หลิน ชูจิ่ว ซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์ด้านลบเดินออกไปที่ลานหน้าบ้านของเธอและเตรียมพร้อมที่จะออกจากตำหนักเสี่ยวหวางฟู่

ในเวลานี้ เธอต้องดูแลเด็กป่วยทุกคน แม้ว่าพ่อบ้านเฮ้าจะเชิญหมอหลายคนให้มาดูแลเด็กๆ แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนทางการแพทย์บางอย่างมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถทำได้ เช่นการผ่าตัดเด็กที่มีปากกระต่าย

       มีเด็กไม่กี่คนที่มีริมฝีปากกระต่าย หลิน ชูจิ่ว รักษาเด็กคนหนึ่งในวันแรก เธอต้องการให้ทุกการผ่าตัดเสร็จสิ้นในวันนี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

       จากเรือนของหลิน ชูจิ่วไปจนถึงตำหนักใหญ่ของเสี่ยวหวางฟู่ มีระยะทางไกลมาก ไม่สะดวกที่จะมาและไป พ่อบ้านเฮ้าจึง แนะนำให้หลิน ชูจิ่ว เปลี่ยนเรือนของเธอ แต่หลิน ชูจิ่วก็ปฏิเสธ

       ในความเห็นของหลิน ชูจิ่ว การเปลี่ยนเรือนจะถือเป็นการบอกคำใบ้ให้กับเสี่ยวเทียนเหยา เธอไม่ต้องการทำเช่นนั้นเพื่อเสี่ยวเทียนเหยาจะได้เห็นเธอเป็นตัวตลกในอนาคต  

       หลังจากเดินไปมาได้สักพัก หลิน ชูจิ่วก็มาถึงประตู หลิน ชูจิ่ว หายใจเข้าเล็กน้อย แต่เมื่อเธอพร้อมที่จะออกไปข้างนอก เธอก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกเธอขึ้น“ หวางเฟย ช้าก่อน… .. ”

       เมื่อหลิน ชูจิ่วหันหลังกลับไป ก็เห็นว่าเป็นซู่ฉาที่กำลังวิ่งมา “ในที่สุดข้าก็มาถึงที่นี่ ข้าคิดว่าข้าจะมาช้าไปเสียแล้ว” ซู่ฉาเช็ดเหงื่อของเขา เขาสูดลมหายใจเข้าและดูเหนื่อยอยู่ไม่น้อย

“ท่านกำลังตามหาข้าหรือคุณชายซู่?” หลิน ชูจิ่วค่อนข้างสุภาพต่อซู่ฉา เพราะไม่ว่าจะอย่างไรซู่ฉานั้นก็ฉลาดกว่าหลิวไป๋มาก

       ซู่ฉาถอนหายใจและพูดขึ้น“หวางเย่พูดกับข้าเมื่อเช้านี้ ก่อนที่เขาจะจากไปเพื่อให้ข้าไปเป็นเพื่อนหวางเฟยในวันนี้”

“ หวางเย่จากไปแต่เช้าเลยหรือ?” ใครจะรู้ว่าทำไม แต่เมื่อหลิน ชูจิ่ว ได้ยินคำพูดของซู่ฉา เธอก็รู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

“ ใช่ ดูเหมือนว่าจะมีข่าวเกี่ยวกับการซุ่มโจมตีก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้จึบเรียกตัวหวางเย่เข้าวัง” ซู่ฉากล่าวอย่างคลุมเครือ หลิน ชูจิ่วเองก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เมื่อเธอรู้ว่าเสี่ยวเทียนเหยาจากไปเร็วเนื่องจากธุระของเขาหลิน ชูจิ่วจึงรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เธอปล่อยให้ซู่ฉาตามเธอไปโดยไม่มีความไม่พอใจแต่อย่างใด

“ก่อนที่เราจะไปโรงหมอ เราจะไปที่ถนนจู้เชวี่ยก่อน” หลิน ชูจิ่ว ไม่พูดมากนัก เธอเชื่อว่าซู่ฉาคงจะรู้จักเด็กสองคนนั้นแล้ว

       ภารกิจของซู่ฉาคือการได้พบกับเด็กสองคนนั้น ดังนั้นจึงเป็นธรรมชาติที่เขาจะไม่พูดมากความอะไร“ข้าจะติดตามหวางเฟยไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน”

       หลิน ชูจิ่วยิ้ม แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไมซู่ฉาจึงต้องติดตามเธอมาด้วย แต่เธอก็รู้ว่าเขาคงต้องมีสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำ ซู่ฉาไม่ได้พูดอะไร เธอก็ไม่ได้ถาม

       รถม้าวิ่งไปที่ถนนจู้เชวี่ย ด้วยความเร็วที่ไม่น้อย ในขณะที่อยู่บนถนน หลิน ชูจิ่วและซู่ฉาต่างก็ไม่ได้พูดคุยกัน แม้ว่าซู่ฉาจะพบว่ามันน่าเบื่อ แต่เขาก็กลัวว่าหลิน ชูจิ่วจะถามเขามากกว่า

       คนที่มีสายตาที่ฉลาดสามารถมองเห็นได้ เขาไม่ได้มาเพื่อปกป้องนางหรือเฝ้าดูนาง แต่ถ้าจะบอกว่าเขาไม่มีแรงจูงใจเลย แม้แต่ตัวเขาเองก็จะไม่เชื่อ

       โชคดีที่เสี่ยวเทียนเหยาไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกหลิน ชูจิ่ว มิฉะนั้นสิ่งต่างๆจะยุ่งยากมากขึ้นไปอีก

       เมื่อรถม้าหยุดที่ทางเข้าของโรงเตี้ยม หลิน ชูจิ่วก็ลงจากรถม้า ซู่ฉา ติดตามอยู่ข้างหลังเธอ แต่ไม่ได้พูดอะไร อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดเล็กน้อย

       โจว เหอ และน้องชายที่ป่วยไม่ได้ออกไปข้างนอก เมื่อโจว เหอ ได้ยินเสียงเคาะประตูเขาก็รู้ทันทีว่าเป็นหลิน ชูจิ่ว ดังนั้นเขาจึงเปิดมันออกอย่างไม่ลังเล แต่แล้วเขาก็เห็นซู่ฉา แล้วโจว เหอ ก็เดินไปยืนอยู่หน้าประตู และไม่ยอมให้ซู่ฉา เข้าไปข้างในพร้อมกับถามขึ้น“ฮูหยินน้อย คนผู้นี้เป็นใคร?”

“เขาเป็นผู้ช่วยของข้า” หลิน ชูจิ่วค้นพบเหตุผลที่เหมาะสมสำหรับซู่ฉา โจว เหอมองไปที่ซู่ฉา อย่างตั้งใจ เมื่อเห็นซู่ฉามีใบหน้าที่อ่อนโยนและไม่มีทักษะศิลปะการต่อสู้ เขาจึงปล่อยให้ซู่ฉาเข้ามาพร้อมกับหลิน ชูจิ่ว

       ความตื่นตัวของโจว เหอ ทำให้หลิน ชูจิ่ว เข้าใจในทันที ตัวตนของโจว เหอ นั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนและซู่ฉา มากับเธอก็เพื่อพบเขา เธอไม่รู้ว่าโจว เหอคือใคร แต่ซู่ฉารู้อย่างแน่นอน……