หลิน ชูจิ่วกลืนคำพูดที่เหลือของเธอกลับลงไป เพราะเธอก็มั่นใจว่าถ้าเธอบอกส่วนที่เหลือกับเสี่ยวเทียนเหยา เขาจะกินเธอทั้งเป็น
แต่… …
แม้ว่าหลิน ชูจิ่วจะไม่ได้พูดอะไร แต่เสี่ยวเทียนเหยา ก็รู้มาตลอด“ผู้หญิงที่ไม่จริงใจ……ไม่น่ารักเอาเสียเลย”
เสี่ยวเทียนเหยาไม่ได้ปล่อยหลิน ชูจิ่วไป เขากดไหล่ของเธอลงแล้วพูดขึ้น“เปิ่นหวางขี้เกียจเกินไปที่จะใส่ใจเจ้า นั่งลง”
หลิน ชูจิ่ว ถูกบังคับให้นั่งบนเก้าอี้โดยเสี่ยวเทียนเหยา แต่ก่อนที่หลิน ชูจิ่ว จะสามารถตอบสนองอะไรได้ เสี่ยวเทียนเหยาก็หยิบผ้าเช็ดผมขึ้นมาแล้วก็เอามาคลุมไว้ที่ผมของเธอ……
ความร้อนเพียงเล็กน้อยกระจายออกมาและผมของเธอก็แห้งในทันที หลิน ชูจิ่ว ช่วยไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับสิ่งนี้
ในความเป็นจริงเสี่ยวหวางเย่ก็มีด้านที่น่ารักอยู่ เธอไม่จำเป็นต้องประหม่ามากจนเกินไป
เสี่ยวหวางเย่ดีกับเธอมากและผมของเธอก็แห้งในทันที
“ ทีนี่ เจ้าจะตอบแทนเปิ่นหวางได้อย่างไร?” เสี่ยวเทียนเหยาโน้มตัวไปข้างหน้าและกดตัวเองลงไปกลับแผ่นหลังของหลิน ชูจิ่ว
หลิน ชูจิ่ว คิดว่าเธอเพิ่งจะถูกเสี่ยวเทียนเหยา แกล้ง เธอจึงโกรธมาก และก็พูดด้วยใบหน้าที่หนาๆ ขึ้น “จูบเป็นอย่างไร?”
หลิน ชูจิ่วคิดว่าข้อความนี้จะทำให้เสี่ยวเทียนเหยา กลัวจนจากไป แต่ใครจะคิดว่าเขาจะจริงจังกับมัน“ เปิ่นหวางมีความลังเลที่จะกินความสูญเสียเช่นนั้น การจูบก็… .. ”
เมื่อคำพูดของเขาหลุดออกมา เสี่ยวเทียนเหยาก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้หลิน ชูจิ่วได้พูดอะไรอีก ก่อนจะอุ้มนางขึ้น
“ อ๊ะ…” หลิน ชูจิ่วตกใจ เธอกอดเสี่ยวเทียนเหยา โดยสัญชาตญาณในขณะที่ร่างของเธอหมุนไปรอบๆ เสี่ยวเทียนเหยากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และในขณะที่เธอเปลี่ยนมานั่งอยู่บนตักของเขา
“หวางเย่ …” หลิน ชูจิ่ว เพิ่งจะเปิดปากของเธอ แต่ก็ถูกปิดโดยริมฝีปากของเสี่ยวเทียนเหยา หลังจากเขาพูดขึ้น“ไม่ว่าการชดใช้จะเป็นการจูบหรือไม่ เปิ่นหวางจะเป็นคนตัดสินเอง”
“ อืม…” หลิน ชูจิ่วดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็พบว่าร่างกายของเธอไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ เธอจึงตกลงไปในอ้อมแขนของเสี่ยวเทียนเหยาแทน
“ ดี…แค่ผ่อนคลาย” เสี่ยวเทียนเหยาจูบริมฝีปากของหลิน ชูจิ่วอีกครั้งจากนั้นเขาก็เปิดปากของหลิน ชูจิ่วด้วยลิ้นของเขาอย่างช้าๆแล้วพยายามแลกลิ้นกับเธอ
“ อืม…” หลิน ชูจิ่วผู้ซึ่งไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนจึงถูกโจมตีโดยเสี่ยวเทียนเหยาได้อย่างง่ายดาย และด้วยการจุมพิตของเสี่ยวเทียนเหยา หลิน ชูจิ่วจึงไม่สามารถต้านทานได้ เธอสามารถทำได้เพียงรอคอยความเมตตาจากเขาเท่านั้น
ใครจะรู้ว่าพวกเขาจูบกันอยู่นานแค่ไหน แต่เมื่อหลิน ชูจิ่ว รู้สึกว่าเธอกำลังหายใจไม่ออก เธอก็คว้าไปที่ไหล่ของเสี่ยวเทียนเหยา โดยไม่รู้ตัวและจูบตอบเขาในทันที
ด้วยการตอบสนองของหลิน ชูจิ่ว จึงทำให้เสี่ยวเทียนเหยา กลายเป็นคนเอาแต่ใจมากขึ้น …
เมื่อหลิน ชูจิ่วกำลังจะตายจากการขาดอากาศหายใจ ในที่สุดเสี่ยวเทียนเหยาก็ปล่อยเธอ
หลังจากที่จุมพิตหลิน ชูจิ่วก็สูญเสียพลังงานชีวิตทั้งหมดของเธอไป แก้มของเธอแดง ในขณะที่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ลึกลับ … …
เมื่อมองไปที่ริมฝีปากที่บวมและชุ่มชื่นของหลิน ชูจิ่ว เสี่ยวเทียนเหยาก็ช่วยไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเบาๆ “เปิ่นหวางชอบของขวัญขอบคุณของเจ้ามาก แต่หลังจากนี้……อย่าใช้คำเหล่านั้นอีกเป็นอันขาด”
“ข้าจะไม่พูดอีก…” หลิน ชูจิ่วที่ไม่มีพละกำลังตอบขึ้นเบา ๆ และก้มหน้าลงไปหยิบหน้าอกของเสี่ยวเทียนเหยา เหมือนเด็กที่เอาแต่ใจ
เสี่ยวเทียนเหยาไม่ได้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย เขาเหยียดแขนออกมาและเช็ดไปที่ริมฝีปากอันชุ่มชื่นของหลิน ชูจิ่ว จากนั้นเขาก็อุ้มนางขึ้น “นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว ไปที่ห้องนอนแล้วนอนกันเถอะ”
“นอนหรือ? ไม่ใช่ว่าท่านจะจากไปหรอกหรือ?” เมื่อหลิน ชูจิ่วได้ยินคำพูดของเขา สติของเธอก็กลับมาทันที
เธอ เธอดูเหมือนจะประมาทและเรียกหมาป่าตัวใหญ่ออกมาเสียแล้ว
“เหตุใด? เปิ่นหวางต้องจากไปด้วย” เสี่ยวเทียนเหยาเดินต่อไปอย่างต่อเนื่องแล้ววางหลิน ชูจิ่วลงบนเตียง เมื่อเห็นการแสดงออกอันสับสนของหลิน ชูจิ่ว เขาก็พูดติดตลกขึ้น “ไม่ใช่ครั้งแรก ทำไมเจ้าถึงต้องเขินอาย”
“ ท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? มันจะเป็นเช่นครั้งก่อนได้อย่างไร” เธอนอนหลับทุกครั้งที่เสี่ยวเทียนเหยามา เธอไม่รู้อะไรด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ …
เธอดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อย!