ตอนที่ 2733 เข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองในอาณาจักรทวินทาวเวอร์
วีโก้ ผู้ดูแลชายที่มีเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ และอยู่ในขั้นสาม มองไปที่ใบรับรองในมือของซือเฟิง และทำการตรวจสอบมันอย่างรอบคอบ
“เป็นไปได้แน่นอน นี่มันคือใบรับรองกิลอย่างเป็นทางการจากวิหารเทพสงครามของจริงเลย” วีโก้พยักหน้า พลางจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความเคารพที่มากขึ้น จากนั้นเขาก็กล่าวเสริมอย่างช้าๆ “ท่านลอร์ดหัวหน้ากิล ใบรับรองของท่านนั้นมันถูกต้อง และเป็นของจริงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในฐานะที่กิลของท่านเป็นกิลธรรมดา กิลของท่านจึงยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองหลวงของเรา แต่ท่านก็สามารถเลือกที่จะเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองอื่นๆในอาณาจักรทวินทาวเวอร์ได้”
แน่นอนเลยว่าสภาสิบแปดปีกยังคงไม่สามารถเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองหลวงได้ ซือเฟิงนั้นไม่ได้แปลกใจมากนักกับการปฎิเสธของวีโก้ “เนื่องจากเป็นแบบนี้ สภาสิบแปดปีกจะขอเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองสกายสปริงแล้วกัน”
แม้ว่าวิหารเทพสงครามจะยอมรับว่าสภาสิบแปดปีกเป็นกิลอย่างเป็นทางการใน God domain แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่การยอมรับเท่านั้น และมันไม่มีอะไรเพิ่มเติมอีก ในตอนแรกซือเฟิงคิดว่าด้วยความเสื่อมโทรมและใกล้ล่มสลายของอาณาจักรทวินทาวเวอร์ เนื่องจากพวกมอนสเตอร์ Abyss มันอาจจะทำให้สภาสิบแปดปีกสามารถเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองหลวงของอาณาจักรนี้ได้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะยังคงประเมินอาณาจักรทวินทาวเวอร์ต่ำเกินไป
แต่หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็พบว่ามันสมเหตุสมผล ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา อาณาจักรทวินทาวเวอร์นั้นเป็นอาณาจักรที่ส่องสว่างไปทั่วทวีปหลักของ God domain เลย อันเนื่องมาจากหอคอยแห่งกาลเวลา และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับที่มันตั้งอยู่ที่นี่ โดยมันก็เคยเป็นอาณาจักรที่อยู่เหนือกว่าอาณาจักรอื่นๆมากมายด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าอาณาจักรทวินทาวเวอร์ในตอนนี้จะดูย่ำแย่มาก แต่เนื่องจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกนี้ มันก็จะเริ่มมี NPC จำนวนมากปรากฎขึ้นทั่วอาณาจักร และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น มันก็จะเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ NPC จะเริ่มพลิกกระดานและโต้ตอบมอนสเตอร์ Abyss ไม่งั้นซือเฟิงคงจะไม่รีบมาที่นี่ด้วยความหวังที่จะนำสภาสิบแปดปีกเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองหลวง หรือไม่ก็เมืองในอาณาจักรทวินทาวเวอร์แน่นอน ….
“นั่นไม่ใช่ปัญหา โปรดตามฉันมา ฉันจะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นให้ท่านทั้งหมด …” วีโก้กล่าว พลางพาซือเฟิงขึ้นไปที่ห้องโถงชั้นสาม
ระหว่างทางไปชั้นสาม ซือเฟิงก็สังเกตเห็นว่าจำนวน NPC ในศาลากลางเมืองนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะเห็น NPC ขั้นสามสักคนในศาลากลางเมือง อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเห็นมากกว่าหนึ่งโหล ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่ NPC เหล่านี้ก็ยังอยู่ในเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบ ในขณะที่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นมีเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบสองเลย ซึ่งพวกเขาไม่ใช่ตัวตนที่ผู้เล่นขั้นสามในปัจจุบันจะสามารถต่อกรได้เลย
ด้วยเหตุนี้ซือเฟิงจึงสามารถคาดเดาได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันจะมี NPC ขั้นสามปรากฎตัวขึ้นอีกมากแน่นอนในอาณาจักรทวินทาวเวอร์ ในอนาคนอันใกล้นี้ และด้วยพลังการต่อสู้ของ NPC เหล่านี้ การจะเข้าโจมตีและยึดพื้นที่ทั้งหมดของอาณาจักรทวินทาวเวอร์กลับมาจากมอนสเตอร์ Abyss มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ในขณะเดียวกันเมืองสกายสปริงที่เขาเลือกให้กองกำลังของสภาสิบแปดปีกเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองนั้น มันคือเมือง NPC ที่อยู่ใกล้กับหอคอยแห่งพันธสัญญาลับที่สุด
แม้ว่าเมืองสกายสปริงจะไม่ได้ติดอยู่ในสิบห้าอันดับแรกของเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรทวินทาวเวอร์ แต่หลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก หอคอยแห่งพันธสัญญาลับนั้นมันจะน่าดึงดูดกว่าหอคอยแห่งกาลเวลามากๆ
นี่เป็นเพราะหอคอยแห่งพันธสัญญาลับนั้นนับเป็นดินแดนศักสิทธิ์สำหรับผู้เล่นที่จะออกล่าเพื่อเก็บเลเวลและรับเอาทรัพยากร
ก่อนที่จะมีการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกของ God domain การออกล่าเพื่อเก็บเล
เวลนั้นเป็นงานประจำวันของผู้เล่น อย่างไรก็ตามหลังจากการอัพเดทนี้ งานประจำวันนี้มันจะอันตรายมากขึ้น
หากผู้เล่นไม่เพียงความแข็งแกร่งที่มากเพียงพอจริงๆ เมื่อพวกเขาออกจากขอบเขตของเมือง NPC พวกเขาจะต้องต่อสู้แบบเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นด้ายเลย นี่เป็นเพราะ NPC และมอนสเตอร์นั้นจะมีสติปัญญาที่สูงมากหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก โดยทั้งสองฝ่ายนี้จะไม่ปล่อยให้ผู้เล่นฆ่าแบบโง่ๆอีกต่อไป
ทั้ง NPC และมอนสเตอร์จะยินดีที่จะต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเพื่อเอาชีวิตรอด
ดังนั้นการล่ามอนสเตอร์ หรือปะทะกับ NPC จะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความแข็งแกร่งมากพอๆกัน ในความเป็นจริง เมื่อผู้เล่นเริ่มสัมผัสได้ถึงเรื่องนี้หลังการอัพเดทครั้งใหญ่ ผู้เล่นส่วนใหญ่จะไม่กล้าปะทะกับ NPC แบบมั่วๆ และจะไม่กล้าต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่ามากอีกต่อไป
แน่นอนว่าความยากที่เพิ่มขึ้นแบบนี้ มันก็จะควบคู่ไปกับไอเทม และเงินที่จะดรอปเพิ่มขึ้นด้วย แต่ถึงกระนั้นการล่ามอนสเตอร์ และเก็บเลเวลมันก็จะยังคงเป็นงานยากอยู่ดี
อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไปในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ
มอนสเตอร์ที่ติดอยู่ภายในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับจำนวนมากนั้นล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง แต่พวกมันก็ไม่ได้รับสติปัญญาใดๆเพิ่มเติมมากนัก สิ่งเดียวที่จะเน้นอยู่ภายในใจของพวกมันจริงๆคือการเข่นฆ่าเท่านั้น
ถึงกระนั้นแม้จะเป็นแบบนี้ แต่มอนสเตอร์เหล่านี้ก็ยังจะให้ EXP มากเท่ากับมอน
สเตอร์ในโลกภายนอก ปัญหาเดียวคือการเข้าไปในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นคริสตัลเวทย์มนต์ นอกจากนี้ หากพูดกันตามตรงมอนสเตอร์ที่อยู่ภายในมันก็ไม่ได้ดรอปไอเทม เหรียญทอง รวมไปถึงวัสดุที่คุ้มค่าเท่ากับค่าใช้จ่ายมากนัก
โชคดีที่ผู้เล่นที่เข้าไปในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับนั้นไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเรื่องพวกนี้เป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ของพวกเขาจะเข้าไปหาไอเทมโบราณจากอารยธรรมที่อยู่ในนั้น และยิ่งเข้าไปในหอคอยลึกเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งพบไอเทมที่ดีขึ้นมากเท่านั้น ตัวอย่างเช่นแบบแปลนอาวุธ อุปกรณ์ รวมไปถึงสูตรของโพชั่นระดับปรมาจารย์ และแม้กระทั่งมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามก็ยังมีอยู่ที่นี่
ใช่แล้ว !!!
มรดกที่สมบูรณ์ขั้นสาม !!!
มันแตกต่างจากมรดกที่กระจัดกระจายอยู่ในโลกภายนอก มรดกที่สมบูรณ์นี้จะช่วยลดความยากในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามของผู้เล่นลงไปได้มาก โดยมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามนั้นจะช่วยให้กิลสามารถผลิตผู้เล่นขั้นสามได้มากขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ และมันก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่ามรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามนั้นมีค่ามากกว่าเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานหลายร้อยเท่า
ในขณะเดียวกันมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามก็จะเริ่มปรากฎขึ้นตั้งแต่ชั้นที่สิบแปดเป็นต้นไปเท่านั้น ซึ่งหอคอยแห่งพันธสัญญาลับนี้จะกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเลยหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้หอคอยแห่งพันธสัญญาลับเป็นเพียงสถานที่สำหรับล่าของผู้เล่นที่มีเลเวลต่ำกว่าหนึ่งร้อยเท่านั้น และมันไม่เหมาะสำหรับผู้เล่นเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยเลย
อย่างไรก็ตามหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก หอคอยแห่งพันธสัญญาลับจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา หลังจากที่มีการเปิดเผยว่าหอคอยแห่งพันธมิตรสัญญาลับนั้นดรอปมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามเอาไว้ มหาอำนาจต่างๆในทวีปด้านตะวันออกล้วนรีบมารวมตัวกันที่อาณาจักรทวินทาวเวอร์ทันที ซึ่งสิ่งนี้มันก็ทำให้อาณาจักรทวินทาวเวอร์กลายเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่น่าตื่นตาที่สุดใน God domain ทันที ขณะที่เมืองสกายสปริงก็ได้กลายเป็นเมืองหลักของ NPC ที่เป็นรองแค่เมืองหลวงของอาณาจักรเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นานผู้ดูแลวีโก้ก็จัดการขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมดที่จะทำให้สภาสิบแปดปีกสามารถเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองสกายสปริงเสร็จสิ้น
“ท่านลอร์ดหัวหน้ากิล นี่คือโทเค่นเมืองสกายสปริงของท่าน” วีโก้มอบโทเค่นทองคำให้ซือเฟิง จากนั้นเขาก็อธิบายว่า “โทเค่นนี้จะให้สิทบางส่วนแก่ท่านในการจัดการเมืองสกายสปริง ซึ่งนี่รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยและการพัฒนาของเมือง และเมื่อสภาสิบแปดปีกเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองเมื่อไหร่ กิลก็จะได้รับส่วนแบ่งสิบเปอเซ็นต์จากกำไรของเมืองเป็นค่าที่ช่วยบำรุงรักษาและจัดการเมือง”
“ไม่มีปัญหา สภาสิบแปดปีกจะจัดการกับเมืองสกายสปริงอย่างดีที่สุด และเปลี่ยนให้มันเป็นเมืองที่ดีที่สุดในอาณาจักรทวินทาวเวอร์” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า
เมื่อกิลตัดสินใจจะเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองๆหนึ่งแล้ว กิลจะไม่สามารถตัดสินใจละทิ้งเมือง และไปหาเมืองอื่นได้โดยพลการ มันอาจกล่าวได้ว่ากิลและเมืองจะต้องผูกพันกันไม่ว่ามันจะดีหรือไม่ดี ดังนั้นแม้ว่ากิลจะสามารถเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมือง NPC ได้แล้ว แต่พวกเขาก็จำเป็นจะต้องเลือกเมืองให้ดี ….
โชคดีที่ซือเฟิงจะไม่ต้องกังวลกับปัญหาเรื่องนี้ ….
ในอนาคตเมืองสกายสปริงจะกลายเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งหนึ่งที่สำคัญในทวีปด้านตะวันออกแน่นอน โดยเงินและทรัพยากรที่เมืองจะสามารถหามาได้นั้น มันจะเหนือกว่าเมืองหลวงของอาณาจักรจำนวนหนึ่งด้วย และหากได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้อง มันก็อาจจะเทียบกับเมืองหลวงของจักรวรรดิได้เลย
“ฉันขอภาวนาให้ท่านสามารถบรรลุเป้าหมายที่ยอดเยี่ยมนั่นได้ ….” วีโก้กล่าวด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับความเชื่อมั่นของซือเฟิง
“ตอนนี้ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สภาสิบแปดปีกจะสามารถเปิดใช้งานเส้นเชื่อมต่อการเทเลพอร์ตของเมืองสกายสปริงได้เลยหรือไม่ ?” ซือเฟิงถาม
การได้รับส่วนแบ่งและทรัพยากรจากเมืองนั้นเป็นเพียงหนึ่งในเป้าหมายของเขาเท่านั้นที่เขาได้นำสภาสิบแปดปีกเข้ารักษาการณ์และควบคุมเมืองสกายสปริง สิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับสภาสิบแปดปีกคือเส้นเชื่อมต่อการเทเลพอร์ตจองเมืองสกายสปริงที่จะได้รับมาพร้อมกับเรื่องนี้ และนี่มันก็เป็นเหตุผลที่มหาอำนาจต่างๆได้ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรอง
“แน่นอน อย่างไรก็ตามกิลของท่านจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเพื่อผูกมัดเส้นเชื่อมต่อการเทเลพอร์ต และวงเวทย์เทเลพอร์ตของเมืองสกายสปริงด้วย” วีโก้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี
“การผูกมัดเส้นเชื่อมต่อการเทเลพอร์ต และสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตขนาดใหญ่ มันมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ?” ซือเฟิงถาม
“ถ้าตามที่ท่านถามมา มันก็จะมีราคาเป็นเงินหนึ่งแสนเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์สามหมื่นชิ้น นอกจากนี้มันยังจะมีค่าแรงเพิ่มอีกห้าพันเหรียญทองด้วย” วีโก้กล่าว “โดยรวมแล้วมันจะรวมเป็นเงินหนึ่งแสนห้าพันเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์สามหมื่นชิ้น …”
“พวกคุณนี่ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ มันก็แค่ต้องใช้วัสดุธรรมดาๆจำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่พวกคุณกับเรียกเก็บเงินฉันหนึ่งแสนเหรียญทองจริงๆ” ซือเฟิงอดไม่ได้จะบ่นกับราคาของวีโก้
หากเป็นก่อนหน้านี้ เขาอาจจะสามารถยอมรับราคานี้ได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามหลังจากได้มีประสบการณ์ในการสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตด้วยตัวเอง เขาก็รู้เลยว่าวัสดุทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้มันมีราคาถูกมาก และอย่างมากมูลค่าวัสดุรวมกันมันก็จะคิดเป็นเงินแค่หลายพันเหรียญทองเท่านั้น
“ไม่ ไม่ ไม่ใช่ครับท่าน วัสดุที่อาณาจักรทวินทาวเวอร์ใช้นั้นมันเป็นวัสดุชั้นยอดที่ดีที่สุด และมันจะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นเลยแม้จะถูกใช้งานนานนับพันปีก็ตาม” วีโก้ส่ายหัว พลางรีบกล่าวอย่างจริงใจ
“เอาล่ะๆ ฉันเข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตามฉันขอให้ทุกอย่างมันเสร็จสิ้นภายในสองชั่วโมงนะ …” ซือเฟิงกล่าวหลังจากดูเวลา
มันเป็นเวลาเกือบหนึ่งวันแล้ว หลังจากที่การอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกของ God domain เสร็จสิ้นลง และคลื่นระลอกแรกของการเติบโตของประชากร NPC จะเกิดขึ้นในวันที่สองหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก และนี่มันก็จะเป็นช่วงเวลาที่ความมืดเกิดขึ้นในหมู่มหาอำนาจต่างๆ
“นั่นไม่ใช่ปัญหา …” วีโก้กล่าวอย่างมั่นใจ “ว่าแต่เมืองกิลเมืองไหนของท่านที่ท่านต้องการให้เราตั้งค่าเส้นทางการเทเลพอร์ตให้ผูกมัดและเชื่อมต่อกัน ?”
“เมืองสภาสิบแปดปีก !!!” ซือเฟิงตอบพลังจากครุ่นคิด เมืองปีกสีเงินนั้นจะเป็นหัวใจในการพัฒนาในอนาคตของสภาสิบแปดปีก และเป็นเมืองหลักที่กิลต้องใช้ต่อต้านมือแห่งนักบุญ ดังนั้นมันจึงจำเป็นที่จะต้องให้เมืองปีกสีเงินพัฒนาไปอย่างรวดเร็วที่สุด
“แม้มันจะอยู่ไกลไปเล็กน้อย แต่ตราบใดที่ท่านลอร์ดชำระค่าใช้จ่ายครบถ้วน เราก็จะเริ่มดำเนินการได้ทันที” วีโก้กล่าวพลางกัดฟัน ขณะที่เขามองดูแผนที่
เมื่อได้เห็นท่าทีของวีโก้ ซือเฟิงก็รีบจัดการชำระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทั้งหมดทันที ซึ่งเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย NPC ผู้นี้ก็รีบขอตัวออกจากห้องไป เห็นได้ชัดว่าเขากำลังรีบจะเดินทางไปที่เมืองปีกสีเงิน
ต่อไปฉันก็จะต้องไปเช็คดูว่าจำนวนประชากรของ NPC จะเพิ่มขึ้นมากขนาดไหนในช่วงคลื่นระลอกแรก ซือเฟิงครุ่นคิดและใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที หวังว่ามันคงจะเป็นไปอย่างที่ฉันคิดนะ ….
แม้ว่าเขาจะสามารถดำเนินการตามแผนของเขาได้ทันเวลา แต่ความสำเร็จของแผนของเขามันก็ยังคงจะขึ้นอยู่อยู่กับอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากร NPC ในช่วงคลื่นระลอกแรกอยู่ดี ซึ่งหากการเพิ่มขึ้นของประชากร NPC มีมากเกินไป สภาสิบแปดปีกก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมได้ เพราะท้ายที่สุดในตอนนี้กิลมีผู้เล่นขั้นสามน้อยเกินไป ในขณะเดดียวกันผู้เล่นขั้นสามก็นับเป็นข้อกำหนดขั้นต่ำในการที่จะใช้รักษาความสงบเรียบร้อย และปลอดภัยในเมืองกิล
เมื่อเวลา 6.00 AM. มาถึง ดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า และส่องแสงระยิบระยับไปตามเมืองต่างๆของ God domain ซึ่งนี่มันนับเป็นสัญลักษณ์ว่าวันใหม่ของ God domain ได้มาถึงแล้ว