เฉินโม่มองเธอไปแวบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเป็นหญิงสาวที่ถูกตามใจจนเสียคน ยิ้มๆและไม่ได้สนใจเธอ

เจี่ยงหยาวที่ไม่ได้พูดอะไรได้ดึงปลายเสื้อของหลินเหม่ยหลิง แล้วส่ายหัวให้เธอ เพื่อบอกให้เธออย่าทำแบบนี้

หลินเหม่ยหลิงนั้นไม่ฟังเลย ความประทับใจครั้งแรกที่เธอมีต่อเฉินโม่นั้นไม่เท่าไหร่ ก็ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง อีกอย่างบนตัวเขายังให้ความรู้สึกที่สูงส่ง ทำให้สาวสวยอย่างเธอที่มีมาตรฐานสูง แอบให้คะแนนเฉินโม่ในด้านลบโดยตรง

“ไม่รู้เลยจริงๆ หยาวหยาวชอบไอ้หมอนี่ตรงไหน กลับอวยเขาหนักมาก” หลินเหม่ยหลิงถึงขั้นสงสัย เฉินโม่นั้นได้ทำอะไรเจี่ยงหยาวหรือเปล่า ไม่เช่นนั้น ทำไมเจี่ยงหยาวถึงได้เทิดทูนบูชาเขาขนาดนี้?

เจี่ยงหยาวไม่รู้ความคิดของหลินเหม่ยหลิงเลย เข้าใจว่าหลินเหม่ยหลิงที่เจอเฉินโม่ครั้งแรก ยังไม่สนิทกัน อาจจะไม่ประทับใจเฉินโม่ รอให้สนิทกันก็คงดีขึ้น

“ที่นี่ไม่เหมาะแก่การคุย เราไปหาที่นั่งคุยกันเถอะ!” เจี่ยงหยาวเสนอ

เฉินโม่พยักหน้า “ได้สิ เธอเลือกสถานที่เลย!”

“อืม!” เจี่ยงหยาวพยักหน้าอย่างดีใจ

เจี่ยงหยาวได้พาหลินเหม่ยหลิงที่สีหน้าไม่เต็มใจเดินไปพร้อมกับเฉินโม่

ด้านหลังของประตูมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มสวมแว่นคนหนึ่งได้เดินออกมา เขามองเบื้องหลังของทั้งสามคน ใบหน้าปรากฏด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา หันหลังเดินกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว

เจี่ยงหยาวพาเฉินโม่มาถึงร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ทั้งสามคนได้หาที่เงียบๆนั่งลง แล้วเริ่มการสนทนา

หลังจากที่ทักทายกันสั้นๆ แล้ว เฉินโม่มองเจี่ยงหยาว ยิ้มแล้วถาม “ที่เธอเรียกพี่มา ก็เพื่ออยากจะคุยกับพี่แค่นี้? ไม่มีเรื่องอื่นแล้วเหรอ?”

ถามเสร็จ ดวงตาคู่นั้นของเฉินโม่ที่ลึกเหมือนดวงดาวได้จ้องมองเจี่ยงหยาวอย่างเงียบๆ มองจนเจี่ยงหยาวตื่นเต้น

เจี่ยงหยาวก้มหน้าลง พูดอย่างเสียงเบา “ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ไม่สามารถปิดบังพี่เฉินโม่ได้เลย ฉันมีเรื่องอยากจะให้พี่ช่วยจริง”

หลินเหม่ยหลิงที่นั่งอยู่ด้านข้างมองเจี่ยงหยาวอย่างตกใจ แล้วถาม “หยาวหยาว เธอมีเรื่องอะไร? ทำไมไม่บอกฉัน? เธอไปเรียกไอ้หมอนี่ที่อยู่ไกลมา จะมีปะโยชน์อะไร?”

พูดจบ หลินเหม่ยหลิงก็เหลือบมองเฉินโม่อย่างเหยียบหยาม และมองเฉินโม่ในทางไม่ดี

เจี่ยงหยาวมองเฉินโม่อย่างขอโทษ หันหน้าไปพูดกับหลินเหม่ยหลิงอย่างจริงจัง “เหม่ยหลิง เธออย่าทำแบบนี้ได้มั้ย? พี่เฉินโม่เป็นผู้มีคุณของฉัน ถ้าเธอพูดแบบนี้อีก ฉันจะไม่สนใจเธอแล้ว!”

เมื่อเห็นเจี่ยงหยาวโกรธ หลินเหม่ยหลิงก็ไม่กล้าทำอีก แต่ว่าสีหน้ายังคงดูดูถูกเฉินโม่ “ก็ได้ ก็ได้ ฉันไม่พูดก็แล้วกัน ฉันไม่เคยเห็นเธอโกรธฉันเพราะคนนอกมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าไอ้หมอนี่วางยาอะไรกับเธอ? ทำให้เธอเชื่อเขาขนาดนี้!”

“บุญคุณที่พี่เฉินโม่มีต่อฉัน ต่อให้ใช้ตกแทนโดยการเป็นวัวเป็นม้าก็ยังใช้ไม่หมด” เมื่อพูดคำนี้จบ เจี่ยงหยาวรู้สึกถึงความไม่เหมาะสม ใบหน้าแดง ก้มหน้าลงไป และแอบมองเฉินโม่ไปแวบหนึ่ง เห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไร ถึงได้โล่งอก

เฉินโม่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แต่หลินเหม่ยหลิงที่ความรู้สึกไวกลับรู้ความหมายของเจี่ยงหยาว มองเจี่ยงหยาวอย่างตกตะลึง แล้วถาม “ไม่ใช่มั้งหยาวหยาว เธอนั้น……..”

เจี่ยงหยาวรีบเอามือปิดปากของหลินเหม่ยหลิงเอาไว้ ไม่สนหลินเหม่ยหลิงที่พยายามพูด ร่างกายที่บอบบางได้ปล่อยพลังทั้งหมดที่มี ทำให้หลินเหม่ยหลิงดิ้นไม่ได้

จนกระทั่งหลินเหม่ยหลิงส่งสายตาอ้อนวอน เจี่ยงหยาวจึงได้ปล่อยมือ

ฮู้……

หลินเหม่ยหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองเจี่ยงหยาวอย่างไม่พอใจ พูดอย่างขุ่นเคือง “เธออยากให้ฉันขาดอากาศจนตายเหรอ!”

เจี่ยงหยาวที่รู้สึกผิด รีบขอโทษ “ขอโทษนะเหม่ยหลิง ฉันไม่ได้เจตนา!”

หลินเหม่ยหลิงกลอกตาใส่เจี่ยงหยาว พูดอย่างไม่พอใจ “บ้าสิ หากเธอเจตนา ตอนนี้ฉันคงถูกเธอฆ่าตายแล้ว!”