TL note:
มีเรื่องต้องแจ้งผู้อ่านเรื่องนี้ทุกท่าน
นิยายเรื่อง คฤหาสน์สยองขวัญ… ของผม เรื่องนี้ มีลิขสิทธิ์ในประเทศไทยแล้ว
ดังนั้นผู้แปลจะลงตอนใหม่นี้เป็นตอนสุดท้าย
ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้การสนับสนุนกันมาตลอดสองปีกว่านี้ด้วย
ไว้พบกันในเรื่องถัดไป
ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ
ความรู้สึกประหลาดจากด้านหลังคอของเขานั้นชัดเจนมากขึ้น ดวงตาของเฉินเกอขยับไปจากกระจกและมองไปด้านหลังตัวเองช้า ๆ เส้นผมปัดผ่านปลายจมูกของเขา เฉินเกอเจอกับใบหน้าน่ากลัวและดวงตาคู่หนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
ผู้ชายคนหนึ่งยืนกลับหัวทิ้งตัวลงมาจากเพดานอยู่ด้านหลังเฉินเกอ มองมาที่เฉินเกอด้วยใบหน้าที่กลับทิศกลับทาง!
…
ในห้องน้ำ ‘ผีสิง’ ผู้ชายคนหนึ่งถูกดึงดูดด้วยกระจกที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างประหลาดที่ด้านหลังคอ เขาหันกลับไปและเห็นสายตาจับจ้องมาจากใบหน้าที่ห้อยหัวลงมา ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องตกใจที่เจออะไรเช่นนี้
ฉู่ชางหลินที่ซ่อนอยู่ในห้องน้ำนั้นทำหูตั้งรอฟังเสียงกรีดร้องของผู้เข้าชมอย่างมีความสุข แต่ว่าเขารออยู่เป็นนาน ทั้งหมดที่ได้ยินก็คือเสียงเงียบงันอย่างน่าขนลุก
ที่ช่องว่างติดกับขอบกระจก ด้วยตะเกียงที่ตรงมุมห้องน้ำ ฉู่ชางหลินมองเห็นเงาร่างหนึ่งในความมืด เขาตัวสูง มือข้างหนึ่งสอดเอาไว้ในกระเป๋า และมืออีกข้างถือกระเป๋าสะพายหลังเก่า ๆ เอาไว้
เวลาเหมือนหยุดนิ่ง จนผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ฉู่ชางหลินก็เห็นผู้ชายคนนั้นยกมือขึ้นช้า ๆ ตอนที่เขาคิดว่าผู้ชายคนนั้นกำลังจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไม่ให้ตัวเองกรีดร้องออกมา ฝ่ามือของชายคนนั้นก็ยืนไปหาใบหน้าที่ห้อยอยู่ด้านหลังตัวเอง
“แค่หุ่นหรอกเหรอ? น่าแปลก ทำไมหุ่นนี่ถึงมีสายตาสิ้นหวังขนาดนี้ได้กัน?” ผู้ชายคนนั้นพึมพำกับตัวเอง เขาดูเหมือนจะถูกบางอย่างดึงดูดความสนใจไป เขาวางกระเป๋าสะพายหลังลงและใช้มือทั้งสองข้างตรวจสอบกะโหลกศีรษะที่ห้อยกลับหัวลงมาอย่างละเอียด
ปลายนิ้วลูบไปตามแก้มของหุ่นราวกับรักใคร่ก่อนที่ขยับไปยังดวงตาและขนตาของมัน เห็นแล้วฉู่ชางหลินที่ซ่อนอยู่ด้านหลังกระจกก็รู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ไปทั่วร่าง ความคิดน่ากลัวมากมายลอยเต็มสมองของเขาและมือที่ถือรีโมทเอาไว้ก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
…
เฉินเกอตรวจดูขนตาของหุ่น ตอนที่เขาเห็นหุ่นนี่ครั้งแรก เขาก็รู้สึกประทับใจมาก มันต่างไปจากหุ่นที่มีขายอยู่ในท้องตลาด และมันยังต่างไปจากหุ่นที่บ้านผีสิงของเขาด้วย หุ่นนี่เต็มไปด้วยอารมณ์ของผู้ที่ทำมันขึ้นมา และรายละเอียดแต่ละอย่างก็สมบูรณ์แบบ
ด้วยทักษะการแต่งหน้าของสัปเหร่อและพรสวรรค์ของช่างทำตุ๊กตา หุ่นที่สร้างขึ้นจากมือของเฉินเกอนั้นมีรูปลักษณ์ที่เหมือนจริงที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น หุ่นก็เป็นได้เพียงแค่ภาชนะอันสมบูรณ์แบบ หากไม่มีพนักงานของเขาคอยควบคุม พวกมันก็ดูค่อนข้างไร้ชีวิตชีวา
ส่วนหุ่นที่ตกลงมาจากเพดานนี่ ถึงแม้ว่าวัตถุดิบจะจำกัด ความเหมือนจริงก็เทียบกับหุ่นของเฉินเกอไม่ได้ แต่ว่าดวงตาของมันนั้นมีชีวิตชีวามาก!
“เขาใช้วัตถุดิบพื้นฐานมาก แต่ยังสร้างดวงตาที่มีชีวิตชีวาคู่หนึ่งได้? ผู้ที่ทำหุ่นนี่คอยสังเกตดวงตาไปกี่คู่ถึงได้สามารถสร้างอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้?” เฉินเกอประคองหัวหุ่นเอาไว้อย่างระมัดระวัง เขาไม่คิดว่ามันน่ากลัว กลับกัน ในดวงตาของเขากลับมีความประทับใจ “ฉันต้องสร้างหุ่นอีกตั้งมาก และนั่นยังเป็นภาระหนักสำหรับคนคนเดียว ต่อไป เมื่อจำนวนฉากเพิ่มมากขึ้น จำนวนหุ่นที่ต้องใช้ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ฉันต้องหาผู้ช่วย พรสวรรค์ของคนผู้นี้ไม่เลวเลย ฝึกฝนอีกสักนิด ฉันแน่ใจว่าพวกเขาจะมีประโยชน์ต่อบ้านผีสิงมากขึ้น”
สมองของเฉินเกอหมุนเร็วจี๋ ถึงจะยืนอยู่คนเดียวในห้องน้ำ ถือหัวหุ่นเอาไว้หัวหนึ่ง เขาก็ยังคิดเกี่ยวกับบ้านผีสิงของตัวเอง “ให้คนมีพรสวรรค์อย่างนี้อยู่ในห้องน้ำหลอกคนอื่นน่ะเสียเปล่ามาก”
เฉินเกอปล่อยหุ่นและหุ่นก็แกว่งไปมาอย่างเกียจคร้านอยู่หน้าห้องส้วม เฉินเกอเดินต่อไปยังห้องส้วมห้องที่ห้า
“มีคนอยู่ในนั้นไหม?” เขาไม่รู้ว่าตัวเองได้มอบความประทับใจแบบไหนให้กับพนักงานที่ซ่อนอยู่ในความมืด แต่ถึงอย่างไร เฉินเกอก็ไม่ได้สนใจ เขาแค่อยากจะตามหาคนที่สร้างหุ่นนั่นเท่านั้น
“คุณอยู่ไหนน่ะ? อยากจะเล่นซ่อนหากับผมเหรอ?” เฉินเกอดูตื่นเต้นอย่างประหลาด เหมือนเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่
ในสภาพแวดล้อมประหลาดเช่นนี้ ได้ยินเสียงเฉินเกอ ฉู่ชางหลินที่ซ่อนตัวอยู่ก็รู้สึกใจสั่น เขาสงสัยขึ้นมาด้วยซ้ำว่าผู้เข้าชมคงจะตกใจเกินไปแล้วก็เสียสติ เสียงเคาะดังมาจากห้องส้วมห้องที่ห้า ได้ยินแล้วหัวใจของฉู่ชางหลินก็เต้นเร็วขึ้น
เพราะเหตุผลประหลาดบางอย่าง ในตอนนี้ มันเหมือนกับบทบาทผู้ล่าและผู้ถูกล่านั้นกลับกัน ผู้ที่ซ่อนอยู่ในห้องลับคือเหยื่อ และผู้ชายที่เดินวนอยู่ด้านนอกอย่างไม่ยอมแพ้นั้นคือคนร้ายตัวจริง
“ถ้าคุณไม่เปิดประตู อย่างนั้นผมจะเข้าไปนะ ตกลงไหม?” ถึงแม้ว่ามันจะเป็นวลีที่คล้ายประโยคคำถาม ฉู่ชางหลินก็ไม่ได้ยินความลังเลจากตัวคนพูดเลย
ปัง!
ประตูห้องส้วมห้องที่ห้าถูกผลักเปิด เฉินเกอมองเข้าไปอย่างผิดหวัง “อย่างนั้นทุกอย่างก็คงจะซ่อนอยู่ในห้องสุดท้าย”
เขาเดินไปที่ประตูของห้องสุดท้าย แต่ว่าเฉินเกอไม่ได้บุกเข้าไปโดยตรง เขาเอนตัวพิงประตูฟังเสียงที่ดังมาจากด้านในห้องส้วม จังหวะเวลานั้นสำคัญมากในการเปิดกับดักในบ้านผีสิง ดังนั้นต้องมีพนักงานอย่างน้อยหนึ่งคนควบคุมหนึ่งฉาก เพราะว่าไม่ใช่ทุกอย่างที่จะควบคุมได้จากที่ไกล ๆ
เฉินเกอมองไปรอบ ๆ “ที่นี่ก็ใหญ่แค่นี้ แล้วเขาจะไปซ่อนอยู่ตรงไหนได้? ห้องส้วมห้องสุดท้ายน่าจะมีจุดสยองขวัญอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าฉันเป็นพนักงาน ฉันจะไม่ซ่อนตัวตรงนี้”
เมื่อมองปัญหานี้ในมุมของพนักงาน จู่ ๆ เฉินเกอก็เงยหน้าขึ้นมองรอยแยกที่บนเพดานที่หุ่นห้อยลงมา
พนักงานซ่อนตัวอยู่ที่บนเพดานใช่ไหม?
ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจเฉินเกอ เขาเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ หุ่นและมองไปที่โพรงด้านบน
มีคนควบคุมหุ่นนี่ ฉันอยากรู้ว่าลวดที่ติดอยู่กับหุ่นจะพาฉันไปที่ไหน?
สัตว์ประหลาดและผีที่คนอื่นหลีกเลี่ยงกลับเป็นช่องทางให้กับเฉินเกอ เขายืนอยู่ข้างหุ่นและคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่ชางหลินที่ซ่อนอยู่ด้านหลังกระจกนั้นเหมือนหัวใจถูกบีบ เขาไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะทำอะไรต่อไป
เฉินเกอเดินกลับไปที่ห้องส้วมและเรียกเหล่าโจวออกมาหลังจากดึงหนังสือการ์ตูนออกจากกระเป๋ามา เขาชี้ไปที่โพรงบนเพดานและเหล่าโจวก็พยักหน้า
เฉินเกอเคาะประตูห้องส้วมห้องสุดท้ายอยู่เรื่อย ๆ และตอนที่ความสนใจของพนักงานถูกเบี่ยงเบนไป เหล่าโจวก็แอบเข้าไปในโพรงที่บนเพดาน
สำหรับฉู่ชางหลิน นี่ประหลาดเกินไปแล้ว เสียงเคาะดังมาเรื่อย ๆ แต่ว่าเขาไม่เห็นใครเลย
เขากำลังทำอะไรอยู่?
ฉู่ชางหลินถือรีโมทเอาไว้ด้วยสองมือ เหงื่อไหลลงมาตามใบหน้าของเขาและเสียงเคาะสม่ำเสมอนั่นก็ทำให้เขาหงุดหงิด การทรมานนี้ยาวนานหนึ่งนาทีก่อนที่ฉู่ชางหลินจะพ่ายแพ้
ไม่ว่าจะเข้ามาในนี้หรือว่ากลับออกไป นายเสียเวลาอยู่ในนี้พยายามหลอกให้ใครกลัวกันฮึ?
เขาผลักเปิดประตูเป็นช่องเพราะอยากจะยืนยันตำแหน่งของเฉินเกอ แต่ตอนนั้นเอง เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างปัดผ่านหลังคอของเขาเหมือนมีตะขาบไต่ผ่าน
เขาเกา และปลายนิ้วของเขาก็แตะถูกบางอย่างที่เหมือนก้อนสาหร่าย โดยไม่รู้ตัว ฉู่ชางหลินหันไปมองด้านหลังตัวเอง
ใบหน้าซีดเผือดพร้อมรอยยิ้มกลับหัวห้อยหัวลงมาอยู่ที่ด้านหลังเขา “เจอตัวแล้ว”
ตอนต่อไป →