คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1041
ใบหน้าของลินเซย์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ทำไมนายถึงให้ฉันกินโอสถจ้าวสวรรค์? นายต้องการอะไร?”
แดร์ริลยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันต้องการให้เธอกลับไปหาโดน็อกและคอยสอดแนมเขา จากนั้นเธอจะต้องรายงานความเคลื่อนไหวของเขาให้ตระกูลคาร์เตอร์ได้รับรู้ทุก ๆ สองอาทิตย์ เข้าใจไหม?”
ก่อนหน้านี้ โดน็อกสั่งให้ลินเซย์ควบคุมร่างของอีวอนและใช้เธอเป็นเครื่องมือ
ดังนั้นแดร์ริลจึงใช้ใช้ลินเซย์เป็นเครื่องมือมือเพื่อสอดส่องโดน็อกเช่นกัน!
“เข้าใจแล้ว” ลินเซย์พยักหน้าทันที เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดปฏิเสธเขา
ลินเซย์ตัวสั่นเทา เธอจะปฏิเสธเขาได้อย่างไรเมื่อเธอตระหนักได้ว่า ร่างกายของเธอจะต้องเน่าเปื่อยถ้าหากว่าเธอไม่ได้รับยาแก้พิษจากเขา
แดร์ริลพยักหน้าเพื่อส่งสัญญาณให้สาวกคาร์เตอร์ปล่อยตัวลินเซย์ จากนั้นเขาก็อำลาทุกคนและมุ่งหน้าไปยังทวีปมิสท์ลอเรน
เชสเตอร์ เดบร้าและคนอื่น ๆ เดินไปส่งแดร์ริลที่ทางเข้าหลักของคฤหาสน์ จากนั้นพวกเขาก็กลับเข้าคฤหาสน์ไป
เมื่อออกจากคฤหาสน์แล้ว แดร์ริลยังไม่ได้มุ่งหน้าไปที่ทวีปมิสท์ลอเรนทันที แต่เขารีบไปที่เมืองตงไห่แทน
เขาเป็นห่วงคนอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็คือลิลี่
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เขาก็มาถึงหน้าคฤหาสน์ของลิลี่ เมื่อเห็นว่าประตูบ้านของเธอปิดแน่น แดร์ริลจึงตะโกนเรียกเธอ “ลิลี่น้อย ลิลี่น้อย!”
ถึงแม้ว่าประตูบ้านจะปิดอยู่ แต่แดร์ริลก็รู้ว่าเธออยู่บ้าน
ราวกับว่าแดร์ริลสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเธอ
‘สามี! ทำไมเขาถึงมาที่นี่ล่ะ?’
ลิลี่กำลังพักผ่อนอยู่ภายในห้องที่บนชั้นสอง เมื่อเธอได้ยินเสียงตะโกนเรียกของแดร์ริล เธอก็ตื่นตระหนกจนหัวใจของเธอเต้นระรัว
ลิลี่อยากเปิดประตูใจจะขาด แต่เธอก็ไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้น!
แดร์ริลตะโกนร้องเรียกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด แต่เขาก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากเธอเลย
“ลิลี่น้อย ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างใน ฉันมาเพื่อบอกว่าฉันจะต้องเดินทางไปยังที่ห่างไกลและไม่แน่ใจว่าฉันจะกลับมาเมื่อไหร่ ได้โปรดดูแลตัวเองด้วยและรอการกลับมาของฉันเข้าใจไหม? เมื่อกลับมาแล้วฉันจะกลับมาหาเธอทันที”
เมื่อพูดจบ แดร์ริลก็หันหลังและจากไป
ลิลี่รีบเดินไปที่หน้าต่างและมองลงมาผ่านช่องว่างระหว่างผ้าม่าน เธอได้เห็นร่างของแดร์ริลที่ค่อย ๆ เลือนหายจากสายตาของเธอไป หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดในขณะที่น้ำตาไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้
“สามีที่รัก คุณก็ต้องดูแลตัวเองด้วยเข้าใจไหม? ฉันจะรอคุณ ฉันจะรอคุณตลอดไป” ลิลี่พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สะอึกสะอื้น
…
ณ เมืองว่านไห่ ทวีปมิสท์ลอเรน
เมืองว่านไห่เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในทวีปมิสท์ลอเรน มีตึกสูงตระหง่านตั้งอยู่ทุกหนแห่ง ในขณะที่บนท้องถนนก็พลุกพล่านและเต็มไปด้วยผู้คน มันเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก
ในเวลานั้น ชายหนุ่มที่ดูเฉลียวฉลาดและสง่างาม กำลังยืนอยู่บนถนนในใจกลางเมืองว่านไห่ที่พลุกพล่าน
เขาสวมสูทสีดำที่อวดรูปร่างสูงใหญ่และไร้ที่ติของเขา เขาดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า
ชายหนุ่มคนนั้นคือแดร์ริล
แดร์ริลถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ มันเป็นโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่มาพร้อมกับหมายเลขโทรศัพท์ของทวีปมิสท์ลอเรน
เฟลิกซ์ได้จัดเตรียมทุกอย่าง รวมไปถึงโทรศัพท์เอาไว้ให้เขา
ถึงแม้ว่าทวีปมิสท์ลอเรนและจักรวาลโลกจะเป็นสังคมที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหมือนกัน แต่พวกมันก็ตั้งอยู่ในสองทวีปที่แยกออกจากกัน และถึงแม้ว่าตอนนี้รอยกั้นของแต่ละทวีปจะหายไปแล้ว แต่เครือข่ายการสื่อสารของพวกเขาก็ไม่ได้ถูกรวมเข้าด้วยกัน
ว้าว!
แดร์ริลจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้ดูดี จากนั้นเขาก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ เมืองที่พลุกพล่านก่อนจะพึมพำกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ “ไม่คิดเลยว่าเทคโนโลยีในทวีปมิสท์ลอเรนจะล้ำหน้าขนาดนี้ ฉันคิดว่าฉันอยู่ที่เมืองตงไห่เสียอีก”
แดร์ริลมองไปรอบ ๆ จนสายตาของเขามาหยุดอยู่ที่คาสิโนสีทองขนาดใหญ่ ที่อยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม
มันคือโกลเด้นไฮแลนด์สกายคาสิโน!
มันเป็นคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองว่านไห่ และคาสิโนแห่งนี้ก็ดูยิ่งใหญ่มากเช่นกัน มีเพียงคนรวยเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าใช้บริการที่นั่นได้
มีรถหรูหราจอดเรียงเป็นทิวแถวอยู่ที่ทางเข้า ในขณะที่ผู้คนที่เข้าออกสถานที่นั้น ต่างก็แต่งกายด้วยชุดสูทและเครื่องประดับที่หรูหราและทันสมัย
เฟลิกซ์โทรหาแดร์ริลเพื่อแจ้งให้เขาทราบว่า ตัวตนของเขาในฐานะบอดี้การ์ดได้รับการยืนยันแล้ว และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่แดร์ริลจะต้องไปเป็นบอดี้การ์ดให้กับสองสาวพี่น้องจากตระกูลบ๊อกซ์
ลูกสาวทั้งสองคนของตระกูลบ๊อกซ์ชอบมาเล่นการพนันที่คาสิโนหรูหราแห่งนี้
“ลูกสาวทั้งสองคนของตระกูลบ๊อกซ์ชอบมาที่นี่อย่างนั้นเหรอ?” แดร์ริลพึมพำกับตัวเองขณะที่เขาเดินเข้าไปในคาสิโน
‘ว้าว! มันน่าทึงมาก’