ตอนที่ 258 ผิดปกติ

รักเล่ห์เร้นใจ

พอกลับมาย้อนคิดถึงคำพูดของเธอกับแม่แล้ว หลินหว่านก็ยิ่งเศร้าเสียใจขึ้นไปอีก คนอื่นเขาต่างก็สามารถสนิทสนมรักใคร่กับแม่ได้ทั้งนั้น ตอนที่คนอื่นเขาผิดหวังเสียใจก็ยังมีแม่ให้เล่าระบายทุกข์ได้ แม่ช่วยปิดบังลมฝนให้เขา

 

 

แล้วทำไมมีเพียงเธอที่ทำไม่ได้ ทั้งๆ ที่เธอเองก็มีแม่อยู่ตรงหน้า แต่แม่กลับมองเธอเหมือนเป็นคนแปลกหน้าก็ไม่ปาน เธอนึกยังไงก็นึกไม่ออก และก็ยิ่งไม่อาจให้อภัยแม่ได้

 

 

เธอขับรถไปร้านกาแฟที่ตัวเองเคยไปเป็นประจำ หลินหว่านขับรถเปิดเพลงมาตลอดทาง และก็ร้องไห้มาตลอดทาง

 

 

แต่แล้วกลับพบว่าคนที่เข้ามาในร้านต่างก็มากันเป็นคู่ เธอหาโต๊ะข้างหน้าต่างที่ไม่สะดุดตา นั่งเงียบๆ ค่อยๆ สงบใจตัวเองลงมาได้ ตอนนั้นเองพนักงานต้อนรับของร้านก็เดินเข้ามา “คุณครับ ไม่ทราบว่าคุณจะดื่มอะไรครับ”

 

 

“อะไรก็ได้ค่ะ” ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะดื่มอะไรแล้ว แค่อยากจะหาสถานที่สงบสักแห่งทำให้ใจเธอเย็นลงได้เท่านั้น

 

 

แต่ยังไม่ทันรอให้กาแฟยกมา หลินหว่านก็เดินออกไปแล้ว

 

 

คู่รักที่อยู่ในร้านกาแฟกระทบใจหลินหว่าน เธอรู้สึกว่าอารมณ์ของเธอในตอนนี้ยิ่งไม่มีที่ระบายออก จึงหยิบมือถือขึ้นมา แม้ว่าภายในบันทึกเบอร์โทรติดต่อผู้คนมากมาย แต่เธอพบว่าเธอไม่รู้จะโทรไปหาใคร

 

 

อันที่จริงเธอมีเพื่อนสาวอยู่ก็มากมาย ที่จะคอยฟังคำพูดระบายความอัดอั้นในใจเธอก็มีอยู่มาก แต่เธอพบว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ใช่คนที่เธอต้องการ หลินหว่านคิดแล้วก็ไปหาเซียวจิ่งสือ

 

 

เพราะเธอรู้แก่ใจดีว่า คงมีเพียงเซียวจิ่งสือเท่านั้นที่จะคลายปมในใจของเธอได้ และก็มีเพียงเซียวจิ่งสือที่สามารถทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มกระวนกระวายของเธอกลับกลายเป็นสงบได้

 

 

แม้ว่าเมื่อครู่หลินหว่านพูดกับแม่ทำให้ไม่สบายใจมาก แต่พอเธอนึกถึงเซียวจิ่งสือก็เหมือนกับภายในใจมีแรงขับเคลื่อนขึ้นมา

 

 

เธอไปหาเซียวจิ่งสือด้วยความยินดี อยากจะให้เซียวจิ่งสือแบ่งเบาความเศร้าเสียใจของเธอ เพราะเธอเชื่อว่าเซียวจิ่งสือจะเข้าใจเธอได้แน่

 

 

หลินหว่านขับรถมาถึงบริษัทของเซียวจิ่งสืออย่างรวดเร็ว เลขาของเขาเห็นหลินหว่านมาหา ก็จะพาหลินหว่านเข้าไปด้วยกัน แต่หลินหว่านกระซิบกับเธอว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเข้าไปเองก็ได้”

 

 

หลินหว่านพึมพำกับตัวเองว่า “ต้องให้เขาดีใจได้แน่” มองผ่านกระจกกั้นห้องทำงานก็เห็นว่าเซียวจิ่งสือกำลังมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยท่าทางจริงจัง

 

 

หลินหว่านผลักประตูเข้าห้องทำงานไป เซียวจิ่งสือพูดโดยไม่เงยหน้าว่า “มีอะไรเหรอ?”

 

 

แต่ไม่มีใครตอบ หลินหว่านแกล้งไม่ตอบเพื่อจะให้เขาเซอร์ไพรส์

 

 

“เป็นไงบ้างคะ วันนี้ทำงานเหนื่อยมากเลยสิ ดูคุณตั้งใจดูคอมพิวเตอร์ไม่ละสายตาขนาดนี้” หลินหว่านแอบหัวเราะพลางพูดขึ้น

 

 

หลินหว่านคิดว่าเซียวจิ่งสือได้ยินเสียงเธอคงต้องดีใจมากแน่เลย คงต้องวิ่งเข้ามากอดเธอไว้แล้วบอกว่าคิดถึงเธอ

 

 

แต่เรื่องไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ กลับเป็นตรงกันข้าม

 

 

“ก็พอใช้ได้กระมัง” พอเขาเห็นว่าคนที่เดินเข้าห้องทำงานมาไม่ใช่เลขา ก็เงยหน้าขึ้น มองดูหลินหว่านที่อยู่ตรงหน้าเขา เซียวจิ่งสือไร้อารมณ์อื่นใด แค่พูดด้วยเสียงราบเรียบมากๆ

 

 

เซียวจิ่งสือไม่มีความยินดีที่หลินหว่านมาถึงเลยแม้แต่น้อย หลินหว่านเห็นปฏิกิริยาของเซียวจิ่งสือก็แอบผิดหวังอยู่บ้าง มีงานตั้งมากมาย เธอก็ควรจะเข้าใจเขาบ้าง

 

 

หลินหว่านเห็นว่าเขาอาจเหนื่อยเกินไป บริษัทก็ใหญ่ขนาดนี้ งานตั้งมากมายรอให้เขาไปจัดการ ดังนั้นหลินหว่านจึงไม่สนใจมากนัก แค่รู้สึกว่าเขาแปลกไปกว่าปกติอยู่บ้างเท่านั้น

 

 

“คุณดูสิฉันเอาอะไรมาให้ทานบ้าง ของชอบของคุณทั้งนั้นเลยนะ” หลินหว่านมาที่ด้านข้างเซียวจิ่งสือ ยังพูดโดยรักษาน้ำใจเหมือนเดิม

 

 

“พอเถอะค่ะ ทำงานตั้งนานแล้ว พักผ่อนสักหน่อยเถอะ ดูสิว่าฉันเอาของอร่อยมาให้คุณ?” หลินหว่านถือของมาให้เขาดู จะให้เขาเปิดออก

 

 

เซียวจิ่งสือพูดว่า “แต่ว่าตอนเที่ยงผมทานข้าวแล้ว”

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ นี่แค่อาหารว่างนิดหน่อยเอง ปกติคุณทานได้ตั้งเยอะ ของแค่นี้ทำไมจะทานไม่หมดล่ะ” หลินหว่านยิ้มยั่วเย้าเขา

 

 

“ผมยังมีงานอีกหน่อยต้องไปทำ เดี๋ยวจัดการเสร็จแล้วผมค่อยทานก็แล้วกัน คุณวางไว้ก่อนเถอะ” เซียวจิ่งสือพูด

 

 

“คุณดูสิ คุณทำงานทีนานขนาดนี้ จะไม่ให้เวลาตัวเองพักสักหน่อยรึไงคะ?” หลินหว่านพูดพลางเดินมาที่ตรงหน้าเขา ดึงเขาลุกขึ้นยืน

 

 

“ช่างบ้างานซะจริงเลย ไปกันเถอะ พักผ่อนสักครู่นะคะ” หลินหว่านดึงเขาไปที่โซฟา

 

 

หลินหว่านคิดในใจว่า หรือว่าบริษัทเกิดเรื่องทำให้เขาไม่สบายใจ แต่เลขาของเขาก็ยังดูปกติดี ไม่เหมือนบริษัทเกิดเรื่องอะไร แต่ทำไมเธอรู้สึกว่าวันนี้เขาเย็นชาขนาดนี้นะ?

 

 

“หรือว่าระยะนี้เครียดเรื่องงานมากไป?” หลินหว่านแข็งใจข่มกลั้นความน้อยใจเอาไว้ เห็นเขาอารมณ์ไม่ดีก็อยู่ที่นี่คอยปลอบใจเขา

 

 

“ถ้ามีเรื่องอะไรคุณก็คุยกับฉันได้นะคะ ถึงแม้ว่าเรื่องของบริษัทฉันจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่เก็บเอาไว้ในใจคนเดียวก็จะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพคุณนะคะ เดี๋ยวก็อัดอั้นใจตายหรอก!” หลินหว่านพูดพลางกุมมือเซียวจิ่งสือเอาไว้

 

 

“ไม่มีอะไร คุณก็รู้ว่าบริษัทก็มีแค่เรื่องงานพวกนี้ไม่ใช่เหรอ ผมจัดการได้” เซียวจิ่งสือพูดพลางหันกลับมาจับมือหลินหว่านเอาไว้แน่น

 

 

“งั้นก็แล้วกันไปเถอะ ถ้าคุณจัดการได้ งั้นเราไปทานอาหารว่างก่อน ในเมื่อคุณไม่อยากพูด ฉันก็จะไม่ถามค่ะ”

 

 

“วันนี้ทำไมจึงแปลกจังเลยนะ?” หลินหว่านพึมพำเบาๆ

 

 

หลินหว่านพูดพลางดึงมือออกมา หยิบของที่เอามาฝากเซียวจิ่งสือออกมา

 

 

“คุณดูสิ ของที่ฉันซื้อมาฝากมีแต่ของที่คุณชอบทานที่สุดเลยนะ ยังไม่ต้องไปคิดเรื่องไม่สบายใจพวกนั้นหรอก มาเถอะ คุณทานนี่ลองดูสิคะ?” หลินหว่านพูดพลางยื่นของถึงมุมปากเขา

 

 

“ของหวานวันนี้เป็น…” หลินหว่านยังพูดไม่ทันจบ เซียวจิ่งสือก็ทานเข้าไปคำใหญ่ “อืม รสชาติยังเหมือนเมื่อก่อนเลย อร่อยมากครับ”

 

 

“ที่จริงบริษัทไม่มีเรื่องอะไรหรอก เมื่อครู่ผมแค่อยากจะล้อคุณเล่นน่ะ ดูว่าคุณจะเป็นยังไง?” เซียวจิ่งสือพูดพลางขยับนั่งเข้ามาชิดอีกหน่อย

 

 

“ทำไมคุณทำแบบนี้ วันนี้ฉันยังมีเรื่องอยากจะพูดกับคุณเชียว” เมื่อก่อนเซียวจิ่งสือไม่เคยล้อเล่นแบบนี้กับเธอเลย

 

 

หลินหว่านยังคิดถึงท่าทีเย็นชาเมื่อครู่อยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนไปเร็วนัก?

 

 

แต่หลินหว่านเห็นว่าเซียวจิ่งสือทานลงไปแล้วก็เผยอยิ้มออกมา ยังรู้สึกประหลาดอยู่มาก ทั้งๆ ที่วันนี้ของหวานชุดนี้เป็นสินค้าตัวใหม่ของร้าน ถ้าจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเอามาให้เขาลองชิมดู

 

 

หลินหว่านนึกดูแล้ว อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้เลขาของเขาเคยเอามาให้ชิมแล้วกระมัง ก็เขาชอบไปซื้อที่ร้านนี้เป็นประจำเลย

 

 

“ทำไมวันนี้มาบริษัทได้ล่ะ คงไม่ใช่คิดถึงผมมากไปหรอกนะ คนสวยของผม แล้วเมื่อกี้คุณบอกว่ามีเรื่องอะไรหรือ?” เซียวจิ่งสือมองหลินหว่าน ยื่นมือออกไปอีกครั้งจับขาของเธอไว้แน่น

 

 

“วันนี้ฉันอยากมาเจอหน้าคุณค่ะ แล้วก็จะมาเล่าเรื่องเมื่อวานนี้ให้คุณฟังด้วย” หลินหว่านพูดอย่างน้อยใจ

 

 

“เมื่อวานทำไมเหรอ”