ตอนที่ 2732 จุดเริ่มต้นที่แท้จริง

“เราทำได้ !!”

“เราทำได้จริงๆ !!!”

มู่ฉินและสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นคนอื่นๆนั้นเต็มไปด้วยความสุขมากๆ เม่อได้เห็นคะแนนของกิลพวกเขา สมาชิกหลายคนถึงกับร้องออกมาด้วยความดีใจ ขณะที่หลายคนก็ชื่นชมยินดีกับช่วงเวลาแห่งชัยชนะนี้

เกือบไปแล้วจริงๆ …. ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา เมื่อได้เห็นคะแนน

ในท้ายที่สุดฟรอสต์ฮีฟเว่นก็สามารถจะเฉือนชนะมิราเคิลไปได้ด้วยการมีคะแนนมากกว่าเพียงสามสิบแต้มเท่านั้น ซึ่งนี่มันก็นับเป็นหนึ่งชั่วโมงในพื้นที่ทรัพยากรขั้นสูง หากไม่ใช่เพราะมันมีกิลบางส่วนที่เลือกจะยอมแพ้ในการโจมตีและแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากรของฟรอสต์ฮีฟเว่น บางทีมิราเคิลอาจจะได้ตำแหน่งสำรองตำแหน่งสุดท้ายที่เหลือไปแทน

ซือเฟิงต้องยอมรับเลยว่ารากฐานของมิราเคิลนั้นแข็งแกร่งกว่าซุเปอร์กิลบางกิลซะอีก

โชคดีที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ตอนนี้เมื่อฟรอสต์ฮีฟเว่นได้ตำแหน่งสำรองตำแหน่งสุดท้ายไป เราก็จะได้รับช่องเข้าสู่ Upper Zone และได้รับสิทธิพิเศษในการควบคุมเมืองในอาณาจักรด้วย

เมื่อซือเฟิงเห็นกิลที่มีรายชื่อทั้งหมดเริ่มถูกจัดระเบียบใหม่ตามคะแนนของพวกเขา และมันก็ชัดเจนว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นเข้าไปอยู่อันดับหกอย่างเป็นทางการ เขาก็เริ่มพิจารณาถึงขั้นตอนต่อไปของแผนเขาทันที

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาการมาถึงของการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกทำให้โครงสร้างอำนาจของ God domain เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากการเพิ่มเข้ามาของกองกำลัง NPC มันจึงทำให้คู่แข่งของมหาอำนาจต่างๆไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่มหาอำนาจกลุ่มอื่นๆอีกต่อไป พูดกันตรงๆกองกำลัง NPC นั้นได้กลายมาเป็นคู่แข่งที่รับมือได้ยากที่สุดเลยด้วยซ้ำ

กองกำลัง NPC เหล่านี้ไม่ใช่องค์กรธรรมดา

ก่อนที่ God domain จะได้รับการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก จำนวนประชากร NPC ของ God domain นั้นถือว่ามีน้อยมากๆ อย่างไรก็ตามหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก จำนวนประชากรของ NPC ก็เพิ่มขึ้นย่างมากมายมหาศาล

นอกเหนือจากจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร NPC แล้ว กองกำลัง NPC ที่โดยปกติจะถูกกล่าวถึงแค่เฉพาะในหนังสือหรือการสนทนาระหว่าง NPC เท่านั้น จะถูกเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการในเกม ในความเป็นจริง ในอีกไม่กี่วันมหาอำนาจต่างๆจะค้นพบเรื่องที่น่ากลัว แม้ว่าประชากรผู้เล่นของ God domain จะมีมากเพียงใด แต่ความจริงหลังจากนี้ก็คือ ผู้เล่นทั้งหมดก็ยังนับเป็นส่วนน้อยเท่านั้นของผู้ที่อยู่อาศัยใน God domain

ใช่แล้ว แม้ว่าผู้เล่นในปัจจุบันของ God domain ทั้งหมดจะมีจำนวนมากกว่าหมื่นล้านคน แต่ผู้เล่นก็จะยังเป็นแค่เพียงส่วนน้อยเท่านั้นของผู้ที่อยู่อาศัยใน God domain

ในอนาคต อาณาจักร NPC ใดๆก็ตามจะมี NPC มากกว่าสองพันล้านคน ขณะที่ประชากรผู้เล่นในปัจจุบันสามารถจะเทียบได้กับประชากร NPC ราวห้าถึงหกอาณาจักรเท่านั้น และสำหรับจักรวรรดิ ประชากรผู้เล่นก็น่าจะเทียบได้กับประชากร NPC ในหนึ่งจักรวรรดิเท่านั้น

อย่างไรก็ตามผู้เล่นของ God domain นั้นกระจัดกระจายกันอยู่ไปทั่วตามอาณาจักร และจักรวรรดิของทวีปหลักทั้งสองด้าน นอกจากนี้มันก็ยังมีผู้เล่นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในโลกอื่น ดังนั้นในอนาคตกองกำลังท้องถิ่นจะกลายเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรและจักรวรรดิต่างๆ

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก ปัญหาที่รุนแรงก็จะปรากฎขึ้น ซึ่งนั่นก็คือการหายไปของกลไกการป้องกันสำหรับผู้เล่น ณ จุดนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังไม่ทราบถึงการมีอยู่ของกลไกการป้องกันนี้ด้วยซ้ำ นี่เป็นเพราะว่ากลไกนี้นั้นมันมีอยู่เพื่อป้องกัน NPC จากการกำหนดเป้าหมายมาที่ผู้เล่นโดยเฉพาะ

ดังนั้นมันจึงทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่จะไม่สังเกตเห็นการมีอยู่ และจุดประสงค์ที่แท้จริงของมัน เนื่องจากพวกเขาใช้ประโยชน์จากมันตามปกติทุกวัน

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้จะเปลี่ยนไปในโลกของ God domain ในอนาคต ตราบใดที่ผู้เล่นออกไปจากเมือง พวกเขาก็จะไม่ได้รับการปกป้องจากกลการป้องกันนี้อีกต่อไป

ซึ่งนี่มันหมายความว่าอย่างไรน่ะหรอ ?….

ตอนแรกผู้เล่นทั่วไปก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากแล้วเมื่อออกไปนอกเมือง นี่ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปจะต้องเผชิญหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เลย แถมนี่มันก็จะนับเป็นหายนะสำหรับกิลที่กำลังเติบโตใน God domain ด้วย

นี่เป็นเพราะ NPC จะสามารถริเริ่มโจมตีผู้เล่นได้ การปล้นสิ่งของ และสินค้ากันในระหว่างการเดินทาง การโจมตีเพื่อขโมยไอเทมที่ผู้เล่นได้รับจากมอนสเตอร์ หรือการโจมตีผู้เล่นเพราะ NPC อารมณ์ไม่ดีมา ต่อไปมันจะกลายเป็นเรื่องปกติใน God domain

ในความเป็นจริง ซือเฟิงเองก็เคยถูกปล้นโดย NPC ขั้นสี่มาหลายครั้งในชีวิตที่ผ่านมาของเขา

แน่นอนว่า NPC ที่ทรงพลังนั้นจะไม่ปล้นใครก็ตามที่พวกเขาเห็นแบบมั่วๆ พวกเขา NPC แบบนี้จะมุ่งเน้นไปที่การขโมยและปล้นสิ่งของที่มีค่ามากๆ สิ่งของธรรมดาแทบจะไม่สามารถกระตุ้นความสนใจของ NPC ที่ทรงพลังเหล่านี้ได้

การเปลี่ยนแปลงในเกมที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ มันจะไม่เอื้อต่อซือเฟิงอย่างมาก เพราะท้ายที่สุดเขาถือไอเทมและสิ่งของมีค่าอยู่มากเกินไป ก่อนหน้านี้เนื่องจากเขามีกลไกการป้องกันนี้คอยช่วย เขาจึงไม่ต้องกังวลว่า NPC จะโจมตีเขา แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งมันบังคับให้เขาต้องดำเนินการทุกอย่างแบบรอบคอบมากกว่าเดิม

อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญที่สุดในการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงในการจัดการเมืองกิลที่จะเกิดขึ้นหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก

ในช่วงแรกของการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก ผู้เล่นจะยังไม่ทันได้สังเกตเห็นปัญหาเกี่ยวกับกองกำลัง NPC อย่างไรก็ตามเมื่อกองกำลัง NPC ท้องถิ่นได้สืบสวนผู้เล่นอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาก็จะเริ่มปฎิบัติการโจมตีเมืองกิลแบบเปิดเผย และหาก
เมืองกิลไม่มีการป้องกันที่ดีพอ มันก็อาจจะถูกกองกำลัง NPC ยึดไปได้ง่ายๆเลย

นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มหาอำนาจหลายกลุ่มพินาศ รวมไปถึงยอมถอยออกไป หลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกของ God domain

ในขณะเดียวกันสถานการณ์ตอนนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่าในชีวิตก่อนหน้านี้ของซือเฟิงมากๆ ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เมื่อการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกมาถึง หลายกิล รวมไปถึงมหาอำนาจต่างๆนั้นมีผู้เล่นขั้นสี่บางส่วนไว้ใช้ปกป้องดินแดนของตนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในชีวิตนี้นับประสาอะไรกับผู้เล่นขั้นสี่ มหาอำนาจต่างๆยังไม่มีผู้เล่นขั้นสามอยู่มากมายนักด้วยซ้ำภายใต้การบังคับบัญชาของพวกเขา และนี่มันก็จะทำให้กลายเป็นฝันร้ายแน่นอนสำหรับมหาอำนาจต่างๆในการจะปกป้องเมืองกิลของตัวเองจากกองกำลัง NPC ต่างๆ

ณ จุดนี้ซือเฟิงสามารถจะมองเห็นมหาอำนาจมากมายที่จะพินาศลงไปจากเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน และเมื่อเทียบกับชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ผลพวงจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกในชีวิตนี้มันจะเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวดกว่ามากแน่นอน

อย่างไรก็ตามตอนนี้ เมื่อกิลของเขาได้รับสิทธิพิเศษแล้ว กิลของเขาก็จะสามารถเข้าควบคุมเมือง NPC และขอใบอนุญาติการเคลื่อนย้ายเมืองกิลได้ จากนั้นสภาสิบแปดปีกก็จะมีสิทสูงมากที่จะผงาดขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ที่แท้จริงในช่วงสงครามแห่งการแย่งชิงนี้ ซึ่งเมื่อซือเฟิงคิดถึงสถานการณ์นี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มันมีกิลชั้นสูงบางแห่งที่ได้เติบโตขึ้นเป็นกิลชั้นยอด และซุเปอร์กิลได้ เพราะพวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ได้อย่างดี

ในระยะแรกของ God domain มหาอำนาจต่างๆมีความได้เปรียบอย่างมากในด้านจำนวน เพราะพวกเขามีจำนวนคนมากกว่ากิลขนาดใหญ่ทั่วไปต่างๆ อย่างไรก็ตามหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้แต่ในหมู่มหาอำนาจต่างๆ พวกเขาก็จะได้พบว่าจะมีบางกลุ่มที่เติบโตต่อไปได้ยากอย่างไม่น่าเชื่อ

และเมื่อพูดกันถึงจุดนี้นั้น มันก็จะต้องบอกว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะนำมาซึ่งการล่มสลายของมหาอำนาจบางกลุ่ม และเมื่อมหาอำนาจบางกลุ่มล่มสลายไป ผู้เล่นของพวกเขาก็จะกลายเป็นผู้เล่นอิสระ โดยหากสภาสิบแปดปีกสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ได้อย่างเหมาะสม และรับสมัครคนเหล่านี้เข้ามา กิลก็จะสามารถกลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่แท้จริงได้อย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้นซือเฟิงยังมั่นใจว่าเมื่อสภาสิบแปดปีกมีจำนวนผู้เล่นและผู้เชี่ยวชาญมากเพียงพอแล้ว พวกเขาจะสามารถต่อสู้กับสตาร์ลิ้ง มือแห่งนักบุญ และแม้กระทั่งซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งห้ากิลได้ ว่ากันตามตรงอย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็จะไม่ต้องทนรับแรงกดดันมากเท่ากับในปัจจุบัน เพราะด้วยสถานการณ์ปัจจุบันนั้นหากสภาสิบแปดปีกก้าวพลาดแม้แต่นิดเดียว กิลอาจถึงคราวล่มสลายได้เลย

เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ทำให้มหาอำนาจต่างๆอยู่เหนือกว่ากิลขนาดใหญ่ทั่วไปนั้นคือเหล่ารุ่นเยาว์ที่พวกเขาค่อยๆเลี้ยงดูขึ้นมา เนื่องด้วยทรัพยากรที่มหาอำนาจต่างๆจัดหาให้ รุ่นเยาว์เหล่านี้จึงค่อยๆเติบโตขึ้นกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังในอุตสาหกรรมเกมเสมือนจริงเมื่อเวลาผ่านไป หากสภาสิบแปดปีกไม่ได้เตรียมทุกอย่างเหล่านี้ไว้อย่างเพียงพอ ด้วยความแข็งแกร่ง และจำนวนผู้เชี่ยวชาญในปัจจุบันของกิล กิลจะจัดว่าโชคดีมากแล้ว หากยังรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้ในอนาคต

ในขณะเดียวกันเมื่ออันดับทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ เหล่าผู้ชมที่เข้าชมและมหาอำนาจต่างๆก็ล้วนเต็มไปด้วยความโกลาหลทันที

“อึก !! ฟรอสต์ฮีฟเว่นได้ตำแหน่งสำรองไปจริงๆ !!!”

“ฟรอสต์ฮีฟเว่นช่างโชคดีจริงๆที่ไปเจอม้ามืดอย่างสภาสิบแปดปีกเข้า !!! ด้วยเหตุนี้ฟรอสต์ฮีฟเว่นจะยิ่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นแน่นอน”

“สภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ?” ในขณะที่ผู้เล่นและมหาอำนาจต่างๆที่เข้ามาชมการแข่งขันครั้งนี้คิดว่าชัยชนะของฟรอสต์ฮีฟเว่นมันน่าประหลาดใจ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้มากมายนัก เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นขั้นสี่ที่สภาสิบแปดปีกมีอยู่นั้นมันน่ากลัวเกินไป พวกเขาไม่ใช่ผู้ที่ผู้เล่นขั้นสามหวังจะต่อกรด้วยได้เลย

พูดกันตามตรงๆมหาอำนาจต่างๆให้ความสนใจกับสภาสิบแปดปีกมากกว่า
ฟรอสต์ฮีฟเว่นด้วยซ้ำ

“ฮึ่มม !!! ในครั้งนี้ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็สามารถจะคิดว่าตัวเองโชคดีได้นั่นแหละ !!!” หลังจากเช็คอันดับของกิลทั้งหมด โคลท์ชาโด้วก็เหลือบไปมองที่ซือเฟิงพลางหัวเราะเยาะ “อย่างไรก็ตามนับจากนี้สภาสิบแปดปีกจะไม่โชคดีอีกต่อไปแน่นอน !!!”

ตะปูที่ยื่นออกมาจะต้องโดนตอก !!

ประโยคนี้นับเป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับกิลที่มีชื่อเสียงอย่างมากแบบสภาสิบแปดปีก

มหาอำนาจต่างๆนั้นเจอกับข้อจำกัดอย่างมากในการนำผู้เล่นมาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้วขั้นสามนั้นเป็นขั้นต่ำที่ผู้เล่นต้องการจึงจะเข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ อย่างไรก็ตามในโลกภายนอกมันไม่มีข้อจำกัดดังกล่าว

ความจริงที่ว่าสภาสิบแปดปีกได้เปิดเผยผู้เล่นขั้นสี่ออกมาสองคนในตอนนี้ มันได้ไปกระตุ้นให้มหาอำนาจต่างๆอิจฉาอย่างรุนแรง

สภาสิบแปดปีกนั้นเป็นเพียงกิลกึ่งมหาอำนาจเท่านั้น แต่พวกเขากับสร้างผู้เล่นขั้นสี่ขึ้นมาได้แล้วถึงสองคน หากมีคนพูดว่ามันไม่มีความลับเบื้องหลังความสำเร็จนี้ก็คงจะไม่มีใครเชื่อแน่นอน

หลังจากการแข่งขันครั้งนี้จบลง เธอสามารถเดาได้อย่างชัดเจนเลยว่า มันจะมีผู้ออกไล่ล่าข้อมูลเรื่องนี้จากสภาสิบแปดปีกจำนวนมาก และหากกิลไม่ยอมบอกความลับเรื่องการเลื่อนขั้น ขั้นสี่ มันก็จะมีเพียงแต่ความตายเท่านั้นที่รอกิลอยู่

ในขณะที่มหาอำนาจและกิลขนาดใหญ่ต่างๆเริ่มวางแผนต่อต้านสภาสิบแปดปีก ซือเฟิงก็ไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดนี้เลย และหลังจากที่วิหารเทพสงคราม ประกาศผู้ที่ได้รับตำแหน่งสำรองหกตำแหน่งไปพร้อมกับมอบใบรับรองกิลอย่างเป็นทางการจากวิหารเทพสงครามให้สภาสิบแปดปีก ซือเฟิงก็จัดการยุบทีมที่เขาอยู่ลงทันที ก่อนที่จะพาคนของเขาไปบอกลามู่ฉิน และออกไปจากจักรวรรดิมังกรไฟอย่างเงียบๆ เขาไม่ได้อยู่ร่วมในงานเลี้ยงฉลองของฟรอสต์ฮีฟเว่นด้วยซ้ำ ….

นี่ทำให้เซเว่นวอร์นเดอร์ และหงซินหยวนนั้นรู้สึกเสียใจมากที่พลาดโอกาสที่จะได้ขอบคุณซือเฟิงอย่างเหมาะสม

“แบล๊คเฟรม เป็นคนที่ไม่อาจหยั่งถึงได้จริงๆ ….” หลังจากมองดูร่างของซือเฟิงหายไปจากระยะไกล เซเว่นวอร์นเดอร์ก็ได้หันไปหามู่ฉินและพูดอย่างจริงจังว่า “มู่ฉิน นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คุณจะเป็นรองหัวหน้ากิลลำดับที่หนึ่ง และคุณจะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องช่องเข้าสู่ Upper Zone สารอาหารเหลวระดับ S และกิจการที่ตามมาที่เกี่ยวข้องกับการเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกของเรา ฉันเชื่อว่าคุณจะสามารถทำมันออกมาได้ดี”
“หัวหน้ากิลวางใจได้เลย ฉันจะไม่ทำให้หัวหน้ากิลผิดหวังแน่นอน” มู่ฉินตอบอย่างดีใจ

ในขณะเดียวกันหลังจากซือเฟิงออกจากวิหารเทพสงครามไป เขาก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะกลับไปยังสถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีกเพื่อจัดการ การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มจะเกิดขึ้นทั้งหมด

แต่เขากลับเดินทางไปยังอาณาจักรทวินทาวเวอร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ใกล้จะถูกทำลายล้างแทน โดยอาณาจักรนี้ในอนาคต มันจะกลายเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ยอดเยี่ยมที่สุด

เมืองทวินทาวเวอร์ ศาลากลางเมือง :

“ท่านจะให้ฉันรับใช้อย่างไร ?” ผู้ดูแลชายที่มีเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ และอยู่ในขั้นสามถาม เมื่อเห็นซือเฟิงเดินเข้ามาในอาคาร “หากต้องการซื้อที่ดิน ทางเราก็ต้องขออภัย เราไม่ได้ขายที่ดินให้กับประชาชนอีกต่อไป”

“ไม่ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อซื้อที่ดิน” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว จากนั้นเขาก็หยิบใบรับ
รองกิลอย่างเป็นทางการจากวิหารเทพสงครามออกมา และพูดว่า “ฉันเป็นหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก กิลของฉันปราถนาที่จะเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองนี้อย่างเป็นทางการ มันเป็นไปได้ไหม ?”