ตอนที่ 2726 การต่อสู้ของสัตว์ประหลาด

ด้วยมีซือเฟิงเป็นศูนย์กลาง พื้นที่มืดที่มีรัศมีหนึ่งพันหลาก็เข้าปกคลุมพื้นที่ทรัพยากรขั้นสูงและสภาพแวดล้อมโดยรอบ โดยมานาภายในพื้นที่มืดนี้มันไหลอย่างรวดเร็วจนแม้แต่ผู้เล่นทั่วไปก็ยังสามารถจะสัมผัสได้

ความรู้สึกของการจะถูกทำลายล้างและการถูกกดขี่ในพื้นที่มืดนี้ มันทำให้แม้แต่ผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่ก็ยังหวาดกลัวด้วยซ้ำ

“มันมีโดเมนมานาที่ทรงพลังแบบนี้อยู่ด้วยงั้นหรอ ?!”

“แม้แต่โดเมนมานาของมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายก็ยังไม่แข็งแกร่งขนาดนี้เลย !!!”

“บาเรียเวทย์มนต์ขั้นสูงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ? นี่มันก็แปลว่าโดเมนมานาแข็งแกร่งกว่าบาเรียขั้นสูงอีกสินะ ?”

มหาอำนาจต่างๆที่เฝ้าชมอยู่ในห้อง VIP นั้นล้วนมีความรู้เกี่ยวกับโดเมนมานา และบางคนก็เคยประสบณ์กับมันมาก่อนด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับประสบการณ์และสิ่งที่พวกเขาเคยเห็นโดเมนมานามาก่อนหน้านี้ โดเมนมานาของซือเฟิงมันอยู่ในระดับที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

นี่คือโดเมนมานาของเขางั้นหรอ ?

มู่ฉินที่ยืนอยู่ใกล้ซือเฟิงตอนนี้เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ และเมื่อเธอมองไปที่ซือเฟิงอีกครั้งตอนนี้ เธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอพึ่งจะได้รู้จักกับเขาเป็นครั้งแรก

เธอนั้นได้ยินมาก่อนแล้วจากทีมช่วยเหลือของฟรอสต์ฮีฟเว่นคนอื่นๆที่เลือกจะยอมแพ้ไปว่าโดเมนมานาของซือเฟิงมันทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ

อย่างไรก็ตามพอเธอได้มาสัมผัสกับโดเมนมานาของซือเฟิงด้วยตัวเธอเอง เธอก็สามารถบอกได้เลยว่ามันไม่เพียงแต่จะเรียกได้ว่าทรงพลัง …. เพราะท้ายที่สุดแล้วโดเมนมานานี้ของซือเฟิง มันทำให้เหมือนกับว่าเขาได้สร้างโลกทั้งโลกของเขาขึ้นมาด้วยตัวเอง และพื้นที่ภายในโดเมนมานาของเขานี้มันก็ดูเหมือนจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาทุกอย่าง
ในพื้นที่นี้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจะไม่ต่างจากมดเลยต่อหน้าซือเฟิง !! ในขณะเดียวกันแซนสตอร์มที่ลอยอยู่กลางอากาก็ตกตะลึง เมื่อเขาเห็นโดเมนมานาที่น่าอัศจรรย์ของซือเฟิง โดเมนมานาของผู้เล่นมันสามารถจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้เลยงั้นหรอ ? หัวใจของแซนด์สตอร์มเต็มไปด้วยความสงสัย ในขณะที่เขารู้สึกได้ถึงพลังที่น่ากลัวเข้ามาห้อมล้อมเขาจากทุกทิศทาง

โดเมนมาของซือเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าโดเมนมานาของมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายมาก และแม้ว่าเขาจะกลายร่างมาใช้ร่างครึ่งมังกร ซึ่งทำให้เขาได้รับค่าสถานะ และร่างกายทางกายภาพของขั้นสี่มา แต่แซนด์สตอร์มก็ยังถูกจำกัดการเคลื่อนไหวอย่างมากภายในโดเมนมานาของซือเฟิง

และจากการประเมินของเขา เขาก็สูญเสียค่าสถานะพื้นฐานไปประมาณยี่สิบเปอเซ็นต์ ขณะที่ความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการตอบสนองของเขาก็ลดลงสาม
สิบเปอเซ็นต์ ตอนนี้พลังต่อสู้โดยรวมของเขาแทบจะไม่ถึงมาตราฐานของขั้นสี่ด้วยซ้ำ

“มาเริ่มกันเลย !” หลังจากมองไปที่ลีน่า และเหล่าผู้เล่นครึ่งมังกรคนอื่นๆ ซือเฟิงก็ชัก Abyssal Blade ออกมาจากฝักของเขา และหายตัวไป

“เขาหายไปไหนกัน ?”

การหายตัวไปอย่างกระทันหันของซือเฟิงทำให้สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นสับสน

“เขาหายไป ?”

ในตอนนี้นับประสาอะไรกับสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่น แม้แต่ผู้ชมที่เฝ้าชมอยู่ก็ยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง

มนุษย์ที่มีชีวิตได้หายไปจากสายตาของพวกเขา ราวกับเทพที่หายตัวได้

อย่างไรก็ตามก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนองอะไรได้ มันก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศ

ตู้ม !!!

ในช่วงเวลาต่อมา ร่างเงาสีดำร่างหนึ่งก็ตกลงมากระแทกพื้นทำให้เกิดรอยแตกบนพื้นที่ขยายออกไปกว่ายี่สิบหลา ซึ่งคลื่นกระแทกจากผลของเรื่องนี้ มันก็ทำให้สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นที่อยู่ใกล้ๆเกือบจะยืนไม่อยู่

“เกิดอะไรขึ้น ?”

ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างบนพื้น ….

โดยที่ไม่มีใครทันได้รู้ตัว ซือเฟิงก็ได้ไปปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางผู้เล่นครึ่งมังกร และตอนนี้ดาบของเขาก็ถูกเคลือบไปด้วยเลือดสดๆ

ในขณะเดียวกันร่างบนพื้นนั้นก็เป็นร่างของผู้เล่นครึ่งมังกรคนหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้ชุดเกราะของผู้เล่นคนนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่เขายังมีบาดแผลลึกลงไปถึงกระดูก แถม HP ของเขายังลดลงไปถึงหนึ่งในแปดด้วย

ความเร็ว และความรุนแรงในการโจมตีของซือเฟิงนั้นมันน่าเหลือเชื่อมากๆ !!!

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับเหล่าผู้ชม และสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นแล้ว สมาชิกของไมโทโลจี้ที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่นั้นคือคือผู้ที่ประหลาดใจกับสถานการณ์นี้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแซนสตอร์ม ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความสับสนมากๆ ขณะที่เขาจ้องมองไปยังซือเฟิง

หลังจากกลายร่างมาใช้ร่างมังกร และบวกกับผลของวงเวทย์การต่อสู้ แม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในเลเวลเดียวกันก็ยังไม่สามารถจะลด HP ของพวกเขาลงได้ถึงสามเปอเซ็นต์ในการโจมตีครั้งเดียว แต่ตอนนี้แบล๊คเฟรมกับสามารถทำได้ แบล๊คเฟรมนั้นมีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน ? ความกลัวเริ่มปรากฎขึ้นในดวงตาของแซน
สตอร์ม ขณะที่เขาวิเคราะห์สถานการณ์

ในฐานะผู้เล่นครึ่งมังกรตอนนี้ พวกเขาถือได้ว่าเป็นผู้เล่นขั้นสี่ที่แท้จริง แต่ถึงกระนั้นแม้จะเป็นแบบนี้ พวกเขาก็ยังคงไม่สามารถเทียบกับซือเฟิงได้ ตอนนี้แซนสตอร์มไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าซือเฟิงมีความแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?

ตามที่คาดไว้จากสายเลือดครึ่งมังกร และเมื่อรวมเข้ากับความช่วยเหลือของวงเวทย์การต่อสู้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการฆ่าให้ได้สักคนในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อซือเฟิงมองไปที่ผู้เล่นครึ่งมังกรบนพื้น เขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้สกิลหรือเวทย์ใดๆในการโจมตี แต่เขาก็ใช้อาวุธที่เป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน และเขาก็ยังสวมใส่เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานอยู่หลายชิ้น ซึ่งในแง่ของความแข็งแกร่งอย่างเดียว เขาสามารถจะเทียบกับมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายในเลเวลเดียวกันได้แล้ว

นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถจะฆ่าผู้เล่นขั้นสามได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามแม้จะมีค่าสถานะพื้นฐานแบบนี้ แต่เขาก็สามารถทำให้ HP ของผู้เล่นครึ่งมังกรลดลงไปได้แค่หนึ่งในแปดเท่านั้นด้วยการโจมตีปกติของเขา ตามที่ซือเฟิงคาดเดาพลังป้องกันของผู้เล่นครึ่งมังกรพวกนี้มันน่าจะเทียบได้กับมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายเลย

“ทุกคน อย่าต่อสู้กับเขาแบบชี้เป็นชี้ตาย !! ค่าสถานะและความเร็วของเขาเหนือกว่าเรา !!! สิ่งที่เราต้องทำคือทำให้ค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาหมดลง !!!” ลีน่าสั่งอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะกล่าวต่ออย่างไม่ลังเลว่า “รักษาระยะห่างของพวกคุณไว้ !!! แจ๊ค ให้จัดลำดับความสำคัญในการปกป้องฮีลเลอร์ของเรามาเป็นอันดับแรก !!! เขาจะทนต่อสู้กับพวกเราได้ไม่นานหรอกในการต่อสู้ยืดเยื้อ !!!”

“เข้าใจแล้ว” คำสั่งของลีน่าได้กระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของเหล่าผู้เล่นครึ่งมังกรทั้งหมด และพวกเขาก็เร่งรีบเข้าประจำตำแหน่งกับทำตามคำสั่งทันที

โดยมีลีน่าเป็นผู้นำ ผู้เล่นครึ่งมังกรห้าคนได้เข้าล้อมกรอบและโจมตีซือเฟิง นอกจากนี้ผู้เล่นครึ่งมังกรที่เป็นออราเคิลที่อยู่แนวหลังก็ยังได้ร่ายเวทย์ช่วยบัฟพลังป้องกันให้กับผู้เล่นครึ่งมังกรคนอื่นๆอีกจำนวนหนึ่งด้วย

ตอนนี้เมื่อไม่ต้องกังวลกับเรื่องการได้รับความเสียหายอีกต่อไป ผู้เล่นครึ่งมังกรทั้งห้า ภายใต้การนำของลีน่าก็ดาหน้ากันเข้าโจมตีซือเฟิงอย่างบ้าคลั่ง ในขณะเดียวกันผู้เล่นครึ่งมังกรทั้งหมดก็ล้วนประสานงานกันได้อย่างไร้ที่ติมากๆ โดยหวังที่จะให้นี่เป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อและทำให้ค่าสตามิน่ากับค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของซือเฟิงหมดลง

ในช่วงเวลาหนึ่งเสียงระเบิดนั้นดังขึ้นไปทั่ว และมันก็เขย่าพื้นดินกับท้องฟ้าไปทั่วบริเวณ

ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่เฝ้าชมอยู่ต่างเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ พวกเขาแทบจะไม่สามารถบอกได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกเขาไม่สามารถจะบอกได้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เป็นใครปะทะกับใครอยู่ พวกเขาเห็นเพียงลำแสงเป็นดวงๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปะทะกันแต่ละครั้งเท่านั้น และในบรรดาผู้ชมทั้งหมด มันมีแต่เพียงผู้ที่ชมอยู่ในห้อง VIP เท่านั้นที่สามารถจะเห็นการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน เพราะมันมีฟังชั่นสโลว์โมชั่นให้เลือกใช้

ตอนนี้ผู้เล่นครึ่งมังกรภายใต้การนำของลีน่านั้นดูจะเริ่มมีความได้เปรียบอยู่หน่อยๆ เนื่องมาจาก พวกเขามีจำนวนมากกว่า และเมื่อคนๆหนึ่งพลาดนั้น มันก็จะมีอีกคนเข้ามาช่วยอุดช่องโหว่นั้นเพื่อไม่ให้มีใครคนใดคนหนึ่งในหมู่พวกเขาตาย ซึ่งตรงกัน
ข้ามกับซือเฟิงที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าต่อสู้แบบหนึ่งต่อเจ็ด ซึ่งในอัตรานี้ค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของซือเฟิงก็จะหมดลงก่อนที่จะสามารถฆ่าผู้เล่นครึ่งมังกรพวกนี้ได้ทั้งหมดแน่นอน

“แบล๊คเฟรม ครั้งนี้คุณจะต้องแพ้อย่างแน่นอน แม้ว่าเราจะไม่สามารถเทียบกับคุณได้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่คุณจะทนต่อสู้กับพวกเราทั้งหมดได้นานแค่ไหนกัน ?” แซนด์สตอร์มนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นมากขึ้น เมื่อการต่อสู้ดำเนินไปเรื่อยๆ

แม้ว่าเขาจะได้รับการโจมตีอย่างมากมายจากซือเฟิง และสูญเสีย HP ไปจำนวนมาก แต่เขาก็ได้รับการฮีลฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง จากออราเคิลด้านหลังของเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถฟื้นคืน HP ที่เสียไปได้อย่างรวดเร็ว

“แบล๊คเฟรม คุณไม่สามารถจะโทษเราได้นะที่กลั่นแกล้งคุณด้วยจำนวนที่มากกว่า !!! มันเป็นความผิดของคุณเองที่มาที่นี่โดยที่ไม่มีใครสามารถจะช่วยซัพพอร์ทคุณได้เลย !!!” ชายร่างสูงข้างแซนด์สตอร์มกล่าวพลางหัวเราะ

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นต่างก็ก้มหน้าลงด้วยความอับอาย

เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้แล้ว ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอย่างพวกเขานั้จัดว่าไม่มีอะไรเลย พวกเขาไม่มีสิทแม้จะไปเป็นสิ่งรบกวนด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุด พวกเขาไม่สามารถจะติดตามความเร็วของคนเหล่านี้ได้ทันเลย

“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นขีดจำกัดของสภาสิบแปดปีกแล้ว”

“อย่างไรก็ตามมันน่าทึ่งมากๆที่แบล๊คเฟรมสามารถจะทนอยู่ได้นานขนาดนี้ แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีผู้เล่นที่มีความสามารถอยู่ในหมู่สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นเลย ไม่งั้นพวกเขาก็คงจะสามารถต่อกรกับไมโทโลจี้ได้”
เหล่ามหาอำนาจที่เฝ้าชมอยู่ในห้อง VIP จำนวนมากอดไม่ได้ที่จะชื่นชมและเสียดายแทนซือเฟิง เห็นได้ชัดว่าเขามีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวมากๆซึ่งแม้แต่ไมโทโลจี้ก็ยังต้องระวัง

แต่น่าเสียดายที่ช่องว่างระหว่างห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด และมหาอำนาจต่างๆนั้นมันใหญ่มากเกินไป และแม้ว่าผู้เข้าร่วมการแข่งของฟรอสต์ฮีฟเว่นจะอยู่ที่นี่ทั้งหมดในตอนนี้ แต่พวกเขาก็ยังจะไม่สามารถคุกคามผู้เล่นครึ่งมังกรเจ็ดคนได้แน่นอน

“อย่างไรก็ตามนี่มันก็นับเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าภาคภูมิใจของแบล๊คเฟรม นี่มันเท่ากับเขาสามารถจะยืนหยัดต่อกรกับมอนสเตอร์ขั้นสี่ เจ็ดตัวพร้อมกันได้ เขาสมควรแล้วที่จะได้รับฉายา ราชันดาบ !!!”

“ราชันดาบ ? จากที่ฉันเห็นเขาแข็งแกร่งพอที่จะติดหกอันดับแรกของรายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดที่ได้รับการจัดอันดับโดยศาลาลับด้วยซ้ำ และมันก็จะมีเพียงแต่สัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่แท้จริงของห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว” ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายคนกล่าวชื่นชมซือเฟิงในทำนองเดียวกัน และตอนนี้แม้แต่ผู้ที่เคยครหาในฉายาราชันดาบของซือเฟิงก็เริ่มจะยอมรับในตัวเขาทั้งหมดแล้ว

แต่ละนาทีค่อยๆผ่านไป ในขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกไม่มั่นใจว่าซือเฟิงจะยืนหยัดต่อไปได้อีกนานแค่ไหน ซือเฟิงก็กระโดดถอยหลังออกห่างจากแนวหน้าของผู้เล่นครึ่งมังกร

“อย่าว่าจะหนีเราไปได้ !!! เรามีปีก !!! และเราก็ไม่ได้ช้ากว่าคุณเลยเมื่อต้องวัดกันเรื่องการบิน !!!”

เมื่อเห็นซือเฟิงผละออกไปแบบนี้ แซนด์สตอร์มก็รีบไล่ตามซือเฟิงอย่างเร่งรีบทันที

เมื่อผู้เล่นได้รับโดเมนมานาแล้ว พวกเขาก็จะสามารถบินได้ อย่างไรก็ตามการบินด้วยวิธีนี้มันช้ากว่าอะเม้าท์บินได้อย่างมาก และในการเปรียบเทียบกันผู้เล่นครึ่งมังกรแทบจะสามารถบินได้เร็วเกือบเท่าอะเม้าท์บินได้

“หนี ?” ซือเฟิงส่ายหัว “ฉันแค่คิดว่าเวลาใกล้จะหมดแล้ว ดังนั้นฉันจึงวางแผนจะยุติการต่อสู้ครั้งนี้ !!!”

“คุณยังคงหยิ่งผยองมากจริงๆ แม้ว่าจะมีความตายมารออยู่ตรงหน้าแล้ว !!! ฉันอยากจะเห็นจริงๆว่าคุณจะยุติการต่อสู้นี้อย่างไร ?!” แซนด์สตอร์มเต็มไปด้วบยความโกรธมากขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง

เวลาใกล้จะหมดแล้ว ? ลีน่ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเธอเห็นการแสดงออกที่สงบของซือเฟิง เขาหมายถึงอะไรกัน ?

อย่างไรก็ตามก่อนที่ลีน่าจะทันได้ไตร่ตรองเรื่องนี้ ซือเฟิงก็ได้เก็บ Abyssal Blade ของเขาเข้าฝัก

“พวกคุณเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้สินะว่าฉันไม่สามารถจะโทษพวกคุณได้ที่มากลั่นแกล้งฉันด้วยจำนวนที่มากกว่า ฉันเห็นด้วยกับประเด็นนี้มากๆ” ซือเฟิงจ้องมองไปที่แซนด์สตอร์ม และผู้เล่นครึ่งมังกรคนอื่นๆ ก่อนที่เขาจะชักดาบยาวอีกเล่มหนึ่งที่ห้อยอยู่ข้างเอวของเขาออกมาและกล่าวว่า “ดังนั้นตอนนี้พวกคุณก็ไม่ควรโทษฉันเช่นกันที่จะกลั่นแกล้งพวกคุณด้วยจำนวนที่มากกว่า !!!”

หลังจากซือเฟิงพูดจบ ดาบทไวไลท์ในมือของเขาก็มีแสงสว่างไสวขึ้น จนแม้แต่ผู้ที่อยู่ห่างออกไปหลายพันหลาก็ยังสังเกตเห็นได้ชัด

เงาทไวไลท์ !!

ทไวไลท์แห่งเทพ !!

ในช่วงเวลาต่อมาร่างของซือเฟิงก็แยกออกมาอีกแปดร่าง ซึ่งร่างทั้งหมดนี้ก็ดูเหมือนกับเขาแทบจะหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์เลย