเขาก็จะได้จัดการทุกอย่างในทีเดียวซะ
  แค่หวังว่าพวกที่มาจะไม่ได้มาหลายร้อยคนพร้อมกันในทีเดียว…
  ทั้ง9 คนตะลึงค้างไปเลยเมื่อจู่ๆก็มีสนามพลังงานขึ้นมาคลุมรอบพวกเขาเอาไว้ พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิตจึงไม่แปลกที่จะมีท่าที่ตื่นตระหนก หลายคนที่เป็นมือปืนก็ตัดสินใจยกปืนขึ้นยิงรัวใส่ชูฮัน
  ทว่าภายในสนามพลังงานของชูฮันทุกอย่างถูกควบคุมโดยชูฮันในตอนนี้ที่มีห่ากระสุนหนากำลังพุ่งเข้ามา ชูฮันที่มักเตรียมพร้อมอยู่เสมอกลับไม่ขยับตัวหนีเพราะจู่ๆมันก็มีกำแพงหมอกหนาปรากฏขึ้นกั้นร่างของชูฮันระหว่างกระสุนเอาไว้