บทที่ 542 กดดันตระกูลเย่

The king of War

คนทั้งตระกูลเย่เงียบกริบ ทุกคนหันไปมองเย่ม่าน อยากรู้ว่าเจ้าบ้านตระกูลเย่คนใหม่ จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

เย่จี้จงตายแล้ว แต่หลินเป้ากลับพูดเรื่องแต่งงาน ที่ปรึกษากับเขา สิ่งสำคัญไปกว่านั้น ผู้หญิงที่ตระกูลหลินจะแต่งเข้าบ้าน คือเย่ม่าน เจ้าบ้านตระกูลเย่คนปัจจุบัน

ถ้าเย่ม่านแต่งเข้าตระกูลหลินจริง งั้นตระกูลเย่กับตระกูลหลินจะต้องใช้ชื่อร่วมกัน ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูหรือเปล่า

เย่ม่านคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ เธอจึงพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “ลุงหลินพูดล้อเล่นอะไรกันคะ ฉันแต่งงานแล้ว ถึงสามีฉันจะตายไปนานแล้ว แต่ฉันคงแต่งงานไม่ได้อีก”

“เธอจะไม่ทำตามการตัดสินใจของพ่อเธอเหรอ”

แววตาของหลินเป้าเย็นชา เธอมองเย่ม่านด้วยสีหน้าเฉยเมย

ไม่เสียแรงที่เป็นเจ้าบ้านตระกูลหลินรุ่นก่อน ตอนปกติน่าเกรงขาม แต่เมื่อโกรธขึ้นมา น่ากลัวมาก

ทุกคนรับรู้ถึงแรงกดดันมหาศาล

หลินเป้าเป็นตาเฒ่าที่ใกล้ลงโลงแล้ว แต่เขายังดูน่าเกรงขามขนาดนี้ เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อจริงๆ

ขนาดเย่ม่าน ยังรู้สึกกดดันมาก

“คำพูดปากเปล่า ฉันคงจะแต่งเข้าตระกูลหลิน เพียงเพราะคำพูดของลุงหลิน แค่ประโยคเดียวไม่ได้หรอกค่ะ”

เย่ม่านยังมีสีหน้าราบเรียบ เธอพูดอย่างเนิบๆ

เธอเพิ่งควบคุมตระกูลเย่ ในสถานการณ์แบบนี้ เธอต้องสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลอื่น

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เย่จี้จงยังอยู่ ตระกูลหลินเป็นตระกูลที่ดีกับตระกูลเย่

ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ให้มีปากเสียงกับตระกูลหลินได้ เธอยอมทำอยู่แล้ว

แต่ทว่าให้เธอแต่งเข้าตระกูลหลิน คงไม่มีวันเป็นไปได้

“อะไร เธอกำลังสงสัยที่ฉันพูดเหรอ”

แววตาของหลินเป้าแดงก่ำ เขาจ้องเย่ม่านเขม็ง “ฉันอายุใกล้จะแปดสิบแล้ว เจ้าบ้านตระกูลหลินรุ่นก่อนอย่างฉัน จะหลอกเด็กอย่างเธอไปทำไม”

“ในเมื่อลุงหลินพูดเช่นนี้ งั้นฉันขอพูดอย่างจริงจัง ตอนนี้พ่อฉันตายไปแล้ว ฉันเป็นเจ้าบ้านตระกูลเย่ ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณคุยอะไรกันก่อนหน้านี้ แต่ตระกูลเย่ในตอนนี้ ต้องฟังฉันทุกอย่าง!”

สีหน้าของเย่ม่านเคร่งขรึม เธอพูดอย่างไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง “แน่นอนว่าถ้าลุงหลินต้องการแต่งงาน เพื่อสร้างเครือข่ายกับตระกูลเย่ ฉันในฐานะเจ้าบ้านตระกูลเย่ จะจัดการเรื่องการแต่งงานอย่างดี”

หลินเป้าขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจ

คนตระกูลเย่เงียบกริบ ทุกคนกังวลใจ เพราะกลัวว่าจะผิดใจกับตระกูลหลิน

ถึงตระกูลเย่จะใช้ชื่อร่วมกับตระกูลหลิน แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังอะไร กับเจ้าบ้านคนใหม่อย่างเย่ม่าน

“ถ้าฉันต้องการให้เธอแต่งเข้าตระกูลหลินล่ะ”

หลินเป้าพูดขึ้นอีกครั้ง เขาหรี่ตาลง ในแววตาเต็มไปด้วยการข่มขู่

คนตระกูลเย่กังวลมาก

“ทำไมแม่ฉันต้องแต่เข้าตระกูลหลินด้วย”

ขณะนั้น มีเสียงพูดอย่างโมโหดังขึ้น

ทุกคนมองไปยังหญิงสาวที่กำลังพูด

ฉินซี!

เย่ม่านตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคำว่าแม่ ออกมาจากปากของฉินซี น้ำตารื้นขึ้นมาตรงขอบตาของเธอ

ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนนอกอยู่ด้วย เธอคงสะกดกลั้นความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้

ยี่สิบกว่าปีมานี้ เธอละเลยฉินซี เธอรู้สึกเสียใจมาก ที่เลือดเย็นขนาดนั้น ตอนนั้นในใจของเธอ มีเพียงการแก้แค้น

“เสี่ยวซี รีบถอยไป!”

เย่ม่านรีบเอ่ยขึ้น

ถึงเธอจะซาบซึ้งใจมาก ที่ฉินซีออกมาพูดเพื่อเธอ แต่เธอรู้ดีว่าตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ไหน

การที่ได้เห็นลูกสาวสุขสบาย แถมยังมีสามีที่ดีแบบหยางเฉิน เธอดีใจมากแล้ว ไม่อยากให้ฉินซีต้องเข้ามาพัวพันด้วย

ตอนนี้ หลินซงที่ยืนข้างหลินเป้า เห็นฉินซีแล้ว และเห็นหยางเฉินที่ยืนข้างฉินซีด้วย

เขาแสยะยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจ เขารีบเข้าไปกระซิบข้างหูหลินเป้า

เมื่อหลินเป้าได้ยิน แววตาของเขาตกใจเล็กน้อย และจ้องไปที่ฉินซี

ถ้าฉินซีไม่ได้แต่งงาน หน้าตาและฐานะของเธอ เหมาะแก่การที่จะแต่งงานเพื่อสร้างเครือข่าย

แน่นอนว่าการที่เขามาวันนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องแต่งงาน แต่เพราะเจ้าบ้านคนใหม่อย่างเย่ม่าน

แต่สิ่งที่เย่ม่านแสดงให้เห็น มันเหนือความคาดหมายของหลินเป้า

อยากให้เย่ม่านแต่งเข้าตระกูลหลิน คงหมดหวังแล้ว

ส่วนฉินซี เป็นลูกสาวคนเดียวของเย่ม่าน ถ้าให้ทายาทรุ่นหลังแต่งงานกับฉินซีได้ เป็นเรื่องดีต่อตระกูลหลินมาก

“แม่สาวน้อย เธอชื่ออะไร”

จู่ๆ หลินเป้าเอ่ยถามขึ้น

การที่ฉินซีลุกออกมาปกป้องเย่ม่าน เพราะเธอทนดูเย่ม่านโดนรังแกไม่ได้ ตอนนี้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา

หลินเป้าเป็นเจ้าบ้านตระกูลหลินรุ่นก่อน ฐานะและตำแหน่งสูงส่ง เขาดูน่าเกรงขามมาก

คำถามของเขา ทำให้ฉินซีกดดันมาก

“ลุงหลิน ถ้าลุงมาแสดงความเสียใจ กับการจากไปของพ่อฉัน ฉันยินดีต้อนรับ แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่น ก็เชิญคุณออกไปได้แล้ว!”

เย่ม่านรีบเดินมาขวางหน้าฉินซี เธอพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ

การเป็นผู้หญิงในตระกูลเย่ เธอเห็นการปลิ้นปล้อนระหว่างตระกูลมาเยอะแล้ว

เป้าหมายของหลินเป้าในวันนี้ ชัดเจนมาก ตอนนี้แววตาที่เขามองฉินซีผิดปกติ เขากำลังคิดอะไร เย่ม่านรู้ดี

“ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อกี้เธอพูดว่า ถ้าฉันอยากแต่งงานเพื่อสร้างเครือข่ายกับตระกูลเย่ เธอไม่แต่ง แต่ถ้าให้คนในตระกูลเย่แต่งล่ะ” หลินเป้าพูดขึ้น

เย่ม่านขมวดคิ้ว เธอรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี

แต่เธอพูดประโยคนี้จริงๆ

เย่ม่านพยักหน้า “ใช่ ขอแค่หลุงหลินต้องการ ฉันจะจัดการให้”

“นี่คือหลินซง หลานชายคนแรก ในบรรดาหลานของตระกูลหลิน เขาชอบลูกสาวเธอมาก ในเมื่อเธอไม่ยอมแต่งเข้าตระกูลหลิน งั้นให้ลูกสาวเธอแต่งแล้วกัน”

หลินเป้าเอ่ยขึ้น

“ขอบคุณครับคุณปู่!”

หลินซงดีใจมาก เขารีบพูดขึ้น ในแววตาของเขามีรอยยิ้มร้ายกาจ

เย่ม่านหน้าเปลี่ยนสี ฉินซีก็มีสีหน้าตื่นตระหนก เธอแค่ช่วยแม่ตัวเองพูด คิดไม่ถึงว่าจะโดนตระกูลหลินเล่นงาน

“ไม่ได้!”

เย่ม่านปฏิเสธ “ลูกสาวฉันแต่งงานแล้ว ตอนนี้เธอมีความสุขมาก!”

“ในเมื่อแต่งแล้ว ก็ให้เธอหย่าสิ แล้วมาแต่งกับหลานชายฉัน” หลินเป้าทำท่าดึงดัน เขาไม่ให้ใครได้พูด

เย่ม่านคิดไม่ถึงเหมือนกัน เธอถอยให้ แต่หลินเป้าได้คืบจะเอาศอก เธอไม่แต่ง ยังจะให้ลูกสาวเธอแต่ง จู่ๆ สีหน้าของเย่ม่านเคร่งขรึมขึ้นมา

“เจ้าบ้านหลิน ฉันว่าฉันพูดชัดเจนแล้วนะ”

“ลูกสาวฉันแต่งงานแล้ว และเธอมีความสุขดี ฉันไม่ต้องการให้ใครหน้าไหน มาทำลายชีวิตรักของลูกสาวฉัน!”

“ฉันว่าการที่คุณมาแสดงความเสียใจกับพ่อฉันวันนี้ แค่บังหน้าเท่านั้น แท้จริงแล้ว คุณคงมากดดันตระกูลเย่สินะ”

น้ำเสียงของเย่ม่านเต็มไปด้วยความเย็นชา เธอไม่เรียกว่าลุงหลินอีกแล้ว คำพูดของเธอรุนแรง และถามหลินเป้าต่อหน้าทุกคน ว่ามากดดันตระกูลเย่หรือเปล่า

สีหน้าของคนตระกูลเย่ตกตะลึง พวกเขารู้ถึงอำนาจของเย่ม่าน ไม่งั้นจะบีบให้เย่จี้จงลงจากตำแหน่งได้อย่างไร

แต่คิดไม่ถึงว่าเย่ม่านจะไม่เกรงกลัวหลินเป้าแม้แต่น้อย