แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1061
หานทงนึกถึงข้อมูลที่หมิงเจ๋อเสวียนเปิดเผยในตอนนั้น พยักหน้ากล่าว “มันคือเรื่องจริงอย่างแน่นอน ตอนนั้นที่ยานจิง เขามีเพื่อนมัธยมที่ชื่ออานเข่อเยว่เคยบอกกับแฟนของตัวเธอเอง”

หานทงสีหน้ามั่นใจพูดยืนยันอีกครั้ง “ไม่ผิดอย่างแน่นอน!”

เซินกงหมิงที่สีหน้ามืดมน พยักหน้า “งั้นฉันก็วางใจแล้ว”

หานทงที่ใบหน้าเศร้าสร้อย พูดอย่างเสียงเบา“คุณชายเซิน ผมว่าเรายอมแพ้เถอะ ไอ้หมอนั่นเก่งเกินไป แม้แต่คุณฮู่ยังตายด้วยหมัดของเขา ต่อให้หวงไต้ซือมา จะสามารถสู้กับเขาได้เหรอ?”

เซินกงหมิงที่สีหน้ามั่นใจยิ้มอย่างเย็นชา “วางใจเถอะ หากเป็นเมื่อก่อนฉันอาจจะไม่มั่นใจ แต่ว่าหลังจากที่หวงไต้ซือออกมาจากเขาซูคงแล้ว พลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไอ้หมอนั่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน!”

หานทงรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย มองขาที่หักของตัวเอง แววตาลุกขึ้นด้วยไฟโกรธที่ต้องการแก้แค้น

เฉินโม่นั่งเงียบๆอยู่บนเก้าอี้ หลับตาพักผ่อน

เสิ่นหยูปิงที่อยู่ด้านหลัง กำลังนั่งตัวตรง ด้วยสีหน้าที่เกรงกลัว ไม่พูดแม้แต่คำเดียว

เหล่านักศึกษาแอบมองเฉินโม่เป็นระยะ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง รอคนของเซินกงหมิงมาช่วยอย่างเงียบๆ

ประมาณครึ่งชั่วโมงให้หลัง ชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลาร่างสูงสองคนในชุดสูทสีเทาเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา ชายวัยกลางคนหนึ่งในนั้นถือลูกวอลนัทสองลูกกลิ้งบนมืออย่างไม่หยุด

เซินกงหมิงเห็นทั้งสองคน ก็ตะโกนเรียกอย่างดีใจ “คุณพ่อ คุณน้า ผมอยู่นี่!”

คนที่มาก็คือผู้มีอิทธิพลของมณฑลไห่ซีเสิ่นฉีเซิ่ง ยังมีเซินกงเฟิ่งเทียนผู้นำตระกูลของตระกูลเซินกงที่กำลังรุ่งโรจน์ในช่วงนี้มาด้วย

เมื่อเห็นลูกชายที่เปื้อนเลือดนั่งอยู่บนพื้น เซินกงเฟิ่งเทียนทั้งตกใจทั้งโกรธในเวลาเดียวกัน

ใบหน้าที่ขุ่นมัวก้าวเดินเข้ามาอย่างฉับไว จับขาของเซินกงหมิงแล้วถามอย่างเสียงดัง “ใครที่กล้าทำร้ายลูกของเซินกงเฟิ่งเทียน!”

“คุณฮู่ล่ะ? เขาติดตามลูกไม่ใช่เหรอ? ”เซินกงเฟิ่งเทียนมองไปโดยรอบ และผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างคุณฮู่ที่นอนอยู่ตรงมุมห้อง

เซินกงหมิงกล่าวอย่างเศร้าใจ “พ่อครับคุณฮู่ถูกไอ้หมอนั่นฆ่าตายแล้ว ดีที่พ่อพาหวงไต้ซือมาด้วย พ่อต้องแก้แค้นให้ผมนะครับ!”

ผู้มีอิทธิพลของมณฑลไห่ซีถามด้วยสีหน้าที่ดุดัน“หมิง นายบอกฉัน ในไห่ซีนี้ ใครที่กล้าทำร้ายนาย?”

เซินกงหมิงมองไปที่เสิ่นฉีเซิ่งด้วยท่าที่เสียใจ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สะอื้น “คุณน้า ก็คือไอ้หมอนั่น คุณน้าต้องช่วยผมแก้แค้นนะ!”

ขณะที่พูด เซินกงหมิงยื่นมือชี้ไปทางเฉินโม่

สายตาของเสิ่นฉีเซิ่งกับเซินกงเฟิ่งเทียน มองตามนิ้วที่ชี้ไปของเซินกงหมิง ทันใดนั้นก็เห็นเฉินโม่ที่นั่งอยู่ในมุมห้อง

ยังมีเสิ่นหยูปิงกำลังเดินมาหาพวกเขายังเร่งรีบ

“คุณ คุณเฉิน!” เสิ่นฉีเซิ่งตกใจจนลูกวอลนัทสองลูกที่อยู่ในมือหล่นลงมือพื้นจนเกิดเสียง เสียงที่ดังขึ้นในห้องโถงที่เงียบกริบนั้น ก้องกังวานเป็นพิเศษ

เซินกงเฟิ่งเทียนไม่เคยเห็นเสิ่นฉีเซิ่งเสียอาการแบบนี้มาก่อน มองเสิ่นฉีเซิ่งอย่างสงสัย แล้วถาม “พี่ใหญ่ เขาคือใคร?”

ขณะนี้เสิ่นหยูปิงเดินเข้ามา จ้องมองเซินกงหมิงด้วยสายตาที่ขุ่นมัว และทำความเคารพเสิ่นฉีเซิ่งกับเซินกงเฟิ่งเทียนแล้วกล่าว “คุณอา คุณพ่อ!”

เสิ่นฉีเซิ่งที่หวาดกลัวถามอย่างเสียเบา “ลูกปิง คุณ คุณเฉินทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”

เสิ่นหยูปิงเหลือบมองเซินกงหมิง พูดอย่างทำอะไรไม่ได้ “น้องเขาล่วงเกินคุณเฉิน”

“อะไรนะ!” เสิ่นฉีเซิ่งตื่นตระหนกตกใจ มองเซินกงหมิงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้อนใจ “นี่ นี่ควรจะทำอย่างไรดี?”

เซินกงเฟิ่งเทียนขมวดคิ้วและมองไปที่เสิ่นฉีเซิ่งที่ตื่นตระหนกและถามอีกครั้ง “พี่เสิ่น คุณเฉินที่พี่กำลังพูดถึงคือใครกันแน่? ทำไมผมที่อยู่มณฑลซีไห่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน?”