”พ่อหนุ่มน้อยเจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้เป็นหมอสามารถช่วยคนอื่นได้ แต่ก็ทำให้ตัวเองต้องตายได้เช่นกัน”
ชิงสุ่ยหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินคำพูดขององค์ชายน้อยพร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มอันแสนเป็นธรรมชาติ ดวงตาของเขาจ้องเขม่งไปที่องค์ชายน้อยและกล่าวว่า ” องค์ชายน้อย ท่านกำลังข่มขู่ข้าอยู่งั้นหรือ”
คำพูดถากถางของชิงสุ่ยยิ่งทำให้ใบหน้าขององค์ชายน้อยบิดเบี้ยว หัวใจของเขาอัดแน่นไปด้วยความเกลียดชัง “เขาบอกไปแล้วว่าเจ้าเป็นคนที่โดดเด่น ข้าไม่ต้องการเห็นเจ้าเข้าไปอยู่ในจุดที่ไม่มีวันหันหลังกลับได้”
”ในชีวิตคนเราโดยเฉพาะนักรบชีวิตและความตายเป็นเรื่องธรรมดาไม่ควรนำมาใส่ใจ นักรบผู้นั้นต้องเตรียมตัวเอาไว้เสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าสนุกกับอิสระ และไม่ชอบ
บทที่ 1928 – ราชโองการแห่งราชันย์ปราชญ์ ผู้พิทักษ์เทวะราชันย์ปราชญ์
”พ่อหนุ่มน้อยเจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้เป็นหมอสามารถช่วยคนอื่นได้ แต่ก็ทำให้ตัวเองต้องตายได้เช่นกัน”
ชิงสุ่ยหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินคำพูดขององค์ชายน้อยพร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มอันแสนเป็นธรรมชาติ ดวงตาของเขาจ้องเขม่งไปที่องค์ชายน้อยและกล่าวว่า ” องค์ชายน้อย ท่านกำลังข่มขู่ข้าอยู่งั้นหรือ”
คำพูดถากถางของชิงสุ่ยยิ่งทำให้ใบหน้าขององค์ชายน้อยบิดเบี้ยว หัวใจของเขาอัดแน่นไปด้วยความเกลียดชัง “เขาบอกไปแล้วว่าเจ้าเป็นคนที่โดดเด่น ข้าไม่ต้องการเห็นเจ้าเข้าไปอยู่ในจุดที่ไม่มีวันหันหลังกลับได้”
”ในชีวิตคนเราโดยเฉพาะนักรบชีวิตและความตายเป็นเรื่องธรรมดาไม่ควรนำมาใส่ใจ นักรบผู้นั้นต้องเตรียมตัวเอาไว้เสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าสนุกกับอิสระ และไม่ชอบอยู่ใต้อำนาจของใคร และข้าก็ยึดมั่นในหลักการ ฉะนั้นมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” ชิงสุ่ยไม่รู้สึกสนใจองค์ชายน้อยอีกต่อไปแล้ว
”ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็คงไม่มีอะไรคุยกันอีกแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะมีชีวิตยืนยาว คุณชายชิง”องค์ชายน้อยลุกขึ้นแล้วหันหลังกลับทันทีเมื่อกล่าวจบ
ใบหน้าของชิงสุ่ยเปลี่ยนเป็นความเย็นชากลิ่นอายแห่งภัยคุกคามแผ่ขยายไปทั่วห้อง เขามองดูองค์ชายน้อยและกล่าวว่า “ข้าก็หวังว่าเจ้าจะมีชีวิตยืนยาว”
องค์ชายน้อยตัวสั่นชั่วขณะก่อนที่เขาจะหันหลังมาเผชิญหน้ากับดวงตาเย็นชา ดุจหมาป่าหิวกระหาย ดวงตาตอนนี้เต็มไปด้วยจิตสังหารที่สมบูรณ์แบบ ไม่ปิดซ่อนตัวตน และไม่จำเป็นต้องพูดจาข่มขู่ก็รับรู้ได้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ภายในดวงตา
เฉิงหยวนมองดูชิงสุ่ยพร้อมบังเกิดความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเปแต่เขาก็ไม่พูดอะไร หลังจากองค์ชายน้องออกไปหญิงสาวคนอื่นก็กลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น ทุกคนเงียบแล้วจ้องมองชิงสุ่ย พวกเธอรู้แล้วว่าตอนนี้มันได้เกิดปัญหาที่อยากแก้ไขอีก ถ้าหากพวกเธอคาดการไม่ผิดพลาด คนเหล่านั้นคงเตรียมตัวต่อต้านหอคอยจักรพรรดิ
”ทุกคนไม่ต้องกังวลถ้าพวกมันกล้ามาอีก ข้าจะทำให้พวกมันสำนึกเอง”ชิงสุ่ยไม่ใช่ก้อนขนมปังที่พร้อมจะถูกริม ตอนนี้เขากลายเป็นหินที่พร้อมจะทุบตีผู้อื่น
…………….
……….
ในช่วงกลางดึกมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าสู่พระราชวังสถานที่พักขององค์ชายน้อย ผู้นำกลุ่มเป็นชายวัยกลางคนส่งเสื้อผ้าหรูหรามีเสน่ห์อัดแน่นไปด้วยคลื่นปราณจิต แต่ภายใต้เสน่ห์กับแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่งที่รุนแรง
”พี่ใหญ่มาแล้ว!!” ใบหน้าขององค์ชายน้อยปรากฏให้เห็นรอยยิ้มเล็กๆ
ชายที่เข้ามาหาคือมกุฎราชกุมารผู้สืบทอดอำนาจแห่งมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์เขาจ้องมององค์ชายน้อย “เอาล่ะ น้องสิบเก้า ไม่ต้องมาทักทายกันให้เสียเวลา มีอะไรก็พูดมาตรงๆ”
ชายคนนี้เป็นคนตรงคำพูดของเขาก็เป็นคำพูดที่เขาใช้ประจำการมีคู่แข่งชิงราชบัลลังก์มันทำให้มงกุฎราชกุมารไม่พึงพอใจ พระราชบัลลังก์ของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์อยู่ท่ามกลางการช่วงชิง ถึงแม้จะเป็นพี่น้องกัน แต่ทุกคนก็ไม่ได้คิดว่าพี่น้องของตนเป็นพี่น้องจริงๆ ครั้งหนึ่งองค์ชายน้อยก็เคยหาวิธีทางหักหน้าองค์มกุฎราชกุมาร และยังคงหาวิธีแย่งชิงบัลลังก์จากมกุฎราชกุมารคนนี้อยู่ตลอด
”สิ่งที่ข้าต้องการในวันนี้คือข้าอยากให้พวกเราร่วมมือกันมิฉะนั้น พระราชบัลลังก์จะต้องตกอยู่ในมือคนอื่นแน่”องค์ชายน้อยกล่าวเข้าประเด็น
องค์มกุฎราชกุมารขมวดคิ้วจ้องมององค์ชายน้อย”บอกมามันเกิดอะไรขึ้น?”
”มีใครบางคนกำลังช่วยเหลือองค์จักรพรรดิคลั่งและมีความเป็นไปได้สูงมากที่คนคนนั้นจะรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งได้”องค์ชายน้อยไม่พูดท้าวความ ในฐานะที่เป็นตระกูลเดียวกัน องค์มกุฎราชกุมารก็ควรรู้เรื่องนี้
องค์มกุฎราชกุมารจ้องมององค์ชายน้อย”เจ้ากำลังจะบอกว่าหอคอยจักรพรรดิมีความสามารถมากพอจะรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งอย่างนั้นสินะ”
ทุกคนต่างรู้ถึงสภาพร่างกายขององค์จักรพรรดิคลั่งฉะนั้นจึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะรู้ว่าองค์จักรพรรดิคลั่งเดินทางไปที่หอคอยจักรพรรดิ แน่นอนว่าโดยปกติแล้วองค์จักรพรรดิคลั่งเองก็เดินทางทั่วโลกเพื่อแสวงหาหนทางรักษา ซึ่งมันก็ผ่านมานับครั้งไม่ถ้วน และไม่เคยสำเร็จ ทุกคนที่หมายปองราชบัลลังก์ จึงค่อยๆให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อยลง แต่พวกเขาก็ยังคงวิตกกังวลเรื่องนี้อยู่เป็นครั้งคราว
ครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อรู้ว่าองค์จักรพรรดิคลั่งไปที่หอคอยจักรพรรดิ หมอที่อยู่ในหอคอยจักรพรรดิก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่ม พวกเขาจึงมั่นใจว่ามันคงไม่สำเร็จตามเคย
แต่เมื่อได้ยินคำตอบขององค์ชายน้อยเขาถึงกับตกใจ
แม้ทั้งสองจะเป็นปรปักษ์กันแต่ดูเหมือนตอนนี้ทั้งสองจะลงเรือลำเดียวกันแล้ว ทั้งคู่เป็นคนของตระกูลราชวงศ์ ปัญหาที่กำลังเผชิญจึงเป็นเหมือนปัญหาเดียวกัน องค์มกุฎราชกุมารเองก็เชื่อว่าองค์ชายน้อยไม่ได้โกหก เพราะต่อให้โกหกไป คนของเขาก็หาคำตอบได้ภายในเวลาสั้นๆ มันจะไม่มีประโยชน์
”คุณชายชิงแห่งหอคอยจักรพรรดิบอกเองว่าวิธีการรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งไม่ง่ายเลย”องค์ชายน้อยบอกเล่าคำพูดที่เขาได้ยินมาจากปากชิงสุ่ย ”นั่นก็หมายความว่าเขามีโอกาสที่จะรักษาองค์จักรพรรดิคลั่ง!!”องค์มกุฎราชกุมารขมวดคิ้ว
”มีข่าวลือหนาหูว่าหอคอยจักรพรรดิครอบครองศาสตร์ในการรักษาขั้นสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ชื่อว่าชิงสุ่ย มันมีความสามารถในการรักษาสูงมาก เจ้าเด็กสาวจากพระราชวังหมากรุกสวรรค์อมตะก็ถูกมันช่วยชีวิตเอาไว้”องค์ชายน้อยกล่าวขณะจ้องมองไปยังองค์มกุฎราชกุมาร
”เราจะปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่ได้แล้วพวกเราจะต้องทำให้มันหายไปให้เร็วที่สุด น้องสิบเก้า เจ้าก็รู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากมันรักษาองค์จักรพรรดิคลั่งได้จริงๆ”การแสดงออกของมกุฎราชกุมารเย็นชาดุจน้ำแข็ง
”เหตุผลที่ข้าเชิญท่านมาวันนี้ก็เพื่อจะหารือกลยุทธ์การถอนรากถอนโคนหอคอยจักรพรรดิ” องค์ชายน้อยพยักหน้า
”น้องสิบเก้าหากเป็นสถานการณ์ทั่วไป ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย แต่เจ้าเชิญข้ามาที่นี่ แสดงว่าปัญหาที่เจ้าพูดถึงมันคงไม่ง่ายเหมือนปัญหาทั่วไป หรือว่าชายคนนี้จะมีใครบางคนหนุนหลังอยู่?”องค์มกุฎราชกุมารไม่ใช่คนโง่ เขาจึงพอคาดคะเนปัญหาที่เกิดขึ้นได้
”ราชาครึ่งภูผาหลินเสินหนานเองก็เพิ่งไปเยี่ยมเยียนหอคอยจักรพรรดิก่อนหน้าที่พวกเราจะไปถึง”
”เป็นไปตามที่คิดไว้จริงๆไอ้พวกตระกูลหลินมันคงกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง พวกมันเองก็มีอิทธิพลมาก และตอนนี้คงกำลังคิดที่จะท้าทายพวกเรา”
”พวกตระกูลหลิน มันมีความจงรักภักดีสูง และมีความใกล้ชิดกับองค์จักรพรรดิคลั่งมาก”องค์ชายน้อยกล่าวเสริม
”ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้พวกเราจะต้องกำจัดหอคอยจักรพรรดิและเก็บเป็นความลับให้เร็วที่สุด”มกุฎราชกุมารจ้องมององค์ชายน้อย
”ทำลายพวกมัน พวกเราคงต้องใช้กำลังสักหน่อย” มกุฎราชกุมารพยักหน้า”ถ้าเช่นนั้น พวกเราคงต้องใช้ราชโองการแห่งราชันย์ปราชญ์”
”พี่ใหญ่ข้ามีคำขอเล็กๆน้อย”องค์ชายน้อยกล่าว
องค์มกุฎราชกุมารจ้องมองด้วยความสับสนแต่ก็อยากรู้ว่าคำขอนั้นคืออะไร”โอ้ เจ้าต้องการสิ่งใด”
”ภายในหอคอยจักรพรรดิมีโฉมงามอยู่มากมายหลายคน และข้าก็ถูกชะตากับพวกนาง”องค์ชายน้อยยิ้มอย่างช้าๆ
”น้องสิบเก้าข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนรักของสวยของงาม แต่จงระวังเอาไว้ อย่าให้ผู้หญิงมาทำลายความทะเยอทะยานของเจ้า”องค์มกุฎราชกุมารระเบิดเสียงหัวเราะ
”หากเป็นไปตามพระประสงค์ขององค์พระเจ้าข้าก็เต็มใจรับ เหมือนดังคำกล่าวที่ว่า บุรุษนั้นรักโฉมงามมากกว่ารักประเทศ การโอบกอดหญิงสาว จึงเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด” องค์ชายน้อยไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว เขารู้ดีว่าพี่ใหญ่ของเขาจดจ่ออยู่แต่พระราชบัลลังก์ฉะนั้นพี่ใหญ่ของเขาจะไม่แย่งชิงหญิงสาวจากเขาแน่
”โฉมงามในหอคอยจักรพรรดิจะต้องโดดเด่นและมีเสน่ห์มิฉะนั้นเจ้าคงไม่เสี่ยงขนาดนี้ แต่ข้าขอเตือนไว้เลยว่า โฉมงามที่เจ้าหมายปองเป็นของชายหนุ่มผู้นั้น หากเจ้าแย่งชิงมาได้ และเก็บพวกนางไว้ใกล้ตัว เจ้าอาจจะกลายเป็นเหยื่อเหมือนกับที่ชายหนุ่มผู้นั้นกำลังเป็น” องค์มกุฎราชกุมารกล่าวเตือนด้วยความห่วงใย
”วางใจได้เลยพี่ใหญ่ข้าพบเจอหญิงสาวมาทุกชนิด ข้ารู้วิธีรับมือ ไปเถิด ไปหาผู้พิทักษ์เทวะราชันย์ปราชญ์กัน”
��