สายลมแรงพัดผ่านสถานที่ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นวิหารปีศาจเพลิง วิหารที่เคยรุ่งโรจน์ถูกรื้อถอนจนราบ อาคารหรูหราโอ่อ่าหลังใหม่ถูกสร้างขึ้นแทนที่ตำแหน่งเดิม มันเป็นสาขาของวิหารหยกวิญญาณในเขตนี้ แม้ว่าวิหารหยกวิญญาณจะยึดเอากองกำลังทั้งหมดของสิบสองวิหาร แต่ก็ไม่บังคับให้บริวารของตนส่งส่วยให้เหมือนที่สิบสองวิหารทำ
พวกเขายังมอบที่ดินที่ผู้คนอาศัยอยู่ซึ่งสิบสองวิหารได้ยึดมากลับไปให้ชาวเมืองอีกด้วย
ผู้คนในอาณาเขตของสิบสองวิหารต่างรู้สึกขอบคุณวิหารหยกวิญญาณจากก้นบึ้งของหัวใจ เนื่องจากตอนที่พวกเขาอยู่ภายใต้การกดขี่ของสิบสองวิหาร พวกเขาแทบจะไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้เลย เป็นเวลานานหลายปีที่สิบสองวิหารพยายามค้นหาที่ตั้งของสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดอย่างเอาเป็นเอาตาย ตลอดช่วงเวลานั้น กำลังคนและทรัพยากรที่สูญเสียไปเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการได้ เงินที่ต้องใช้สำหรับการสำรวจก็บีบบังคับเอาจากชาวบ้านทั่วไปและกลุ่มอำนาจที่เป็นบริวารของพวกเขา
เมื่อวิหารหยกวิญญาณเข้าแทนที่สิบสองวิหาร ก็ทำให้ชาวบ้านที่ถูกกดขี่ได้มีชีวิตที่สงบสุขมากขึ้น
การปกครองของวิหารหยกวิญญาณไม่เพียงแต่ไม่พบการต่อต้านใดๆ พวกเขายังได้รับการสนับสนุนอย่างมากจนถึงขั้นที่ชาวเมืองบางคนช่วยจับคนที่เหลือรอดของสิบสองวิหารให้กับวิหารหยกวิญญาณด้วย
ในเมืองที่เคยเป็นที่ตั้งของวิหารปีศาจเพลิง ชาวเมืองต่างเคารพนับถือและสำนึกบุญคุณวิหารหยกวิญญาณกันทุกคน
“แม่นางเสวี่ยเอ๋อร์ ท่านมาแล้ว นี่เป็นผลไม้ที่เราเพิ่งเก็บเกี่ยวได้ปีนี้ ท่านเอากลับไปสักหน่อยไหม?” เมื่อพวกชาวบ้านเห็นหญิงสาวคนหนึ่งจากวิหารหยกวิญญาณ พวกเขาก็เข้าไปรุมล้อมนางทันที ทุกคนถือผักผลไม้สดอยู่ในมือและเสนอให้เป็นของขวัญแก่นางอย่างกระตือรือร้น
แม้ว่าของพวกนั้นจะไม่มีราคามากนัก แต่มันก็เป็นของขวัญที่แสดงถึงความรู้สึกขอบคุณในใจพวกเขาได้อย่างดี
หญิงสาวนามเสวี่ยเอ๋อร์ ดูเหมือนอายุประมาณ 18-19 ปีเท่านั้น ใบหน้าเล็กๆอมชมพูของนางแสดงออกถึงความรู้สึกหมดหนทาง ไม่ใช่แค่นาง เมื่อไรก็ตามที่พี่น้องจากวิหารเดินทางออกมา พวกนางจะเจอกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้าน การต้อนรับเช่นนี้ทำให้หญิงสาวที่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอกมาก่อนรู้สึกประหม่าและทำอะไรไม่ถูก
พวกนางถูกสิบสองวิหารข่มเหงมานับพันปี ศิษย์วิหารหยกวิญญาณเสียชีวิตไปอย่างลึกลับที่โลกภายนอกตั้งเท่าไร? พวกนางจะจินตนาการได้อย่างไรว่าวันหนึ่งพวกนางจะได้ออกจากถ้ำมืดสลัวในภูเขาฝูเหยา? พวกนางไม่เคยคิดเลยว่าตนจะสามารถเป็นเหมือนคนทั่วไปได้ สามารถยืนอย่างสบายใจภายใต้แสงอาทิตย์ ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในโลกใบนี้
สำหรับความชื่นชอบเช่นนี้ เหล่าศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณเปลี่ยนจากความตื่นตระหนกไปสู่ความซาบซึ้ง คนที่รู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริงก็คือพวกนาง ในที่สุดพวกนางก็สามารถอยู่อย่างอิสระและมีความสุขได้เหมือนคนทั่วไป ไอลีนโนเวล
ต่อหน้าพวกชาวบ้านที่กระตือรือร้นกันมากนั้น เสวี่ยเอ๋อร์ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดอย่างสุภาพขณะที่พยายามหลบหนีจากพวกเขา
หลังจากที่วิหารหยกวิญญาณรวบกองกำลังทั้งหมดของสิบสองวิหารเข้ามานั้น สิ่งแรกที่พวกเขาทำไม่ใช่การสร้างวิหารสำหรับวิหารหยกวิญญาณ แต่พวกเขาได้เรียกรวมตัวศิษย์ทุกคนมาสั่งว่าไม่ให้พวกเขาใช้อำนาจของวิหารหยกวิญญาณไปกดขี่ข่มเหงชาวบ้าน และห้ามรับของขวัญจากชาวบ้านมาอย่างมักง่าย ไม่เช่นนั้นจะถูกโยนออกจากวิหารหยกวิญญาณ ไม่มีวันได้กลับมาอีก
คำเตือนจากประมุขวิหารหยกวิญญาณนี้ สาวๆทุกคนจำได้ขึ้นใจ พวกนางเป็นหญิงสาวที่ซื่อสัตย์จริงใจ การที่สามารถเดินออกจากภูเขาฝูเหยาได้อย่างอิสระถือเป็นโชคดีที่สุดสำหรับพวกนางแล้ว พวกนางไม่ต้องการอะไรอีก
ในที่สุด เสวี่ยเอ๋อร์ก็เดินออกจากเมืองมาได้อย่างยากลำบาก นางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและเงยหน้าขึ้นมองไปยังร่างเพรียวบางที่อยู่บนเนินลาดก่อนถึงประตูเมือง
ร่างนั้นเล็กและผอมบาง ดูอ้างว้างเล็กน้อย สายลมพัดเส้นผมสีดำของนางปลิวไสวอยู่ด้านหลัง นางยืนโดดเดี่ยวอยู่กลางสายลมราวกับแยกตัวออกจากโลก