ตอนที่ 257 แม่ลูกพบกัน

รักเล่ห์เร้นใจ

หลังจากอันจี๋ถิงกล่าวขอบคุณเหลยลี่แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แค่บอกว่าตัวเองต้องการสงบจิตใจตามลำพังสักครู่ หวังว่าเหลยลี่จะไม่รบกวนเธอ

 

 

เหลยลี่ก็เห็นใจอันจี๋ถิงมาก จึงไม่ได้ตามตื้อพัวพันเธออีก แต่พอคิดว่าตอนนี้หลินหว่านคงกำลังร้อนใจอยากรู้ท่าทีของแม่ที่มีต่อเธอ เขาก็ยิ่งอยากให้แม่ลูกได้พบกันซะที

 

 

เหลยลี่จึงเอ่ยปากขอร้องเธอต่อไป และบางทีอาจเป็นคำขอจากใจของหลินหว่านด้วยก็ได้ เหลยลี่เสนอให้อันจี๋ถิงพบกับหลินหว่านตัวจริงสักครู่

 

 

อันจี๋ถิงขมวดคิ้ว คิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบตกลง เหลยลี่มองดูสภาพเหนื่อยใจของอันจี๋ถิงแล้วก็ไม่อยู่พัวพันอีก หันกายจากไป

 

 

เหลยลี่แยกจากอันจี๋ถิงแล้ว ก็ยังไม่รีบร้อนจากไป เขาโทรเข้าเบอร์มือถือของหลินหว่าน หลินหว่านรับสายอย่างเร็ว

 

 

เหลยลี่ไม่ได้บอกเธอตรงๆ ว่าจะนัดเธอออกมา เพื่อให้แม่ลูกได้พบกัน แต่บอกแค่ว่าเขาต้องการพบเธอ มีคำพูดบางอย่างต้องการพูดกันต่อหน้าให้เข้าใจชัดเจน

 

 

หลินหว่านก็ไม่ได้ถามมากความ รับปากว่าจะมาพบ ในตอนนี้เธอกำลังเป็นห่วงว่าเหลยลี่กำลังทำเรื่องเปลี่ยนตัวผู้บริหารของบริษัทอยู่หรือเปล่า

 

 

เธอยังเข้าใจว่าเรื่องนี้คงมีอุปสรรคอะไรบางอย่าง ที่จำเป็นต้องให้เหลยลี่มาพูดกับเธอให้แน่ชัด ซึ่งนั่นทำให้หลินหว่านเป็นกังวลและร้อนใจ

 

 

หลินหว่านแต่งตัวง่ายๆ แล้วรีบออกจากบ้าน

 

 

หลินหว่านเดินอยู่บนถนนใหญ่ท่ามกลางแสงแดดแผดเผาของฤดูร้อน แต่ใจของหลินหว่านร้อนรุ่มยิ่งกว่าพื้นถนนซะอีก ใจกลัดกลุ้มเป็นกังวลทั้งยังนึกปลอบใจตัวเองไปด้วย

 

 

ฝ่ายอันจี๋ถิงขับรถออกไปได้ครึ่งทางก็โทรศัพท์หาเหลยลี่ อยากจะรีบนัดหลินหว่านออกมาพบกัน ซึ่งเข้ากับแผนการของเหลยลี่พอดี

 

 

เหลยลี่จึงบอกสถานที่นัดพบกับหลินหว่านให้อันจี๋ถิงรู้ บอกเธอว่า หลินหว่านกำลังจะมาถึงแล้ว อันจี๋ถิงนิ่งเงียบไปสามวิแล้ววางสายไป

 

 

เธอหาที่กลับรถ เหยียบคันเร่งจนมิด หาเส้นทางลัดที่ใกล้ที่สุด บึ่งออกไปราวกับแข่งรถ

 

 

ตอนใกล้ถึงหน้าประตู จู่ๆ อันจี๋ถิงก็ชะลอความเร็วรถ ที่ผ่านมาเธอเป็นผู้หญิงที่ดูสำรวมสุภาพเสมอ อยู่ต่อหน้าคนอื่นจึงไม่อยากให้ตัวเองดูเสียกิริยา

 

 

หลินหว่านมาถึงสถานที่นัดหมายก่อนเวลานัดเล็กน้อย เพิ่งลงจากรถก็เห็นเหลยลี่

 

 

เหลยลี่ก็ไม่รีบร้อนที่จะบอกหลินหว่าน ว่าอีกสักครู่แม่ของเธอจะมา เขาแค่พาเธอเข้าร้านไปอย่างสุภาพทั้งสองเพิ่งนั่งลง

 

 

หลินหว่านก็ซักไซ้คำถามอย่างรอต่อไปไม่ไหว “ทางบริษัทเกิดเรื่องรึเปล่า?” เหลยลี่มองดูหญิงสาวที่ปากไวใจเร็วตรงหน้านี้แล้ว อดหัวเราะออกมาไม่ได้

 

 

หลินหว่านรู้สึกตัวทันทีว่าเธอเสียกิริยาแล้ว แต่เธอร้อนใจเกินไปจริงๆ จึงซักถามออกไปอย่างนั้นโดยลืมนึกถึงมารยาท

 

 

หลินหว่านรีบขอโทษเหลยลี่ บอกว่าตัวเองร้อนใจเกินไป แล้วแสดงความรู้สึกเสียใจที่เสียมารยาทกับเขา เหลยลี่หัวเราะแล้วบอกว่าเขาไม่ถือสาหรอก แล้วปรายตามองนาฬิกาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งถูกหลินหว่านสังเกตเห็นเข้า

 

 

คราวนี้หลินหว่านกลับไม่รีบร้อนถามอะไรเขาอีก เหลยลี่บอกเธอน้ำเสียงเรื่อยๆ ว่าเรื่องปัญหาในบริษัทแก้ไขไปแล้ว ให้เธอไม่ต้องเป็นกังวลเกินไปนัก

 

 

หลินหว่านได้ฟังคำตอบของเหลยลี่ ก็คลายใจที่นึกหวั่นกังวลมาตลอดลงได้ หลินหว่านกล่าวขอบคุณเหลยลี่แล้วพูดต่อไปว่า “ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือคะ คงไม่ใช่แค่เรื่องเดียวกระมัง”

 

 

เหลยลี่หัวเราะออกมา อยู่ต่อหน้าเด็กสาวที่น่ารักคนนี้ เหลยลี่ยิ้มได้บ่อยขึ้น เหมือนเธอมีพลังอะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นพากันมีความสุขสบายใจ

 

 

เหลยลี่ผงกศีรษะ บอกว่ามีเซอร์ไพรส์จะมอบให้เธอ หลินหว่านมองเหลยลี่อย่างสงสัย คิดอยู่นานก็ยังไม่รู้ว่าเหลยลี่จะมอบเซอร์ไพรส์อะไรให้เธอกันแน่

 

 

เหลยลี่ถามตรงๆ ว่า “เธอคิดถึงแม่ไหมล่ะ?” หลินหว่านถูกคำถามของเหลยลี่ทำเอาตกใจจนนิ่งไป

 

 

เธอคิดไม่ถึงว่าเหลยลี่จะพูดถึงแม่ขึ้นมา สำหรับเธอแล้วแม่เป็นรอยแผลเป็น ความทรงจำของแม่หยุดอยู่ที่ความทรงจำในวัยเด็กเท่านั้น

 

 

เธอนึกไม่ออกแล้วว่าหน้าตาของแม่เป็นอย่างไร มีภาพถ่ายเพียงหนึ่งเดียวที่เหลือไว้เป็นที่ระลึก ระลึกถึง…ก็เหลือแค่ความระลึกถึงเท่านั้นเอง

 

 

ขณะที่หลินหว่านจมอยู่กับความคิดนั้น เหลยลี่เห็นว่าอันจี๋ถิงจอดรถเสร็จก็ลงจากรถมาด้วยมาดคุณนายผู้สำรวมสุภาพ

 

 

พอหันไปมองหลินหว่าน เธอยังจมอยู่กับความคิดเป็นนานจนไม่ทันได้ตั้งสติ เหลยลี่ใช้เสียงกระแอมดึงสติหลินหว่านกลับมาจากความทรงจำเหล่านั้น

 

 

หลินหว่านรู้ตัวว่าเสียกิริยาแล้ว ระยะนี้เกิดเรื่องราวมากมายเกินไป ทำให้เธอไม่ทันได้ขบคิดให้เข้าใจ หลินหว่านกล่าวขอโทษเหลยลี่อีกครั้ง เหลยลี่ก็ไม่ได้ถือสาเรื่องพวกนี้ เขาก้มลงพูดกับหลินหว่านว่า “ผมช่วยคุณหาตัวแม่มาได้แล้ว และตอนนี้เธอก็เข้ามาแล้ว”

 

 

หลินหว่านเบิกตากว้าง เหมือนกับเหลยลี่กำลังพูดถึงคนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ หลินหว่านเข้าใจมาตลอดว่าแม่ของเธอไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว จู่ๆ แม่ก็มาปรากฏตัวขึ้น ทำให้หลินหว่านรู้สึกประหลาดใจมาก ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งสติได้

 

 

อันจี๋ถิงก็มาถึงโต๊ะของพวกเขา เหลยลี่เข้าไปดึงเก้าอี้ให้อันจี๋ถิงนั่ง จัดให้เธอนั่งลงอย่างสบายในที่นั่งตรงข้ามกับหลินหว่าน

 

 

หลินหว่านเศร้าใจมาก เธอถามว่า “เธอนี่นะแม่ของฉัน?” เหลยลี่ผงกศีรษะเบาๆ ยืนยันคำถามของหลินหว่าน

 

 

หลินหว่านส่ายหน้า เธอพูดอย่างโมโหว่า “พวกคุณมันจอมโกหก หลอกลวง ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน คุณไม่ใช่แม่ของฉันซะหน่อย ฉันไม่มีแม่อย่างคุณ ไม่มี” หลินหว่านพูดพลางร้องไห้โฮออกมา

 

 

อันจี๋ถิงมองดูท่าทีของหลินหว่านในตอนนี้ รู้สึกปั่นป่วนจนบอกไม่ถูก ชั่ววูบนั้นเธอนึกถึงตอนลูกยังเล็กมีครั้งหนึ่งที่ลูกโกรธเธอ ก็เป็นแบบนี้แหละ (ฉากแม่ลูกพบกันมีปัญหา ก่อนหน้านี้อันจี๋ถิงจับตัวหลินหว่านไปขัง อี้อวิ๋นฉังไปถามจนรู้ที่อยู่หลินหว่าน เอากุญแจห้องขังไปด้วย แต่ถูกหลินหว่านหนีออกมาได้ คนที่อันจี๋ถิงส่งไปจับตาดูอี้อวิ๋นฉังก็หายไป ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้บอกแม่หลินหว่านด้วยว่าเกิดอะไร แต่พอเธอเห็นหลินหว่าน เธอไม่แปลกใจว่าคนที่ถูกจับขังหนีออกมาได้ แล้วลูกสาวที่แท้จริง ของเธอไปอยู่ที่ไหน? – ผู้แปล)

 

 

อันจี๋ถิงขอบตาแดงขึ้นอย่างอดไม่ได้ นี่ต่างหากที่เป็นลูกสาวที่แท้จริงของเธอ ลูกสาวคนที่เป็นเด็กดีว่าง่ายเสมอ แค่เธอเอ่ยปากเพียงคำเดียวก็ไม่เคยขัดใจ ไม่เถียงเธอเลยคนนั้น ก็เป็นอย่างที่เขาว่ากระมัง แม่อย่างเธอจำลูกผิดคนไปจริงๆ ขณะที่อยู่ต่อหน้าคนคนนี้ เหมือนเป็นการยืนยันว่าแม่ลูกมีใจเชื่อมโยงกันจริงๆ

 

 

ลูกหัวเราะ คนเป็นแม่ก็มีความสุข ลูกร้องไห้ คนเป็นแม่ก็เป็นทุกข์

 

 

อันจี๋ถิงมองหลินหว่านที่หลุดแสดงอารมณ์ออกมา เธอกล่าวโทษตัวเองอยู่บ้าง “หว่านเอ๋อร์ หว่านเอ๋อร์ของแม่ แม่ขอโทษ ที่ตอนนี้ค่อยจำลูกได้”

 

 

หลินหว่านมองอันจี๋ถิงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เธอทั้งดีใจและก็เสียใจ ทำไมไม่มาหาเธอเร็วกว่านี้ ทำไมนะ ทำให้เธอเดินห่างไปจากเส้นทางที่เธอคิดถึงแม่มาตลอด

 

 

หลินหว่านยังส่ายหน้าไม่หยุด อันจี๋ถิงคว้ามือเธอไว้อย่างตื่นเต้น พูดว่า “ลูกแม่ ลูกให้อภัยแม่ได้ไหม? อภัยให้แม่นะ” หลินหว่านไม่ได้มองอันจี๋ถิงแม้แต่แวบเดียว เธอลุกขึ้นแล้วออกไปจากร้านอาหาร