เมื่อเห็นคนมากมายเกลี้ยกล่อมตัวเอง เฉินโม่ไม่อยากให้ทุกคนผิดหวัง จึงกล่าวอย่างเรียบเฉย “ก็ได้ ฉันจะเชื่อพวกนาย”

“เออ ใช่แล้ว กู่หลินเฟิงอยู่ที่ไหน พาฉันไปดูเขาหน่อย!”

“เขาไม่ยอมมาโรงพยาบาล เช่าบ้านอยู่ข้างนอก เพื่อจะพักรักษาตัวด้วยตัวเอง!” เจี่ยจวินเซี่ยกล่าว

“พาฉันไปดูเขาหน่อย!” เฉินโม่กล่าว

“ฉันพานายไปเอง!” ห่าวเจี้ยนขันอาสาพาไป

“อืม” เฉินโม่พยักหน้า จากนั้นก็เดินไปยังหัวเตียงของจี๋ต๋าจิ่วตู หยิบยาออกมาหนึ่งเม็ด ใส่เข้าไปในปากของจี๋ต๋าจิ่วตูโดยตรง

อะแฮ่ม!

จี๋ต๋าจิ่วตูสำลักจากการกระทำที่หยาบกระด้างของเฉินโม่

“ไอ้เบื๊อกเฉิน นายให้ฉันกินยาอะไร? นายจะฆ่าฉันเหรอ!” จี๋ต๋าจิ่วตูบ่นว่าเขา

เฉินโม่ไม่ได้สนใจเขา หันหน้าไปพูดกับห่าวเจี้ยน “ไปกันเถอะ!”

เมื่อออกมาจากโรงพยาบาล ห่าวเจี้ยนก็พาเฉินโม่นั่งรถแท็กซี่ ไปถึงชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่ง

ที่นี่เงียบสงบมาก เหมาะกับการพักฟื้นเป็นอย่างมาก

หลังจากลงรถ ห่าวเจี้ยนพลางเดินนำ พลางกล่าว “ไอ้กู้บอกว่าอาการบาดเจ็บเขาไม่ได้หนักหนาอะไร ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เล่นถึงตาย!”

เฉินโม่ไม่พูดอะไร เดินตามห่าวเจี้ยนเข้าไปยังตึกหกชั้นหลังหนึ่ง

เมื่อเดินมาถึงชั้นสี่ ห่าวเจี้ยนก็พูดขึ้น “ตรงนี้แหละ”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

ห่าวเจี้ยนเคาะประตู

“ใคร?” ข้างในดังขึ้นด้วยเสียงที่เหนื่อยล้าของกู่หลินเฟิง

“ฉันเอง! เฉินโม่กลับมาแล้ว จะมาดูนายหน่อย ไอ้กู่เปิดประตูเถอะ!” ห่าวเจี้ยนกล่าว

ผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูจึงถูกเปิดออก กู่หลินเฟิงที่ใบหน้าซีดขาว พิงอยู่ตรงประตูมองเฉินโม่เขาสองคน ราวกับว่าแค่เปิดประตู มันต้องใช้แรงที่มีของเขาทั้งหมด

ห่าวเจี้ยนเหมือนจะเห็นถึงความผิดปกติของกู่หลินเฟิงแล้ว ก็พูดอย่างเป็นห่วง “ไอ้กู่ นายไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

กู่หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อย “ฉันไม่เป็นไร!”

ทันใดนั้นเฉินโม่ก็ก้าวไปข้างหน้า แล้วคว้าข้อมือของกู่หลินเฟิงไว้โดยตรง ซึ่งทำให้ห่าวเจี้ยนเขาสองคนประหลาดใจเล็กน้อย“ช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน ถ้าหากฉันกลับมาช้ากว่านี้สองวัน ชีวิตนายก็ไม่รอดแล้ว!” เฉินโม่ที่สีหน้าเย็นชา แต่น้ำเสียงเย็นชาเย็นกว่า

“ห๊า หนักขนาดนั้นเลย!” ห่าวเจี้ยนมองกู่หลินเฟิงอย่างตกใจ “ไอ้กู่ ไหนนายบอกว่าไม่เป็นไร? นายหลอกพวกเราใช่มั้ย นายรู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ย?”

กู่หลินเฟิงไม่ได้ตอบ แต่สีหน้าที่สงบนิ่งของเขาก็คือคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว

“เข้ามา ฉันจะช่วยนายรักษาอาการบาดเจ็บของหาย!” เฉินโม่ปล่อยมือของกู่หลินเฟิง แล้วเดินเข้าไปข้างในห้องโดยตรง

เห็นเฉินโม่กลับมา กู่หลินเฟิงก็ดูโล่งใจ เข่าอ่อนไปทั้งสองข้าง เกือบจะล้มลงไปบนพื้น โชคดีที่ห่าวเจี้ยนยืนอยู่ใกล้เขา ได้พยุงตัวเขาเอาไว้

“ไอ้กู่ อาการนายหนักมากเลยนะ โชคดีที่เฉินโม่กลับมาได้ทันเวลา!” ห่าวเจี้ยนพูดอย่างโกรธเคือง

กู่หลินเฟิงยิ้มอย่างขออภัย “ทำให้พี่น้องต้องเป็นห่วง เป็นความผิดของฉันแล้ว!”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น รีบให้เฉินโม่รักษาอาการบาดเจ็บของนายก่อน!” ห่าวเจี้ยนพูดอย่างร้อนใจ

“อืม!”

ห่าวเจี้ยนพยุงกู่หลินเฟิงไปนั่งบนเตียง เฉินโม่ที่ยืนอยู่ข้างกายกู่หลินเฟิง หยิบยาออกมาให้เขากินมันลงไป

“เส้นลมปราณในร่างกายของนายปั่นป่วน และถูกทำลายแต่ไม่ขาด เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจทำมัน คนคนนั้นน่าจะรอให้ฉันกลับมารักษานาย เพื่อให้ฉันต้องสูญเสียพละกำลัง” เฉินโม่กล่าว

“แต่น่าเสียดาย เขาไม่รู้เลย ว่าฉันไม่ใช่นักบู๊ธรรมดาทั่วไป แผนการชั่วของเขาใช้ไม่ได้กับฉันเลยแม้แต่นิดเดียว”

กู่หลินเฟิงถอนหายใจไปหนึ่งที “ฉันเข้าใจข้อนี้ดี ดังนั้นจึงหลบซ่อนตัวเพื่อจะรักษาตัวเอง แต่ฉันประเมินตัวเองสูงไป สุดท้ายก็ต้องรบกวนนายอยู่ดี!”

เฉินโม่กล่าว “ระหว่างเรา อย่าทำเหมือนคนนอก ฉันช่วยนายปรับเส้นลมปราณให้นายก่อน จากนั้นนายก็ค่อยๆพักฟื้นไม่กี่วันก็หายแล้ว”