วันนี้เป็นวันที่เธออารมณ์อ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว ถึงจะชองอูจะไม่มากวนอยู่ข้างๆ ก็ตาม เพราะเป็นวันที่ต้องถ่ายทำฉากจูบแรกและฉากบนเตียงเป็นครั้งแรก ซึ่งนอกจากจะถ่ายสองฉากนั้นรวดเดียวแล้ว ยังต้องถ่ายกับอึยชานอีกด้วย

 

 

ยูมินแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จด้วยใบหน้าบึ้งตึง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีแก้วกระดาษใบหนึ่งโผล่เข้ามาจากข้างหลัง ระหว่างกำลังนั่งมองพวกทีมงานเซ็ตฉากถ่ายทำอย่างวุ่นวายตรงมุมหนึ่ง

 

 

“ขอบใจ”

 

 

โกโก้เข้มข้นที่มีควันพวยพุ่งขึ้นมา มันคือเมนูที่หญิงสาวชอบที่สุดเพราะเธอไม่ดื่มกาแฟ ยูมินผ่อนคลายร่างกายที่ตึงเครียดเล็กน้อยด้วยสารให้ความหวาน ก่อนจะรู้สึกแปลกๆ กับสถานการณ์นี้ ถ้าเป็นชองอูก็คงจะพูดว่า นี่ครับพี่พร้อมย่อตัวลงยื่นแก้วให้

 

 

ความกังวลมักจะถูกต้องเสมอ เธอถือแก้วและหันมอง และแน่นอนว่าต้องเห็นเขาอยู่ตรงนั้น อมยิ้มบางๆ อยู่บนริมฝีปากและถือแก้วตัวเองอยู่ในมือ

 

 

“เฮ้อ”

 

 

ยูมินถอนหายใจเบาๆ หันไปข้างหน้าอีกครั้งแล้วดื่มโกโก้

 

 

“คุณยูมิน”

 

 

“คะ?”

 

 

“ปกติแล้วผมดื่มกาแฟครับ”

 

 

“ค่ะ”

 

 

ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะกังวลว่าควรตอบกลับการพูดตรงๆ แบบนี้อย่างไร แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะได้วนเวียนอยู่ข้างๆ ยูมินเกือบหนึ่งเดือน ระดับนี้เขาสามารถยิ้มได้สบายๆ อึยชานพูดเหมือนกับกระซิบเบาๆ อีกครั้งโดยที่ยังทำตัวสบายๆ อยู่

 

 

“แต่ตอนนี้ผมกำลังกินโกโก้อยู่”

 

 

“ยินดีด้วยนะคะ”

 

 

“ไม่ถามเหรอครับว่าหมายความว่าอะไร”

 

 

“ค่ะ”

 

 

รู้ดีอยู่แล้ว ยูมินมองดูเหล่าทีมงานที่ยังคงเดินไปเดินมาอย่างวุ่นๆ พร้อมกับจิบโก้โก้รสหวาน

 

 

“คุณอึยชาน คุณยูมิน ซ้อมครับ!”

 

 

ใบหน้าของทั้งสองที่เข้าไปเช็คมุมกล้องและระยะกับผู้กำกับเปี่ยมความจริงจัง ตอนเข้ากล้องถ่ายทำหลังจากซ้อมเสร็จก็ด้วยเช่นกัน

 

 

[รอบเดียวได้ไหม]

 

 

[…ต้องลองดูก่อน]

 

 

[ยังไม่เคยลองก็เลยไม่รู้น่ะ]

 

 

มือที่ถอดเสื้อผ้าอึยชานออกทีละชิ้นมีความสั่นไหวเบาๆ จนลื่นหลุดไปสองรอบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ถูกสั่งคัท และเมื่อกล้ามเนื้อแน่นถูกเผยให้เห็นทั้งหมดภายใต้แสงไฟสว่าง เหล่าทีมงานผู้หญิงรอบๆ ต่างก็พากันกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ อึยชานยิ้มแย้มพร้อมกุมใบหน้าของยูมินแล้วดึงเข้ามาหาตัวเองอย่างช้าๆ

 

 

[ต้องจูบกันก่อนสิ]

 

 

ฉากจูบแรกมีรสช็อคโกแลต ที่บอกว่ากินโกโก้ก็เพราะอย่างนี้สินะ ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยวนเวียนไปมาพร้อมกับสำรวจภายในโพรงปาก ยิ่งแขนของอึยชานที่โอบรอบเอวไว้ค่อยๆ ขยับให้แคบลง ลมหายใจก็ยิ่งถี่เร็วขึ้น

 

 

พออ้าปากกว้างขึ้นเพื่อรับออกซิเจนที่ขาดหาย อึยชานก็ยิ่งสอดแทรกเข้ามามากขึ้น เขาเอนคอไปด้านหลังและดูดดึงริมฝีปากรุนแรงขึ้น และเมื่อช่วงเวลาที่ไม่รู้เลยว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดนั้นเอง

 

 

“หึๆ”

 

 

จู่ๆ อึยชานก็หลุดขำออกมา

 

 

“คัท! คุณอึยชาน หัวเราะได้ยังไงกันครับ!”

 

 

“ขอโทษครับ ผมจะเล่นใหม่อีกรอบครับ”

 

 

คัท คัท คัท หลังจากอึยชานทำฉากเสียต่อเนื่องถึงสามครั้ง ในที่สุดก็ได้สัญญาณโอเคและปล่อยยูมิน ชองอูรีบวิ่งมาวางรองเท้าลงบนพื้นตรงหน้าและคลุมผ้าห่มบนไหล่เปลือยที่ส่องประกายเป็นสีขาว ซึ่งเป็นความซื่อสัตย์ที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับจาฮอนที่ไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็นเลย อึยชานมองดูภาพนั้นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะอุ้มตัวยูมินขึ้นมา ในจังหวะที่เธอกำลังจะยื่นเท้าลงล่างเตียงเพื่อสวมรองเท้า

 

 

“ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ปล่อยฉันลง”

 

 

ยูมินกระซิบด้วยเสียงที่เหมือนจะจับเขาฆ่าจริงๆ แต่อึยชานก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ถูกฆ่าแน่เลยเรา แล้วอุ้มเธอไปจนถึงห้องแต่งตัวอย่างแน่วแน่โดยไม่สนว่ายูมินจะลับมีดอยู่ในใจหรือเปล่า โดยที่ตัวเองยังคงเปลือยท่อนบนอยู่

 

 

“คุณกำลังจะทำอะไรคะคุณอึยชาน”

 

 

ยูมินจองมองอึยชานอย่างรุนแรงทันทีที่ประตูถูกปิด ห้องแต่งตัวว่างอยู่พอดี

 

 

“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะครับ จะให้ดูผู้ชายคนอื่นอุ้มคุณไปหลังจากเพิ่งมีจูบแรกกันเสร็จงั้นเหรอ”

 

 

เฮอะ คำตอบที่ดูมั่นใจทำให้ยูมินหัวเราะเยาะออกมา ใครบอกว่าจูบแรก แล้วผู้ชายคนอื่นคืออะไรอีก

 

 

“นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกันอีกเนี่ย”

 

 

“ครับ?”

 

 

“ขอโทษมาค่ะ ก่อนที่ฉันจะโมโห”

 

 

“แต่ดูเหมือนว่าคุณจะโมโหไปแล้วนะ”

 

 

“รู้แล้วก็ขอโทษสิ”

 

 

“คุณพูดห้วนๆ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะครับ ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาพูดแบบสบายๆ กันดีไหม”

 

 

“อืม นอกจากจะจบเรื่องพูดสุภาพแล้ว ฉันก็จะจบชีวิตนายด้วยเหมือนกัน”

 

 

ปั่ก ทันทีที่พูดจบ หมัดที่เล็กแต่แข็งแรงก็พุ่งไปที่ท้องของอึยชาน แม้แต่ซิกแพคที่ค่อนข้างแข็งแกร่งยังมีแรงไม่พอที่จะต้านทานการโจมตีอย่างกะทันหันได้

 

 

“อึ่ก”

 

 

อึยชานนิ่วหน้าพร้อมกับคว้าข้อมือยูมินไว้

 

 

“จะปล่อยไหม”

 

 

“ขอถามหน่อยว่าเกลียดผมอะไรขนาดนั้น”

 

 

เกลียด เกลียดหัวใจที่เต้นแรงโดยไม่จำเป็น เกลียดสายตาที่มักจะหันไปทางคนโรคจิตนี่ตลอด ก็แค่อยากแกล้งให้รู้สึกสบายใจ ยูมินเขม้นมองเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึงพร้อมกับพยักเพยิดหน้า

 

 

“รู้แล้วจะทำอะไรล่ะ”

 

 

“รู้แล้วก็จะได้แก้ไขไง”

 

 

“แล้วทำไมคุณต้องแก้ด้วย”

 

 

“เพราะว่าคบกันอยู่ไง พวกเราน่ะ”

 

 

โอเค ขอฟาดอีกสักทีเถอะ ยูมินบิดข้อมือที่ถูกจับและกระชากเข้ามาอย่างแรงในทันที แม้ว่าจะตั้งใจที่จะทุ่มลงด้วยไหล่ข้างหนึ่ง แต่อึยชานนั้นไม่ง่ายเลย เขาทำเป็นถูกดึงเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติราวกับสายน้ำไหล ก่อนจะปล่อยมือแล้วกอดยูมินจากทางด้านหลัง

 

 

“จะกลับด้วยกันหรือว่าจะไปกินข้าวเย็นด้วยกันดี”

 

 

 

 

“ไม่กลับบ้านเหรอครับพี่”

 

 

แม้การถ่ายทำจะเสร็จสิ้นเร็วขึ้นนิดหน่อย แต่ก็แสงดาวก็ส่องสว่างมาสักพักแล้ว ทว่ายูมินก็ยังนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวเหมือนเดิมทั้งๆ ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ถ้าเธอยังนั่งอยู่อย่างนี้ ทั้งโคดี้ ทั้งผู้จัดการส่วนตัวก็ไม่สามารถเลิกงานได้ จนในที่สุดชองอูก็ต้องมาหาถึงห้องแต่งตัวหลังนั่งรออยู่ใยรถตู่มานานแล้ว แต่เธอก็ยังเหมือนเดิม

 

 

“บอกให้ทุกคนเลิกงานได้ แล้วนายค่อยกลับขึ้นมาอีกรอบ”

 

 

“ทำไม ซ่อนผู้ชายไว้ในนี้เหรอไงครับ”

 

 

“สั่งให้ทำก็ทำสิ”

 

 

ชองอูเดินบ่นอะไรไม่รู้ออกไปข้างนอกคนเดียว แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักทันทีที่ปิดประตู เพราะสาเหตุที่ยูมินเป็นอย่างนี้อยู่ตรงหน้านี้พอดี

 

 

“คุณอีอึยชาน”

 

 

“ครับ”

 

 

“ยังไม่กลับบ้านเหรอครับ”

 

 

“เพราะว่าคนที่จะกลับบ้านด้วยกันยังไม่ออกมาน่ะครับ”

 

 

“พี่บอกว่าจะกลับด้วยกันเหรอครับ”

 

 

“ครับ เพราะงั้นคุณกลับไปก่อนก็ได้นะครับ ผมเอารถมา”

 

 

“ให้ผม… มะ ไม่มีอะไรครับ”

 

 

ชองอูยิ้มแย้มพร้อมกับพูดอ้อมแอ้มก่อนจะออกเดินอีกครั้ง ถ้าเป็นไปด้วยดีก็ไม่จำเป็นต้องกลับขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ พอคิดว่าวันนี้จะได้กลับไปนอนเร็ว ความเหนื่อยล้าของทั้งวันก็หายเป็นปลิดทิ้ง

 

 

“อ๋อ จริงสิ คุณชองอู”

 

 

อึยชานมองดูแผ่นหลังของเขา แล้วเรียกชองอูเหมือนกับคิดอะไรบางอย่างออก

 

 

“ครับ”

 

 

“ที่ผมจะพูด ผมรู้ว่ามันเป็นการเสียมารยาท”

 

 

อึยชานลดเสียงต่ำลงเล็กน้อยพร้อมกับขยับใกล้เข้ามา ไม่รู้ทำไมชองอูถึงรู้สึกอยากจะหนี แต่ก็ไม่สามารถหนีคนตรงหน้าได้

 

 

“ว่า…ว่ามาเลยครับ”

 

 

“ช่วยเลิกกับคุณยูมินได้ไหมครับ”