ตอนที่ 2735 God domain ที่แตกต่าง และการตัดสินใจของสภาสิบแปดปีก

“ทำไมถึงมี NPC มากมายขนาดนี้กัน ?” เพอเพิ้ลเจดแทบไม่เชื่อสายตาของเธอ ขณะที่เธอมองไปยัง NPC ที่คุยกันอยู่อย่างสนุกสนานบนถนนสายหลัก

ตำแหน่งในปัจจุบันที่พวกเขาอยู่นั้นคือประเทศที่เป็นหมู่เกาะในทวีปด้านตะวันตกซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นผลให้จำนวนผู้เล่นของที่นี่นั้นมีน้อยมากๆ ไม่ต้องพูดถึงประชากร NPC เลย และหากไม่ใช่เพราะการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างทวีปหลักสองด้านซึ่งดึงดูดมหาอำนาจและพ่อค้าจำนวนมากมายังจักรวรรดิไต้ฝุ่น จำนวนผู้คนที่เดินอยู่บนถนนสายหลักนั้นจะไม่เกินหนึ่งร้อยคนเลย ดังนั้นสถานการณ์นี้มันจะเป็นไปได้ยังไง ?

แต่ตอนนี้เธอกับเห็น NPC มากกว่าหนึ่งพันคนอยู่บนถนนสายหลัก ซึ่งในหม่ NPC เหล่านี้มันก็มี NPC นักผจญภัยจำนวนมาก โดยผู้เล่นนั้นจะเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาเหล่านี้เท่านั้น

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยวนเทียนซินก็หันกลับมา และถามแรนเจอร์ขั้นสามว่า “คุณได้ตรวจสอบต้นกำเนิดของ NPC เหล่านี้แล้วรึยัง ?”

“เราได้ทำการตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตามเราไม่รู้เลยว่า NPC พวกนี้มาจากไหน สิ่งเดียวที่เรารู้คือ NPC เหล่านี้ดูเหมือนจะปรากฎตัวขึ้นมาโดยตรงในเมือง NPC ต่างๆ” แรนเจอร์ขั้นสามตอบพลางส่ายหัว เขากล่าวต่ออย่างกังวลว่า “การปรากฎตัวของ NPC เหล่านี้ทำให้จำนวนเควสที่มีอยู่ในสมาคมนักผจญภัยลดลงอย่างมาก และจำนวนเควสที่ผู้เล่นสามารถรับได้มันก็ลดลงไปอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น ….”

“มีอะไรอีก …” หยวนเทียนซินถามอย่างสงสัย

“ตามรายงานที่เราได้รับมา มันมีผู้เล่นหลายคนถูกฆ่าโดย NPC หลังจากที่มีปัญหากับพวก NPC นอกเมือง อย่างไรก็ตามสิ่งนี้มันยังไม่ใช่ส่วนที่สำคัญที่สุด” แรนเจอร์กล่าว ก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้เสียงที่ไม่สบายใจต่อว่า “ตอนนี้มันมี NPC จำนวนมากที่ได้หลั่งไหลเข้าสู่เมืองกิลต่างๆ และ NPC บางคนก็แสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีมากๆ ก่อให้เกิดปัญหา และเหตุการณ์มากมาย ขณะเดียวกันที่สำคัญที่สุดจากที่เราสังเกตเห็นก็คือ กองกำลังของ NPC ต่างๆกำลังทำการสืบค้นข้อมูลของพวกเราอย่างลับๆ”

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!” เพอเพิ้ลเจดอุทานด้วยความตกตะลึง
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันนี้จะมาถึง NPC ที่แต่เดิมรู้แต่วิธีการมอบเควสให้กับผู้เล่น กำลังเริ่มทำการสืบค้นข้อมูลของพวกเขาอย่างลับๆ แค่คิดถึงจุดนี้มันก็น่าขนลุกแล้ว …. ตอนนี้มันราวกับว่าตุ๊กตาที่พวกเขาเคยเล่นด้วยนั้นมีชีวิตขึ้นมา และเริ่มสังเกตการกระทำของพวกเขาทุกอย่าง ….

ในเวลานี้ศาลาลับ ไม่ใช่แค่กลุ่มเดียวที่รู้สึกตกใจกับการไหลเข้ามาอย่างกระทันหันของ NPC จำนวนมาก มหาอำนาจต่างๆและผู้เล่นทั้งหมดของ God domain ก็ล้วนหวาดผวากับสถานการณ์นี้เช่นกัน

“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ? ทำไมถึงมี NPC จำนวนมากมาแข่งขันกับเราในเรื่องการทำเควส ?”

“นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด !! ฉันรู้สึกว่า NPC เหล่านี้กำลังมองมาที่พวกเรา ผู้เล่นราวกับว่าพวกเขากำลังมองมาที่เอเลี่ยน !!! บาร์บางแห่งในเมืองต่างๆก็เริ่มปฎิเสธไม่ให้ผู้เล่นเข้าถึงแล้ว !!!”

“คุณคิดว่าแค่นั้นมันน่าแปลกใจงั้นหรอ ? รอจนกว่าคุณจะออกเดินทางไปยังแผนที่ล่านอกเมืองก่อนเถอะ ตอนนี้ NPC ในแผนที่ล่ามีจำนวนมากกว่าผู้เล่นอย่างเราด้วยซ้ำ และ NPC เหล่านี้บางกลุ่มก็ได้ขโมยดันเจี้ยนของเราไปด้วย !!!”

ในช่วงเวลาหนึ่งเหล่าผู้เล่นอิสระนั้นได้พูดคุยกันอย่างดุเดือดมากๆเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันของ God domain

ทุกคนรู้สึกราวกับว่าตอนนี้พวกเขาได้มาถึงโลกที่แตกต่างออกไปอย่างแท้จริง ตอนนี้นอกจากผู้เล่นคนอื่นๆแล้ว พวกเขาก็ยังต้องแข่งขันกับ NPC ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น NPC เหล่านี้ยังจัดการได้ยากกว่าผู้เล่นซะอีก

NPC เหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทรงพลังเท่านั้น แต่พวกเขายังมีข้อได้เปรียบเหนือผู้เล่นด้วย ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวที่ผู้เล่นมีคือผู้เล่นจะไม่ได้ตายแบบถาวร

อย่างไรก็ตามราวกับว่าพวก NPC เข้าใจประเด็นนี้เป็นอย่างดี ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว พวกเขาก็จะไม่อยากสร้างความบาดหมางกับผู้เล่น เว้นแต่ว่าผู้เล่นคนนั้นๆจะทำให้พวกเขาขุ่นเคืองมากจริงๆ มันจะมีก็แต่ NPC จากกองกำลังสายความมืดเท่านั้นที่จะไม่สนเรื่องนี้

แถมพูดกันตามตรง เมื่อเทียบกับบรรดาผู้เล่นอิสระแล้ว มหาอำนาจต่างๆนั้นมีเรื่องให้ปวดหัวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้มากกว่ามาก

“แม่งเอ้ย !! NPC ทั้งหมดนี้มาจากไหนกัน ?!!”

“แทนที่จะอยู่แต่ในเมืองของ NPC พวก NPC เหล่านี้กลับเริ่มมาสร้างปัญหาใน
เมืองกิลต่างๆของเรา ซึ่งนี่มันทำให้ธุรกิจของเราไม่สามารถจะดำเนินการไปได้ตามปกติ และมันก็เป็นเพราะ NPC พวกนี้เลย !!!”

“นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด !!! มันมี NPC บางกลุ่มที่ทำการปล้นเหมืองและทีมขนส่งของเราด้วยซ้ำ !!!”

นอกเหนือจากการหลั่งไหลเข้ามาอย่างฉับพลันของ NPC จำนวนมหาศาลแล้ว มหาอำนาจต่างๆก็พบว่าความยากลำบากในการรักษาความปลอดภัยของเมืองกิล และการทำเควสขนส่งขนาดใหญ่นั้นมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะเดียวกันนี่มันก็ทำให้มหาอำนาจบางกลุ่มได้ลิ้มรสกับการถูก “รังแก” ครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เข้าสู่ God domain

อย่างไรก็ตามผู้เล่นในปัจจุบันนั้นไม่สามารถจะแข่งขันกับกองกำลัง NPC เหล่านี้ได้ และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังไม่มีทางเลือก นอกจากต้องละทิ้งแผนการพัฒนาจำนวนมากของพวกเขาและมุ่งเน้นไปที่การป้องกันดินแดนของตัวเอง สำหรับกิลขนาดใหญ่บางกิล พวกเขาเริ่มคิดจะละทิ้งเมืองกิลบางเมืองของพวกเขาเพื่อมาเน้นป้องกันเมืองกิลที่สำคัญๆของตัวเอง ….

ในช่วงเวลาหนึ่งขอบเขตการปฎิบัติการของกองกำลังผู้เล่นใน God domain นั้นมันลดลงอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันพวกกิลขนาดใหญ่ต่างๆก็เริ่มพยายามรับสมัครผู้เล่นจำนวนมากเข้ามาเพื่อใช้ปกป้องดินแดนของตัวเอง

เมืองปีกสีเงิน สถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีก :

เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหันของประชากร NPC ในเกม และเหตุการณ์ต่างๆอีกมากมายที่ตามมาจากเรื่องนี้ มันจึงส่งผลให้พวกผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกมารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับ NPC เหล่านี้

“หัวหน้ากิล ตอนนี้กิลต่างๆรวมไปถึงมหาอำนาจแทบทั้งหมดกำลังเริ่มทำการรับสมัครสมาชิกกันอย่างบ้าคลั่งเพื่อเอามาใช้ปกป้องดินแดนของพวกเขา แถมพวกเขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้าง NPC ขั้นสามจากสมาคมนักผจญภัยมาปกป้องเมืองกิลของพวกเขา ถ้าเราไม่รีบลงมือ และเคลื่อนไหวในตอนนี้ ฉันกลัวว่าเหล่า NPC ขั้นสามที่ทรงพลังจะถูกคนอื่นแย่งไปทั้งหมด” เหลียงจิงพูดกับซือเฟิงอย่างกังวล หลังจากอ่านรายงานล่าสุดถึงเรื่องที่มันมี NPC จำนวนมากไหลบ่าเข้ามาอย่างกระทันหัน และทำให้ผู้เล่นจำนวนมากต้องเริ่มระมัดระวังตัวเองมากขึ้น

ในตอนแรกการเปลี่ยนแปลงของ NPC หลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกนั้นนับเป็นปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น แต่ตอนนี้ประชากร NPC กับมีจำนวนมากกว่าผู้เล่นแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กน้อยอีกต่อไป แต่มันเป็นหายนะ ….

เมืองกิลทั้งสามแห่งของสภาสิบแปดปีกนั้นล้วนตั้งอยู่ในสถานที่เชิงกลยุทธ์ทั้งหมด และพวกเขาก็มีศักยภาพในการเติบโตที่ไม่น่าเชื่อ ในขณะเดียวกันตามข้อมูลที่ลูกน้องของเหลียงจิงส่งมาให้ มันมีกองกำลัง NPC จำนวนมากที่ได้เริ่มตั้งเป้าหมายมาที่เมืองกิลของสภาสิบแปดปีกแล้ว โดยกองกำลัง NPC เหล่านี้ยังไม่เริ่มเคลื่อนไหวก็เพราะพวกเขายังคงต้องการจะตรวจสอบความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกก่อน ซึ่งเมื่อพวกเขาทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็จะเริ่มดำเนินการในทันทีแน่นอน และหากกองกำลังของ NPC เริ่มดำเนินการ มันก็อาจจะสร้างปัญหาได้มากกว่ากองกำลังของผู้เล่นมากๆ แถมพูดกันตามตรงในปัจจุบัน โดยที่ไม่ต้องมองถึงอนาคต ตอนนี้มันก็มีความเป็นไปได้ในการเผชิญหน้ากันที่เพิ่มมากขึ้นมาก และแม้ว่ากองกำลัง NPC เหล่านี้จะเลือกไม่โจมตีเมืองกิลของสภาสิบแปดปีก แต่พวกเขาก็ยังจะสามารถซุ่มโจมตีเส้นทางการค้าของเมืองกิลได้ รวมทั้งซุ่มโจมตีเป้าหมายที่อ่อนแอในเส้นทางการค้านี้ได้ ซึ่งมันก็จะนับเป็นฝันร้ายสำหรับสภาสิบแปดปีกเลย

ดังนั้นตอนนี้สภาสิบแปดปีกจึงต้องเพิ่มการป้องกันตัวเองให้มากที่สุด

“ใช่แล้ว !!! หัวหน้ากิล ถ้าเราชักช้ากิลขนาดใหญ่รวมไปถึงมหาอำนาจต่างๆ จะขโมย NPC ขั้นสามที่ทรงพลังไปทั้งหมดนะ !!!”

พวกผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยกับเหลียงจิง ในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังต้องยอมลดอีโก้ของพวกเขาลงและทำการว่าจ้าง NPC จากสมาคมนักผจญภัย หากสภาสิบแปดปีกไม่รีบดำเนินการตอนนี้ มันอาจจะสายเกินไปก็ได้

เพราะท้ายที่สุดแล้วมันมี NPC ขั้นสามให้เลือกว่าจ้างอยู่อย่างจำกัดในสมาคมนักผจญภัย และหากกิลขนาดใหญ่ รวมไปถึงมหาอำนาจต่างๆเลือกไปทั้งหมดแล้ว มันก็จะไม่มีอะไรเหลือเลยสำหรับสภาสิบแปดปีก

แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะมีองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามที่ทรงพลังมากมาย แต่จำนวนขององครักษ์ส่วนตัวเหล่านี้ก็ยังคงห่างไกลจากคำว่าเพียงพอมากๆ ในการจะใช้ปกป้องเมืองกิลของสภาสิบแปดปีกทั้งสามเมือง

ยิ่งไปกว่านั้นความยากลำบากในการรับสมัครองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามโดยตรงมันก็
สูงมากๆ และอย่างดีที่สุดผู้เล่นส่วนใหญ่ก็จะสามารถรับสมัครได้แค่ NPC ขั้นสองที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเท่านั้น นอกจากนี้องครักษ์ส่วนตัวนั้นผู้เล่นก็ยังจะต้องใช้เงินและทรัพยากรจำนวนมากในการเลี้ยงดูพวกเขา และหากองครักษ์ส่วนตัวเหล่านี้ตายลง มันก็จะนับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ด้วย ….

อย่างไรก็ตาม NPC ของสมาคมนักผจญภัยจะไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาแบบนี้ และแม้ว่า NPC เหล่านี้จะตายลง แต่สภาสิบแปดปีกก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร กิลไม่จำเป็นจะต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อชุบชีวิต NPC เหล่านี้

“นั่นไม่จำเป็น …” ซือเฟิงส่ายหัว “แม้ว่าการจ้าง NPC ขั้นสามจากสมาคมนักผจญภัยจะนับเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดี แต่มันก็ไม่ใช่วิธีที่ควรจะใช้ในระยะยาว ค่าจ้าง NPC เหล่านี้มันแพงมากเกินไป NPC ขั้นสามคนใดๆก็ตามแบบสุ่มที่เราไปจ้างจากสมาคมนักผจญภัยจะมีราคาค่าจ้างอย่างน้อยหนึ่งร้อยเหรียญทองต่อวัน ซึ่งในการที่จะจ้าง NPC เหล่านี้มาป้องกันเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐานหรือสูงกว่าขึ้นไป มันก็จะต้องจ้างห้าร้อยคนเป็นอย่างน้อย และมันก็จะคิดเป็นค่าใช้จ่ายราวห้าหมื่นเหรียญทองต่อวัน”

มีเพียงมหาอำนาจต่างๆเท่านั้นที่จะสามารถจ่ายค่าจ้างราวห้าหมื่นเหรียญทองต่อวันให้กับ NPC ขั้นสามที่พวกเขาว่าจ้างมาทำหน้าที่ป้องกันเมืองหนึ่งแห่งได้ อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่แตกต่างกันออกไปสำหรับสภาสิบแปดปีก เดิมทีสภาสิบแปดปีกก็ใช้เงินเป็นจำนวนมากทุกวันอยู่แล้ว ในความเป็นจริงกิลยังพึ่งพาการขายเงินเหรียญใน God domain เป็นเครดิต เพื่อรักษาการดำเนินงานในสำนักงานใหญ่หลักในโลกแห่งความจริงด้วย ดังนั้นกิลจึงไม่สามารถจะจ้าง NPC ขั้นสามจำนวนมากมาปกป้องเมืองกิลได้เลย

“แต่ตอนนี้มันเริ่มมี NPC จำนวนไม่น้อยที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายในเมืองกิลของเรา ซึ่งก็โชคดีที่เรามี NPC ขั้นสี่คอยป้องกันเมืองอยู่ ดังนั้นกองกำลัง NPC เหล่านี้จึงยังคงระมัดระวังในการจะก่อเหตุต่างๆในเมืองของเรา อย่างไรก็ตามหากกองกำลัง NPC เหล่านี้ดำเนินการกับเรานอกเมืองของเรา เราจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆในการจัดการกับสถานการณ์” ยู่หลานกล่าวอย่างกังวล

ก่อนหน้านี้เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาเป็นผู้เล่นเท่านั้น พวกเขาจึงยังสามารถจะรับมือกับสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขามันมี NPC ขั้นสามที่มีเลเวลตั้งแต่หนึ่งร้อยสามสิบไปจนถึงหนึ่งร้อยหกสิบด้วย ดังนั้นสภาสิบแปดปีกจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมมากๆอย่างไม่น่าเชื่อ

ในบรรดานักสู้ทั้งหมดของสภาสิบแปดปีก พวกเดียวที่จะสามารถต่อสู้กับ NPC ที่เป็นศัตรูได้ก็คือเหล่าองครักษ์ส่วนตัวของกิลเท่านั้น อย่างไรก็ตามองครักษ์ส่วนตัวเหล่านี้ก็จำเป็นสำหรับการใช้รักษาความสงบเรียบร้อยในเมือง

“เลิกห่วงเรื่องนี้เถอะน่า ….” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

“??!!” ยู่หลานตกตะลึงกับคำพูดของซือเฟิง

เลิกห่วง ?

ในขณะนี้นับประสาอะไรกับยู่หลาน พวกผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆก็ตกตะลึงมากเช่นกัน

ซือเฟิงหมายถึงอะไรกัน ?

หากพวกเขาเลิกสนใจสถานการณ์นี้ไป แล้วเมืองกิลทั้งสามจะสร้างรายได้ให้กับพวกเขาเท่าเดิมหรือมากกว่านี้ได้อย่างไร ?

หากเมืองกิลของพวกเขาต้องสูญเสียเส้นทางการค้าไป สินค้ต่างๆาที่ NPC นำมาขายนั้นก็จะเริ่มน้อยลงจนหายไปจากเมือง ซึ่งหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ เมืองกิลของพวกเขาก็จะมีแรงดึงดูดให้ผู้เล่นเข้ามาน้อยลง ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังไม่นับรวมเรื่องภาษีที่เก็บจากพ่อค้า NPC ที่สร้างรายได้จำนวนมหาศาลให้กับกิลอีก

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมืองกิลทั้งสามของสภาสิบแปดปีก จะห้ามไม่ให้ NPC ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีมีธุรกิจการใดๆเข้าสู่เมือง สำหรับพ่อค้า NPC เราจะกำหนดข้อยกเว้นสำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตามร้านค้าแต่ละแห่งจะได้รับอนุญาติให้นำคนเข้ามาในเมืองเพียงสิบคนเท่านั้น” ซือเฟิงกล่าวอย่างใจเย็น “นอกจากนี้ให้เพิ่มค่าเข้าเมืองทั้งสามเมืองเป็นยี่สิบเหรียญเงินต่อคน และเพิ่มค่าเช่าร้านค้าเป็นสองเท่า อย่างไรก็ตามพวกที่เป็นพันธมิตรของเราจะได้รับส่วนลดยี่สิบเปอเซ็นต์ทั้งหมด”

“หัวหน้ากิล ?” ทุกคนในห้องประชุมอ้าปากค้างให้กับคำพูดล่าสุดของซือเฟิง

หากพวกเขาทำตามวิธีของซือเฟิง พวกเขาจะสามารถแก้ปัญหาเรื่อง NPC ในทั้งสามเมืองได้ก็จริง แต่มันก็จะนำมาซึ่งการหยุดชะงักของการพัฒนาของเมืองทั้งสามเช่นกัน เพราะท้ายที่สุด ผู้เล่นต้องได้รับเควสจาก NPC เหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นไอเทมมากมายที่ถูกขายในสามเมืองนั้น มันยังถูกขายโดย NPC พวกนี้เป็นส่วนใหญ่ หากพวกเขาปฎิเสธไม่ให้ NPC ส่วนใหญ่เข้าสู่เมืองแบบนี้ รายได้ทั้งสามเมืองของพวกเขาจะลดลงครึ่งหนึ่งแน่นอน

สำหรับการเพิ่มค่าเข้าเมืองเป็นยี่สิบเหรียญเงินต่อคน และเพิ่มค่าเช่าร้านค้าเป็นสองเท่า โดยทั่วไปแล้วนี่มันจะไม่ต่างจากการที่สภาสิบแปดปีกพยายามจะไล่ผู้เล่นออกจากเมืองกิลทั้งสามเมืองของตัวเองเลย

สภาสิบแปดปีกจะขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ หากพวกเขาดำเนินการตามมาตราการเหล่านี้

“แค่ไปจัดการตามที่ฉันสั่งเถอะน่า ฉันมีเหตุผลของฉัน ….” ซือเฟิงกล่าวโดยไม่ได้คิดจะให้คำอธิบายเพิ่มเติมใดๆ ก่อนที่เขาจะรีบออกไปจากห้องประชุมทันที เมื่อการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกเกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา มหาอำนาจต่างๆล้วนมีผู้เล่นขั้นสามอยู่มากมายภายใต้คำสั่งของพวกเขาแล้ว ขณะที่มหาอำนาจบางกลุ่มมีกระทั่งผู้เล่นขั้นสี่จำนวนหนึ่งด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันไม่เพียงแต่การเพิ่มขึ้นของประชากร NPC จะมาเร็วกว่าในอดีตมาก แต่มหาอำนาจต่างๆยังมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอยู่ไม่มากนักเลยภายใต้การคำสั่งของพวกเขา ดังนั้นความเสียหายที่มหาอำนาจต่างๆจะต้องประสบในเรื่องราวครั้งนี้มันจะมากมายกว่าในชีวิตที่ผ่านมาของเขาแน่นอน

ในขณะเดียวกันตอนนี้แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะมีความแข็งแกร่งสูงมาก และมี NPC ขั้นสี่อยู่ภายใต้คำสั่งจำนวนหนึ่ง แต่มันก็ยังเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาที่จะรักษาความปลอดภัยของเมืองกิลทั้งสามให้ได้ด้วยกำลังคนในปัจจุบัน

ดังนั้นทางออกเดียวที่สภาสิบแปดปีกมีในตอนนี้ก็คือการต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด และห้ามไม่ให้ NPC เข้าสู่เมืองกิล หลังจากนี้ซือเฟิงก็จะให้สมาชิกของสภาสิบแปดปีกเริ่มเข้าสู่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับเพื่อไปเก็บเลเวลและเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองให้ไวที่สุด ไม่งั้นด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เมื่อกองกำลัง NPC เริ่มโจมตีเมื่อไหร่ สภาสิบแปดปีกก็จะต้องประสบกับปัญหามากมายแน่นอน

หลังจากนั้นไม่นานเมืองกิลทั้งสามแห่งของสภาสิบแปดปีกก็ได้ประกาศการตัดสินใจของซือเฟิงให้สาธารณชนได้รับรู้ ซึ่งนี่มันก็ทำให้ทั้งสามเมืองตกอยู่ในความโกลาหลทันที