อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 719 เกรี้ยวกราด
เสี่ยวลู่เหลือบตามองไปทางกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่านายหญิงของตนจะทำอะไรกันแน่

แต่นางเชื่อว่าแม้จะเอาชีวิตของนายหญิง นายหญิงก็ไม่มีทางมอบมุกมังกรและบอกทางเข้าเผ่าหยกให้กับพวกเขาแน่

“เจ้าอยากได้อะไร”สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยพูด

“ง่ายมาก ให้พวกเขาสามคนไปก่อน”

นิ้วเรียวยาวของกู้ชูหน่วนชี้ไปยังเสี่ยวลู่กับเจี่ยงเสวียรวมไปถึงเย่จิ่งหาน

“พวกเขาสองคนไปได้ แต่เย่จิ่งหานไม่ได้”

“ถ้าเย่จิ่งหานไปไม่ได้ เช่นนั้นข้อตกลงนี้พวกเราก็ไม่สามารถเจรจาต่อไปได้”สองมือของกู้ชูหน่วนแบออก

สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองมองตากัน ราวกับกำลังคิดว่าจะปล่อยเย่จิ่งหานไปหรือไม่

ทันใดนั้นสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยก็เอ่ยขึ้นมาว่า “หัวหน้าเผ่าน้อย ทำไมเจ้ายังช่วยนังปีศาจคนนี้กางร่มอีกเล่า”

เมื่อทุกคนได้ยินแล้วต่างก็หันสายตาไปมองทางเวินเส้าหยี

คำถามนี้พวกเขาอยากจะถามตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว

เวินเส้าหยีกับพวกเขานั้นเป็นคู่ปรับกันราวน้ำกับไฟ และพวกเขายังข่มเหงเวินเส้าหยีถึงเพียงนี้ ด้วยสถานะและตำแหน่งของเขา เขาไม่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเลย

มือที่ถือร่มของเวินเส้าหยีบีบแน่น ริมฝีปากที่เม้มแน่นขยับ กำลังจะอธิบาย กู้ชูหน่วนได้ชิงเอ่ยขึ้นก่อนว่า

“เพราะโซ่ตรวนที่ขาของเขามีแต่ข้าที่ไขได้ หากข้าตายไปแล้ว ชาตินี้เขาคงได้แต่มีชีวิตอยู่อย่างอับอายเช่นนี้ตลอดไป อีกอย่าง เขาถูกข้าวางพิษ……”

ถูกพิษ

ถูกพิษจริงหรือ

ทำไมร่างกายเขาจึงไม่รับรู้ถึงร่องรอยการถูกวางยาพิษเลย

พวกเสี่ยวลู่ต่างก็รู้สึกสงสัย

นายหญิงไปวางพิษเวินเส้าหยีตั้งแต่เมื่อไหร่

ทำไมพวกนางจึงมองไม่เห็น

แม้แต่เวินเส้าหยีก็ยังสงสัยว่าสิ่งที่กู้ชูหน่วนพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่

นางวางพิษจริงๆ หรือแค่ขู่สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองเท่านั้น

ถ้าหากเป็นขู่สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสอง นางไม่กลัวว่าเขาจะเปิดโปงหรือ

“ทำไม ไม่เชื่อหรือ เช่นนั้นท่านก็ลองเปิดแขนเสื้อขึ้น ดูที่ข้อมือของท่านซิ”

เวินเส้าหยีเลิกแขนเสื้อขึ้นอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง บนข้อมือของเขามีรอยงูอยู่เส้นหนึ่ง

รอยงูนั้นเป็นสีน้ำตาลอมดำ ดูเหมือนจริงราวกับมีชีวิต รูปร่างเหมือนกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อยู่หลายส่วน

“แล้วเจ้าลองใช้พลังภายในสำรวจดูที่จุดตันเถียนของตนเอง”

พอเวินเส้าหยีเริ่มใช้พลังภายใน จุดตันเถียนของเขาก็ปวดขึ้นมาจนเขาต้องสูดลมหายใจเข้า

ผู้หญิงคนนี้ได้ฉวยโอกาสขณะที่เขาไม่ระวังตัว วางยาพิษเขาจริงๆด้วย

กู้ชูหน่วนพูดเสียงเรียบว่า”ถ้าวางยาพิษแล้วถูกพวกท่านจับได้ จะเรียกว่าเทพแห่งยาพิษได้หรือ ”

“……”

“หัวหน้าเผ่าน้อย พลังภายในของท่านเล่า ทำไม่จึงได้อ่อนแอเช่นนี้”

สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองต่างก็อยู่ในระดับหก ตอนที่เวินเส้าหยีเคลื่อนลมปราณ พวกเขาก็รู้แล้วว่าพลังภายในของเวินเส้าหยีเหลืออยู่เท่าไหร่

เวินเส้าหยียิ้มขมขื่น “เกิดเหตุไม่คาดคิดเล็กน้อย วรยุทธจึง……หายไปบางส่วน”

นี่มันหายไปบางส่วนอย่างนั้นหรือ

นี่มันแทบจะหายไปหมดแล้ว เหลือแค่พลังระดับหนึ่งเท่านั้นเอง

แม้แต่ลูกศิษย์ระดับสุดของเผ่าเทียนเฟิ่น ยังมีวรยุทธที่สูงกว่าระดับหนึ่ง

เขาที่เป็นถึงหัวหน้าเผ่าน้อย กลับถูกคนอื่นทำลายวรยุทธจนเหลือแค่ระดับที่หนึ่ง นี่มันเป็นการท้าทายเผ่าเทียนเฟิ่นพวกเขาอย่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิด

“เจ้าสมควรตาย”

สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยเกิดไอสังหารขึ้นมา ยกมือขวาขึ้นกลางอากาศ ฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาทันที ไอสังหารหนักหน่วง แทบจะครอบคลุมไปทั้งผืนป่า

เวินเส้าหยีรีบอธิบายว่า “สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกู้ชูหน่วน เป็นข้าเองที่ทำให้สูญเสียวรยุทธไป พวกเรา……อย่างไรเสียก็เอาเรื่องมุกมังกรเป็นหลัก วรยุทธของข้าท่านค่อยหาวิธีช่วยข้าฟื้นฟูภายหลังก็ได้”

“มุกมังกรกับพวกเขา ข้าจะเอาทั้งหมด”หางตาของสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยมีแววแห่งความกราดเกรี้ยวผุดขึ้นมา

“นางเชี่ยวชาญด้านพิษอย่างลึกซึ้ง รองหัวหน้าเผ่าซือคงรู้ดี ถ้าหากนางตาย เช่นนั้นพิษในร่างกายข้าคงไม่มีใครถอนออกได้ เผ่าหยกได้มุกมังกรไปหกเม็ดแล้ว ถ้าหากเม็ดสุดท้ายยังให้พวกเขาได้ไป เช่นนั้นเกรงว่าภายหน้าเผ่าหยกจะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของเผ่าเทียนเฟิ่น”

เวินเส้าหยีที่แต่ไหนแต่ไรสุขุมหนักแน่นมาตลอด และไม่ได้เป็นคนที่รักตัวกลัวตาย

แต่วันนี้เขากลับพูดเช่นนี้กับพวกเขา

หรือว่าเรื่องราวจะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิดเอาไว้

แล้วมองใบหน้าซีดเผือดของเวินเส้าหยี ร่างกายโอนเอนแทบจะล้มลง และพิษตรงข้อมือของเขาพวกเขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วย

หลังจากใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองต้องกลับมาทบทวนใหม่ว่าจะให้กู้ชูหน่วนอยู่หรือไม่

กู้ชูหน่วนก็ไม่เข้าใจ มีสุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองคนนี้อยู่ด้วย หากเวินเส้าหยีอยากจะเอาตัวรอดก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่เขากลับช่วยนางทุกเรื่อง เขามีเป้าหมายอะไรกันแน่

หรือว่าแค่ต้องการจะช่วยนางเท่านั้น

เขาเป็นถึงหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าเทียนเฟิ่น ทำไมจึงไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของเผ่าเป็นหลัก

ถึงแม้จะไม่เข้าใจ กู้ชูหน่วนก็ยังคงฉวยโอกาสนี้พูดขึ้นมาว่า”ข้าก็แค่คนมีพลังระดับสี่ พวกท่านมีพลังถึงขั้นสูงสุดระดับหก อยากจะฆ่าข้าก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ อยากจะฆ่าพวกเขาก็ง่ายเช่นเดียวกัน แต่ชีวิตของเวินเส้าหยีมีแค่ชีวิตเดียว และมุกมังกรก็มีแค่เม็ดเดียว พวกท่านค่อยๆคิดดูเถอะ ดูซิว่าชีวิตข้ามีค่ากว่ามุกมังกรหรือไม่ ”

“ให้พวกเขาไปเดี๋ยวนี้”สุดยอดผู้อาวุโสเสวียหรานเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเย็นชา

“ฝนตกหนักขนาดนี้ พวกเขาจะไปได้อย่างไร ถ้าหากหกล้มไม่เท่ากับต้องตายทันทีหรอกหรือ หรือบางทีหากลมแรงขึ้นอีกนิด พัดร่มของพวกเขาไปจะทำอย่างไร”

สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยโบกมือขวา ลมฝนก็หยุดลงทันที เมฆดำทะมึนก็ค่อยๆสลายหายไปจากขอบฟ้า กลับสู่ความแจ่มใส

กู้ชูหน่วนส่งสายตาให้กับเสี่ยวลู่และเจี่ยงเสวีย”พาเย่จิ่งหานหนีไปให้ไกลที่สุด ยิ่งเร็วยิ่งดี”

“นายหญิง……”

“พระชายา……”

“นี่คือคำสั่ง เร็วเข้า……”

กู้ชูหน่วนเอ่ยอย่างร้อนใจ

วรยุทธของตาแก่หนังเหนียวสองคนนี้สูงส่งเกินไป ตอนนี้ถูกนางหลอกล่อเข้าให้

ยากจะรับรองได้ว่าจะไม่รู้ตัวในเร็วๆนี้ ถ้าหากพวกเขารู้ตัวขึ้นมา พวกเขาทั้งหมดจะหนีไปรอด

“พระชายา ถ้าหากท่านอ๋องตื่นมาแล้วรู้ว่าข้าพาเขาหนีไปคนเดียว และไม่ได้ปกป้องท่าน ท่านอ๋องคงไม่มีทางให้อภัยข้าแน่”

“เช่นนั้นความหมายของเจ้าคือ จะให้เย่จิ่งหานตกอยู่ในอันตรายอีกครั้งอย่างนั้นหรือ”

“ข้าน้อยไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าน้อยแค่……”

“พอแล้ว จะพูดมากทำไม รีบไป ถ้าขืนยังไม่ไปอีกข้าจะโกรธแล้วนะ”

กู้ชูหน่วนส่งสายตาให้กับเสี่ยวลู่อีกครั้ง

เสี่ยวลู่เข้าใจความหมาย ลากตัวเจี่ยงเสวียและพาเย่จิ่งหานจากไปอย่างเร่งรีบ “ไปเถอะ นายหญิงจะว่าอย่างไรย่อมมีเหตุผลของนาง”

เจี่ยงเสวียกัดฟัน แบกเย่จิ่งหานวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากพวกเขาจากไปแล้ว ในป่าเหลือแค่กู้ชูหน่วน เวินเส้าหยีกับสุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองของเผ่าเทียนเฟิ่น

สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยพูดว่า “มุกมังกรกับขาถอนพิษเล่า สมควรมอบมันออกมาได้แล้วกระมัง”

“จะรีบทำไม พวกเขาฝีเท้าช้า แล้วยังต้องพาคนบาดเจ็บไปด้วยอีกคน ให้พวกเขาได้ออกห่างไปอีกสักหน่อยเถอะ”

“พวกเขาใช้เวลาไปครึ่งก้านธูปแล้ว”

“วิชาตัวเบาของพวกท่านดีขนาดนี้ แค่เวลาครึ่งก้านธูปเท่านั้น ประเดี๋ยวก็ถูกพวกท่านตามทันแล้ว ”

“เจ้าจงใจยื้อเวลาใช่หรือไม่”

เดิมทีสุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองคนไม่อยากจะเร่งนาง แต่พวกเขาไม่เร่ง นางก็ยิ่งได้ใจนั่งไขว่ห้าง ฮัมเพลง นอนหลับตาพักผ่อนอยู่บนต้นไม้ใหญ่

ไม่สนใจพวกเขาเลยสักนิด ทำตัวสบายราวกับกำลังพักผ่อนวันหยุด

“ผ่านไปสองก้านธูปแล้ว ข้าจะนับถึงสาม ถ้าหากเจ้าไม่ส่งมุกมังกรกับยาถอนพิษมา ข้ารับประกันว่าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตายทีเดียว”

เวินเส้าหยีขมวดคิ้ว

ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วทำไมลูกน้องของกู้ชูหน่วนยังไม่มาช่วยเสียที

รอให้สุดยอดผู้อาวุโสลงมือ แล้วนางยังมีชีวิตรอดไปได้ก็แปลกแล้ว