”เฉิงหยวนปล่อยให้อาจารย์ของเจ้าดูแลเรื่องนี้ไป พวกเราจะต้องทำให้หอคอยจักรพรรดิหายไปให้เร็วที่สุด!!” องค์ชายน้อยกล่าวหลังจากไตร่ตรองสักพักใหญ่
หลังจากกล่าวจบองค์ชายน้อยก็ขมวดคิ้ว ตอนแรกเขาก็ไม่เคยใส่ใจการกระทำของชิงสุ่ย และเขาเองก็ไม่รู้ว่าทักษะการรักษาของชิงสุ่ยมันดีมากจริงแค่ไหน เขาแค่รู้คร่าวๆเกี่ยวกับมันเท่านั้น
ด้วยตัวตนขององค์ชายน้อยจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะได้พบเจอกับหมอยอดฝีมือมากมาย แต่ดูเหมือนชิงสุ่ยจะกลายเป็นหมอที่เป็นภัยคุกคามต่อเขา เขาเลยจำเป็นต้องตัดสินใจเช่นนี้
ภายนอกอาจจะดูสงบนิ่งแต่เขาก็เป็นอีกคนนึงที่มีความมักใหญ่ใฝ่สูงหมายจะครอบครองมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ สำหรับตัวเต็งอย่างมกุฎราชกุมาร องค์ชายน้อยแทบจะไม่จำเป็นต้องเหลียวมอง
”องค์ชายน้อยเรื่องนี้มันมีความเสี่ยงอยู่เล็กน้อย ไอ้ชายหนุ่มคนนั้นเองก็เป็นอัจฉริยะที่ไม่ค่อยได้เจอตัวนัก ถ้าหากพวกเราส่งคนไปต่อสู้กับมันและพ่ายแพ้กลับมา ภายหลังพวกเราเองก็อาจจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก” เฉิงหยวนตอบกลับพร้อมขมวดคิ้ว
”โอ้นั่นก็หมายความว่าชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดา แต่ในสายตาของข้า ไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องถูกกำจัด ฉะนั้นหากปล่อยไว้นานกว่านี้ ทุกอย่างจะยิ่งแย่ลง”ชายคนนั้นจ้องมองเฉิงหยวน
”เด็กหนุ่มผู้นั้นเป็นคนพิเศษเขามีพลังปราณธรรมชาติทรงพลังและชอบธรรมมากกว่าทุกคนที่ข้าเองเคยเจอ นอกจากเขาจะมีความสามารถในการรักษาที่เป็นเลิศแล้ว จากข่าวลือที่ข้าได้รับ พลังของเขาเองเหมือนจะไร้ผู้เทียมทาน องค์ชายน้อย ข้าคิดว่าทางที่ดี พวกเราแค่กันเขาออกมันดูเป็นหนทางที่ดีกว่า”เฉิงหยวนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ชายหนุ่มไม่พูดไม่จาก่อนหน้านี้เขาเองเหมือนจะไม่ใส่ใจและประเมินชิงสุ่ยต่ำไปมาก หลังจากได้พูดคุยกับเฉิงหยวน มันทำให้เขาเพิ่งนึกแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่ ขนาดที่ว่าเฉิงหยวนยังเอ่ยปากชมและระมัดระวังเป็นพิเศษ
แต่ถึงกระนั้นองค์ชายน้อยก็ยังคงคิดว่าชายหนุ่มผู้นี้คงมีเพียงแค่ความสามารถในการรักษาที่เป็นเลิศเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มกำลังรักษาองค์จักรพรรดิคลั่ง เขาก็มีความคิดที่จะฆ่าเพียงความคิดเดียว แต่การตัดสินใจครั้งนี้ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แน่นอนว่าเขาคงไม่ยอมให้องค์จักรพรรดิคลั่งฟื้นตัวกลับมาได้แน่ แต่ตอนนี้มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถพอจะรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งได้จริงๆ
ถ้าหากเขาทำการรักษาได้ไม่สำเร็จองค์ชายน้อยก็เพียงแค่ปล่อยเขาไป แต่ถ้าหากมันทำได้จริง ก่อนการรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งจะสำเร็จ ชายหนุ่มคนนี้จะต้องตาย
”เฉิงหยวนข้าอยากรู้เหลือเกินว่าชายหนุ่มผู้นี้จะรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งได้สำเร็จจริงๆหรือไม่? เจ้าจะต้องคอยรายงานเรื่องนี้ให้ข้าละเอียดที่สุด อย่าให้พลาดแม้แต่ช่วงเวลาเดียว”องค์ชายน้อยจ้องมองเฉิงหยวนและกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
”น้อมรับคำสั่งองค์ชายน้อย”
”แล้วก็พรุ่งนี้เจ้าจะต้องไปที่หอคอยจักรพรรดิพร้อมกับข้า ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่าชายหนุ่มที่ต้องชื่นชมมันวิเศษวิโสแค่ไหนกัน” องค์ชายน้อยเริ่มเป็นกังวลหลังจากได้ฟังบทสนทนาทั้งหมดจากปากเฉิงหยวน
…………………
………
ชิงสุ่ยในปัจจุบันยังไม่รู้ว่าภัยร้ายกำลังจะเกิดกับตัวเองแต่ตอนนี้เขาเองก็ไม่ได้กังวลอะไรทั้งสิ้น เพราะผู้อื่นไม่ได้มีพลังมากพอจะเป็นปรปักษ์กับเขาได้เลย ด้วยความแข็งแกร่งที่เขาครอบครองตอนนี้ ในหมู่คนที่เขามองเห็นทั้งหมด ตัวของชิงสุ่ยเป็นดั่งยอดพีระมิดห่วงโซ่อาหาร
หากเหตุการณ์ไม่ใช่เป็นดังวันนี้หากเขาต้องต่อสู้กับองค์จักรพรรดิคลั่งจริงๆ ฝ่ายที่ตายมันอาจจะไม่ใช่เขา ตราบใดที่เขายังคงมีเจดีย์ปกปักชะตาสวรรค์ พลังที่อ่อนแอของเขา มันจะไม่ไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน
ในวันต่อมาชิงสุ่ยก็ได้พบเจอกับองค์ชายน้อย เขายอมรับเลยว่าชายคนนี้เป็นคนที่มีความสง่างาม สามารถทำให้ทุกคนยอมอยู่ภายใต้อาณัติได้โดยไม่มีข้อกังขา
รอบตัวขององค์ชายน้อยให้ความรู้สึกเหมือนมีคลื่นพลังจากหยกม่วงค้อยสร้างแรงกดดันถึงแม้มันจะแตกต่างจากกลิ่นอายรอบตัวองค์จักรพรรดิคลั่ง และมีคลื่นพลังที่เบาบางกว่า แต่ความแข็งแกร่งดูเหมือนจะทัดเทียมกัน ภายใต้กลิ่นอายขององค์ชายน้อย ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกเย็นชา อัดแน่นไปด้วยความน่ากลัวจนชิงสุ่ยถึงกับประหลาดใจและอยากรู้ถึงต้นกำเนิดชายคนนี้
กลิ่นอายขององค์จักรพรรดิคลั่งมีลักษณะคล้ายดวงอาทิตย์ขนาดย่อมแต่ด้วยจิตใจที่ยึดมั่นในหลักธรรม การที่เขาเป็นห่วงไพร่พลของมหาจักรวรรดิ และความทุกข์ทรมานกับสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนคนปกติ ทั้งยังสมองที่สูญเสียไปเกือบครึ่ง มันจึงทำให้แก่นแท้แห่งพลังปราณแฟนไปด้วยสิ่งสกปรก จนกดดันขนาดพระอาทิตย์ให้เล็กลง
เมื่อได้เผชิญหน้าชิงสุ่ยที่มีดวงตาพิเศษ สามารถตัดสินความเป็นไปของผู้คนได้ในทันที
และด้วยประโยชน์ของการมองเห็นนี้เขาจึงรู้ว่าเขาควรจะตัดสินใจเดินหน้าหรือหลีกหนี เขาต้องการหนทางสู่ความสงบสุขแม้จะติดอยู่ในเขาวงกตแห่งปัญหาก็ตามแต่
”น้องชายชิงสุ่ย”เฉิงหยวนกล่าวทักทายชิงสุ่ยด้วยรอยยิ้ม
ชิงสุ่ยสังเกตถึงรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้าเฉิงหยวน”ผู้อาวุโส ช่างน่าประหลาดใจจริงๆที่ท่านมาเยี่ยมข้า”
องค์ชายน้อยถึงกับผงะเพราะไม่คิดว่าชิงสุ่ยก็ยังเด็กขนาดนี้ แต่มันก็ไม่ใช่ความกังวลอะไร ตอนนี้เขาอยากรู้แค่ว่าชิงสุ่ยจะรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งได้จริงๆอย่างนั้นหรือ
”ถ้าขอแนะนำให้เจ้ารู้จักชายผู้นี้ก็คือองค์ชายน้อย และองค์ชายน้อย เด็กหนุ่มคนนี้คือชิงสุ่ยผู้ก่อตั้งหอคอยจักรพรรดิ”เฉิงหยวนยิ้มพร้อมกับเริ่มกล่าวแนะนำตัว
”ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบองค์ชายน้อย”ชิงสุ่ยกล่าวทักทายด้วยความนอบน้อม
”คุณชายชิงช่างดูเด็กมากจริงๆแต่ก็ดูมีความสามารถมากเช่นกัน”องค์ชายน้อยยิ้มขณะกล่าว
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและมีเสน่ห์ในมุมมองของชิงสุ่ย มันช่างเป็นเสียงที่น่าเชื่อถือและแข็งแกร่งมาก
”ท่านชมค่าเกินไปแล้ว องค์ชายน้อย เข้ามาข้างในก่อนเถอะ!!”ชิงสุ่ยเดินนำทางพระองค์ชายน้อยและเฉิงหยวนเข้าไปในห้องโถงใหญ่
”ชิงสุ่ยคนนี้คือ?”หน้าทางเข้า องค์ชายน้อยเดินชนกับชิงห่านอี้โดยบังเอิญ
”อี้เอ๋อผู้นี้คือองค์ชายน้อย”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
ชิงห่านอี้กล่าวทักทายกับองค์ชายน้อยในขณะที่ชิงสุ่ยก็มองเห็นความโลภและความริษยาแฝงอยู่ในดวงตาขององค์ชายน้อย ซึ่งชิงสุ่ยก็ไม่ได้แปลกใจอะไร บนโลกใบนี้หญิงงามสร้างความหายนะให้กับประเทศได้เพียงแค่กระพริบตา
องค์ชายน้อยทักทายชิงห่านอี้กลับไปด้วยรอยยิ้มแล้วตัวตนของเขา ปล่อยให้เขาหลงรักใครสักคนนึง เขาจะประพฤติตัวเลวร้ายไม่ได้ เขาจึงเป็นคนที่สามารถอดทนอดกลั้นได้สูง
เมื่อเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่อี้เย่เจี้ยนเก่อ และหญิงงามคนอื่นๆ ก็เดินลงมาจากสวนหลังบ้าน ทุกคนครอบครองความงามเหนือจินตนาการ เพียงแค่องค์ชายน้อยได้เห็นพวกนาง เขาถึงกลับสูญเสียสมาธิที่พึ่งมีไปทั้งหมด
องค์ชายน้อยรู้สึกว่าหญิงสาวเหล่านี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชิงสุ่ยอย่างแปลกประหลาดเขาถึงจะคิดในใจว่า ตัวของเขาเองนั้นแข็งแกร่ง หล่อเหลาและสูงส่งกว่า ถ้าหากได้หญิงสาวเหล่านี้มาเป็นของตน เขาคงจะโดดเด่นยิ่งกว่าเดิม
ความคิดเล็กๆค่อยๆขยายใหญ่เติบโตเบ่งบานในจิตใจองค์ชายน้อย หญิงสาวโฉมงามก็เป็นอีกหนึ่งคนทางยิ่งใหญ่สำหรับเขา เมื่อความอยากมีมาก ความปรารถนาก็ยิ่งแรงกล้า