ตอนที่ 979

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ชั้นตำราจะมีคำแนะนำปรากฏขึ้นมาด้านนอก เมื่อวางมือไปที่ตำราเล่มนั้นว่าเป็นเทคนิคบ่มเพาะพลังและทักษะประเภทใด และมีคุณลักษณะอย่างไร

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือจำเป็นต้องมีคะแนนแลกเปลี่ยนกับตำราที่ต้องการ

ถ้ามีคะแนนมากพอจะสามารถหยิบยืมมาอ่านได้ทันที และถ้าผ่านไปสิบวันแล้วยังไม่เข้าใจจะต้องยืมใหม่ แต่จะใช้คะแนนเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

หลิงฮันเพียงแค่เดินดูคำอธิบายเท่านั้น อย่างน้อยเขาต้องตัดสินใจก่อนว่าจะเลือกเทคนิคบ่มเพาะพลังใด

เทคนิคบ่มเพาะพลังที่นี่ใช้คะแนนแลกน้อยมาก เพียงแค่ไม่กี่สิบคะแนน แต่ก็มีตำราราคาแพงอยู่เช่นกัน อย่างเช่น อัสนีเร้นลับทลายปฐพี ที่ต้องใช้ห้าพันคะแนนในการแลก หลิงฮันถึงขั้นอุทาน

ใครจะแลกไหว!

แต่เมื่อคำนึงถึงศิษย์โดยเฉลี่ยที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าพันปีในระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดแล้ว ห้าพันคะแนนถือว่าไม่มากเลย

ซึ่งแน่นอนว่า อัสนีเร้นลับทลายปฐพี ยังไม่ใช้เทคนิคบ่มเพาะพลังที่แพงที่สุด และจะต้องมีตำราที่ใช้คะแนนเป็นหมื่นแลกอย่างแน่นอน

ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เทคนิคบ่มเพาะพลังแบ่งออกเป็นสิบระดับ ระดับที่ต่ำที่สุดคือ ระดับหนึ่ง ส่วนระดับสิบคือระดับสูงสุด อย่างเช่นเทคนิคบ่มเพาะพลังเจ็ดดาราที่หลิงฮันเรียนรู้มาก่อนหน้านี้คือเทคนิคบ่มเพาะพลังระดับหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้ฝึกฝนได้ถึงระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดเท่านั้น

เทคนิคบ่มเพาะพลังระดับสูงสุดของหอตำราชั้นสองคือเทคนิคบ่มเพาะพลังระดับสี่ ตามที่สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าว เทคนิคบ่มเพาะพลังของตระกูลสุ่ย “จันทราแตกดับ” เป็นเทคนิคระดับห้า แต่น่าเสียดายที่สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่กล้านำเทคนิคออกมา มิฉะนั้นนางและหลิงฮันคงถูกฆ่าตาย

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใดหรือจอมยุทธคนใดก็ตาม เทคนิคบ่มเพาะพลังเป็นมรดกที่ล้ำค่าที่สุด และไม่อาจส่งต่อได้โดยง่าย

“เฮ้อ!” หลิงฮันถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาคิดว่าคะแนนหนึ่งพันที่ได้รับจะเพียงพอแลกเทคนิค แต่ตอนนี้มันทำให้เขารู้ตัวว่าตัวเองนั้นยากจนแค่ไหน

“ข้าคงต้องแลกเทคนิคบ่มเพาะพลังระดับหนึ่งก่อน หลังจากที่ทะลวงผ่านขั้นกลางแล้ว ค่อยสะสมคะแนนและแลกเทคนิคบ่มเพาะพลังระดับสูง”

หลิงฮันตัดสินใจ แต่ก็ไม่รีบแลกเทคนิคบ่มเพาะพลังทันที เพราะเขายังไม่บรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดอย่างแท้จริง

เมื่อเขาเดินลงบันไดมาชั้นล่างและกำลังจะออกจากหอตำรา เขาก็เห็นเฒ่าฉือลืมตาขึ้นและพูดว่า “เจ้าเดินมากับข้า”

ชายชรากำลังพูดเชิญเขาอย่างนั้นรึ?

ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะรู้สึกประทับใจและพูดว่า “ขอรับผู้อาวุโส”

เฒ่าฉือลุกขึ้นยืนและเดินไปอยู่ข้างหน้าหลิงฮัน แล้วเดินนำทาง

สำนักนภาสีชาดมีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ มันมีป่าทึบและสวนอยู่ทุกที่ในสำนัก ทั้งสองคนเดินไปที่ทะเลสาบที่เปล่งประกายระยิบระยับเหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า

“ข้าได้ยินความสำเร็จของเจ้าในเขตแดนลี้ลับมหาสมุทรสวรรค์แล้ว-” เฒ่าฉือหันไปมองหลิงฮันด้วยรอยยิ้ม “ยอดเยี่ยมมาก!”

“ผู้อาวุโสชมข้าเกินไปแล้ว” หลิงฮันกล่าวด้วยความเคารพและสุภาพ

เฒ่าฉือหัวเราะพรางลูบเคราและพูดว่า “ตอนนี้เจ้ามีเทคนิคบ่มเพาะพลังในใจแล้วหรือยัง?”

“ข้ายังไม่มีเทคนิคบ่มเพาะพลังที่สนใจ แม้ข้าจะดูมาหลายเทคนิคแล้ว แต่คะแนนของข้าน้อยเกินกว่าจะแลกเปลี่ยนได้” หลิงฮันส่ายหัว

เฒ่าฉือพูดว่า “ข้ามีเทคนิคบ่มเพาะพลังที่ต้องการถ่ายทอดให้กับเจ้า แต่เจ้าต้องยอมรับเงื่อนไขของข้าเสียก่อน”

“เงื่อนไขของผู้อาวุโสคืออะไรอย่างนั้นหรือ?” หลิงฮันถาม

“ในอนาคตหากเจ้าพบหยกแก่นหัวใจ เจ้าจะต้องนำมันมาให้ข้า!” เฒ่าฉือกล่าวด้วยแววตาที่เปล่งประกาย แต่ก็แฝงด้วยความสิ้นหวัง

หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงและพูดว่า “ผู้อาวุโส หยกแก่นหัวใจคืออะไรอย่างนั้นหรือ?”

“ถ้าเจ้าหามันเจ้า เจ้าจะรู้เอง” เฒ่าฉือโบกมือและพูดว่า “แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเจ้าในปัจจุบันยังอ่อนแอเกินไปที่จะคิดเรื่องพวกนั้น”

“ผู้อาวุโสไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะพยายามสุดความสามารถ” หลิงฮันกล่าวด้วยความแน่วแน่

เฒ่าฉือหัวเราะและพูดว่า “ข้ามองคงไม่ผิดจริงๆ”

หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “โปรดสอนเทคนิคบ่มเพาะพลังให้กับข้าด้วย!”

“เทคนิคบ่มเพาะพลังที่ข้าจะสอนเจ้ามีชื่อว่าแปดพลังผสาน มันสามาถฝึกฝนได้จนถึงระดับดารา และหลังจากนั้น…เจ้าจะต้องทำความเข้าใจมันด้วยตัวเอง” เฒ่าฉือกล่าว

“ข้าขอถามผู้อาวุโสได้หรือไม่ว่ามันเป็นเทคนิคบ่มเพาะพลังระดับอะไร?” หลิงฮันถาม

เฒ่าฉือคิดอยู่ชั่วครู่และส่ายหัว “ข้าไม่รู้แน่ชัดว่ามันเป็นเทคนิคระดับอะไร แต่เท่าที่ข้าทราบคือหลังจากที่ฝึกฝนความเร็วในการก้าวหน้าของเจ้าจะไม่ลดลงจนถึงระดับดารา”

จากนั้นเฒ่าฉือก็นำผลึกหยกออกมาและโยนให้หลิงฮัน แล้วพูดว่า “เทคนิคบ่มเพาะพลังถูกบันทึกอยู่ในนั้นแล้ว เจ้าสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ เจ้ามาหาข้าได้ทุกเมื่อ”

“ขอบคุณผู้อาวุโส!” หลิงฮันรับผลึกหยกอย่างระมัดระวัง

หากเป็นไปตามที่เฒ่าฉือพูด เทคนิคบ่มเพาะพลังแปดพลังผสานไม่น่าด้อยไปกว่าเทคนิคที่จอมยุทธระดับดาราฝึกฝน แล้วถ้าเขานำมันไปประมูล ทุกคนจะต้องบ้าคลั่งและทำทุกวิถีทางเพื่อนำมันมาอย่างแน่อน

นั่นเป็นเพราะสมบัติอย่างผลึกภูผาวารีสามารถปั่นอัจฉริยะได้ไม่กี่คนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นเทคนิคบ่มเพาะพลังมันสามารถถ่ายทอดได้หลายคน

หลิงฮันไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่ให้คำสัญญาอยู่ในใจว่าถ้าเขาเจอหยกแก่นหัวใจ เขาจะต้องนำมันมาให้เฒ่าฉือให้จงได้

หลิงฮันย้ายไปอยู่ที่อยู่อาศัยใหม่ นั่นเป็นเพราะศิษย์ที่ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีแล้วจะไม่สามารถอาศัยอยู่กับศิษย์ที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติได้ หลังจากที่หลิงฮันย้ายไปอยู่ที่ใหม่ เขาไม่ไปทักทายใครเลย และเริ่มปิดด่านฝึกตนทันที

ตอนนี้มีสองเรื่องที่เขาต้องทำ คือ ฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะพลังแปดพลังผสาน และยกระดับกายหยาบของเขา

ในช่วงที่เขากำลังฝึกฝนอยู่นั้นก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น

ถังเฟยประกาศท้าทายหลิงฮัน ตอนนี้ทั้งสองคนต่างก็เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดของฝ่ายเหนือด้วยกันทั้งคู่ถือเป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรม

ถ้าถังเฟยไม่สามารถโค่นล้มหลิงฮันได้ คนอื่นจะสงสัยว่าถังเฟยเป็นอันดับหนึ่งนั้นไม่เป็นความจริง