GGS:บทที่ 771 สแตนด์
ซูจิ้งก็ยังคิดว่าท่าทางที่เจ้าหนูแสดงออกมาถือว่าถูกต้องแล้ว
ต่อให้เจ้าหนูนี่ได้รับการปลุกพลังก็ไม่รู้วิธีใช้เป็นเรื่องปกติอยู่ดี
เมื่อเขานึกไปถึงเรื่องราวในโจโจ้ที่เคยอ่าน
สแตนด์จะแสดงพลังออกมาก็ต่อเมื่อมีความตั้งใจที่จะโจมตีใครสักคน หรือต่อเมื่อตัวผู้ใช้ตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น
เจ้าหนูน้อยตัวนี้ไม่มีทางที่จะโจมตีใครอยู่แล้ว งั้นเอาเป็นให้มันรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอันตรายแทนก็แล้วกัน
ซูจิ้งได้ปล่อยหนูท่อตัวเคื่องที่ยังไม่ได้ทดลองแล้วสั่งให้มันโจมตีเจ้าหนูขาว หนูขาวกลัวจนลนลานหนีไปทั่ว ถึงขนาดปีนหนีขึ้นมาบนขากางเกงของซูจิ้ง
แต่พอปีนขึ้นมาได้ซักสิบเซนฯ มันก็พลาดล่วงกลับลงไป มันวิ่งหนีไปอีกทางพลางตะโกนอย่างสุดชีวิตว่า “ท่านเจ้าชีวิตได้โปรดรีบๆช่วยฉันหน่อยเถอะ”
ซูจิ้งถึงกับพูดไม่ออก เจ้าหนูนี่ได้รับการปลุกพลังแล้วจริงๆงั้นหรอ
อย่างไรก็ตามในตอนนั้นหลังของหนูขาวก็ได้มีเงาบางอย่างโผล่ออกมา
เงานั่นดูเหมือนหนูขาวทุกประการแต่มันดูแข็งแกร่งกว่าเท่านั้นเอง
ทันทีที่ซูจิ้งเห็นถึงกับตาส่องเป็นประกาย
ซูจิ้งได้เห็นว่าสแตนด์ที่ออกมาจากหนูขาวจับไปที่คอของหนูท่อตัวนั้น
หัวของเจ้าหนูนั่นหดตามแรงไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านั้น
หนูท่อพุ่งเข้าไปหาหนูขาวแล้วจับมันทุ่มลงไปกับพื้น
หนูขาวนอนชักกระตุกเล็กน้อยอยู่อย่างนั้นไม่ลุกขึ้นมา เหตุการณ์ตั้งแต่ต้นยันถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าสแตนด์ของหนูขาวแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“อะไรกัน ทำไมสแตนด์ถึงได้อ่อนแออย่างนี้ล่ะ” ซูจิ้งแสดงท่าทีนิ่งๆออกมาเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อให้มันจะยังอ่อนแอยังไงก็สมควรทำอะไรได้บ้าง แต่นี่ทำอะไรไม่ได้แม้แต่หนูธรรมดาเลยด้วยซ้ำ
“ห้ะ ไม่เป็นอะไรเลยหรอ” ซูจิ้งสั่งให้หนูท่อถอยออกไป
หนูขาวเองก็พยายามลุกขึ้นมาอย่างเหนื่อยหอบ ถึงจะผิดหวังไปหน่อยแต่อย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่าหนูขาวมีสแตนด์แน่นอนแล้ว
เขาลองสั่งให้หนูขาวบังคับสแตนด์ให้ลองทำหลายๆอย่างดูแต่ทุกครั้งที่ลองใช้สแตนด์
เจ้าหนูขาวมีท่าทีเหนื่อยหอบทุกครั้งหลังใช้สแตนด์
ดูเหมือนว่าหลังจากปลุกสแตนด์ขึ้นมาได้ หนูขาวจะมีพลังจิตที่แข็งแกร่งกว่าสัตว์ทั่วไป
แต่เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้วก็ยังดูปกติอยู่ดี คงต้องเสริมแกร่งเจ้าหนูนี่ซะก่อนแหะ
“มา มา ดื่มน้ำนี่ซะก่อนนะ”
“กินปลาเขี้ยวหยกนี่อีกซะหน่อยซี่”
“มานี่ซิ เดี๋ยวฉันฝึกสอนการทำสมาธิให้”
ซูจิ้งได้ให้หนูขาวดื่มใบชาใบไม้ร่วงที่ได้มาจากห้วงเวลาฯโลกเซียน กินปลาเขี้ยวหยก และทำการสะกดจิตมันให้ใช้อัญมณีพลังจิต ฝึกฝนพลังวิญญาณ และทุกอย่างเจ้าหนูนี่ล้วนเป็นไปได้ด้วยดี
เวลาผ่านไปสองชั่วโมง เจ้าหนูขาวดูแข็งแกร่งมากขึ้น
“อืมมมม ตอนนี้ก็น่าจะเหลือร่างกายที่ยังอ่อนแออยู่สินะ และดูเหมือนมันก็ยังไม่แสดงพลังพิเศษออกมา ลองดูอีกทีแล้วกัน”
ซูจิ้งบอกให้เจ้าหนูขาวลองทำอะไรบางอย่าง ถึงแม้เจ้าหนูขาวในตอนนี้มันไม่อยากจะทำอะไรอีกต่อไปก็ตาม
การโจมตีของสแตนด์ก็ยังโจมตีได้อ่อนแออยู่ดี แถมหนูขาวก็ยังลงไปกองกับพื้นเหมือนปกติ
ด้วยสภาพนี้อย่าว่าแต่โจมตีศัตรูเลย แค่โดนกระดาษปาใส่ก็ยังร่วง
เจ้าสแตนด์นี่มีความสามารถพิเศษอะไรกันแน่ ทำไมเขายังหามันไม่เจอซักที
สแตนด์บางตัวสามรถใช้รีโมทคอนโทรลควบคุมทีกสิ่งได้ บางตัวสามารถแบ่งร่างออกมาได้มากมาย บางตัวสามารถก่อกวนศัตรูโดนแผงร่างกายโดยตรง ซูจิ้งจึงลองให้หนูขาวใช้ความสามารถทุกอย่างที่เขารู้จักแต่
ไม่เป็นผล
“เจ้าหนูนี่คงไม่ใช่ว่าไปปลุกสแตนด์ที่ใช้พลังฮ่วยๆได้ออกมาหรอกนะ” ทันทีที่ซูจิ้งนึกอย่างนี้เขาแทบจะร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาออกมา
คราวนี้เมื่อเจ้าหนูขาวเห็นท่าทางของเจ้านายตัวเองมันก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
มันควบคุมสแตนด์ออกมาทันที ทันใดนั้นสแตนด์ได้จับกระดาษที่อยู่ตรงหน้าและฉีกออกสองส่วน
ซูจิ้งเกือบจะเอ่ยปากออกไปแล้วว่ามันก็แค่การฉีกกระดาษ ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย แต่ยังไม่ทันได้พูดออกไป เหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อก็ได้ปรากฎออกมา
กระดาษที่ถูกฉีกออกมานั้นได้คืนกลับมาอยู่ในสภาพเดิมอย่างไร้ร่องรายที่ถูกฉีกออกก่อนหน้านี้
“ห้ะ” ซูจิ้งประหลาดใจในสิ่งที่เกิดขึ้น หรือว่านี้คือพลังย้อนคืน
ซูจิ้งก้าวออกมา เขาทำการฉีกกระดาษอีกครั้งแล้วพูดออกมาว่า “ลองดูอีกทีซิ”
เจ้าหนูขาวได้ใช้สแตนด์ไปจับที่กระดาษอีกครั้ง ต่อมากระดาษได้ประสานตัวเองกลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยที่ไม่เหลือร่องรอยใดๆ
“ฉันคิดว่ามันน่าจะมีพลังในการย้อนคืนสภาพนะ
ด้วยความสามารถนี้บอกได้เลยว่าถ้าใช้ในการต่อสู้ล่ะก็ แทบจะเป็นอมตะเลยทีเดียว”
ซูจิ้งรู้สึกประหลาดใจในทันที เข้าไม่แปลกใจอีกต่อไปแล้วว่าทำไมพลังโจมตีของมันถึงได้อ่อนแอนัก
กลายเป็นว่าสแตนด์ตัวนี้ไม่ใช่สายโจมตีแต่เป็นสายฟื้นฟู และความสามารถประเภทนี้คือการฟื้นฟูทุกอย่างได้
ยกเว้นตัวเองซึ่งน่าจะคล้ายกับตัวเอกในเรื่องโจโจ้ที่อยู่ภาค4
แน่นอนว่ามันมีข้อจำกัดอื่นก็คือจะฟื้นฟูสภาพไม่ได้หากขาดชิ้นส่วนและคืนชีพสิ่งที่ตายไปแล้วไม่ได้
ซูจิ้งแสดงความดีใจออกมาอย่างออกนอกหน้า กลายเป็นว่าเจ้าหนูขาวมีพลังที่ทรงพลังอย่างมาก เขายังลองให้หนูขาวทดลองต่อไปด้วยความตื่นเต้น และเจ้าหนูขาวเองก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือเพราะมันก็แสดงความตื่นเต้นออกมาไม่น้อยกว่ากัน ยิ่งทดลองซูจิ้งก็ยิ่งรู้สึกว่าความสามารถฟื้นคืนสภาพของหนูนี่คล้ายคลึงกับในเรื่องโจโจ้มากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังเทียบระดับกันไม่ได้อยู่ดี
อย่างแรกที่ซูจิ้งค้นพบก็คือ อย่างแรก สแตนด์ตนนี้สามารถทำให้วัตถุคืนสภาพก่อนที่จะถูกทำลายก็จริง
แต่ก็ยังมีขีดจำกัดอยู่ อย่างกระดาษที่เขาใช้หากแค่ฉีกเป็นสองส่วน สแตนด์สามารถคืนสภาพมันได้ในทันที
แต่ถ้าเป็นการคืนสภาพกระดาษที่ถูกฉีกเป็นหลายชิ้นจะต้องใช้เวลาพอสมควร
เขาได้ลองให้หนูขาวคืนสภาพประตูที่พัง มันใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว
ในส่วนนี้น่าจะเป็นเพราะพลังวิญญาณของเจ้าหนูขาวยังน้อยอยู่ด้วยจึงทำให้ใช้เวลาไปถึงครึ่งชั่วโมง
นอกจากนี้ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตก็ไม่สามารถฟื้นคืนสภาพได้
ถ้าจะบอกให้ถูกคือ เป็นทักษะในการซ่อม ไม่ใช่การรักษา
“อืมมม เป็นไปได้ว่าเพราะเจ้าหนูนี่ยังอ่อนแออยู่จึงยังทำไม่ได้
ไม่ก็เพราะเจ้าหนูนี่ตัวเล็กเกินไปทำให้ซ่อมสิ่งที่ใหญ่เกินตัวไม่ได้ ยังไงซะมันก็ยังถือว่าใช้ได้อยู่ดี”
ซูจิ้งก็ยังคงสงบอยู่ดี ทันใดนั้นเขานึกถึงงานแกะสลักหินพวกนั้นขึ้นมาในทันที
ถ้าสามารถซ่อมให้สมบูรณ์ได้ อย่างน้อยๆก็น่าจะพอลบลอยแตกร้าวได้
ถึงแม้แต่นี้จะใช้ประโยชน์ได้แค่นี้ แต่ถ้าใช้ดีๆก็ทำอะไรได้หลายอย่างเลยทีเดียว
นอกจากนี้ในระหว่างการทดสอบเพิ่มเติม ซูจิ้งได้นึกวิธีการใช้ประโยชน์ความสามารถของเจ้าหนูนี่ได้มากมาย และหลังจากที่หนูขาวได้รับการปลุกพลังขึ้นมา ดูเหมือนว่ามันเองก็มีไอคิวที่สูงขึ้นจนเทียบเท่ากับเหล่าสัตว์เลี้ยงของเขาได้แล้ว ทั้งที่ไม่ได้กินปลาเขี้ยวหยก ดื่มชาใบไม้ร่วง หรือทำการฝึกจิตใจเพิ่มเติมก็ตาม
“ฉันว่าฉันลองทดลองปลุกพลังหนูต่อดีกว่า ฉันอาจเจอสมบัติเพิ่มก็ได้นะเนี่ย”
เช่นเดียวกับที่หมอม้าเห็นม้าตายยังมีชีวิตอยู่(รักษาจนตายก็ยังรักษาแบบเดิมต่อไป)
ซูจิ้งทำการจิ้มพุงหนูเพิ่มอีกหนึ่งหมื่นสองพันตัวด้วยธนู ผลที่ออกมาก็ไม่ได้เกินกว่าที่เขาคาดหมายแต่อย่างใด พวกมันตายเรียบ
จากผลการทดลองนี้นอกจากหนูขาวที่รอดมาได้ตัวเดียวนั้น
ซูจิ้งบอกได้อย่างเดียวว่าไม่ได้อะไรเลยซักนิด ต่อให้ปลุกสแตนด์มาได้หนึ่งตัวแต่ก็ไม่ได้อะไรจากเจ้าหนูที่รอดเพิ่มเติมเลย
ถ้าจะให้บอกคืออัตราความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับร่างกาย จิตใจ หรือสายพันธุ์ที่พิเศษของหนูตัวนี้
ซูจิ้งใจตอนนี้รู้สึกท้อใจเล็กน้อย ซูจิ้งทำการกำจัดเลือดทั้งหมดของหนูที่หลงเหลือจากการทดลอง
เขาไม่ได้ทำการทดลองแต่อย่างใด นั่นก็เพราะว่าการทดลองนี้เป็นงานที่หนักมาก
เขาเรียกที่จะทำการเลี้ยงดูหนูขาวที่รอดมาได้ก่อนเพราะว่าถ้าเกิดมันตายตามไปอีกตัวหล่ะก็
เขาจะไม่เหลืออะไรเลย