ภาคที่ 33 กลับชาติมาเกิด ตอนที่ 16 ชาตินี้ ใช้หอกยาวอีก

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ตอนที่ 16 ชาตินี้ ใช้หอกยาวอีก Ink Stone_Fantasy

“ข้าขอหยิบมาดูหน่อย” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยขึ้น ตัดตอนคำสาธยายยาวเหยียดที่ผู้ดูแลร้านเตรียมตัวจะพูด

“เชิญขอรับ” พ่อบ้านกล่าว

ตงป๋อเสวี่ยอิงจึงยื่นมือออกไปคว้าหอกยาวเล่มนั้น เหนือผิวของหอกยาวมีรอยอักขระจำนวนนับไม่ถ้วน เมื่อกุมด้ามหอกเอาไว้ก็รู้สึกสบายนัก

ทันทีที่คว้าหอกยาวไว้ ด้ามหอกก็ประหนึ่งมังกร และส่งเสียงเหมือนปืนลั่นออกมา

พ่อบ้าด้านข้างเห็นเข้าก็ลอบร่ำร้องในใจ “คุณชายน้อยเสวี่ยอิงผู้นี้เหมือนจะเข้าใจวิถีหอกด้วยอย่างนั้นหรือ”

มือซ้ายของตงป๋อเสวี่ยอิงจับปลายสุดของด้ามหอกเอาไว้ มือขวาก็ลูบด้ามหอกเบาๆ ความรู้สึกคุ้นเคยแผ่ซ่านอยู่ในใจ ก่อนหน้าจะกลับชาติมาจุติ ตนก็ได้แก้ไขวิถีโลกเทียมเอง เขตลวงของโลกเทียมนั้นไม่เหมาะจะใช้หอกยาวห้ำหั่นประชิดตัว ดังนั้นตนจึงใช้หอกยาวการต่อสู้ประชิดตัวมานานแล้ว มาภายหลังกลับละทิ้งการต่อสู้ประชิดตัวไป

แต่เมื่ออยู่ในดินแดนจิตโลกา ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับตัดสินใจว่าจะแก้ไขทั้งสองเส้นทาง เส้นทางหนึ่งยังคงเป็นเส้นทางของเขตลวงโลกเทียม ซึ่งตนมีพรสวรรค์สูงมากอยู่แต่เดิมแล้ว ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งก็คือเส้นทางอากาศนั่นเอง! เพราะถึงอย่างไรเดิมทีตนก็สั่งสมเอาไว้อย่างหนาแน่นมาก่อนแล้ว เขาได้รับวิชาสืบทอดจากบรรพชนห้วงอากาศและจักรพรรดิเก้าเมฆา ทั้งยังมีเกราะของแม่ทัพโม่กู่ให้ได้รับรู้อีก นอกจากนี้เขายังไปรับรู้ในทางเดินโลกาพิศวงเป็นล้านล้านปี…เมื่อมีพื้นฐานเหล่านี้ รวมทั้งขณะที่ส่งถ่ายด้วยป้ายคำสั่งจิตโลกาได้สัมผัสถึงวิธีการใช้อากาศอีกอย่างหนึ่ง บวกกับในดินแดนจิตโลกา ตนก็ได้คารวะเข้าร่วมสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์อีกด้วย

ดังนั้นย่อมบำเพ็ญทั้งสองสายควบคู่กันไปเป็นธรรมดา!

วิชาเมฆทักษิณาทิพย์สิบสองกระบวนท่า…ก็คือศาสตร์ลับต่อสู้ประชิดตัว! โดยทั่วไปสามารถใช้ร่างกายเป็นอาวุธได้ ทว่าก็สามารถใช้อาวุธอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน

“ชาตินี้ก็ใช้หอกยาวอีก” ตงป๋อเสวี่ยอิงพึมพำเบาๆ

“วิ้ง”

จากนั้นเขาก็ใช้ความคิดแทรกซึมเข้าไปยังหอกยาวในมือ ก่อนหน้านี้ก็เป็นกลิ่นอายของหอกยาวนี้นั่นเองที่ดึงดูดเขา ครั้งนี้เขาจะต้องตรวจสอบให้ละเอียดยิ่งขึ้น

“ตู้มมม…” เมื่อตงป๋อเสวี่ยอิงแทรกซึมเข้าไป ก็มองเห็นบันไดน้ำวนดำมืดขนาดมหึมาอยู่แห่งหนึ่ง บันไดลึกเข้าไปอย่างไม่ขาดสาย มิติก็พิสดารยากทำนายมากยิ่งขึ้น อากาศของดินแดนจิตโลกานั้นคล้ายคลึงกับอากาศของโลกกำเนิดที่ตนจากมาอยู่หลายส่วน ดังนั้นตงป๋อเสวี่ยอิงจึงสามารถเข้าใจความพิสดารบางส่วนของระดับลึกล้ำอย่างยิ่งได้อย่างสิ้นเชิง

เมื่อตงป๋อเสวี่ยอิงเสาะหา บันไดน้ำวนที่เขาสัมผัสรับรู้ก็ลงลึกเข้าไปไม่หยุดหย่อนอย่างรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ รอยอักขระบนด้ามหอกสว่างวาบขึ้นมา

ทันใดนั้นทั้งหมดก็พลันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้วแล้วมองไปยังปลายหอกยาว ด้ามหอกยาวนั้นเป็นด้ามหอกสีเทาที่ธรรมดาสามัญมาก ปลายหอกกลับเป็นปลายหอกสีม่วงซึ่งแผ่กลิ่นอายทำลายล้างอันโหดเหี้ยมออกมา

“หัวหอกนี้มิได้เป็นหนึ่งเดียวกับด้ามหอกหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยปาก

“คุณชายเสวี่ยอิงสายตาหลักแหลมนัก” ผู้ดูแลด้านข้างเอ่ยขึ้น “พวกเราได้เชิญบุคคลผู้สูงส่งมาตรวจดูแล้ว อาวุธลับล้ำค่าชิ้นนี้น่าจะหลอมขึ้นโดยเทพจักรวาล หัวหอกนี้มีการเสริมขึ้นในภายหลัง แต่ก็โหดเหี้ยมเหิมเกริมพอตัวทีเดียว”

ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับส่ายหน้าน้อยๆ

โหดเหี้ยมเหิมเกริมหรือ

ด้ามหอกและหัวหอกดั้งเดิมน่าจะสามารถสำแดงท่าไม้ตายอากาศที่น่าหวาดหวั่นอย่างยิ่งกระบวนหนึ่งได้แล้ว! นอกจากนี้ จะต้องเป็นกระบวนท่าระดับเทพจักรวาลอย่างแน่นอน การใช้อากาศเช่นนี้ ตงป๋อเสวี่ยอิงไม่เคยเห็นเสียด้วยซ้ำไป หากเป็นหอกยาวที่สมบูรณ์…ตงป๋อเสวี่ยอิงรู้สึกว่า ต่อให้นำทั้งจวนโหวหั่วเลี่ยออกไปแลกเปลี่ยนก็คุ้มค่า

น่าเสียดายที่เหลือเพียงด้ามหอกเท่านั้น มูลค่าจึงลดลงเป็นอย่างมาก แม้จะเสริมหัวหอกเข้ามาในภายหลังแต่กลับธรรมดาสามัญเสียแล้ว

“คุณชายเสวี่ยอิง” ผู้ดูแลกล่าว “อาวุธลับล้ำค่าชิ้นนี้สูญเสียหัวหอกไป แต่หัวหอกที่เสริมขึ้นภายหลังนี้ก็ใช้กันมาเป็นล้านล้านกัลป์แล้ว อารุภาพไม่ธรรมดา ที่สำคัญก็คือราคาถูกมาก แค่สิบสองล้านแก้วผลึกจักรวาลเท่านั้น!”

เขาจ้องมองตงป๋อเสวี่ยอิง

สิบสองล้านแก้วผลึกจักรวาล…ผู้ที่สามารถซื้อได้ในเมืองอัคคีโชติคาดว่าคงจะนับได้ในไม่เกินสองมือเท่านั้น! คุณชายน้อยเสวี่ยอิงที่ว่ากันว่าแม่เฒ่าอิงซานให้ความสำคัญเป็นอย่างมากผู้นี้น่าจะสามารถซื้อได้

“สิบสองล้านแก้วผลึกจักรวาลรึ” ผู้อาวุโสเถียนอี้จือที่อยู่ด้านข้างแค่นเสียงเฮอะ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิบสองล้านแก้วผลึกจักรวาลคือเท่าไหร่ สามารถซื้ออาวุธลับล้ำค่าที่สมบูรณ์ดีเล่มหนึ่งได้แล้วนะ”

ดินแดนจิตโลกามีเทพจักรวาลมากมาย สมบัติลับและอาวุธต่างๆ กลับพบเห็นได้บ่อยกว่าโลกทิพย์ของอากาศอันสับสนอลหม่านเสียอีก

ตงป๋อเสวี่ยอิงมองดูอยู่ข้างๆ

ราคาน่ะหรือ

เมื่อวิเคราะห์ด้วยความสำเร็จด้านอากาศที่แล้วมาของเขา หอกยาวเล่มนี้มีที่มาไม่ธรรมดา ลำพังแค่ด้ามหอกก็มีมูลค่าเกินหนึ่งร้อยล้านแก้วผลึกจักรวาลแล้ว! คาดว่าร้านค้าแห่งนี้คงจะไม่เคยเชิญยักษ์ใหญ่ขั้นอลวนทางด้านอากาศมาดู มิเช่นนั้นแล้วคงจะไม่ตั้งราคาเช่นนี้เป็นแน่

ทว่าตงป๋อเสวี่ยอิงไม่มีทางรับราคาที่อีกฝ่ายตั้งมาง่ายๆ เนื่องจากทั้งเนื้อทั้งตัวของเขามีอยู่เพียงสิบห้าล้านแก้วผลึกจักรวาลเท่านั้น! หากพูดถึงความร่ำรวย เกรงว่าเขาคงจะจัดเป็นอันดับสามในจวนโหวหั่วเลี่ย

ในจำนวนนั้น แปดล้านแก้วผลึกจักรวาลเป็นแม่เฒ่าอิงซานที่มอบให้! สองล้านแก้วผลึกจักรวาลโหวหั่วเลี่ยเป็นผู้มอบให้ โหวหั่วเลี่ยมอบคูหา ร้านค้า ที่ดินให้เป็นจำนวนมาก คูหาและร้านค้าเหล่านั้นล้วนสามารถเก็บค่าเช่าได้ โดยทั่วไปคนตระกูลอ๋องโหวล้วนสามารถใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยได้ก็เพราะมีคูหาและร้านค้าอยู่ในมือ จึงมีแก้วผลึกจักรวาลมากมายใช้สอยได้ไม่ขาดมือ แม้จะน้อย แต่ต้องรู้ไว้ว่าแก้วผลึกจักรวาลก้อนหนึ่ง…มีมูลค่าเท่ากับศิลาอลวนชั้นยอดหมื่นก้อน จึงสามารถใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยได้แล้ว

ตงป๋อเสวี่ยอิงย่อมมั่นใจในตนเองเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดว่าตนจะต้องอาศัยคูหาและร้านค้าเหล่านั้นในการดำรงชีวิต จึงได้ขายคูหาและร้านค้าเหล่านั้นให้กับจวนโหวไปตั้งนานแล้ว และได้แก้วผลึกจักรวาลมาห้าล้านก้อน

บัดนี้ทั้งหมดก็มีแก้วผลึกจักรวาลเพียงสิบห้าล้านก้อนเท่านั้น!

มั่งคั่งกว่าผู้อาวุโสของจวนโหวหลายๆ คนเสียอีก!

“ผู้อาวุโสเถียน ไม่พูดแล้ว สิบล้านแก้วผลึกจักรวาล นี่คือราคาสุดท้ายที่เจ้านายข้าจะให้ได้แล้ว” ผู้ดูแลท่านนั้นพูดอย่างจนใจ “คุณชายเสวี่ยอิง ว่ากันตามตรงเถิด หอกยาวเล่มนี้ ค้นพบโดยผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่งที่ไปสำรวจโบราณสถานแห่งหนึ่งเมื่อสิบห้าปีก่อน พวกเขาโชคดีได้หอกยาวเล่มนี้มาแล้วยังเกิดการห้ำหั่นกันขึ้น ท้ายที่สุดมีเพียงสองท่านเท่านั้นที่ส่งหอกยาวมาให้ข้าที่นี่! นอกจากนี้ พวกเขายังถูกสหายที่ร่วมสำรวจโบราณสถานด้วยกันสังหารในร้ายของข้า ตอนนั้นวุ่นวายเป็นอันมาก ขอเพียงคุณชายเสวี่ยอิงสั่งให้คนมาสำรวจก็จะทราบเรื่องนี้แล้ว เจ้านายข้าวางแผนเอาไว้ก่อนแล้วว่า หากขายไม่ออกภายในระยะเวลาอันสั้น หลายล้านปีให้หลัง เขาจะกลับไปยัง ‘เมืองฟ้าทะมึน’ ของตระกูล ถึงตอนนั้นจะนำหอกยาวเล่มนี้ไปขายในเมืองฟ้าทะมึน ที่นั่นมียอดฝีมือมากกว่า ผู้ที่สามารถซื้อได้ก็มีมากกว่า”

ตงป๋อเสวี่ยอิงฟังแล้วก็พยักหน้าน้อยๆ เขาเชื่อว่านี่มิใช่เรื่องลวง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบห้าปีก่อนนี้ ตนสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย

“เอาล่ะ สิบล้านแก้วผลึกจักรวาล ข้าจะซื้อเอง” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า

“ขอรับๆ” ผู้ดูแลดีใจใหญ่

เจ้านายตนเป็นเพียงคนของ ‘ตระกูลเทียนยิน’ หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่เท่านั้น เขาถูกจัดให้มาดูแลการค้าอยู่ที่นี่ เมื่อขายได้ที่นี่ เจ้านายตนก็จะได้ประโยชน์มากทีเดียว หากส่งไปขายที่เมืองฟ้าทะมึน…ก็ต้องถูกคนในตระกูลช่วงชิงไป

“กำไรแล้วๆ นายท่านตั้งราคาต่ำสุดไว้ที่สิบล้าน ข้ายังคิดว่าจะขายไม่ออกเสียอีก! ตอนที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ ก็ซื้อมาเพียงสามล้านแก้วผลึกจักรวาลเท่านั้น” พ่อบ้านยินดีเป็นอันมาก ส่วนผู้ที่ไปสำรวจโบราณสถาน เสี่ยงอันตรายอยู่ภายนอกและใช้ชีวิตเป็นเดิมพันเหล่านั้นได้ไปสามล้านแก้วผลึกจักรวาลก็พึงพอใจมากแล้ว

เขากลับไม่รู้ว่า

อาวุธลับล้ำค่าที่ดูคล้ายจะไม่สมประกอบเล่มนี้ ด้ามหอกประกอบกับหัวหอกที่เสริมขึ้นภายหลัง อันที่จริงแล้วมูลค่าสูงกว่าร้อยล้านแก้วผลึกจักรวาลเสียอีก! เพียงแค่ในพื้นที่เล็กๆ ก็มีแต่โหวหั่วเลี่ยมาดูด้วยตนเองเท่านั้น  โหวหั่วเลี่ยผู้ไม่เชี่ยวชาญทางด้านอากาศก็ทำได้เพียงวิเคราะห์ว่าอาวุธลับล้ำค่าที่ไม่สมประกอบนี้หลอมขึ้นโดยเทพจักรวาล มิอาจเข้าใจถึงความล้ำค่าของมันได้อย่างแท้จริง

ไม่นานนัก ‘เทียนยินหลิวอวี้’ คนของตระกูลเทียนยินผู้นั้นก็เร่งมาด้วยตนเองเพื่อเจรจาการค้าครั้งนี้ให้ลุล่วง

“ฮ่าฮ่า คุณชายเสวี่ยอิง อีกไม่กี่วันข้าก็จะกลับเมืองฟ้าทะมึนแล้ว หากไปยังเมืองฟ้าทะมึนต้องบอกข้านะขอรับ ข้าจะรับรองเป็นอย่างดีแน่นอน” เทียนยินหลิวอวี้เบิกบานใจเป็นอันมาก ร้านค้าแห่งนี้ก็อยู่ภายใต้นามของเขา ก่อนหน้านี้ได้ใช้แก้วผลึกจักรวาลไปสามล้านก้อนเพื่อรับหอกยาวเล่มนี้เอาไว้ ก็แทบจะต้องทุ่มเทสมบัติทั้งหมดที่เขามีแล้ว เขาถึงขั้นนำสินค้าบางอย่างในร้านไปกู้ยืมแก้วผลึกจักรวาลมา

บัดนี้จู่ๆ ก็ได้กำไรเจ็ดล้านแก้วผลึกจักรวาลในพริบตา เทียนยินหลิวอวี้รู้สึกว่าตนไม่จำเป็นต้องรั้งรออยู่ในเมืองอัคคีโชติแล้ว แค่จัดลูกน้องเอาไว้ที่นี่ก็พอ เขาสามารถกลับเมืองฟ้าทะมึนได้แล้ว

เมืองฟ้าทะมึนมีเทพจักรวาลประจำการอยู่ ทั้งใหญ่โตและรุ่งเรืองกว่าที่นี่มาก

……

ตงป๋อเสวี่ยอิงก็นำหอกยาวเล่มนี้กลับไปยังจวนโหวด้วยความเบิกบานใจอย่างยิ่ง แล้วก็เข้าไปเก็บตัวในเจดีย์เทพอากาศ

ภายในเจดีย์เทพอากาศ

ตงป๋อเสวี่ยอิงนั่งอยู่บนศิลาก้อนใหญ่ซึ่งลอยคว้างอยู่กลางฟ้าพลางลูบไล้หอกยาวโบราณซึ่งมีกลิ่นอายโหดเหี้ยมเล่มนี้ด้วยความเบิกบานยินดีแทบล้นใจ เขาหวนนึกถึงคืนวันที่ตนฝึกหอกในตอนนั้น

“นี่คืออาวุธลับล้ำค่า ต่อให้สำเร็จเป็นเทพจักรวาลแล้วก็สามารถใช้งานได้” ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มน้อยๆ “จากนี้ไปเจ้าต้องอยู่เคียงข้างข้าไปอีกนานแล้ว”

“วิ้ง”

หอกยาวเปล่งเสียงโหยหวนออกมา ในฐานะอาวุธลับล้ำค่าย่อมมีวิญญาณอยู่เป็นธรรมดา

ตงป๋อเสวี่ยอิงยิ้มน้อยๆ ความรู้สึกที่ได้ใช้หอกยาวอีกครั้งก็ทำให้เขาเบิกบานมาก จากนั้นก็เริ่มรวบรวมสมาธิขึ้นมา “ควรบรรลุถึงขั้นรวมเป็นหนึ่งได้แล้ว”

 ………………………………….