ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 991

ฮาร์วีย์เหลือบมองดูนาฬิกาโรลเล็กซ์เก่าแก่ที่สวมอยู่บนข้อมือของเขาและขมวดคิ้ว

“คงไม่ได้หรอก ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลานัดของผู้อาวุโสอาร์มสตรองแล้ว ผมต้องพาเขาไปส่งที่จุดหมายของเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้”

ตามจริงแล้ว ฮาร์วีย์แค่กำลังหาข้ออ้าง

ตอนนี้เขารู้สึกละอายใจที่พาผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองมาสอดส่องดูที่ไซต์งานก่อสร้างของโครงการซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ต

ถ้าจะต้องพาผู้อาวุโสอาร์มสตรองไปที่คฤหาสน์หลักของตระกูลเยตส์อีกเหรอ?

พูดตรง ๆ สำหรับฮาร์วีย์แล้ว ตระกูลเยตส์ไม่ได้มีความหมายกับเขาอยู่แล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะแมนดี้ ตระกูลเยตส์ก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะมองแม้กระทั่งนัยตาของเขาด้วยซ้ำ

เมื่อเวลาผ่านไป ฮาร์วีย์ส่งผู้อาวุโสอาร์มสตรองกลับไปอย่างเงียบ ๆ แต่น่าเสียดายที่ชายชราคนนี้ไม่ใช่คนที่จะอยู่นิ่ง ๆ ได้

ถึงแม้ว่าฮาร์วีย์ได้เตรียมการให้ผู้อาวุอาร์มสตรองตรวจร่างกายที่ค่ายศัสตราวุธ แต่ตอนหลังเขาก็ยังมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลของประชาชนบัควู้ดด้วยตัวเอง เขาไม่ได้เรียกขอแพทย์เฉพาะทาง แต่เขากลับขอหมอธรรมดา ๆ ทั่วไปและเสียเงินเพียงแค่หนึ่งดอลลาร์เท่านั้น

ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป ทุกคนในบัควู้ดต่างตื่นตกใจ

ไม่นานหลังจากนั้น ผู้คนที่มีโรคที่รักษาไม่หายและโรคที่ซับซ้อนต่างแห่กันไปที่โรงพยาบาลเพื่อรักษา

ในขณะเดียวกัน มื้อเที่ยงที่ตระกูลเยตส์ได้จัดเตรียมไว้อย่างยิ่งใหญ่ก็เย็นชืดลงและเมื่ออุ่นอาหารอีกครั้ง ไม่นานหลังจากนั้นมันก็กลับมาเย็นอีกครั้ง

แต่พวกเขาก็ไม่เห็นว่าฮาร์วีย์จะพาออสการ์ อาร์มสตรองมาที่หน้าประตูของพวกเขาสักที

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดแมนดี้ก็โทรหาพวกเขา

“คุณย่าคะ…หนูคุยกับฮาร์วีย์แล้วนะคะ แต่เขาบอกว่าผู้อาวุโสอาร์มสตรองกำลังรีบเขาเลยต้องรีบพาผู้อาวุโสอาร์มสตรองไปส่งให้เร็วที่สุดค่ะ”

“อะไรนะ?!”

คุณย่าเยตส์ปิดประตูด้วยความโกรธ

“เราเตรียมงานเลี้ยงและเชิญผู้นำครอบครัวจากตระกูลอื่นมาด้วย! และตอนนี้เธอกำลังบอกว่าไอ้คนโสมมนั่นพาเขามาไม่ได้เหรอ?”

“แล้วเขาพาผู้อาวุโสอาร์มสตรองไปที่ไซต์งานก่อสร้างตั้งแต่แรกได้ยังไง?”

แมนดี้ตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้ “คุณย่าควรรู้นะคะว่าการเรียกรถโดยสารมีเวลาจำกัด ถ้าฮาร์วีย์ไม่สามารถพาผู้โดยสารไปส่งที่จุดหมายปลายทางได้ภายในสี่ชั่วโมง ฮาร์วีย์จะโดนหักเงินนะคะ”

“ฮาร์วีย์บอกว่าถ้าเขาไม่รีบพาผู้อาวุโสอาร์มสตรองกลับ เขาก็ต้องจ่ายเงินค่าโดยสารรถด้วยตัวเองทั้งหมดค่ะ”

คุณย่าเยตส์เกือบจะสำลัก

“ไอ้คนโสมมนั่นไม่ได้พาเขามาที่นี่เพราะเรื่องนี้เหรอ?”

เมื่อคุณย่าเยตส์วางสายโทรศัพท์ คัลลัม ร็อบบินส์เผยรอยยิ้มออกมา

“คุณนายเยตส์ ดูเหมือนว่าตระกูลเยตส์ไม่ได้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่อย่างที่เราคิดไว้ในทีแรกนะครับ”

“แม้กระทั่งหลานเขยของคุณยังกล้าที่จะปฏิเสธคำขอของคุณ!”

“เวลาจำกัดเหรอ? หักเงินเหรอ?”

“ตลกสิ้นดี! หลานเขยของคุณกำลังตั้งใจดึงคุณให้ต่ำลงแน่”

คาร์สัน คลาวด์หัวเราะ

“ผู้นำร็อบบินส์ คุณไม่ควรพูดอย่างนั้นนะ บางทีเด็กหนุ่มนั่นอาจจะขับรถเร็วก็ได้ เขาจะต้องใช้เงินอันน้อยนิดที่เขามีเหลืออยู่ในการจ่ายค่าอาหารของเขาแน่”

“แต่เขาก็ยังคิดว่าเขาจะไม่เสียเงินแม้แต่ดอลลาร์เดียวเพื่อตระกูลเยตส์!”

ผู้นำทั้งสองคนอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

พวกเขาต่างได้ยินมานานว่าฮาร์วีย์เป็นเรื่องตลกที่ไม่มีสมอง พวกเขาคาดหวังไว้มากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้

“ไม่เป็นไร ในเมื่อผู้อาวุโสอาร์มสตรองไม่มา เราก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะร่วมทานอาหารมื้อนี้ด้วยเช่นกัน”

“คุณย่าเยตส์ กรุณาอย่าเชิญเรามาอีกนะ ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าจะมีใครมาบ้าง”

“พวกเราล้วนมีเรื่องที่ต้องทำ”

จากนั้นคาร์สัน คลาวด์และคัลลัม ร็อบบินส์ก็กลับออกไปพร้อมกัน

คุณย่าเยตส์กำลังตัวสั่นเพราะความโกรธจนแทบจะหายใจไม่หาย

หลังจากเวลาผ่านไปนาน เธอก็พูดขึ้นอย่างเยือกเย็น “พวกเขาอยู่ไหน?! พาตัวพวกเขามา!”

คีธ เยตส์ปรากฏตัวขึ้นหลังจากนั้น ผู้บัญชาการลำดับสามแห่งเซาท์ไลท์แสดงทีท่าน่ากลัวออกมา

คุณย่าเยตส์สั่งการ “เรื่องการยึดครองบริษัททั้งบริษัทของแมนดี้เป็นยังไงบ้าง?”

คีธ เยตส์ตอบกลับอย่างเงียบ ๆ “ทุกอย่างใกล้จะเรียบร้อยแล้วครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาครับ”

“ไม่จำเป็นต้องรออีกแล้ว! ทั้งครอบครัวของเธอกำลังจะเหยียบย่ำเรา ถ้าเรายังมัวอืดอาดอยู่!”

“ภายในสามวัน ฉันต้องการซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์มาเป็นของตระกูลเยตส์!”