TB:บทที่ 313 เทวาจุติกรุ๊ป

 

นิกายเทวาจุติคือตึกสามสิบชั้นที่ตั้งอยู่ที่คานารีวาร์ฟในนครแห่งหมอก โดยจะเรียกตึกนั้นว่าตึกเทวาจุติ

ในตอนที่หวู่ชิงหยางและถังเต่าหูกลับมาถึงนิกายเทวาจุติ พวกเขาไม่ได้รายงานเรื่องหวู่เต่าเทียนกับท่านผู้นำในทันที

หวู่ชิงหยางยังนับหวู่เต่าเทียนเป็นหลานชายของตนอยู่ เขาจึงออกปากขอร้องให้ถังเต่าหูไม่นำเรื่องนี้ไปรายงานกับท่านผู้นำ และถังเต่าหูเองก็ยินดีเก็บเรื่องของหวู่เต่าเทียนไว้เป็นความลับและไม่คิดจะบอกใครทั้งนั้น

 

นอกจากนี้ ถังเต่าหูยังรู้จักนิสัยของหวู่ชิงหยางดี อีกฝ่ายอยากจะบอกเรื่องนี้กับท่านผู้นำด้วยตัวเอง

หลังจากกลับมาที่นิกายเทวาจุติได้สามวัน หวู่ชิงหยางจึงมาที่สำนักงานของถังหยินหยาง ท่านผู้นำแห่งนิกายเทวาจุติและเทวาจุติกรุ๊ป

ถังหยินหยางเป็นชายวัยกลางคนวัยสี่สิบสูงประมาณ 1.8 เมตร เขามีร่างกายที่ผอมบางเล็กน้อย จุดไฝดวงเล็กๆตรงกึ่งกลางระหว่างคิ้วทำให้เขามีภาพลักษณ์ที่สง่างามมาก

 

“ผู้อาวุโสชิงหยาง เขาไม่ได้กลับมากับคุณเหรอ?” ถังหยินหยางหันไปถามหวู่ชิงหยางด้วยรอยยิ้ม

“ครับ เต่าเทียนเป็นเด็กดื้อรั้นและเอาแต่ใจ คุณอย่าได้ตำหนิเขาเลย ถ้าจะโทษก็มาโทษผมแทน ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างที่หวู่เต่าเทียนเป็นคนก่อ เพราะผม เรื่องทั้งหมดถึงได้เป็นแบบนี้…” หวู่ชิงหยางตอบอย่างละอายใจ

เขารู้ว่าถังหยินหยางต้องรู้เรื่องของหวู่เต่าเทียนแล้ว

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เขากลับไปมาที่นิกาย แต่ไม่ได้ไปตามหาเขาด้วยตัวเอง  อีกฝ่ายให้เกียรติและรอให้เขามาบอกอีกฝ่ายด้วยตัวเอง

 

“ผู้อาวุโสชิงหยาง ผมไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิคุณ เต่าเทียนทำอย่างนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่ตอนนี้ก็คงแก้ไขมันอะไรไม่ได้แล้ว ทักษะเทวาจุติของเฉินหลงนั้นแข็งแกร่งมาก และพลังของมันก็มีส่วนหนึ่งของนิกายเทวาจุติของผมเช่นกัน ถ้าเต่าเทียนสามารถศึกษาวิชาเทวาจุติจากเขาได้ล่ะก็ มันคงเป็นเรื่องที่เยี่ยมมาก!” ใบหน้าของถังหยินหยางปรากฎรอยยิ้มบางเบา

 

“ถ้าเป็นไปได้ ผมเองก็อยากจะร่วมมือกับเฉินหลงเหมือนกัน”

ในฐานะผู้นำแห่งเทวาจุติ เขาจึงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก

หวู่ชิงหยางดีใจมากที่ได้ยินว่าถังหยินหยางจะไม่ตำหนิหลานชายตัวดีของเขา อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขาได้ยินว่าถังหยินหยางต้องการร่วมมือกับเฉินหลง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอีกฝ่าย

“คุณอยากร่วมมือกับเขาเหรอครับ? แล้วคุณจะร่วมมือกับเขายังไงครับ?”

“เฉินหลงก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ลิเวอร์พูล ก่อนที่จะเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการ มีทหารผ่านศึกเยอรมันหลายนายทำงานให้เขา ดังนั้น พวกเราเองก็มีโอกาสที่จะได้ร่วมมือกับเขา”

 

ถังหยินหยางมองออกไปนอกหน้าต่างสำนักงาน โดยมองไปทางลิเวอร์พูลราวกับว่าเขาเห็นชายหนุ่มที่แข็งแกร่งอย่างเฉินหลงยืนอยู่ตรงนั้น

“แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพวกเราจะร่วมมือกับพวกไปเพื่ออะไร…” หวู่ชิงหยางไม่เข้าใจว่าเขาจะร่วมมือกับเฉินหลงได้ยังไงในเมื่อ…

เมื่อเห็นท่าทางของหวู่ชิงหยาง ถังหยินหยางจึงส่งยิ้มให้คนตรงหน้า

จริงอยู่ที่คนคนนี้เก่งในเรื่องการใช้กำลัง แต่เขาก็ยังเป็นคนที่เข้มงวดและอารมณ์ร้ายอยู่วันยังค่ำ โชคดีจริงๆที่เขามีความภักดีต่อนิกายเทวาจุติ

 

“ผู้อาวุโสชิงหยาง คุณคิดจริงๆเหรอว่าเฉินหลงจะอยากทำให้บริษัทรักษาความปลอดภัยของเขาเป็นที่รู้จัก?”

หวู่ชิงหยางจ้องมองรายยิ้มประหลาดบนใบหน้าของอีกฝ่ายโดยไม่ตอบคำถาม

ในตอนนี้ เขาไม่ค่อยมั่นใจนัก หากเฉินหลงไม่ได้ก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย แล้วเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่? หรือว่าเขาต้องการสร้างกองทัพเพื่อโค่นรัฐบาลอังกฤษ?

 

“เอาเป็นว่า ผู้อาวุโสชิงหยางไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น คุณแค่ไปเรียกเต่าหูให้มาหาผมก็พอ ทางที่ดีสุดในตอนนี้คือให้คนรุ่นเดียวกันเป็นคนจัดการ” ถังหยินหยางบอกหวู่ชิงหยาง

“ครับ ท่านผู้นำ ผมจะให้เต่าหูให้มาที่นี่เดี๋ยวนี้ครับ”

ด้วยเหตุนี้ หวู่ชิงหยางจึงเดินออกไปจากสำนักงานของถังหยินหยาง แล้วเดินไปเรียกถังเต่าหูให้มาพบเขา

“เฉินหลงช่างเป็นเพื่อนร่วมชาติที่น่าสนใจจริงๆ ไม่ว่าคุณจะมีจุดประสงค์อะไร ให้ผมเป็นคนช่วยคุณเอง” ถังหยินหยางคิดในใจ เขายังคงทอดสายตามองไปทางลิเวอร์พูล

ไม่นานนัก ถังเต่าหูก็มาหาถังหยินหยางที่สำนักงาน

 

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ถังเต่าหูก็ออกเดินทางจากตึกเทวาจุติไปยังลิเวอร์พูลอีกครั้ง

ครั้งนี้ ท่านผู้นำมอบหมายสุดยอดภารกิจให้เขาทำ และถังเต่าหูก็ถูกใจมันมาก หลังจากที่เขารู้ว่าเฉินหลงนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน ถังเต่าหูก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับเฉินหลง

ในตอนนี้ เทวาจุติต้องการร่วมมือเฉินหลง ดังนั้น มันจึงเป็นโอกาสที่เขาจะได้ผูกมิตรกับเฉินหลง

 

บัดนี้ ถังเตาหูได้กลับมาที่ปราสาทของเฉินหลงอีกครั้ง แต่เพราะเฉินหลงออกไปดูการทำงานของพวกกรรมกรที่เขตก่อสร้าง ตอนนี้ เขาจึงไม่ได้อยู่ที่นี่

ในตอนที่เขาพักอยู่ที่ปราสาท เฉินหลงได้ยินมาว่าการทำงานของกรรมกรต่างชาตินั้นดีมาก เขาจึงอยากไปตรวจดูว่าชาวต่างชาติพวกนี้บริหารและจัดการงานกันยังไง

 

เมื่อรู้ว่าถึงเต่าหูมาเพื่อเจรจากับเฉินหลงเรื่องความร่วมมือ หวู่เต่าเทียนจึงพาเขาไปหาเฉินหลงที่เขตก่อสร้าง

ที่ตั้งของบริษัทอยู่ในเขตชานเมืองลิเวอร์พูล ส่วนเหตุผลที่เฉินหลงเลือกเขตชานเมืองก็เพราะที่นั่นมีพื้นที่ที่สามารถใช้ในการฝึกทหารโดยที่เขาไม่ต้องเสียเงินเลยสักแดง และเนื่องจากเป็นที่ดินส่วนบุคคลของแอนแดส เขายินดีช่วยสภาแห่งศาสตร์มืดทำให้อำนาจของโบสถ์แห่งแสงอ่อนลง อย่างที่ควรจะเป็น

เฉินหลงยืนอยู่บริเวณเขตก่อสร้าง มองดูกรรมกรของแอนเดสกำลังก่อสร้างตึก จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ คนงานพวกนี้ขยันและมีความรอบคอบในการทำงานมาก ต่างคนต่างตั้งใจรับผิดชอบหน้าที่ของตนโดยไม่พูดจากันสักคำ อีกทั้งยังมีการแบ่งงานเป็นสัดส่วนชัดเจนทำให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

“บอส น้องของผมมาหาครับ เขาบอกว่าเขามีธุระจะคุยกับบอส”

ในเวลาเดียวกัน หวู่เต่าเทียนมาถึงที่เขตก่อสร้างพร้อมกับถังเต่าหู หวู่เต่าเทียนจึงเดินไปรายงานเรื่องนี้แก่เฉินหลง

“ธุระ?” เฉินหลงเอ่ยถามถังเต่าหูด้วยความประหลาดใจ

เมื่อเห็นเฉินหลงสนใจ ใบหน้าของถังเต่าหูก็ผุดรอยยิ้มขึ้นทันที

 

“งั้นเรากลับไปคุยที่ปราสาทกันเถอะ” เฉินหลงพยักหน้าตอบด้วยความยินดี

ภายในห้องแห่งหนึ่งในปราสาท เฉินหลงเชิญถังเต่าเทียนให้นั่งลงที่โซฟารับแขก จากนั้นก็เอ่ยปากถามอีกฝ่ายว่า “พี่ถัง ผมไม่ค่อยเข้าใจที่พี่บอกว่าพี่อยากร่วมมือกับผม”

“คุณเฉิน ผมทราบมาว่าคุณก่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย แต่ตอนนี้คุณยังมีแค่บริษัทแต่ยังไม่มีปืนหรืออาวุทอย่างอื่นใช่ไหมละครับ?” ถังเต่าหูกล่าวพร้อมกับจ้องมองเฉินหลงไม่วางตา

 

เฉินหลงแสดงความแปลกใจออกมาผ่านใบหน้าแล้วตอบกลับไปว่า “หึ ที่พี่ถังมาหาผมถึงที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจสินะครับ”

“ถูกต้องครับ ถึงสภาของแอนเดสจะมอำนาจมากกว่าเทวาจุติกรุ๊ปของเรา แต่ถ้าว่ากันด้วยเรื่องอาวุธแล้ว เทวาจุติกรุ๊ปของเรามีเส้นสายมากกว่าสภาของแอนเดสแน่นอนครับ ผมมั่นใจ” ถ้าพูดถึงอาวุธแล้ว ถังเต่าหูขอรับประกันว่านิกายเทวาจุติของเขานั้นไม่เป็นสองรองใครแน่นอน

อย่างเช่น สำนักงานใหญ่นิกายเทวาจุติของถังเต่าหูตั้งอยู่ที่คานารีวาร์ฟ เป็นเมืองที่เอื้ออำนวยในด้านของการคมนาคม รวมถึงการขนส่งสิ้นค้าของบริษัทในเครือเทวาจุติกรุ๊ป สามารถลักลอบขนส่งสิ้นค้าผิดกฎหมายได้อย่างง่ายดาย

“แล้วคุณอยากได้อะไรเป็นการตอบแทนละครับ?” เฉินหลังถามถังเต่าหูกลับด้วยรอยยิ้ม

ของฟรีไม่มีในโลก เฉินหลงรู้ดีว่านิกายเทวาจุติไม่มีทางทำดีโดยไม่หวังผลแน่นอน