คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1040

แดร์ริลครุ่นคิดก่อนจะถามเฟลิกซ์ว่า “เฟลิกซ์ มีวิธีไหนที่ฉันจะแอบเข้าไปในตระกูลบ๊อกซ์ได้บ้างไหม?”

ตราบใดที่เขาแอบเข้าไปในตระกูลบ๊อกซ์ได้ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะได้แก่นแท้ของมังกรมา

“ผมมีวิธีพาคุณเข้าไปที่นั่นได้ แต่ว่า…”

เฟลิกซ์ถอนหายใจก่อนจะกล่าวต่อ “แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะเห็นด้วยกับผมหรือเปล่า ผมได้ยินมาว่าผู้นำตระกูลบ๊อกซ์ต้องการจ้างบอดี้การ์ดให้กับลูกสาวทั้งสองคนของเขา เขาต้องการนักรบระดับสูงหนุ่มแน่น ซึ่งคุณมีคุณสมบัติทุกอย่างตามที่เขาต้องการ แต่ผมเกรงว่าคุณจะไม่อยากทำเช่นนั้น…”

ก่อนที่เฟลิกซ์จะได้พูดจบ แดร์ริลก็ขัดจังหวะเขาอย่างหนักแน่น “ฉันจะเป็นบอดี้การ์ดให้เขาเอง ช่วยฉันจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเลย”

“ตราบเท่าที่ฉันสามารถเข้าไปในตระกูลบ๊อกซ์ได้ ฉันก็จะมีโอกาสชิงแก่นแท้ของมังกรมาเพื่อรักษาเทพธิดาตัวน้อยได้ ต่อให้ฉันต้องปลอมตัวเป็นคนสวนฉันก็จะทำ”

“แน่นอนบราเธอร์แดร์ริล ผมจะรีบจัดการให้ทันที” เฟลิกซ์ตอบ

หลังจากวางสายแล้ว แดร์ริลก็มองไปที่ร่างของเทพธิดาตัวน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง แดร์ริลก็บอกให้ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถงหลัก

ภายในห้องโถงหลัก แดร์ริลนั่งอยู่บนเก้าอี้กลางห้องโถงในขณะที่เขาจ้องไปที่แด็กซ์ เชสเตอร์ จีเวล เดบร้าและทุก ๆ คนที่อยู่ที่นั่นก่อนจะกล่าวว่า “ฉันต้องไปที่ทวีปมิสท์ลอเรนด้วยตัวเอง ฉันจะออกเดินทางวันนี้”

อะไรนะ?

ทุกคนตกใจที่ได้ยินเช่นนั้น

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครพยายามห้ามเขา เพราะว่าพวกเขาเองก็สนับสนุนที่แดร์ริลต้องการช่วยชีวิตของเทพธิดาตัวน้อย ดังนั้นมันจึงสมเหตุสมผลที่เขาต้องการไปที่นั่นเพื่อค้นหาแก่นแท้ของมังกรด้วยตัวเขาเอง

แดร์ริลถอนหายใจและพูดว่า “แต่ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของตระกูลคาร์เตอร์…”

เมื่อไม่กี่วันก่อน โดน็อกพยายามทำลายตระกูลคาร์เตอร์และเขาก็ยังหนีรอดไปได้ แล้วถ้าหากเขากลับมาอีกครั้งในตอนที่แดร์ริลไม่อยู่ สาวกตระกูลคาร์เตอร์และคนอื่น ๆ จะป้องกันตัวเองได้อย่างไร?

“แดร์ริล”

เดบร้ารู้ดีว่าแดร์ริลเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคนที่นี่ เธอจึงปลอบโยนเขาว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะแดร์ริล ฉันจะปกป้องตระกูลคาร์เตอร์เอง นายไปทวีปมิสท์ลอเรนเถอะ”

ถึงแม้ว่าแดร์ริลจะไม่พูด เดบร้าก็รู้ว่าเขาเป็นห่วงตระกูลคาร์เตอร์มากแค่ไหน

จากนั้นแด๊กซ์ก็พูดขึ้นว่า “ใช่แล้วแดร์ริล ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องพวกเขาด้วยเหมือนกัน ฉันจะสั่งให้สาวกสำนักภูเขาบุปผามาที่นี่ เราจะร่วมกันปกป้องตระกูลคาร์เตอร์เอง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แดร์ริลก็รู้สึกอบอุ่นและประทับใจ

จีเวลเดินเข้าไปหาแดร์ริลและมองเขาอย่างเชื่อฟัง “นายท่าน ฉันจะไม่ตามนายท่านไป ฉันจะอยู่ที่นี่กับพี่เดบร้า”

จีเวลเม้มริมฝีปากเล็ก ๆ ของเธอ เธออยากจะติดตามแดร์ริลไปแต่เธอไม่อยากเป็นภาระของเขา ดังนั้นเธอจึงรอเขาอยู่ที่นี่

แดร์ริลหัวเราะพร้อมกับยกมือขึ้นลูบศรีษะของจีเวลเบา ๆ “ก็ได้!”

ตั้งแต่วันที่พวกเขาพบกัน จีเวลก็ไม่เคยห่างจากแดร์ริลเลย เขาเองก็เป็นกังวลว่าจีเวลจะอยากติดตามเขาไป เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น มันอาจจะทำให้ภารกิจของเขาช้าลง

แต่เขาไม่คิดว่าจีเวลจะเข้าใจเขาได้ขนาดนี้

เมื่อแดร์ริลฝากฝังทุกอย่างกับพวกเขาแล้ว เขาก็สั่งสาวกคาร์เตอร์คนหนึ่งด้วยใบหน้าที่มืดลง “ไปพาลินเซย์ โจนส์มาที่นี่ที!”

แดร์ริลจับตัวลินเซย์ได้ที่หอคอยดาวปรารถนา และเขาก็กักขังเธอเอาไว้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

“ครับนายน้อย”

สาวกคาร์เตอร์หลายคนลุกขึ้นตามไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานพวกเขาก็กลับมาพร้อมกับหญิงสาวรูปร่างผอมบาง

เธอคือลินเซย์ โจนส์

เธอถูกมัดเอาไว้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่มีท่าทีของความหยิ่งยโสอีกต่อไป

ร่างกายที่สมบูรณ์แบบของลินเซย์สั่นสะท้านเมื่อได้เห็นผู้คนมากมายภายในห้องโถงหลัก

‘นายกองคมนตรีได้ฆ่าคนของพวกเขาไปมากมาย พวกเขาจะไม่มีวันปล่อยฉันไป’

“แดร์ริล!”

แด๊กซ์มองลินเซย์ด้วยสายตาอาฆาตแค้นก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “เรามาฆ่าเธอทิ้งซะ!”

คนอื่น ๆ ก็ตะโกนขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวเช่นกัน

“ใช่แล้ว ฆ่าเธอทิ้งไปซะ!”

“ใช่ เธอสมควรตาย!”

เมื่อได้ยินถ้อยคำสาปแช่งมากมาย ใบหน้าของลินเซย์ก็ซีดเซียวในขณะที่ขาของเธอก็อ่อนแรงลง

แดร์ริลยกมือขึ้นพร้อมพูดว่า “ช้าก่อน อย่าเพิ่งฆ่าเธอตอนนี้ เรามาให้เธอกินของอร่อยกันก่อนดีกว่า”

แดร์ริลลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาลินเซย์ด้วยใบหน้าที่เย็นชา จากนั้นเขาก็หยิบบางอย่างออกมาและยัดมันลงในปากของเธอ

อึก!

ก่อนที่ลินเซย์จะทันได้ตอบสนอง เธอก็ได้กลืนมันเข้าไปแล้ว

“นายให้ฉันกินอะไร? เมื่อกี้มันคืออะไร?” ลินเซย์จ้องเขม็งไปที่แดร์ริล เธอทั้งกลัวและโกรธ

แดร์ริลหัวเราะอย่างเย็นชา “อะไร? เธอเป็นถึงเจ้าสำนักห้าพิษแต่เธอกลับไม่รู้ว่าที่เธอกินเข้าไปมันคืออะไรเหรอ?”

น้ำเสียงของแดร์ริลเย็นยะเยือก เขาพูดต่อว่า “เธอเคยได้ยินชื่อของโอสถจ้าวสวรรค์ไหม?”

ใช่แล้ว แดร์ริลให้เธอกินโอสถจ้าวสวรรค์!

“โอสถจ้าวสวรรค์?”

ร่างกายอันไร้ที่ติของลินเซย์สั่นสะท้านในขณะที่เหงื่อเริ่มไหลปกคลุมไปทั่วร่างกายของเธอ

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าสำนักห้าพิษและเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องยาและโอสถ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินชื่อของโอสถจ้าวสวรรค์ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกหวาดกลัว

“เธอมีเวลาหนึ่งปี ถ้าเธอไม่ได้รับยาแก้พิษ ร่างกายของเธอก็จะเริ่มเน่าเปื่อยและตายลงในที่สุด ถ้าไม่เชื่อก็ลองใช้พลังภายในของเธอดูสิ เธอจะรู้สึกเจ็บปวดและอาจจะเป็นอัมพาตได้” แดร์ริลกล่าวอย่างเย็นชา