กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1085

ขณะนั้น เอเลนเพิ่งทานมื้อกลางวันเสร็จ และกำลังกำกับและสั่งการชาร์ลีให้ทำนู่นทำนี่ให้ เขากำลังถือถังเหล็กและพลั่ว ขณะกำลังขุดดินตรงทางเดินสีเขียวบริเวณวิลล่า

สองวันที่ผ่านมา เอเลนไม่มีอะไรดี ๆ ให้ทำเลย เธอออกไปเที่ยวเล่นไม่ได้เพราะขาที่หักและเธอก็เบื่อถึงขีดสุดเวลาอยู่บ้าน เธอเลื่อนดูเพื่อน ๆ ในกลุ่มและรู้ว่าเธอมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้ติดต่อกันบ่อยนักในอดีต ก็ซื้อวิลล่าย่านชานเมืองด้วยเหมือนกัน

ยิ่งไปกว่านั้น หล่อนยังปลูกผลไม้และผักหลายชนิดไว้บริเวณหน้าบ้านด้วย เมื่อหล่อนแชร์รูปภาพผลไม้และผักที่ปลูกเองให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มดู หลายคนก็กดถูกใจให้หล่อน บอกว่าหล่อนฉลาดมากและเข้าใจชีวิตเป็นอย่างดี

เอเลนรู้สึกอิจฉามาก แล้วจู่ ๆ เธอก็คิดได้ว่าเธอต้องการที่จะปลูกผลไม้และผักบริเวณสนามหน้าวิลล่าของเธอ

อย่างไรก็ตาม เธอขาหักและไม่สามารถที่จะขุดดินได้ ดังนั้น เธอจึงจัดการให้ชาร์ลีมาทำงานพวกนี้ให้

เดิมที ชาร์ลีไม่อยากจะคอยเอาอกเอาใจเธอเลยด้วยซ้ำ เขามีเรื่องงัดข้อกับเธอไปเมื่อคราวที่แล้ว หากเอเลนต้องการที่จะอยู่ในวิลล่าของเขาต่อไปอีกในอนาคต เธอจะต้องสุภาพและให้ความเคารพเขาด้วย ดังนั้น เขาจะไม่ยอมให้เธอออกคำสั่งกับเขาเป็นอันขาด

อย่างไรก็ตาม เมื่อแคลร์ภรรยาของเขาได้ยินว่า แม่ของเธอต้องการที่จะปลูกผลไม้และผัก เธอก็รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยกล่อมเกลาอารมณ์ความรู้สึกของผู้เป็นแม่ได้ มากไปกว่านั้น แม่ของเธอก็จะอยู่แต่บ้านและใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติแทน ดังนั้น แคลร์จึงมาขอให้ชาร์ลีช่วย

นี่คือเหตุผลเดียวที่ทำให้ชาร์ลียอมตกลง

ในความคิดของเขา มันเป็นความคิดที่ดีที่จะปล่อยให้เอเลนปลูกผักแทนการเอาแต่คิดวางแผนชั่วร้ายต่าง ๆ ตลอดเวลา

ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ช่วยเธอขุดดินในวิลล่าและช่วยตีวงสถานที่สำหรับทำสวนผักให้เธออีกด้วย

เอเลนกำลังยืนอยู่โดยใช้ไม้ค้ำยัน คราวนี้ เธอบอกชาร์ลีว่า “พอขุดดินเหลืองเสร็จ อย่าลืมขุดดินดำด้วยนะ ดินดำมันเหม็น”

ชาร์ลีพยักหน้าเล็กน้อยและก้มหน้าก้มตาขุดดินต่อไปโดยไม่พูดอะไร

เอเลนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วยน้ำเสียงต่อรอง “ชาร์ลี ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม?”

เมื่อชาร์ลีเห็นว่าทัศนคติของเธอดูเหมือนจะอ่อนน้อมมากขึ้น เขาจึงพูดเบา ๆ “คุณแม่มีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะครับ ผมจะขอฟังก่อน”

เอเลนยิ้มออกมาก่อนจะบอก “เมื่อเธอมีเวลา ช่วยขับรถไปย่านชนบทและมองหาชาวไร่แก่ ๆ นะ จากนั้นก็ซื้อต้นผักและผลไม้ที่มีรากติดอยู่จากชาวไร่มา เธอต้องซื้อมันมาทั้งต้นเลยนะ”

ชาร์ลีตอบ “ถ้าอย่างนั้นจะไม่เป็นการทำเรื่องให้ยุ่งยากเกินความจำเป็นหรือครับ? ถ้าคุณแม่อยากซื้อผักผลไม้ คุณแม่ก็ไปซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาเลยก็ได้นี่ครับ คุณแม่จัดการให้เขามาส่งให้ถึงหน้าประตูบ้านเลยก็ยังได้”

เอเลนไม่ชอบใจทัศนคติของชาร์ลีเป็นอย่างมากและยังรู้สึกไม่สบายใจอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เธอไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา เธอเพียงแต่ยิ้มและแก้ต่าง “ฉันอยากให้เธอไปซื้อมาทั้งต้นไม่ใช่เพราะอยากกินผักผลไม้หรอกนะ ฉันอยากให้ซื้อต้นมันมาเพื่อที่เราจะได้ปลูกเอาไว้ในสวนของเราเลย เราจะได้มีสวนผักแบบพร้อมใช้เลยยังไงล่ะ ไม่อย่างนั้น เราก็คงต้องเพาะเมล็ดและรอให้มันโตอย่างช้า ๆ ใครจะรู้ล่ะว่าต้องใช้เวลานานขนาดไหนกว่าเมล็ดจะกลายเป็นต้นได้น่ะ ใช่ไหมล่ะ?”

ชาร์ลียอมแพ้

ดูเหมือนว่าแม่ยายของเขาจะกังวลเรื่องนี้ก็เพราะเธออยากถ่ายรูปลงในสื่อสังคมออนไลน์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ต่างหาก

ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะปฏิเสธคำขอร้องที่ไร้เหตุผลนี้ เอเลนก็รีบพูด “ลูกเขยที่รักของแม่ แม่ขอพูดเรื่องจริงบางอย่างให้ฟังนะ แคลร์น่ะ ชอบปลูกผักผลไม้ตั้งแต่ยังเด็กเลย ตอนที่แคลร์ยังอายุน้อย ๆ แคลร์มักจะลากแม่กับพ่อออกไปเก็บผักผลไม้ด้วยกันบ่อย ๆ ตอนที่เราเข้าไปในสวนผักของคนอื่นในชนบท แคลร์ก็ไม่อยากกลับตลอดเลย”

ชาร์ลีจ้องมองเธออย่างสงสัยก่อนจะพูดขึ้นว่า “ตอนไหนหรือครับ? ทำไมผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย?”

เอเลนรีบตอบ “หลังจากนั้นแคลร์ก็โตแล้ว ต้องไปเรียนและทำงานอีก แล้วแคลร์จะมีเวลาที่ไหนไปสวนผักล่ะ? ฉันสาบานกับพระเจ้าได้เลยนะว่าแคลร์ชอบทำแบบนี้จริง ๆ ตอนที่ยังเป็นเด็ก ช่วงที่กำลังโต แคลร์ยังอยากจะปลูกผักตรงบริเวณลานบ้านของคฤหาสน์วิลสันด้วยนะ แต่ยายแก่มักไม่ค่อยจะอนุญาตให้แคลร์ปลูกหรอก”

ชาร์ลีคิดกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าภรรยาของเขาชอบจริง ๆ เขาก็ไม่ติดขัดอะไรเลย

ดังนั้น เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก่อนจะโทรหาแคลร์และถามเธอว่า “ที่รัก พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว คุณอยากไปเที่ยวและเก็บผักผลไม้กันไหมครับ?”

“ตกลงค่ะ” ทันทีที่แคลร์ได้ยินคำพูดของเขา เธอก็รีบตอบตกลงเลย “เยี่ยมไปเลย! เราจะไปเก็บผักผลไม้กันที่ไหนดีคะ? คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบการเก็บผักผลไม้มาก ๆ น่ะ?”