บทที่ 1365 คนที่ไม่ควรคิดถึง / บทที่ 1366 ปู่เอ็งอยู่นี่

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1365 คนที่ไม่ควรคิดถึง

“นายเหยียบเท้าฉัน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็นท่ามกลางความคิดที่สับสนวุ่นวาย

เป่ยโต่วได้ยินก็ก้มหน้ามองพื้น จริงด้วยแฮะ…เขาไม่ระวังเหยียบรองเท้าพี่เฟิ่งอยู่จริงๆ ด้วย…

“เสี่ยวเฟิ่ง ฉันส่งเธอกลับเอง” จี้ซิวหร่านกล่าว

“โอเค” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า จากนั้นก็เดินขึ้นรถของจี้ซิวหร่าน

เป่ยโต่ว ชีซิงกับชิวสุ่ยเองก็แยกย้ายกันกลับด้วย

ผ่านไปครู่หนึ่ง จี้ซิวหร่านขับรถเข้ามาจอดในบ้านผีสิงของเยี่ยหวันหวั่น

เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะลงจากรถ แต่จี้ซิวหร่านกลับเรียกไว้ก่อน

“เสี่ยวเฟิ่ง” จี้ซิวหร่านมองเยี่ยหวันหวั่น “คนที่ควรคิดถึง กับคนที่ไม่ควรคิดถึง หวังว่าเธอจะแยกแยะออกนะ”

คำพูดของจี้ซิวหร่านทำให้เยี่ยหวันหวั่นชะงักไปเล็กน้อย อะไรคือคนที่ควรคิดถึงกับคนที่ไม่ควรคิดถึง…

เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้ถามให้ชัดเจน จี้ซิวหร่านก็ขับรถออกไปแล้ว

……

ไม่นาน จี้ซิวหร่านจอดรถแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดโทรฯ ออก

“จี้หวง…เชิญสั่งมาได้เลยครับ…” เสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์ดังมาจากปลายสาย

“กุ่ยลี่ ไปสืบมาว่าไนต์คลับที่ฉันไปคืนนี้มีใครไปบ้าง มีคนที่ชื่อซือเยี่ยหานรึไม่” จี้ซิวหร่านยิ้มบอก

“จี้หวง…วางใจได้เลยครับ ผมจะต้องสืบให้ได้แน่นอน…”

……

ในบ้านพัก เยี่ยหวันหวั่นนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง

วันนี้ที่ไนต์คลับ แผ่นหลังนั่นเหมือนซือเยี่ยหานมากจริงๆ เพียงแต่เธอตะโกนเรียกออกไปอย่างนั้น แต่กลับไม่มีการตอบรับกลับมาเลย…

เธอเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว

ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้เลยว่าตระกูลเยี่ยกับตระกูลซือเป็นยังไงบ้าง ทุกอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอหมดเลย

ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ในบ้านพักตากอากาศขนาดใหญ่กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้น ยิ่งเมื่อเป็นเวลากลางดึก เสียงนั้นยิ่งฟังดูแปลกหู

พริบตาเดียว เยี่ยหวันหวั่นเด้งตัวจากเตียง ขมวดคิ้วมุ่นแล้วมองไปรอบตัว

ไม่รู้ทำไม จู่ๆ คำพูดของอี้สุ่ยหานเมื่อกลางวันก็ผุดขึ้นมาในหัว…

ในบ้านผีสิงหลังนี้ เคยเกิดคดีฆ่าหั่นศพ…มีผี…

คิดมาถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ขนลุกซู่ เสียวสันหลังวาบ ในบ้านผีสิงหลังนี้…คงไม่ใช่ว่า…มีสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่จริงๆ หรอกใช่ไหม?!

เยี่ยหวันหวั่นเก็บงำความคิด แล้วเงี่ยหูฟังเสียงในบ้านอย่างละเอียด

ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียง “แอ๊ด” ดังขึ้น เหมือนประตูของบ้านพักถูกบางสิ่งเปิดออก ไม่นาน ในห้องรับแขกก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นระลอกหนึ่ง

พอได้ยินเสียงฝีเท้าเยี่ยหวันหวั่นกลับขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม มีแต่คนเท่านั้นที่มีเสียงฝีเท้ารึเปล่า…ผีที่ไหนเดินมีเสียงกัน?!

แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่กล้าฟันธง

เยี่ยหวันวั่นลงจากเตียงแล้วเดินคลำทางท่ามกลางความมืดไปเปิดประตูห้องนอน เธอยืนอยู่บนชั้นสอง แล้วมองลงไปที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง

พอมองลงไป เยี่ยหวันหวั่นกลับตกตะลึง

ในห้องโถงมีคนชุดดำประมาณเจ็ดแปดคนถืออาวุธสังหารไว้ในมือ พวกเขากำลังย่องขึ้นมาข้างบนอย่างเบามือเบาเท้า

กลางดึกสงัดแสงสว่างมีไม่มากนัก คนชุดดำพวกนั้นเหมือนมองไม่เห็นเยี่ยหวันหวั่น

เยี่ยหวันหวั่นนึกขึ้นมาได้ทันที อี้สุ่ยหานบอกว่าเคยมีคนเข้าไปลอบฆ่าเขาในบ้าน แต่ต่อมาอี้สุ่ยหานก็อธิบายว่านักฆ่าพวกนั้นอาจเข้าผิดบ้าน…

ตอนนั้นอาจฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่วินาทีนี้…

เพียงแต่สิ่งที่เยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจก็คือ ใครกันที่ต้องการชีวิตเธอ…

หลังจากที่มาอยู่รัฐอิสระ เธอกลับเคยมีเรื่องกับคนไม่น้อย พอคิดดูดีๆ แล้ว ตาเฒ่าพวกนั้นในพันธมิตรอู๋เว่ยอาจจะอยากให้เธอหายตัวไปตลอดกาลก็ได้ โดยเฉพาะหลี่ซือผู้อาวุโสสาม…

————————————————————————————-

บทที่ 1366 ปู่เอ็งอยู่นี่

แต่จะว่าไปแล้ว นอกจากพวกคนใหญ่คนโตที่เธอเคยมีเรื่องด้วย คนที่แบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ยตัวจริงเคยมีเรื่องด้วยในอดีตก็น่าจะเยอะจนนับไม่ถ้วนเหมือนกัน กลัวก็แต่พวกที่แบดเจอร์ตัวจริงเคยมีเรื่องด้วยจะเอาความซวยมาลงที่เธอแทนน่ะสิ…อย่างงั้นก็กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดมหันต์เลย…

ตอนนี้ภาพที่เยี่ยหวันหวั่นเห็น คนชุดดำกลุ่มแรกคลำทางขึ้นมาแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น โชคดีที่เธอนอนไม่หลับ ไม่อย่างงั้น…ไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

พอเห็นว่าคนชุดดำกลุ่มนั้นใกล้จะขึ้นมาถึงชั้นสองแล้ว ประกายเย็นชาพาดผ่านดวงตาของเยี่ยหวันหวั่น เธอลุกขึ้นยืน

“แบดเจอร์!”

พอเห็นเยี่ยหวันหวั่น คนชุดดำที่เดินนำก็เอ่ยเสียงเย็น

“ปู่เอ็งอยู่นี่!” เยี่ยหวันหวั่นแค่นยิ้ม จากนั้นก็เหวี่ยงแข้งออกไปทันที

“พลั่ก!”

ลูกเตะของเยี่ยหวันหวั่นโดนหน้าผากของชายชุดดำคนนั้นอย่างแม่นยำ

วินาทีต่อมา ชายชุดดำคนนั้นกลิ้งตกบันใดโดยพาเอาชายชุดดำหลายคนที่ยืนข้างหลังตกลงไปด้วย

ท่ามกลางความมืด แสงสว่างรำไรทำให้มองเห็นไม่ชัด จึงเป็นเรื่องยากหากจะหลบการโจมตี

ฉวยโอกาสนี้ เยี่ยหวันหวั่นเอามือยันราวจับบันใด แล้วกระโดดจากชั้นสองลงมาที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง

คนชุดดำพวกนี้เป็นนักฆ่าที่ตั้งใจมาลอบฆ่าหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเชียวนะ ฝีมือแต่ละคนต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้โง่ เธอไม่มีทางสู้กับคนชุดดำพวกนี้หรอก ต้องเผ่นก่อนแล้วค่อยว่ากันแน่นอนอยู่แล้ว

ไม่นาน ชายชุดดำคนที่เป็นหัวหน้าลุกขึ้นยืน เขาทำท่าจะพูดอะไร แต่กลับเห็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยวิ่งออกนอกประตู เผ่นออกจากบ้านพักไปแล้ว

“ตามไป คืนนี้ต้องฆ่าเธอให้ได้!” หัวหน้าคนชุดดำตะโกนเสียงเกรี้ยว

วินาทีต่อมา คนชุดดำออกวิ่งด้วยความเร็วสุดขีดจนกลายเป็นเงาดำไล่ตามหญิงสาวไป

……

นอกบ้านพัก เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้เหนือรู้ใต้ ในสมองคิดแต่จะเอาชีวิตรอด

คนชุดดำพวกนั้นดูก็รู้ว่ามาเอาชีวิตแบดเจอร์ ถึงเธอจะสู้เก่งอยู่บ้าง แต่เทียบกับนักฆ่ามืออาชีพในรัฐอิสระอย่างพวกนั้น ดูเหมือนจะยังไม่พอ…

ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นวิ่งหนีไปด้วย พร้อมกับหันไปมองข้างหลังด้วย

ต้องยอมรับว่าคนชุดดำพวกนั้นเร็วมาก กับคนอื่นไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็เร็วกว่าเธอหลายเท่าตัว

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว คนพวกนี้ใช่นักฆ่าที่ไหน นักวิ่งมาราธอนชัดๆ…

เยี่ยหวันหวั่นเริ่มร้อนใจ พวกคนชุดดำข้างหลังเร็วเกินไปแล้ว เกรงว่าอีกไม่เกินสิบอึดใจก็น่าจะตามเธอทันแล้ว

ถ้าหากเธอเป็นแบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ยจริงก็คงไม่มีอะไรต้องกลัว …แต่ยังไงเธอก็เป็นตัวปลอม สู้กันตัวต่อตัวยังไม่รู้จะชนะไหม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสู้กับคนเจ็ดแปดคน…ถ้าโดนไล่ตามทัน…เธอก็คงอยู่ไม่ไกลความตายมากแล้ว…

แต่ทว่าเยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันคิดอะไรไปมากกว่านั้น หางตากลับเหลือบไปเห็นอีกฝั่งหนึ่งของถนน…

ด้านหน้าเธอเป็นอพาร์ทเมนท์ธรรมดาๆ หลังหนึ่ง จุดเด่นของอพาร์ทเมนต์หลังนั้นก็คือไม่มีประตู…

เยี่ยหวันหวั่นแววตาไหวระริก จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ อี้สุ่ยหานอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ?

เยี่ยหวันหวั่นปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปในอพาร์ทเมนต์หลังนั้นทันที

ชายชุดดำพวกนั้นไม่รู้เรื่องอะไร วิ่งตามเธอเข้าไปอย่างไม่ลังเล

……

ในอพาร์ทเมนท์มืดสนิท เยี่ยหวันหวั่นมองหาไปทั่วแต่กลับไม่เห็นเงาของอี้สุ่ยหาน…

เยี่ยหวันหวั่นสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา ถ้าหาก…ถ้าหากท่านจอมยุทธ์อี้สุ่ยหานไม่อยู่บ้าน…งั้นเธอก็โดนล้อมมิด ไม่ต่างจากเต่าที่อยู่ในไหเลยน่ะสิ?!

“จอมยุทธ์อี้…คุณอยู่บ้านรึเปล่า…” เยี่ยหวันหวั่นตะโกนเรียกเสียงดัง

สิ้นเสียงเธอ บนโซฟาในห้องรับแขกก็มีเสียงเคลื่อนไหวดังขึ้นมา

เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองทางโซฟาโดยสัญชาตญาณ

อี้สุ่ยห่านที่ใส่ชุดนอนลายการ์ตูนค่อยๆ ลุกขึ้นจากโซฟา เหมือนโดนเสียงดังปลุกตื่น ประกายหงุดหงิดและเกรี้ยวกราดพาดผ่านนัยน์ตา

เพียงแต่ พออยู่ในชุดนอนลายการ์ตูนที่น่ารักจนแทบคลั่งนั่นแล้ว…กลับให้ความรู้สึกน่ารักน่าหยิกอย่างบอกไม่ถูก…

วินาทีต่อมา อี้สุ่ยหานค่อยๆ หันมามองเยี่ยหวันหวั่น

“จอมยุทธ์อี้…แย่แล้วๆ เมื่อกี้ฉันเห็นคนชุดดำกลุ่มหนึ่งเดินวนเวียนไปมาอยู่หน้าบ้านคุณ…พวกเขาต้องมาลอบฆ่าคุณแน่เลย! นี่ฉันเสี่ยงอันตรายมาเตือนคุณเลยนะเนี่ย…” เยี่ยหวันหวั่นเดินไปหยุดข้างอี้สุ่ยหาน แล้วบอกอย่างร้อนใจ