ตอนที่ 659 รับไม่ได้

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 659

รับไม่ได้

“งั้น ที่เจ้ามาที่นี่ก็เพื่อจะมาหาข้างั้นหรือ”หลินเฟยถามพลางเดินเข้าไปหาผิงป๋อด้วยท่าทีตึงๆ บอกตามตรงว่าหลินเฟยไม่อยากเจอพวกสาวๆที่ตนเคยคบหาเลย ยิ่งโดยเฉพาะต่อหน้าลูกศิษย์อย่างพวกอาทู้กับเซี่ยจินเย่แล้ว

“จะว่าแบบนั้นก็ได้บอกตามตรงข้ายังลืมท่านไม่ลงหรอกนะ”ผิงป๋อเดินเข้ามาใกล้หลินเฟยจนแทบจะชนกัน นางมองหลินเฟยด้วยสายตาโหยหาอย่างกับจะกระโจนเข้ามากอดให้ได้แต่นางกลับฝืนยิ้มยืนอยู่ห่างเพียงปลายนิ้วเท่านั้น

“ข้าเสียใจมากเลยนะ ตอนที่ท่านบอกว่าไม่ได้รักข้า ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าข้าเป็นยอดดวงใจแท้ๆ”ผิงป๋อพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับเรื่องที่ตนพูดเป็นเรื่องขำขัน แต่ดวงตาของนางกลับส่องประกายแววอำมหิตออกมาอย่างกับจะฆ่าหลินเฟยให้ตาย นางมีหลินเฟยเป็นรักแรก แต่ก็ถูกบอกว่าจริงๆแล้วหลินเฟยไม่ได้รักตนเองเลย แถมครอบครัวก็ทำอะไรไม่ได้ด้วยเพราะหลินเฟยเป็นหลานชายตระกูลไป๋ เพียงหลินเฟยยอมโดนลงโทษแค่ 10 ปีตระกูลของนางก็ยอมถอยแล้ว มือของนางไม่อาจรั้งหลินเฟยเอาไว้ได้ แต่คมเขี้ยวของนางก็ไปไม่ถึงหลินเฟยเช่นกัน ต่อให้รวมยอดฝีมือที่ตระกูลผิงของนางรวบรวมเอาไว้ก็คงทำอะไรหลินเฟยไม่ได้ ต่อให้ได้ตระกูลไป๋คงไม่อยู่เฉยแน่ๆหากนางทำร้ายหลินเฟยต่อให้อยู่ในช่วงลงโทษก็ตาม

“…….”ที่ด้านหลังของหลินเฟย เหล่าลูกศิษย์และหลู่เซียงเองก็กำลังมองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีประหลาดใจ สำหรับหลู่เซียงนั้นกลับมองเห็นดวงตาของผิงป๋อเหมือนยามตนเองยังรักปากุนไม่มีผิด นางในยามนี้หากหลินเฟยบอกรักนางแล้วขอให้นางกลับมาอยู่กับตนเองคงรีบตอบรับทันทีแน่ๆ นางเข้าใจดีเพราะนาเองก็เคยมีสายตาเช่นนั้นมาก่อน

“ท่านมันจอมโกหก”ผิงป๋อต่อว่าหลินเฟยอีกรอบก่อนจะหยิบเอามีดเล่มหนึ่งออกมาจากมิติของนางทำเอาพวกอาทู้รีบตั้งท่าเข้าจะเข้าไปช่วยหลินเฟยทันที แต่…

กึก….

มีดในมือของผิงป๋อชะงักอยู่ที่คอของหลินเฟยไม่ได้แทงลงไปแต่อย่างไรก่อนที่ผิงป๋อจะโยนมีดเล่นนั้นทิ้งไปด้วยตนเอง

“ข้ารู้หรอกว่าแทงท่านไปก็แทงไม่เข้า แต่ข้าก็แทงไม่ได้”ผิงป๋อพูดด้วยใบหน้าที่เริ่มมีหยดน้ำตาไหลออกมา นางยอมแลกทุกอย่างหากจะสามารถทำให้หลินเฟยกลับมารักนางได้ ต่อให้เป็นรักปลอมๆก็ตาม นางไม่อยากให้หลินเฟยทำเหมือนรู้สึกตัวว่าไม่ได้รักนางแบบนี้ อย่าทำเหมือนเป็นคนห่างคนไกลกันแบบนี้ จะคำโกหกก็ได้ ช่วยปลอบใจนางแล้วทำให้นางหน้ามืดตามัวอีกครั้งก็ยังดี

“ผิงป๋อ”หลินเฟยถอนหายใจออกมาพลางถอยห่างออกมาจากผิงป๋อนิดหน่อย ตอนนี้หลินเฟยไม่อาจทำตัวเป็นสุภาพบุรุษช่วยเช็ดน้ำตานางได้ เพราะหากทำแบบนั้นก็ยิ่งทำให้นางเจ็บช้ำน้ำใจเข้าไปใหญ่

“ข้าขอโทษ”หลินเฟยไม่ทราบจะพูดอย่างไรดี มันนึกออกแต่คำว่าขอโทษเท่านั้นเอง

“ท่านมันขี้โกง”ผิงป๋อเช็ดน้ำตาตัวเองช้าๆพร้อมมองหลินเฟยด้วยท่าทีเจ็บปวด หลินเฟยขอโทษแบบนั้นแล้วจะให้นางทำอย่างไรได้ ท่าทีสง่าผ่าเผยราวกับนางพญาของผิงป๋อยานี้ไม่เหลืออีกแล้ว แม้แต่หลู่จงหัวที่โดนผิงป๋อหาเรื่องเมื่อครู่ยังมองนางเปลี่ยนไป ท่าทางของนางตอนนี้เหมือนตอนที่บุตรสาวมาร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าตนเองไม่มีผิด

“ที่รัก ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า…”ปากุนที่อยู่ด้านหลังงุนงงไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้น คนรักของมันดันเข้าไปอ้อนวอนอีกฝ่ายเสียอย่างนั้น แล้วแบบนี้จะให้มันทำอะไรดีล่ะ

“เจ้าไม่ต้องมายุ่ง”ผิงป๋อพูดพลางมองไปทางปากุนด้วยท่าทีนิ่งเฉย ที่นางคบหากับปากุนนั้นเป็นเพราะปากุนเหมือนหลินเฟยตอนยังเจ้าชู้ไม่มีผิด เที่ยวหลอกผู้หญิงคนโน้นคนนี้ไปทั่ว แม้จะต่างกันนิดหน่อยตรงที่หลินเฟยไม่ได้หลอกเอาเงินจากผู้หญิงก็ตาม แต่พอเห็นผู้ชายแบบนี้เข้าผิงป๋อก็นึกแค้นเคืองหลินเฟยขึ้นมาทุกที แต่เดิมผิงป๋อเอาปากุนมาเป็นคนรักนั้นก็เพราะจะเลี้ยงดูมันสักครู่ ให้มันกร่างในเมืองนี้ให้เต็มที่แล้วค่อยตัดหางปล่อยวัดมัน ปล่อยให้มันโดนคนในเมืองนี้จัดการ ส่วนนางนั้นจะยืนมองและหัวเราะมันอยู่ด้านหลังพลางนึกเอาภาพหลินเฟยมาทับซ้อนกับตัวมัน แต่ก็ไม่นึกว่าจะได้เจอหลินเฟยตัวจริงก่อน น่าขำ พอได้เจอตัวจริงนางกลับแค้นหลินเฟยไม่ลงและเลิกคิดจะเอาปากุนมาเป็นตัวระบายความแค้นเสีย

“อะไรกัน ข้า….”ปากุนงุนงงอยู่พักใหญ่ แต่ไม่นานก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านหลังปากุนก่อนจะล็อกตัวปากุนเอาไว้แน่น

“เจ้าออกไปซะข้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าอีกแล้ว”ผิงป๋อว่าพลางบอกให้ผู้คุ้มกันของนางไล่ปากุนออกไป ตอนนี้ปากุนแค่มีเรื่องกับตระกูลหลู่และเจ้าของบ่อนเท่านั้น หากมันไม่โง่ก็หนีออกจากเมืองนี้ซะ เท่านั้นก็คงไม่โดนเล่นงานแล้ว

“คุณหนูผิงป๋อ เช็ดน้ำตาก่อนเจ้าค่ะ”หลู่เซียงเห็นเช่นนั้นก็พอเข้าใจการกระทำของผิงป๋อ นางเดินเข้าไปหาผิงป๋อก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับผิงป๋อด้วยท่าทีอ่อนโยน

“ขอบใจ”ผิงป๋อตอบพลางรับผ้าเช็ดหน้าจากหลู่เซียงมา ผิงป๋อคงต้องตกอยู่ในความเศร้าไปอีกสักพัก แต่สักวันนางคงสามารถทำใจได้แน่ๆ ยิ่งมีเพื่อนที่เข้าใจความรู้สึกของนางอย่างหลู่เซียงอยู่คงช่วยให้นางผ่อนคลายลงได้มาก

“ท่านหลินเฟย ข้ารักท่านจนทำร้ายท่านไม่ลงก็จริง แต่ข้าขอเตือนเอาไว้ ข้าได้ยินว่ามีบางคนที่แค้นท่านจนอยากจะฆ่าท่านให้ตายอยู่ หากเจอนางเข้านางคงโจมตีท่านโดยไม่สนใจอะไรแน่ๆ”ผิงป๋อเช็ดน้ำตาก่อนจะปรับท่าทีตนเองให้กลับมานิ่งสงบอีกครั้ง นางหันไปมองหลินเฟยก่อนจะกล่าวเตือนหลินเฟยด้วยท่าทีไม่เต็มใจนัก ในเหล่าหญิงสาวที่หลินเฟยเคยทำให้หลงรักนั้นมีแทบจะทุกวงการ แน่นอนว่าย่อมมีบางคนที่มีพลังฝีมือสูงส่งอยู่

“ขะ เข้าใจแล้ว”หลินเฟยยิ้มเจื่อนๆออกมา เพราะตัวมันก็เดาไว้แล้วว่าต้องมีแบบนี้แน่ๆ

“ท่านหลินเฟย ข้าขอโทษด้วย แต่ท่านช่วยไปพักที่อื่นได้หรือเปล่าเจ้าคะ เกรงว่าห้องที่เตรียมไว้ให้พวกท่านคงต้องหึคุณหนูผิงป๋อพักก่อน”หลู่เซียงที่กำลังปลอบใจผิงป๋อพูดพลางหันมามองหลินเฟยนิ่ง แม้แต่หลินเฟยก็ยังทำเช่นนี้ บอกตามตรงว่านางผิดหวังไม่น้อย โชคดีจริงๆที่นางไม่ได้หลงรักหลินเฟยไปอีกคนนับว่าท่าทีของหลินเฟยก่อนหน้านี้ทำให้หลู่เซียงไม่ได้มาเป็นเหยื่ออีกคน

“ข้าเข้าใจ…”หลินเฟยถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปทางเซี่ยจินเย่และอาทู้ที่กำลังมองมาทางตนเองด้วยท่าทีสับสน พวกนางไม่ได้โง่ ได้ฟังเรื่องจากตรงนั้นก็คงผูกเรื่องราวกันได้ บางทีตอนนี้พวกนางคงอยากจะถามคำถามออกมาเต็มที่แล้วกระมัง

“เซี่ยจินเย่ อาทู้ พวกเรากลับไปหาพวกฟงเป่าก่อน แล้วข้าจะสารภาพผิดกับพวกเจ้า”หลินเฟยถอนหายใจออกมาก่อนจะส่งเสียงเรียกจางจินให้มาหาตนเอง ท่าทางคงจะปิดเรื่องนี้เอาไว้ไม่มิดแล้ว คงต้องเล่าให้พวกลูกศิษย์ฟังเสียที

.

.

“อาจารย์ มีอะไรหรือขอรับ”ฟงเป่า และ หนี่หลิงหนาน ที่โดนทิ้งให้ฝึกกับอู๋หมิงตลอดวันกลับโดนเรียกมาที่หาหลินเฟยทันทีที่กลับมาถึงยอดเขาฝึกฝนวิชา

“ข้ามีเรื่องต้องบอกพวกเจ้า”หลินเฟยถอนหายใจออกมาพลางมองท่านตาอู๋หมิงที่ตามมาด้วย แต่อู๋หมิงก็รู้เรื่องทุกอย่างอยู่แล้ว ให้ท่านมาด้วยก็ไม่เป็นไรหรอก

“พวกเจ้าเคยสงสัยบ้างหรือไม่ ว่าทำไมข้าถึงเดินทางจากบ้านเกิดอย่างอาณาจักรไป๋ไปที่อาณาจักรซาน”หลินเฟยถามหลังจากพวกฟงเป่ามานั่งรอบๆตนเองแล้ว

“ก็มีบ้างเจ้าค่ะ ที่นี่สบายกว่าที่อาณาจักรซานหลายอย่าง แถมเป็นบ้านเกิดของอาจารย์ด้วย”หนี่หลิงหนานตอบพลางหนักหน้าน้อยๆออกมา หากให้นางเดาคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลงโทษที่หลินเฟยไม่ยอมเล่าให้ฟังกระมัง

“จริงแล้ว ข้าถูกขับไล่ออกจากตระกูล แล้วก็โดนลงโทษห้ามใช้ชื่อตระกูลเป็นเวลา 10 ปี ส่วนสาเหตุก็….”หลินเฟยลังเลอยู่พักหนึ่ง หากเล่าไปแล้วพวกลูกศิษย์จะมองตนเองเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่

“อาจารย์….”เซี่ยจินเย่ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในอาณาจักรไป๋มามากกว่าคนอื่นๆเรียกหลินเฟยช้าๆ ตัวนางพอจะเดาได้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำให้นางส่งสายตาให้กำลังใจหลินเฟยอย่างเต็มที่ นางไม่คิดจะเกลียดหลินเฟยเพราะเรื่องนั้นแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่าอย่างไรหลินเฟยก็คืออาจารย์ที่แสนวิเศษสำหรับนาง

“ข้า….”หลินเฟยค่อยๆเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกฟงเป่าช้าๆ ไม่ว่าจะเรื่องที่ตนหลอกให้ผู้หญิงหลงรัก เรื่องที่ใช้อำนาจของตระกูลไป๋เอาเปรียบผู้อื่น แม้จะเล่าเพียงสรุปแต่ก็ใช้เวลาหลายสิบนาทีเลยกว่าจะร่ายยาวจนหมด

“…………”แน่นอนว่าลูกศิษย์คนอื่นๆที่พึ่งได้ทราบเรื่องราวอย่างหนี่หลิงหนานและฟงเป่าต่างพากันอึ้งกันไปหลายอึดใจ เพียงแต่ท่าทีของฟงเป่าและหนี่หลิงหนานไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่นัก

“มัน….เป็นเรื่องไม่ดีจริงๆขอรับ แต่ว่าท่านก็สำนึกผิดแล้วสินะขอรับ”ฟงเป่าว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา มันเป็นผู้ชายเหมือนกันอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงเท่าไหร่ สำหรับมันเลวเรื่องพวกนี้ไม่ทำให้ประหลาดใจนัก

“มิน่าล่ะอาจารย์ถึงได้ปฏิเสธผู้หญิงทุกคนเลย นี่ท่านรู้หรือเปล่าว่าพี่สาวร้านขายน้ำเต้าหู้คิดว่าท่านเป็นพวกรักร่วมเพศแล้วนะ”หนี่หลิงหนานตอบ นางเห็นอยู่ตลอดนั่นล่ะว่าหญิงสาวในตลาดต่างสนใจหลินเฟยกันทั้งนั้น ต่อให้หลินเฟยไม่เล่นด้วยหรือเข้าไปจีบก็ยังทำให้พวกนางผิดหวังกันอยู่ดี หากหลินเฟยเล่นด้วยพวกนางต้องหลงรักกันหัวปักหัวปำแน่ๆ เท่ากับว่าหลินเฟยสำนึกผิดแล้วจริงๆแล้วไม่ทำผิดซ้ำอีกใช่ไหมล่ะ

“พี่อาทู้…..”แม้หนี่หลิงหนาน ฟงเป่า และเซี่ยจินเย่จะมีท่าทีรับได้ แต่อาทู้กลับก้มหน้านิ่งไม่พูดไม่จาเสียอย่างนั้น พอเซี่ยจินเย่ทักนางก็ทำให้ฟงเป่าและหนี่หลิงหนานสังเกตเห็นอาการผิดปกติของนางจนได้ นากำหมัดแน่นก้มหน้าด้วยท่าทีเหมือนอดกลั้นอะไรบางอย่าง

“ข้า….”อาทู้เงยหน้าขึ้นมาด้วยท่าทีเจ็บปวด กับคนอื่นอาจจะไม่เข้าใจแต่อาทู้เป็นคนหนึ่งที่เคยเจอเรื่องเลวร้ายจากผู้ชายที่คิดจะเล่นสนุกกับผู้หญิงมาแล้ว ไม่แปลกที่นางจะรู้สึกแย่กับเรื่องที่หลินเฟยเล่ามา

“น่ารังเกียจ”อาทู้พูดด้วยท่าทีเจ็บปวด คำด่านี้ออกจะแรงเกินไปหรือไม่ แต่หลินเฟยก็เต็มใจจะรับไม่ว่านางจะด่าว่าอะไร