ตอนที่ 761 หัวใจที่เต้นระส่ำ(1)

อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!

ตอนที่ 761 หัวใจที่เต้นระส่ำ(1) โดย Ink Stone_Romance

สองตาเธอจ้องมองเขา “เมื่อคืน…ใช่คุณมั้ย”

 “ยังจะมีใครได้อีก? หรือว่า…” เย่เซียวหยุดเว้นช่วงเมื่อพูดถึงตรงนี้ “คุณอยากให้เป็นคนอื่น”

สิ้นคำของเขาอยู่ๆ ไป๋ซู่เย่ก็เผยยิ้มกว้างสดใส เสริมให้ใบหน้าดวงเล็กดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

ราวกับแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านเข้ามาในห้องจากนอกหน้าต่าง…

เย่เซียวคอยมองอยู่อย่างนั้นรู้สึกเพียงแค่ความมืดครึ้มที่สุมอยู่ในอกถูกรอยยิ้มน้อยๆ ของเธอชะล้างไปมากโข

 “คุณออกไปเถอะ ฉันจะรีบออกไป” เธอไม่ได้ตอบกลับเขาโดยตรงแต่รอยยิ้มร่าเริงบนหน้าได้อธิบายถึงความในใจเธอ ณ เวลานี้มากพอแล้ว

เย่เซียวเองก็มีสีหน้าที่ดูดีขึ้น รับคำ ‘อืม’ ถึงย่ำเท้าเดินออกไป

ไป๋ซู่เย่คอยมองแผ่นหลังนั่นพาลนึกไปถึงเมื่อคืน ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเสี้ยวหัวใจที่ขาดหายไปราวกับถูกเติมเต็ม หันไปยิ้มให้ตัวเองในกระจกเล็กน้อยถึงลงมาจากเคาน์เตอร์กระจกเคลือบและเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้โรงพยาบาลเขา

………………

ก่อนเธอออกมาเย่เซียวนั่งรอตรงโซฟาเดี่ยวและเปิดประวัติคนไข้ของเธอ หัวคิ้วขมวดเป็นปมแน่น มองจากมุมข้างยังดูออกว่าเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวถึงวางประวัติคนไข้ลงย้ายไปข้างๆ

 “ไปกันเถอะ”

 “ไปไหน?”

 “ไปตรวจร่างกาย”

เย่เซียวตอบสั้นๆ ไม่พูดพร่ำทำเพลงเพียงแค่หยิบเสื้อสูทตัวนอกของตัวเองคลุมไหล่เธอเงียบๆ มือใหญ่กอบกุมมือเธอ

ฝ่ามืออุ่นร้อนของชายหนุ่มแล่นผ่านปลายนิ้วส่งมาถึงหัวใจเธอ หลังชะงักไปอึดใจเธองอนิ้วกุมมือเขาตอบ

เพียงแค่การกระทำเล็กน้อยนี้แต่ทั้งคู่กลับใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะชัดเจนได้เพียงนี้

โลกใบนี้นอกจากอีกฝ่ายคงไม่มีใครที่มีความพิเศษเท่านี้อีกแล้ว…

ทั้งสองคนกุมมือเดินไปยังห้องตรวจด้วยกัน

มาถึงห้องตรวจคอยมองเหล่าคุณหมอพยาบาลที่ยืนเรียงรายหลายคน ไป๋ซู่เย่อดหันมามองเย่เซียวไม่ได้ “ร่างกายฉันมีตรงไหนสาหัสเหรอ?”

 “ตรวจแล้วถึงจะรู้” ว่าถึงนี่เย่เซียวก็หยุดชะงัก สีหน้าขรึมลง “ทางที่ดีก็อย่ามี”

 “ความจริงกระทรวงเรามีการตรวจสุขภาพทุกปี ฉันแข็งแรงมาตลอดนะ”

 “แข็งแรงจริงจะมีสภาพอย่างคุณในตอนนี้เหรอ?” เย่เซียวยังนึกภาพที่เธอนอนให้น้ำเกลือบนเตียงเมื่อคืนได้ดี—อ่อนแอ อ่อนล้า ทรุดโทรม ทำให้เขาเป็นห่วงอย่างห้ามไม่ได้

สีหน้าเขาขรึมลงอีก “ตามคุณหมอเข้าไป ผมจะรออยู่ข้างนอก”

ไป๋ซู่เย่รู้ว่าตัวเองค้านเย่เซียวไม่ไหวแต่ได้ตรวจสุขภาพก็ไม่แย่ จากสภาพร่างกายของเธอในตอนนี้สู้เมื่อก่อนไม่ได้จริงๆ

เธอพยักหน้าแล้วเดินตามคุณหมอเข้าไปข้างใน

คุณหมอที่รับผิดชอบได้จัดตารางตรวจทุกส่วนของร่างกายทีละอย่างๆ ไม่เว้นแม้แต่หูคอจมูก

 “ต้องตรวจกระทั่งหูคอจมูกเลยเหรอ?” ไป๋ซู่เย่นั่งลงแล้วถามคุณหมอผู้รับผิดชอบ

 “ค่ะ คุณเย่ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษว่าไม่ให้ละเว้นที่ใดสักที่”

 “ไม่ต้องละเอียดขนาดนี้ก็ได้มั้งคะ? ฉันแค่เกิดอาการอักเสบ คุณหมอน่าจะรู้ดีที่สุด”

คุณหมอยิ้ม“พอดูออกว่าคุณเย่เป็นห่วงคุณเกินไปเลยกังวลนิดหน่อย คุณตรวจไป เขาถึงจะสบายใจได้บ้าง”

เป็นห่วง?

กังวล?

ไป๋ซู่เย่มองออกไปข้างนอกผ่านกระจกหน้าต่างแวบหนึ่ง เย่เซียวในขณะนี้กำลังนั่งรอเธออยู่ เขาจะนั่งรอต่อไปเรื่อยๆ หรือเปล่า?

การตรวจร่างกายทั้งหมดมันต้องใช้เวลาจริงๆ เขาไม่ใช่คนที่มีความอดทนในการรอ อดีตเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันนั้นทุกครั้งที่เธอจะออกจากบ้านต้องเสียเวลาในการเลือกชุดทำให้สุดท้ายเขาต้องหมดความอดทนแล้วจับโยนใส่ทันทันที ไม่สนใจว่าเสื้อผ้าที่เธอเลือกเหมาะจริงๆ หรือเปล่า

 “คุณไป๋ จะเริ่มแล้ว ช่วยนั่งตัวตรงด้วย”

เสียงเตือนของคุณหมอฉุดเธอกลับจากความทรงจำในอดีต เธอไม่ได้ถามให้มากความปล่อยให้คุณหมอตรวจไปตามรายการ

หลังตรวจทุกอย่างเสร็จออกมาเจ้าตัวแทบล้า

บนแขนยังมีก้อนสำลีชุบแอลกอฮอล์กดอยู่

เธอเดินออกมาจากห้องตรวจ กวาดมองรอบข้างทีไม่เห็นเขา

ทางเดินว่างเปล่า นอกจากคุณหมอชุดกาวน์กับพยาบาลไม่กี่คนก็ไม่มีคนใดอีก

ไม่มีความอดทนเหมือนเมื่อก่อนเลยสินะ

เกิดความรู้สึกผิดหวังในใจ แน่นอนว่าผิดหวังถึงได้อดยื่นคอมองทางเดินยาวอีกหลายๆ ทีอย่างห้ามไม่ได้

“หาผมเหรอ?” จู่ๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

ไป๋ซู่เย่หันควับกลับไปพบว่าเย่เซียวกำลังยืนอยู่ด้านหลังตัวเอง ก้มหน้าน้อยๆ และยืนอยู่ไม่ห่างจากเธอ แค่เธอหันหน้าริมฝีปากก็เฉียดผ่านปลายคางเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ สัมผัสเล็กสัมผัสน้อยนี้ทำให้สายตาทั้งคู่ต่างเกิดห้วงอารมณ์ที่ลึกซึ้ง

ไป๋ซู่เย่พบว่าผู้ชายคนนี้ยังคงสร้างความหวั่นไหวแก่เธอเหมือนเธอในวัยเด็กสาวดังเดิม

 “ฉันคิดว่าคุณจะกลับไปนานแล้ว…” เธอเอ่ยปากตอบเสียงเบาพลางก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วหมุนตัวมาประจันหน้ากับเขา

เย่เซียวส่งนมในมือให้เธอ “เพิ่งเจาะเลือดมา ดื่มซะ”

ฉะนั้น…

เมื่อครู่ที่เขาไม่อยู่ที่นี่เพราะไปซื้อนมให้เธอหรือ?

เธอประคองนมในมือพบว่านมยังร้อนอยู่ วินาทีนั้นรู้สึกอุ่นวาบสบายไปทั้งหัวใจ เธอยกขึ้นดื่มหนึ่งอึก แล้วดื่มอีกหนึ่งอึก

 “มือ ผมดูหน่อย” เย่เซียวกล่าว

 “อืม” ไป๋ซู่เย่ดื่มนมไปก็ยื่นแขนที่ถูกเจาะเลือดไปตรงหน้าเขา เขาเลิกแขนเสื้อขึ้นดู ยังดีที่เลือดไม่ไหล และไม่มีรอยฟกช้ำ

เขาปล่อยแขนเสื้อที่เลิกขึ้นของเธอลง คุณหมอผู้รับผิดชอบก็เดินมาหาทันที

 “คุณเย่”

 “ผลตรวจจะออกมาเมื่อไหร่?”

 “ผลตรวจทุกอย่างต้องใช้เวลาสองวัน”

เย่เซียวพยักหน้า “หลังสองวัน ผมค่อยมาเอา”

 “ตอนนี้ฉันก็ไม่ปวดตามตัวแล้ว คุณให้ฉันตรวจสุขภาพฉันก็ทำตามหมดแล้ว ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วใช่มั้ย?” ไป๋ซู่เย่หันไปถามความเห็นของเย่เซียว

ทั้งที่เขาไม่ใช่คุณหมอแท้ๆ แต่ดัน…อาจจะไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของคุณหมอได้ แต่คำพูดของเขาไม่ฟังไม่ได้

 “แต่ว่าต้องฉีดยาแก้อักเสบสองวันติดนะคะคุณไป๋ ถ้ารักษาอาการอักเสบในร่างกายของคุณไม่ได้ เกรงว่าจะกำเริบอีกครั้ง” คุณหมอกล่าว

ไป๋ซู่เย่เสสายตาไปทางเย่เซียว กระทั่งตัวเธอยังไม่ทันรู้ตัวว่าสายตาคู่นั้นเว้าวอนเพียงใด

สำหรับเย่เซียวแล้วมันได้ผลอย่างว่าจริงๆ สิบปีก่อนเขาปฏิเสธสายตานี้ของเธอไม่ได้ สิบปีให้หลังเขายังคงปฏิเสธไม่ได้

เย่เซียวกุมมือเธอไว้ พูดกับคุณหมอเสียงเรียบ “คราวหลังไปฉีดยาที่โรงแรม จะมีคนมารับคุณทุกวัน”

ไป๋ซู่เย่ยิ้มเพียงรู้สึกว่านมทั้งอุ่นทั้งหวาน เมื่อสักครู่เพิ่งเหนื่อยล้าจากการตรวจสุขภาพมา ตอนนี้รู้สึกได้พลังกลับมาเต็มเปี่ยมแล้ว สบายตัวอย่างมาก

คู่มือออกจากโรงพยาบาลได้จัดการไว้ล่วงหน้าแล้ว เย่เซียวพาเธอกลับจากโรงพยาบาลโดยตรงไปที่โรงแรมเรือใบ

ระหว่างทาง…

คล้ายเย่เซียวจดจ่อกับถนนเลยไม่ได้พูดอะไร

………………………