ตอนที่ 658 คืนเงิน

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 658

คืนเงิน

“พวกท่านไปพักกันก่อนนะเจ้าคะ เซี่ยจินเย่ อาทู้พวกเจ้ามาพักห้องใกล้ๆกับห้องข้าก็แล้วกัน”หลู่เซียงพาพวกหลินเฟยเข้าไปในตัวบ้านพร้อมสั่งให้บ่าวรับใช้จัดที่พักตามจำนวนแขกให้เรียบร้อยโดยให้เซี่ยจินเย่และอาทู้มาพักกับตนเองส่วนหลินเฟยที่เป็นผู้ชายนั้นแยกออกไปพักอีกฝั่งหนึ่ง

บ้านของหลู่เซียงนั้นใหญ่โตสมเป็นเจ้าของร้านขายรถยนต์ไม่น้อย ทั้งข้าวของเครื่องใช้ อาหารที่เตรียมเอาไว้ให้ต่างสมบูรณ์พร้อมไม่มีอะไรให้ตำหนิ แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกอีกด้วยที่พวกเซี่ยจินเย่และอาทู้ได้พักแบบดีๆในอาณาจักรไป๋หลังจากโดนขังอยู่บนยอดเขามานาน แน่นอนว่าเซี่ยจินเย่ได้ไปพักที่วังของตระกูลไป๋มาแล้ว แต่วังนั้นก็สร้างตั้งแต่สมัยรวมเขตอสูรผาไร้ก้นใหม่ๆเลยต่างจากบ้านเรือนในเมืองที่ใช้การปลูกสร้างที่แปลกตาไปจากสมัยเก่ามาก ทำให้ทั้งสองสาวได้รับความตื่นตาตื่นใจกับสิ่งของต่างๆในบ้านไม่น้อย ตั้งแต่ทีวียันเครื่องทำน้ำอุ่นที่ทำให้พวกนางสามารถแช่น้ำร้อนในบ้านได้โดยไม่ต้องเดินทางขึ้นไปบนเขาที่มีบ่อน้ำพุร้อน

“พี่หลู่เซียง แบบนี้พี่ก็ไม่ต้องกลับไปทำใจที่ยอดเขาอีกแล้วสิ”อาทู้ถามพลางนั่งลงบนเตียงในห้องของตนที่หลู่เซียงให้คนใช้จัดเอาไว้ให้

“ข้าอาจจะต้องไปทำใจอีกรอบเพราะรับความโง่ของตัวเองไม่ได้นี่ล่ะ”หลู่เซียงถอนหายใจออกมาพลางนั่งลงข้างๆอาทู้ด้วยท่าทียิ้มแย้ม พอรู้ว่าตนเองทำอะไรลงไปแล้วมานึกย้อนเอาในตอนนี้ก็อดรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวไม่ได้ นางในตอนนี้แทบจะไม่รู้จักตัวเองตอนที่งมงายในความรักที่มีให้ปากุนเลย

“คิกๆ อย่างน้อยท่านก็ตาสว่างแล้วนี่เจ้าคะ”อาทู้หัวเราะด้วยท่าทีสบายใจ เท่านี้นางก็พิสูจน์ได้แล้วว่าผู้ชายที่ดีกว่าปากุนนั้นมีตั้งมากมาย แน่นอนว่าอาจารย์ของนางเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

“นั่นสินะ พอได้เห็นยอดชายจริงๆแล้วข้าถึงได้ทราบว่าแท้จริงแล้วผู้ชายอย่างปากุนนั้นต่ำช้าแค่ไหน นี่อาทู้ เซี่ยจินเย่ อาจารย์ของพวกเจ้ายังโสดอยู่หรือเปล่า”ได้ยินคำถามของหลู่เซียง ทั้งอาทู้ทั้งเซี่ยจินเย่ก็มีท่าทีพูดไม่ออกทันที พวกนางดูตกใจมากไม่คิดว่าหลู่เซียงจะพูดแบบนี้ออกมา

“เท่าที่พวกเรารู้อาจารย์ยังโสดอยู่เจ้าค่ะ”อาทู้ตอบด้วยท่าทีอึ้งๆ หรือว่าหลู่เซียงคนนี้จะสนใจอาจารย์ของพวกนางเสียแล้ว ไม่ได้….นางแค่อยากให้อาจารย์มาพิสูจน์ความเชื่อของตัวเองเท่านั้นไม่ได้คิดจะให้หลู่เซียงมาสนใจอาจารย์เสียหน่อย

“แต่….อาจารย์เหมือนจะไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆนะเจ้าคะ”เซี่ยจินเย่ที่นานๆจะพูดทีคราวนี้กลับอ้างเหตุผลออกไปอย่างทันควัน แต่สิ่งที่นางพูดก็เป็นความจริงนางไม่เคยเห็นหลินเฟยเกี่ยวข้องกับผู้หญิงมาก่อนเลย ทั้งๆที่อาจารย์เองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีสาวมอง ทั้งบุตรสาวของร้านตระกูลชุน ทั้งพนักงานในร้าน แม้แต่คนรอบๆสำนักที่ได้ทราบแล้วว่าแท้จริงอาจารย์ของนางนั้นเป็นชายต่างก็มีท่าทีสนใจในตัวอาจารย์ไม่น้อย เวลาอาจารย์ไปเดินซื้อของในตลาดทำไมพวกเซี่ยจินเย่จะไม่เห็นว่าพวกสาวๆในตลาดพยายามเข้าหาอาจารย์แค่ไหน แต่ทุกครั้งอาจารย์ก็จะรับมืออย่างสุภาพและถอยห่างออกมาโดยไม่ให้สาวๆพวกนั้นบอบช้ำน้ำใจอีกต่างหาก

“ข้าก็แค่ถามเฉยๆทำไมพวกเจ้าต้องรีบตัดโอกาสข้านักเล่า”หลู่เซียงยิ้มบางๆออกมาพลางมองไปทางเซี่ยจินเย่ด้วยท่าทีหยอกล้อ ทำเอาเซี่ยจินเย่ที่ไม่ค่อยได้ออกตัวอะไรแบบนี้ชะงักไปทันที

“ข้ารู้หรอกน่าว่าคนอย่างข้าไม่คู่ควรหรอก ต่อให้ข้าสวยกว่านี้ ร่ำรวยกว่านี้ ก็คงไม่ทำให้อาจารย์ของพวกเจ้าสนใจเลยกระมัง”หลู่เซียงว่าพลางยิ้มเหงาๆออกมาให้ทั้งสองได้เห็น นางเองก็เป็นสาวงามใกล้วัยออกเรือน ไม่ใช่แค่ปากุนเท่านั้น เวลาไปไหนมาไหนก็มีคนมาจีบอยู่ตลอด แต่ท่าทีของหลินเฟยนั้นแม้จะมีหยอดคำหวานบ้าง แต่ก็วางตัวไม่เข้าหานางเลย หนำซ้ำหลังจากช่วยเหลือนางสำเร็จยังไม่พูดทักทวงบุญคุณอีกต่างหาก แม้จะไม่ชัดเจนนักแต่นางก็พอมองออกว่าหลินเฟยไม่ได้สนใจนางเลยแม้แต่น้อย

“พี่หลู่เซียง อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิเจ้าคะ”เซี่ยจินเย่ว่าพลางมองไปทางหลู่เซียงด้วยท่าทีสงสาร

“เจ้านี่อะไรกัน จะตัดโอกาสข้าหรือจะให้ความหวังข้าเอาสักอย่างสิ”หลู่เซียงส่ายหน้าพลางแซวเซี่ยจินเย่ด้วยท่าทีเอ็นดู นางอยู่กับหลินเฟยเพียงไม่นานยังใจสั่นไหวถึงเพียงนี้ พวกนางเป็นใครอยู่กับอาจารย์แทบจะตลอดเวลามีหรือจะไม่แอบคิดบ้าง เด็กพวกนี้ท่าทางจะหวงอาจารย์ของตนเองกันไม่น้อยเลยสิท่า

ปึงๆๆ!!!

ยังไม่ทันจะได้เข้านอนเพื่อพักผ่อน อยู่ๆที่หน้าบ้านของหลู่เซียงก็มีเสียงทุบประตูดังต่อๆกันหลายครั้งเหมือนคนทุบกำลังมีปมแค้นกับประตูไม่มีผิด

“หลู่เซียง เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้” น่าเสียดาย คนที่ทุบประตูเกรงว่าจะไม่ได้แค้นเคืองเพียงประตูเท่านั้น แต่มันกลับเป็นปากุนที่พึ่งโดนหลู่เซียงเตะไปเมื่อตอนกลางวันนั่นเอง

“เจ้าคนไร้มารยาท มาทำเสียงดังอะไรดึกๆดื่นๆที่บ้านข้า”หลู่เซียงยังไม่ทันได้ลงไป เสียงที่หน้าประตูก็ดังขึ้นพร้อมร่างของชายคนหนึ่งที่แต่งกายด้วยชุดที่หรูหราไม่น้อย มันผู้นั้นคือบิดาของหลู่เซียงนั่นเอง

“หลู่จงหัว ข้ามีเรื่องจะคุยกับบุตรสาวเจ้าไปเรียกนางออกมา”ปากุนพูดตอบกลับบิดาของหลู่เซียงด้วยท่าทีก้าวร้าวไม่เหมือนสมัยก่อนที่แทบจะคุกเข่าติดพื้นเป็นคนละคน

“เจ้าอันธพาลนี่ พวกเจ้าโยนมันออกไป”เดิมทีหลู่จงหัวไม่ได้ชมชอบปากุนอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะบุตรสาวหลงรักมันหัวปักหัวปำจนพูดอะไรก็ไม่ฟังมันคงเตะโด่งปากุนออกจากเมืองไปนานแล้ว ยิ่งมันทำให้บุตรสาวของมันเจ็บช้ำน้ำใจอีกยิ่งทำให้มันเกลียดปากุนเข้าไปใหญ่ ไม่มีทางที่มันจะยอมให้ปากุนมาพบบุตรสาวมันอีกครั้งแน่ๆ

“ขอรับนายท่าน”เหล่าคนเฝ้ายามบ้านตระกูลหลู่รับคำสั่งของนายท่านเตรียมตัวเข้าไปจัดการปากุนทันที เพียงแต่

โครม!

ร่างของเหล่ายามกลับโดนโจมตีจนล้มลงไปนอนกับพื้นกันถ้วนหน้า แถมคนโจมตียังมีเพียงคนเดียวเสียอีก

“หลู่จงหัว เจ้ากล้าทำร้ายคนรักของข้าอย่างนั้นหรือ”เสียงหวานของหญิงสาวนางหนึ่งดังขึ้นพร้อมร่างของอันแสนยั่วยวนของนางที่เดินเข้ามาพร้อมคนคุ้มกันอีกหลายคน คนของนางนั้นต่างมีฝีมือสูงกันทั้งสิ้น เรียกได้ว่าหากยกคนเหล่านี้ไปอาณาจักรซานคงยึดอาณาจักรได้ไม่ยากเลยทีเดียว

“คุณหนูผิงป๋อ….นี่ท่าน”หลู่จงหัวได้เห็นหญิงสาวคนที่มากับปากุนก็มีท่าทีตกใจทันที ผิงป๋อผู้นี้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลผิงซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ดั้งเดิมของแผ่นดินทางเหนือของอาณาจักรไป๋ หากถามว่านางยิ่งใหญ่แค่ไหนละก็ ระหว่างที่ไป๋จูเหวินกำลังจะแจกจ่ายอำนาจให้ประชาชนได้รับส่งต่อ ตระกูลผิงก็เป็นตระกูลหนึ่งที่ได้รับส่วนแบ่งมาเช่นกัน โดยตระกูลของนางนั้นรับซื้อโรงงานผลิตรถยนต์ของไป๋จูล่งมาครอบครอง หรือพูดง่ายๆก็คือร้านขายรถยนต์ของหลู่จงหัวก็คือร้านที่รับรถจากโรงงานของตระกูลผิงมานั่นเอง

“ใจเย็นๆหลู่จงหัว ข้าไม่ได้มาหาเรื่องเจ้า”ผิงป๋อว่าพลางเดินเข้าไปหาหลู่จงหัวด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย แม้หลู่จงหัวจะอายุมากกว่าและมีความเป็นอาวุโสกว่า แต่นางก็สามารถเรียกมันราวกับคนต้อยต่ำกว่าและเดินเข้าหาได้โดยไม่ต้องเกรงกลัว ตรงกันข้ามฝ่ายหลู่จงหัวต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายเกรงใจนางรีบก้มหน้าลงทันที

“คุณหนูผิงป๋อ ในเมื่อท่านไม่ได้มาหาเรื่องแล้วพาเจ้าอันธพาลนั่นมาทำไม”หลู่จงหัวถามพลางมองไปทางปากุนด้วยท่าทีไม่พอใจ เรื่องธุรกิจก็อีกเรื่องแต่สัตรูหัวใจของบุตรสาวมันก็ไม่อยากจะเกรงใจเหมือนกัน

“พูดจาระวังปากด้วย ชายคนนี้เป็นคนรักของข้า หากเจ้าด่ามันก็เหมือนกับด่าข้าไปด้วยนะ”ผิงป๋อว่าพลางเอื้อมมือไปจับแก้มของปากุนด้วยท่าทีเย้ายวน นางไม่มีท่าทีจะอายสายตาผู้อื่นเลยแม้แต่น้อย

“เจ้าอ….หมอนี่เนี่ยนะ”หลู่จงหัวยังไม่อยากจะเชื่อว่าปากุนคนนี้จะหลอกได้แม้กระทั่งคุณหนูผิงป๋อเลยจริงๆ แถมพอคุณหนูออกหน้าปกป้องมันเจ้าปากุนก็ยิ้มเยอะเย้ยหลู่จงหัวอย่างสะใจอีกต่างหาก

“หลู่จงหัว เรามาจัดการเรื่องของบุตรสาวเจ้าให้จบเถอะ”ผิงป๋อว่าพลางนำเงินปึกหนึ่งออกมาจากมิติของตนเอง ก่อนจะโยนมันลงตรงหน้าหลู่จงหัวอย่างกับตั๋วเงินพวกนั้นเป็นเศษกระดาษไม่มีผิด

“นี่คือเงินที่คนรักของข้าติดบุตรสาวของเจ้าเอาไว้ ข้าเอามาให้พิเศษสองหมื่นเหรียญทองเลย”ได้ยินผิงป๋อพูดเช่นนั้นหลู่จงหัวก็งุนงงไม่น้อย เรื่องที่บุตรสาวขอมันแอบให้เงินปากุนหยิบยืมนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ไม่นึกว่าคุณหนูผิงป๋อพอทราบเรื่องนี้จะยังมาคืนเงินให้เจ้าหมอนี่อีก นี่นางหลงมันมากแค่ไหนกัน

“นอกจากนี้ ข้าอยากจะพบคนที่ทำร้ายที่รักของข้าสักหน่อย ได้ข่าวว่าตอนนี้มันเป็นแขกของบ้านเจ้านี่”ผิงป๋อว่าพลางมองไปยังชั้นบนของตัวบ้าน เสียงเอะอะโวยวายตอนนี้ทำให้หลู่เซียง มารดาของนาง รวมทั้งพวกเซี่ยจินเย่ออกมาที่ประตูหน้าหมดแล้ว แต่กลับยังมีคนผู้หนึ่งที่ยังไม่ออกมาเสียที

“เจ้าคงหมายถึงข้าสินะ ผิงป๋อ”หลินเฟยที่คิดว่าอีกฝ่ายคงรู้แล้วว่าตนอยู่ที่นี่เดินออกมาจากตัวบ้านช้าๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่หลินเฟยจะไม่ได้ยินเสียงทุบประตูและเสียงต่อสู้กันที่หน้าบ้าน เหตุผลเดียวที่หลินเฟยไม่ออกมารับหน้าแทนก็เพราะ

“เป็นท่านจริงๆด้วย….”ผิงป๋อยิ้มหวานพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีเคลิบเคลิ้ม สายตาเช่นนั้นเป็นสายตาที่หลินเฟยได้เห็นมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เป็นสายตาของเหล่าหญิงสาวที่ตนเคยหลอกเอาไว้นั่นเอง