ภาค 6 ยันฟ้าด้วยมือเดียว บทที่ 532 หักนิ้วท่านไปหนึ่งยังไม่นับว่าจบ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

อาวุธศักดิ์สิทธิ์นิ้วมังกรทั้งเก้ามีอยู่ทั้งหมดเก้านิ้ว

แต่ว่าบัดนี้นิ้วหนึ่งในนั้นถูกร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกำไว้ในมือ สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ไม่อาจดิ้นหลุด

เหนียนเชินถลึงตา พวกเฉินซื่อเฉิงมีใบหน้าตกตะลึง

เมื่อคิดจะลงมืออีกครั้ง มิติต่างแดนที่ทุกคนอยู่ในตอนนี้กลับเริ่มพังทลาย

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเหาะร่างลงเบื้องล่าง กระโดดเข้าไปในลำแสงที่สั่นไหวอยู่ด้านล่างพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ

เหนียนเชินคำรามขึ้น ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง คว้ากรงเล็บใส่เยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง ส่วนร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยกฝ่ามือขึ้นป้องกัน

ทั้งสองฝ่ายปะทะกันกลางอากาศหนึ่งกระบวนท่า ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอพุ่งเข้าไปในลำแสงที่ก้นเหวอย่างรวดเร็ว ทว่าฝ่ายเหนียนเชินกลับถูกกระแทกกระเด็นขึ้นด้านบน

“บอกแล้วว่าตอนนี้ข้ากำลังหาคนอยู่” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างราบเรียบ “แต่ก็วางใจได้มากแล้ว พวกเรายังไม่จบเรื่องนี้กัน ท่านยังเหลือนิ้วแปดนิ้ว ขอฝากพวกมันบนมือสองข้างของท่านก่อน อีกเดี๋ยวพวกเราค่อยๆ สนุกกัน”

ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกหายไป เสียงคำรามอย่างไม่ยอมแพ้ของเหนียนเชินก็กระเพื่อมกลางอากาศ

เขาคิดจะไล่ตาม แต่เขตแดนมิติรอบๆ กลับแหลกสลายอย่างต่อเนื่อง คนในสำนักมังกรโลหิตได้แต่ป้องกันการเปลี่ยนแปลง และปกป้องตัวเอง

รอจนมรสุมสงบลง ลำแสงตรงหน้าก็สลายไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไปยังที่ใด

เหนียนเชินมีสีหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง เคร่งขรึมจนน่ากลัว

คนในสำนักมังกรโลหิตที่อยู่รอบๆ ต่างก็รู้สึกอึดอัด

“ท่านอาจารย์…” เฉินซื่อเฉิงมาถึงด้านข้างเหนียนเชิน ฝ่ายเหนียนเชินมองบาดแผลบนมือขวาที่มีเลือดไหลของตัวเอง พูดทีละคำว่า “ข้ารู้สึกได้ถึงตำแหน่งของนิ้วมังกรที่ถูกชิงไป ยังมีเดรัจฉานน้อยแซ่สือนั่น พวกมันหนีไม่พ้นแน่!”

เฉินซื่อเฉิงพยักหน้า “ข้าจะติดต่อเจ้าสำนักเหยียนแห่งบึงหมื่นกระบี่ แต่เกรงว่าวังผลึกวารีจะส่งคนมาเช่นกัน”

เหนียนเชินกล่าว “วังผลึกวารีอยากให้พวกเราบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เยี่ยนจ้าวเกอนั่นอยู่กับเขาหงส์วิเศษ เจ้าคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะใกล้ชิดเหมือนก่อนหน้านี้หรือ?”

“บอกพวกเขาว่าหลานของข้าตายไปแล้ว แค้นนี้ข้าต้องชำระ ใครขวางย่อมต้องเป็นศัตรูกับข้า!”

ดวงตาของเหนียนเชินทั้งเย็นชาทั้งบ้าคลั่ง “ส่งข่าวว่าเยี่ยนจ้าวเกอออยู่ที่ทะเลตาข่ายดาวออกไป เขาสร้างความแค้นกับหลายสำนัก ตอนนี้มีข้าเป็นคนรับแรงกดดันมากที่สุดอยู่แนวหน้า คนที่ซ้ำเติมสมควรมีไม่น้อย”

“สำนักปราชญ์ปีศาจ สำนักตาข่ายปีศาจ เกาะจิตประสาน…หรือแม้แต่จอมยุทธ์ฝ่ายมารทั้งหมดจะกลัวที่เด็กน้อยผู้นี้เข้ากับเขาหงส์วิเศษหรือ?”

“ข้าจะขอดูหน่อยเถอะว่าต่อให้ร่างเขาจะเป็นเหล็กกล้า แต่จะทำเป็นตะปูได้สักกี่เล่ม[1]!”

ผู้อาวุโสสำนักมังกรโลหิตคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างสั่นไหว “แต่ว่าพวกเราอาจจะถูกมือที่สามฉวยโอกาสได้เช่นกัน…”

“ดังนั้นให้ติดต่อกับบึงหมื่นกระบี่ว่า เราไม่ต้องการให้พวกเขาลงมือจัดการเยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้ แค่ระวังหลังให้พวกเราก็พอ ข้าขอแค่แก้แค้น เอาชีวิตของเด็กน้อยสองคนนั่น!” เหนียนเชินเอ่ยอย่างเย็นชา

“ถ้าหากเชือดเด็กน้อยแซ่เยี่ยนนั่นได้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้มาจะเป็นของบึงหมื่นกระบี่ทั้งหมด เหยียนกังอาจจะไม่ต้องลงมือ เพียงยืนอยู่ด้านข้างก็ได้กำไรเต็มกระเป๋าแล้ว”

จอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตต่างลังเลเล็กน้อย เหนียนเชินกวาดมอง ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัว พากันพยักหน้าอย่างเงียบงัน

เฉินซื่อเฉิงแบมือ ปรากฏศพของเหนียนเหว่ย “ข้าเก็บร่างของเหว่ยน้อยมาแล้ว ไม่ได้ถูกทำลายในมิติต่างแดน”

“ให้คนส่งไปเก็บรักษาที่สำนัก อย่าเพิ่งกลบฝัง ข้าต้องการให้สือจวินนั่นมาเซ่นไหว้หลานของข้า” เหนียนเชินสีหน้าอ่อนโยนลง พลางมองเฉินซื่อเฉิง แล้วพยักหน้าให้ “ข้าจะระวังอย่างเต็มที่ อิ๋งเอ๋อร์ต้องไม่เป็นไร”

เขาหันไปมองมหาสมุทรเบื้องหน้า สีหน้าเย็นชาขึ้นมาอีกครั้ง “พวกเราตาม!”

เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกข้ามแสงสว่างหนาหนักพร้อมกัน

ครู่ต่อมา แสงสว่างเบื้องหน้าค่อยๆ สลายไป เห็นทัศนียภาพได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง

สิ่งที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอกลับเป็นวังขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง

ชายหนุ่มหันไปมองร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก มันไม่เคลื่อนไหว แต่ว่ามือข้างหนึ่งกำแน่น ใจกลางฝ่ามือสั่นไหวเล็กน้อย

ปลอกนิ้วมังกรที่อยู่ในกำมือของมันกำลังดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง เหมือนมีชีวิตและความรู้สึกนึกคิดเป็นของตนเอง

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมีพลังแข็งแกร่งมาก ถึงจะสะกดปลอกนิ้วให้ไม่อาจขัดขืน แต่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับผู้มีอำนาจเหนือกว่า มันก็ยังคงไม่ยอมศิโรราบ

เยี่ยนจ้าวเกอรับรู้ได้บ้าง เขาเบะปาก ‘ไม่สมบูรณ์ ไม่อาจหลอมได้’

เขาหันไปมองแวบหนึ่ง ด้านหลังเป็นหินโสโครกสีดำ ตนข้ามมิติมายังสถานที่อีกที่หนึ่ง ผ่านลำแสงกลางหุบเหวซึ่งอยู่ในมิติต่างแดนอีกที

หินโสโครกดูชื้นยิ่ง หลังจากสัมผัสถึงเส้นสายปราณวิญญาณที่อยู่ด้านใน เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้ว่าตนอยู่ข้างใต้ชั้นหินก้นทะเล

ที่นี่ถูกเจาะออกโพรงขนาดยักษ์โพรงหนึ่ง รอบๆ มีพลังแห่งเขตแดนคอยช่วยปกปิดอยู่เลือนราง

ดังนั้นต่อให้มีคนผ่านมาจากในมหาสมุทรด้านบน ก็ยากจะสัมผัสได้ว่าด้านใต้ชั้นหินก้นทะเลมีโพรงอยู่ด้วย

‘มีปัญหาจริงๆ ด้วย’ เยี่ยนจ้าวเกอพูดในใจ

มิติต่างแดนเมื่อครู่แข็งแกร่งกว่าที่เยี่ยนจ้าวเกอคาดคิด

การต่อสู้ของพลังระดับศักดิ์สิทธิ์ระหว่างร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกับนิ้วมังกรทั้งเก้า มิติต่างแดนแห่งนั้นทนต่อไปไม่ไหวจึงค่อยพังทลายลง

มิติต่างแดนเชื่อมกับที่นี่ ที่แห่งนี้สมควรไม่ธรรมดา

เยี่ยนจ้าวเกอมองนิ้วมังกรที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกำไว้ในมือ ค่อยๆ มั่นใจขึ้น ‘สุดท้ายปลอกนิ้วอีกแปดปลอกยังเชื่อมต่อกับมันอยู่ ถ้าเป็นแบบนี้ คนของสำนักมังกรโลหิตสมควรตามมาถึงที่นี่ด้วยการสัมผัสได้’

เขาครุ่นคิดในใจ เตรียมใช้เสาระเบียงวังเทพสะกดปลอกนิ้วนั้นไว้

แต่เพิ่งจะนำเสาระเบียงวังเทพออกมา เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้ว่ามันสั่นสะเทือนอย่างฉับพลัน เกือบจะหลุดจากการควบคุมของตน

ชายหนุ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย

เสาระเบียงวังเทพมาอยู่ในมือของตนได้หลายปีแล้ว หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจหลอมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันค่อยๆ ใช้มันได้ดั่งใจเหมือนกับแขน

เขาไม่อาการคล้ายกับจะสูญเสียการควบคุมเช่นเมื่อครู่นี้มาก่อน

ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอมองวังด้านหน้า เห็นผิวของตัววังค่อนข้างหยาบไปบ้าง เส้นสายไม่ค่อยละเอียดอ่อนนัก

มองดูแล้วแม้จะเป็นวัง แต่เหมือนกับเป็นอาคารหินขนาดยักษ์มากกว่า ดูโบราณ เต็มไปด้วยกลิ่นอายดึกดำบรรพ์

แต่ว่าด้วยการพิจารณาของเยี่ยนจ้าวเกอ วังหินแห่งนี้กลับมีความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ไม่เปรอะเปื้อนมือคน

เหมือนกับว่าธรรมชาติสร้างวังแห่งนี้ขึ้นมา มิใช่มนุษย์ที่สร้าง

เยี่ยนจ้าวเกอรู้ว่าการรังสรรค์ของธรรมชาติมักจะก่อให้เกิดทิวทัศน์ที่พิสดารจำนวนหนึ่ง อย่างเช่นภูเขาที่คล้ายคนคล้ายปีศาจ หรือสลักเป็นของบางอย่าง แม้มีรูปร่างประหลาดแต่กลับงดงาม

ดูราวกับของที่สร้างขึ้นโดยฝีมือคน แต่กลับเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นจริงๆ

เพียงแต่วังตรงหน้านี้ หากบอกว่าเป็นมนุษย์สร้างก็ดูจะหยาบเกินไป บอกว่าเป็นธรรมชาติสร้าง ก็ดูมีรายละเอียดการก่อสร้างโดยมนุษย์อยู่พร้อมสรรพ

‘จะบรรยายอย่างไรดี?’ เยี่ยนจ้าวเกอเดินไปหาวังแห่งนั้นอย่างสนอกสนใจ ‘คล้ายกับฟ้าดินตั้งใจเลียนแบบวังที่มนุษย์สร้างขึ้น’

มนุษย์เลียนแบบธรรมชาติเป็นเรื่องที่เห็นได้ค่อนข้างบ่อย แต่ธรรมชาติเลียนแบบการสร้างของมนุษย์ย่อมเป็นเรื่องแปลกประหลาด

ชายหนุ่มมองกระบี่หยกในมือ พลังของปฏิกิริยาในตัวมันเบาบางลงไม่น้อย

นี่หมายความว่าระยะห่างระหว่างสือจวินกับเยี่ยนจ้าวเกอกำลังห่างกันมากขึ้น

กระบี่สั้นในมือของสือจวิน ตามเหตุผลแล้วสมควรรับรู้ถึงกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอถึงจะถูกต้อง ตอนนี้กลับออกห่างอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติอย่างชัดเจน

……………………………………….

[1] ต่อให้ร่างเขาจะเป็นเหล็กกล้า แต่จะทำเป็นตะปูได้สักกี่เล่ม หมายถึง ต่อให้เก่งขนาดไหนก็ต้องมีขีดจำกัด