ปิงหวูชิงกำลังหวังพึ่งพาจักรพรรดิกลืนอสูรให้รับมือกับพวกเขาอีกครึ่งชั่วโมงนางจะยกเลิกสัญญาเทพในเวลาสำคัญเช่นนี้หรือ?
มันจะต้องเป็นเรื่องตลกไม่ใช่รึ?มันแปลกมาก!
ซือหยูซัดจักรพรรดิกลืนอสูรด้วยกระบี่อีกครั้งแต่ในครั้งนี้ ก่อนที่จักรพรรดิกลืนอสูรจะคืนชีพ ซือหยูได้ขว้างมุกบาดาลไปยังทิศทางของเขา
มุกบาดาลขยายขนาดเป็นร้อยศอกกดทับจักรพรรดิกลืนอสูรจากเบื้องบน
เมื่อจักรพรรดิกลืนอสูรกลับมามีชีวิตอีกครั้งและลืมตาเขาก็ตกใจเมื่อพบว่านอกจากหัว ทั้งตัวของเขาถูกกดทับเอาไว้ เขาขยับตัวไม่ได้เลย!
แต่เขาทำเป็นไม่สะทกสะท้าน
“เจ้าจับข้าไว้แล้วจะทำไม?ยังไงเจ้าก็ฆ่าข้าไม่ได้อยู่ดี!”
จักรพรรดิกลืนอสูรตะคอกเขาพ่นกระบี่พลังอสูรออกจากปากเตรียมจะซัดกะโหลกตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย หลังจากเขาตาย กะโหลกของเขาจะเป็นที่ก่อร่างของกายหยาบและดวงวิญญาณอีกครั้ง!
แต่ก่อนที่เขาจะได้ลงมือสายพลังกระบี่เงินได้เข้าแทงหน้าผากของเขา พลังกระบี่จมลึกสู่ดวงวิญญาณทำลายล้างวิญญาณ ครั้งนี้ ร่างกายของเขาก็ถูกทำลายไปด้วย
ถึงอย่างนั้นร่างกายของเขาก็ยังคงอยู่ซือหยูจงใจปรับพลังของมุกบาดาลไม่ให้ร่างของเขาถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้อ
ต่อมาเมื่อจักรพรรดิกลืนอสูรคืนชีพเขาลืมตาและพูดอย่างเย็นชา
“ทำแบบนั้นไปแล้วจะได้อะไร?”
ซือหยูไม่ตอบเขาสังหารอีกครั้งด้วยกระบี่!
จักรพรรดิกลืนอสูรหงุดหงิด “นี่มันไร้ความหมาย!”
เขาได้รับคำตอบเป็นอีกหนึ่งกระบี่
มันเกิดขึ้นราวห้าครั้งจักรพรรดิกลืนอสูรตระหนักได้แล้วว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาเริ่มกระวนกระวาย
มันจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้เขาพยายามฆ่าตัวตายอีกครั้งเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระและฟื้นคืนชีพตัวเองกลับมาใหม่
แต่ทันทีที่เขาคืนชีพเขาก็ถูกซือหยูฆ่าตายอีกครั้งจนไม่มีเวลาตอบโต้
จนเมื่อเขาถูกฆ่าครั้งที่สิบจักรพรรดิกลืนอสูรเริ่มหวาดกลัว เขาคำราม
“เจ้าจะทำบ้าอะไรกัน?”
“ข้าจะทำให้ปิงหวูชิงยกเลิกสัญญาเทพกับเจ้ายังไงล่ะ!”
ซือหยูตอบอย่างไร้อารมณ์ก่อนจะฆ่าเขาอีกครั้ง
เมื่อคืนชีพจักรพรรดิกลืนอสูรตะโกน “นายท่านต้องการข้า!นางจะไม่มีวันล้มเลิกสัญญา!”
“หึหึแต่จะเกิดอะไรขึ้นเล่าถ้านายเจ้าคืนชีพเจ้าไม่ได้ตลอดกาล? การคืนชีพไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ การคืนชีพเจ้าหลายครั้งย่อมกินพลังของจิตวิญญาณเทพไม่ใช่รึ?”
ซือหยูยกกระบี่ขึ้นอีกครั้ง
ซือหยูเคยพยายามคืนชีพคนมาก่อนมันย่อมมีราคา นั่นทำให้เขามีผมขาวจนถึงวันนี้
จักรพรรดิกลืนอสูรลืมตาครั้งนี้มีความตื่นตระหนกให้เห็น เขาตะโกนลั่น
“แล้วยังไงเล่า?นายท่านคือเทพอสูร! คืนชีพข้าใช้จิตวิญญาณเทพเพียงน้อยนิดเท่านั้น!”
“ถ้านางมีพลังเต็มที่ฆ่าเจ้ากี่ครั้งก็มิอาจทำอันตรายนางได้ แต่จิตวิญญาณเทพนางยังอ่อนแอ ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าหมากิเลนเลย เจ้าคิดว่านางจะทนคืนชีพเจ้าได้อีกกี่ชีวิตกัน?”
ซือหยูโต้แย้งเขายกกระบี่ขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นความกลัวในดวงตาจักรพรรดิกลืนอสูร…
เทพกิเลนตัวสั่นมันกัดฟันแน่น
“เจ้าหนูข้าเพิ่งจะได้ยินคำเรียกที่ไม่น่าประทับใจไปนะ”
หมากิเลนคือสิ่งมีชีวิตใหม่ที่ซือหยูเป็นผู้ตั้งชื่อ
ซือหยูหัวเราะเบาๆ อีกครั้งราวกับไม่มีใครอยู่รอบกายเขาเมื่อซัดกระบี่ใส่จักรพรรดิกลืนอสูรซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้าของจักรพรรดิกลืนอสูรไม่มีความอวดดีอยู่อีกแล้ว มันแทนที่ด้วยความกลัวเพียงเท่านั้น
“อย่าน…”
เขาตายอีกครั้งตั้งแต่ยังพูดไม่จบ
เมื่อถูกฆ่าไปร้อยชีวิตในที่สุดก็มีเสียงถอนหายใจดังตามมา
“เฮ้อเหตุใดจะต้องเป็นเจ้า ที่มาเป็นศัตรูกับข้ากัน?” ปิงหวูชิงพูดด้วยความเศร้าหมอง
“ถ้าข้ารู้เร็วกว่านี้ข้าคงจะจบชีวิตเจ้าตั้งแต่ในตำหนักโลหิตไปแล้ว”
อุปสรรคที่เกิดจากซือหยูนั้นเหนือกว่าที่นางคาดคิด
ฟึ่บ!
ที่หน้าผากของจักรพรรดิกลืนสอูรหยดโลหิตสีทองได้หมุนเป็นเกลียวพุ่งออกมา มันกลับเข้าสู่ร่างของปิงหวูชิง จักรพรรดิกลืนอสูรหน้าซีดในเสี้ยววินาที เขาเหมือนกับเหยื่อเคราะห์ร้ายที่ตกลงสู่ก้นบึ้ง เขาร้องคำรามด้วยความหวาดกลัว
“ไม่นะนายท่าน ข้า…ข้ายังมีประโยชน์กับท่าน!!”
ฉั่วะ!
เสียงพูดของเขาดับลงไปพร้อมกับร่างกายที่บิดเบี้ยวแสงประกายจากดวงตาเลือนหาย เขามิอาจกล่าวคำใดได้อีกแล้ว
“หึถึงจะมีพลังเทพอสูร ข้าก็เอาไปใช้ได้ไม่ดีนัก”
ปิงหวูชิงพูดอย่างเรียบเฉยเมื่อจบชีวิตผู้ที่ภักดีต่อนาง
ซือหยูเรียกมุกบาดาลกลับแววตาเขาแข็งกร้าว
“ถึงคราวเจ้าแล้วท่านเทพอสูร! เจ้าคิดว่าเจ้าจะทนไปได้สักแค่ไหน?”
การโจมตีอย่างต่อเนื่องของฮั่นเฟยและอีกสองลคนทำให้ร่างของปิงหวูชิงชุ่มโชกไปด้วยเลือดจำนวนบาดแผลบนร่างนั้นมิอาจนับ
“นานพอที่จะจัดการพวกเจ้าล่ะนะ”
ปิงหวูชิงตอบแม้จะมีสภาพย่ำแย่
ซือหยูพยักหน้ายอมรับ
“แน่นอนก็จริง ๆ เจ้าเทพอสูรไม่ได้มีบาดแผลเลยนี่”
อะไรกัน?ฮั่นเฟยกับอีกสองคนที่กำลังจู่โจมหยุดทันที ทั้งสามหันมาจ้องซือหยูหวังว่าเขาจะพูดคำเดิมซ้ำสอง ปิงหวูชิงต่อหน้าพวกเขาทั้งอ่อนแอและเปราะบางนางมีบาดแผลและเลือดเต็มตัวและดูอ่อนแอกว่าที่เคยเป็น
ซือหยูหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่านางไร้บาดแผล?
ปิงหวูชิงมองซือหยูโดยไม่พูดอะไร
“ท่านเทพอสูรจะดีหรือที่หลอกเหล่าหนุ่มสาวที่มุ่งมั่นอยู่เช่นนี้?”
ซือหยูคว้าไม้เท้าเซียนมณีที่ปิงหวูชิงแห่งเขาอสูรถืออยู่เขากำมือสร้างรอยแตกอีกรอย
รอยแยกไม่ได้ปรากฏเพราะซือหยูใช้มันแต่เป็นเพราะไม้เท้าถูกใช้งาน
“ทุกคนรวมถึงหมากิเลนละเลยไม้เท้ารวมถึงละเลยว่าใครคือเจ้าของมัน เจ้าเองก็ละเลยมันเพื่อใช้พลังชำระล้างของมัน!”
ซือหยูลูบไม้เท้าด้วยมือ
โลหิตสีทองที่บางเท่าเส้นผมได้ถูกขับออกมาจากไม้เท้า
หมากิเลนไม่สิ เทพกิเลนเบิกตากว้าง “เป็นไปไม่ได้!ข้าชำระล้างไม้เท้าเซียนไปนานแล้ว ยังมีโลหิตของนางเหลืออยู่ได้ยังไง?”
“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าผู้ใดคือเจ้าของสิ่งนี้?”
ซือหยูมองปิงหวูชิงด้วยความรู้สึกผิดเป็นครั้งแรกนางอยู่ภายใต้การควบคุมของอสูรมาตลอดชีวิต ชีวิตนางถูกใช้โดยไม่รู้ตัว นางถูกแอบใช้โลหิตตัวเองเพื่อชำระล้างไม้เท้าให้กับเทพอสูร
ร่องรอยของเจ้าของไม้เท้าถูกขับออกไปเทพอสูรตกใจเล็กน้อย นางตัวสั่น ผิวเปลือกนอกได้สลายหายไป
ไม่นานหลังจากนั้นฮั่นเฟยกับอีกสองคนก็หัวใจหยุดเต้น ทุกคนได้เห็นร่างของปิงหวูชิงที่ไร้รอยขีดข่วน!
ทุกบาดแผลของนางถูกไม้เท้าเซียนมณีชำระล้างนางแอบใช้ไม้เท้าอยู่ตลอดเวลา!!