ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


“น่าตายนัก! ปล่อยไว้แบบนี้พวกยักษ์ศิลาคงถูกพวกมันเล่นงานแน่….พลปืนคนแคระ ยิงเจ้าพวกนั้นซะ! คุ้มกันให้ยักษ์ศิลาถอยกลับมา”

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มย่ำแย่ เซียวอวี๋ก็รีบสั่งให้พวกยักษ์ศิลาถอยกลับและปิดประตูด่านลง

เมื่อมีพวกนักรบแดนใต้คอยเป็นหัวหอกนำบุก พวกทหารทมิฬก็รุกคืบโจมตีใส่กำแพงอย่างดุดัน

โฮก…….

ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องคำรามดังขึ้นจากทางฝั่งกองทัพของทหารทมิฬ หลังเสียงคำราม กลุ่มสัตว์ประหลาดร่างยักษ์ก็ปรากฏขึ้นในทัพของทหารทมิฬ สัตว์ประหลาดเหล่านี้แต่ละตัวมีดวงตาสี่ดวงบนใบหน้า มีแขนถึงสี่แขนอยู่ข้างลำตัว

สัตว์ประหลาดสี่แขนเหล่านี้ดูเหมือนจะมีความสามารถในการปีนกำแพง แม้กำแพงด่านที่ก่อขึ้นมานี้จะนับว่าสูงหากเทียบกับตัวเมืองทั่วไป กระนั้นแน่นอนว่าคงไม่อาจหยุดยั้งเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์พวกนี้ได้

“หลายวันก่อนก็มีเจ้าพวกนี้?” เซียวอวี๋หันไปถามโถวปาหู่

หลังจากโถวปาหู่นำทัพพยัคฆ์กลับเข้าด่านมาแล้ว เขาก็รีบขึ้นมาสังเกตุการณ์บนกำแพงทันที

โถวปาหู่ขมวดคิ้วมุ่น “หลายวันก่อนพวกมันบุกมาเพียงตัวเดียว แต่พวกเรายันมันกลับไปได้ ครานี้กลับขนมามากมายนัก”

เซียวอวี๋พยักหน้ารับ “ดูเหมือนวันนี้พวกเราคงได้สนุกกันทั้งคืน พวกมันคงเตรียมโถมบุกแล้ว”

โถวปาหู่ยิ้มเจื่อน “ท่านมาได้ถูกเวลาทุกครั้งจริงๆ แม้ไม่อยากกล่าวแต่ก็คงต้องบอกว่าท่านนี่มีชะตาเป็นผู้กอบกู้ของจักรวรรดิเมฆาจริงๆ”

เซียวอวี๋หัวเราะ “คำกล่าวของท่านนี้นับว่าถูกใจข้าจริงๆ ในโลกนี้คงมีคนกล่าวตรงๆเช่นท่านอยู่ไม่มาก ข้าเชื่อว่าหลังจากเรื่องราวคราวนี้จบลง ดินแดนไลอ้อนและจักรวรรดิเมฆาจะต้องมีสัมพันธ์อันดีสืบไป”

เซียวอวี๋แหงนมองฟ้าพลางกล่าวว่า “ซึ่งที่จริง เป็นมิตรเช่นนี้ยังมีอันใดไม่ดี? พวกเราไม่ต้องรบกัน ประชาชนของพวกท่านก็ไม่ต้องถูกกะเกณฑ์เข้ากองทัพ ไม่ต้องมีชาวบ้านสูญเสียครอบครัวจากไฟสงคราม ประชาชนทุกคนล้วนใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ข้าจะจัดส่งสิ่งของจากทางด้านอาณาจักรพยัคฆ์คำรนมาให้ ส่วนพวกท่านก็จัดส่งม้า ขนสัตว์และสิ่งของอื่นๆกลับมา ทุกฝ่ายต่างก็ได้รับผลประโยชน์ มีชีวิตสงบสุขเช่นนั้นไม่นับดีหรือ?”

โถวปาหู่นิ่งฟังคำกล่าวของเซียวอวี๋ ก่อนที่สุดท้ายจะกล่าวขึ้นว่า “หากทุกคนมีความคิดเช่นท่านก็คงดี หากท่านได้ขึ้นเป็นราชาของอาณาจักรพยัคฆ์คำรนในภายหน้า ผู้คนในแผ่นดินใหญ่ก็นับว่าได้รับการอำนวยพรแล้ว”

เซียวอวี๋ยิ้ม “อันที่จริงข้าไม่ต้องการตำแหน่งราชาอะไรนั่นเลย ขอเพียงไม่มารุกรานข้า ต่างฝ่ายต่างก็อยู่อย่างสันติ ข้าจะมีภรรยาสักหลายคน มีชีวิตอย่างสุขสบาย หากเบื่อก็หาสิ่งใดทำเล่น แต่หากเป็นแบบนั้น ผู้คนคงเรียกข้าว่าเจ้าบุตรล้างผลาญแล้ว”

โถวปาหู่ยิ้มตาม “น่าเสียดายที่ฟ้าไม่ปล่อยให้ท่านมีชีวิตเช่นนั้น ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่เหล่าขุมกำลังต่างๆจะปล่อยให้ท่านอยู่อย่างสงบ ทั่วทวีปแห่งนี้กำลังวุ่นวาย ท่านต้องรับหน้าที่ปกป้องทวีปนี้แล้ว และคงต้องพับเก็บแผนการบุตรล้างผลาญของท่านไปก่อน”

“ฮาฮาฮา..” เซียวอวี๋ระเบิดเสียงหัวเราะ เขามองไปยังพวกสัตว์ประหลาดสี่แขนที่เริ่มลงมือปีนกำแพงก่อนจะขึ้นด้วยเสียงอันดัง “เตรียมตัวต่อสู้! ส่งไอ้พวกตัวประหลาดนี้ลงนรก!”

โอ้ว…..

ได้ฟังคำกล่าวของเซียวอวี๋ ไพร่พลทั้งหมดก็ตะโกนขานรับ ขวัญกำลังใจในตอนนี้นับว่าเต็มเปี่ยม

ปัง……

ขณะที่สัตว์ประหลาดสี่แขนตัวหนึ่งกำลังจะทิ้งตัวลงบนกำแพง เสียงแหวกฝ่าอากาศก็พลันดังขึ้น ก่อนที่เสียงระเบิดจะดังขึ้นพร้อมบนร่างของสัตว์ประหลาดสี่แขนปรากฏรูกลวงรูใหญ่

เป็นฝีมือของทิรันด้า

หลังจากตัดผ่านมาขั้นที่หกได้ ทักษะธนูของนางก็เปี่ยมไปด้วยพลังพิฆาตสูงสุด เพียงศรเวทธรรมดาดอกเดียวก็สามารถสร้างแรงระเบิดได้มหาศาลแล้ว

อันที่จริง หลังสังหารคฑูนลงได้สำเร็จ เหล่าฮีโร่ยกเว้นแพนด้าเฉินและมัลฟูเรี่ยนต่างก็บรรลุขั้นที่หกกันหมด

เวลานี้ กลุ่มกำลังหลักของเซียวอวี๋เรียกว่าแข็งแกร่งจนไม่อาจแข็งแกร่งไปได้กว่านี้แล้ว

ขณะที่เหล่าฮีโร่ยังอยู่ในขั้นที่ห้า พวกเขาก็สามารถรับมือกับยอดฝีมือขั้นที่หกได้แล้ว มาตอนนี้พวกเขาอยู่ในขั้นที่หก เหล่ายอดฝีมือขั้นที่หกทั่วไปย่อมไม่อาจเป็นคู่มือของพวกเขา

เผชิญหน้ากับสัตว์ยักษ์สี่แขนพวกนี้ แม้พวกมันจะมีพละกำลังมาก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่าตัวตนที่แข็งแกร่งประดุจฝันร้ายเหล่านี้ก็มีแต่รอถูกเชือดเท่านั้น

ฟุ่บ!

ขณะที่กลุ่มนักรบแดนใต้กำลังไล่ตามโจมตีพวกยักษ์ศิลาที่กำลังถอยอยู่นั้นเอง ร่างของกรอมก็ร่วงลงมาจากฟ้า เขาหมุนตัวขึ้นกลางอากาศจนก่อเป็นพายุดาบที่มีรัศมีโจมตีสิบเมตรขึ้นมา ผู้ที่สัมผัสถูกพายุดาบนี้ล้วนแต่กลายเป็นเศษเนื้อ

พยุหะดาบ!

ทักษะใหม่ของกรอม พยุหะดาบนี้ในที่สุดก็ได้สำแดงพลังอย่างเต็มที่ ในฐานะทักษะไม้ตายของกรอมแล้ว พลังของมันย่อมไม่ธรรมดา กระทั่งเรียกได้ว่าฝืนชะตาฟ้าเสียด้วยซ้ำ

ทักษะนี้ยังน่ากลัวเสียยิ่งกว่าเวทพายุเพลิงของคาเอลอีก ทุกที่ที่เขาเคลื่อนตัวผ่านล้วนแต่กลายเป็นพื้นที่โล่งเตียน กลุ่มนักรบแดนใต้ที่อยู่ในระยะล้วนแต่ถูกกำจัดสิ้น สิ่งใดก็ตามที่อยู่ในรัศมีพายุดาบนี้ล้วนแต่มีชะตาต้องถูกทำลายโดยไม่อาจหลีกหนี

โถวปาหู่อ้าปากค้างเมื่อได้เห็นท่านี้ของกรอม เขานิ่งงันราวกับสติหลุดลอยไป เขายังมั่นใจว่าหากต้องเผชิญหน้ากับกรอมแบบตัวต่อตัว เขาแน่นอนว่าจะต้องได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด แต่หากกรอมใช้ทักษะสังหารนี้ออกมา เขาเองก็คงยากจะรอด ทักษะนี้สะท้านสะเทือนไปแล้ว

เขาไม่เข้าใจอย่างยิ่งว่าไฉนเหล่านักรบใต้ร่มธงของเซียวอวี๋ถึงล้วนแล้วแต่มีกระบวนท่าพิสดารกันทั้งสิ้น ทุกคนล้วนแต่เป็นนักรบไร้เทียมทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ลงมือสังหาร คล้ายกับว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อสังหารโดยเฉพาะ

กระบวนท่าเหล่านี้ผิดหลักสามัญสำนึกเกินไปแล้ว….

แม้สงครามจะรุนแรงมากเพียงเท่าใด แต่ต่อหน้าพลังของฮีโร่กลุ่มนี้ ทั้งนักรบแดนใต้และสัตว์ประหลาดสี่แขนก็ล้วนแต่ถูกบดขยี้เพียงฝ่ายเดียว พวกมันรุกคืบเข้ามาไม่ได้ด้วยซ้ำ

ยอดฝีมือขั้นที่หกนับเป็นตัวตนที่เป็นดั่งฝันร้ายในสนามรบ และเหล่าฮีโร่ก็น่าสะพรึงยิ่งกว่านั้น พวกเขาสังหารศัตรูราวกับกำลังเด็ดหัวผักกาด

การโจมตีดำเนินอยู่ราวสองชั่วโมง หลังจากนั้นพวกทหารทมิฬก็ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าวันนี้คงไม่อาจยึดกำแพงได้แล้ว ดังนั้นพวกมันจึงค่อยๆถอยทัพกลับไป

หากแต่เซียวอวี๋รู้ดีว่าคลื่นลมกำลังก่อตัว พวกมันจะต้องกลับมาแน่ ทั้งยังกลับมาด้วยความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิม

“เฮ้อ น่าปวดหัวจริงๆ เจ้าพวกนั้นมันอะไรกัน? ทั้งยังมีจำนวนมากขนาดนั้น ไม่ว่าผู้ใดต้องมาสู้แบบนี้ก็คงเหนื่อยจนตาย ไม่รู้ว่าต้องฆ่าไปจนถึงเมื่อใด” เซียวอวี่ทอดถอนใจ

“ดูเหมือนว่าข้าจะพลาดชมเรื่องสนุกเสียแล้ว” พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลัง โถวปาหงเดินมาพร้อมรอยยิ้ม