องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 792 สร้างความไว้วางใจ
เฟยอิงกำลังแบกตะกร้าใบหนึ่งอยู่ที่ข้างหลัง ร่างกายมีโคลนอยู่บ้างและขาข้างหนึ่งก็เดินกะโผลกกะเผลกแต่เขาไม่ได้เป็นอันใดมากนัก
เพียงแต่ว่าฉีเฟยอวิ๋นในเวลานี้มองไปยังคนที่อยู่ข้างๆเฟยอิงด้วยความเงียบ
เมื่ออาซิวเห็นฉีเฟยอวิ๋นก็แสะปากพร้อมกับหัวเราะเยาะ: “พระชายาเย่ ปลอดภัยดีอยู่นี่!”
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้กล่าวสิ่งใดเพียงแค่มองไปทางเฟยอิงแล้วเดินไปหา: “เหตุใดเจ้าถึงลงเขาซะหล่ะ?”
เฟยอิงสึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้วมองไปยังอาซิว: “เหตุใดเจ้าถึงกล่าวกับพระชายาเช่นนั้น?”
“ข้าควรพูดเช่นไรกับนางดี นางฆ่าน้องสาวของอาอวี่ข้ามาหานางเพื่อแก้แค้นยังหาไม่เจอ ในเมื่อเจอแล้วเฟยอิงข้าควรจะขอบใจเจ้าที่ให้โอกาสข้าได้เจอกับนาง ” อาซิวพูดแล้วก็เข้าใกล้ฉีเฟยอวิ๋น
“ท่านหัวหน้าท่านคงยังไม่รู้สิว่าเลือดของหญิงผู้นี้มีความสามารถในการรักษา” อาซิวคว้ามือของฉีเฟยอวิ๋นและฟันลงไปอย่างรวดเร็วและบาดแผลก็เลือดไหลไม่หยุด ฉีเฟยอวิ๋นขมวดคิ้วแล้วนางก็ดึงมือกลับมาเพื่อต้องการพันเอาไว้แต่ถูกหนานกงเซวียนเหอดึงไว้
หนานกงเซวียนเหอเห็นว่ามือของฉีเฟยอวิ๋นสมานดีแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นนั้นตกใจยิ่งนักแต่ก็กลับคืนปกติได้อย่างรวดเร็ว
“เฟยอิง ฆ่าเขาซะ!”
ฉีเฟยอวิ๋นน้อยนักที่จะโหดเหี้ยมเช่นนี้ หากมิใช่ว่าอาซิวทำเกินไปเช่นไรเขาก็เป็นลูกชายของพ่อบ้าน แต่ตอนนี้นางทำได้เพียงฆ่าอาซิวเท่านั้น
อาซิวหัวเราะ มีดในมือของเขากดไปที่คอขอฉีเฟยอวิ๋น: “ท่านผู้นำได้รับข้าเอาไว้ข้าก็เป็นคนของท่านผู้นำ เขาไม่สามารถเอาชนะข้าได้ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ ฉีเฟยอวิ๋นท่านก็มีวันนี้ด้วย”
ฉีเฟยอวิ๋นยกมือขึ้นจับข้อมือขออาซิว อาซิวตัวสั่นจึงได้อ้าปากขึ้นและหน้าทั้งหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แห้งเหี่ยวจนเขาไม่อยากเชื่อ อาซิวรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็วและล้มลงกับพื้นโดยที่จับคอของตนเองเอาไว้
ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปยังตรงหน้าอาซิว: “แม้ว่าเลือดของข้าจะสามารถรักษาสิ่งใดให้หายได้เจ้าก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แม้ว่าเจ้าจะพึงพิงผู้ใดเจ้าก็ต้องตายสถานเดียวเท่านั้น
อาซิว ตอนนั้นอาอวี่คุกเข่าขอร้องเพื่อเจ้า เป็นเพราะคำพูดประโยคหนึ่งของข้าจึงละเว้นโทษตายให้เจ้า ตอนนี้เจ้าต้องการทำร้ายข้าแล้วข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้เช่นไร
เจ้าเป็นเศษสวะ เสียแรงที่อาอวี่ยอมตายเพื่อขอร้องให้เจ้า
ข้าเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการตายของน้องสาวอาอวี่แต่จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้และเจ้าก็ไม่สามารถละทิ้งความเกลียดชังที่สังหารภรรยา ข้าจึงทำได้เพียงแค่ส่งเจ้าไปตาย”
“ช่วย……ช่วยข้าด้วย……” อาซิวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก คว้าเสื้อผ้าของฉีเฟยอวิ๋นเพื่อต้องการให้ฉีเฟยอวิ๋นช่วยเหลือแต่ฉีเฟยอวิ๋นนั้นเตะออกไป
เหลือบมองไปยังเฟยอิงซึ่งตกตะลึง: “พวกเรากลับกันเถอะ”
เฟยอิงมองยังอาซิวบนพื้นที่กลายเป็นคนตายอันเหี่ยวเฉาแล้วมองไปยังหนานกงเซวียนเหอ: “เขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้”
“ช่างเขาเถอะ ต่อให้มีผู้คนจากทั่วหล้ามาเอาชีวิตข้าก็จะต้องมีความสามารถนี้ถึงจะได้ ข้าไม่ได้ตายแค่ครั้งเดียวหากตายก็คงจะตายไปตั้งนานแล้ว!”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวจบก็หันหลังจากไป เฟยอิงลังเลครู่หนึ่งจากนั้นเหลือบมองหนานกงเซวียนเหอโดยการเตือนแล้วตามฉีเฟยอวิ๋นจากไป
หนานกงเซวียนเหอมองไปยังอาซิวที่ตายอยู่บนพื้นแล้วหันหลังตามกลับไป
ระหว่างทางฉีเฟยอวิ๋นเดินช้ายิ่งนักเฟยอิงจึงตามฉีเฟยอวิ๋นได้อย่างรวดเร็ว ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองตะกร้าที่อยู่ด้านหลังของเฟยอิงซึ่งมีฝาปิดอยู่ด้วยและยังมีสิ่งของกันฝนอยู่บ้างคล้ายๆกับตะกร้าเก็บยาสมุนไพร ดูแล้วช่างหนักอึ้งฉีเฟยอวิ๋นก็รู้ว่ามีสิ่งใดอยู่ด้านใน
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกผิดยิ่งนัก: “เฟยอิงเป็นความผิดของข้า ข้าไม่ควรพูดจาเหล่านั้นกับเจ้าไม่เช่นนั้นเจ้าก็คงจะไม่ลงเขา”
“ข้าสามารถลงไปได้” เฟยอิงดื้อรั้นยิ่งนัก ถึงแม้ว่าจะอันตรายมากก็รู้สึกว่าไม่มีสิ่งใด แต่ในใจของฉีเฟยอวิ๋นนั้นกลัวเหตุการณ์ภายหลังอยู่ครู่หนึ่ง
“ต่อไปเจ้าอย่าได้สร้างปัญหา” ฉีเฟยอวิ๋นก็สั่งสอนเฟยอิงไม่ค่อยสะดวกนักเช่นไรเขาก็หวังดี
ทั้งสองคนเดินอยู่ด้านหน้าและหนานกงเซวียนเหอก็ตามมาไม่นานหลังจากนั้น เฟยอิงได้รับบาดเจ็บฉีเฟยอวิ๋นจึงประคองเฟยอิงไว้ขณะที่หนานกงเซวียนเหอถามว่า: “เจ้ารักษาตนเองได้เช่นไร?”
ที่นี่ไม่มีผู้ใดฉีเฟยอวิ๋นจึงไม่ได้เงียบงัน
“ขณะแต่งงานข้าตายไปครั้งหนึ่ง ตายแล้วฟื้นขึ้นมาก็เป็นเช่นนี้แล้ว เพราะเหตุใดนั้นข้าเองก็ไม่รู้”
“หมายความว่าเจ้ามีพลังวิเศษหรือ?”
“ท่านกล่าวเช่นนี้ก็เป็นแค่เรื่องขบขัน หากว่าข้ามีพลังวิเศษเช่นนั้นข้าก็สังหารท่านไปตั้งนานแล้ว เพียงแค่แตกต่างจากผู้อื่นเท่านั้นเอง”
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้ตื่นตระหนกหนานกงเซวียนเหอจึงยิ้ม: “ข้าจะกระจายข่าวออกไปทั่วทั้งใต้หล้าก็จะรวมตัวกันกันจับกุมเจ้า ถึงเวลานั้นหนานกงเย่ยังจะต้านทานเช่นไรได้?”
“ถึงเวลานั้นเจ้ามาผู้หนึ่งสังหารผู้หนึ่ง เข้ามาคู่หนึ่งก็สังหารคู่หนึ่ง สังหารไปมากมายก็ไม่มีผู้ใดมาแล้ว ทุกคนในหุบเขายามีทักษะเฉพาะตัวจับตัวพวกเขามีประโยชน์มากกว่าจับตัวข้า ผู้คนในปฐพีก็ไปตามชื่อเสียงที่มีกระทั่งถึงภายหลังก็ไม่กล้าไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
“……” ทั้งสามคนเริ่มเงียบกันตลอดทาง ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือเฟยอิง เฟยอิงรู้สึกเศร้าใจที่ไม่ควรพาอาซิวขึ้นเขาและถูกอาซิวหลอก
เมื่อกลับถึงกระโจมก็เช้าแล้วฉีเฟยอวิ๋นรักษาอาการบาดเจ็บที่ขาของเฟยอิงก่อน โชคดีที่อาการบาดเจ็บไม่ได้หนักหนา
นางหยิบตะกร้าขึ้นมาดู หญ้าและขี้เถ้าได้เตรียมเอาไว้ทั้งหมดแล้วแต่ฉีเฟยอวิ๋นไม่เคยใช้ของเหล่านี้มาก่อน นางไม่คุ้นเคยที่จะใช้
หลังจากพูดคุยเรื่องการพักผ่อนกับเฟยอิงแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็กลับไปยังกระโจม หนานกงเซวียนเหอให้คนเตรียมถังไม้และฉีเฟยอวิ๋นก็ได้เตรียมน้ำ
ตอนบ่ายทุกคนนั้นออกไปทำงาน หนานกงซวนเหอเฝ้าดูอยู่ที่ด้านนอก ฉีเฟยอวิ๋นอาบน้ำอยู่ด้านในและเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมจัดของเรียบร้อยแล้วจึงได้ออกมาจากด้านใน
“รบกวนท่านช่วยข้าเทน้ำด้วย” ฉีเฟยอวิ๋นออกมาก็ไปหาหนานกงเซวียนเหอ หนานกงเซวียนเหอไปช่วยแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็ตามเขาเข้าไป เขาเห็นบนหน้าอกของฉีเฟยอวิ๋นห้อยสิ่งของแปลกประหลาดชิ้นหนึ่ง
“บนคอของเจ้าคือสิ่งใด?”
“ทำมาจากเหรียญกษาปณ์ สิ่งนี้สามารถรักษาอาการป่วยของท่านได้” ฉีเฟยอวิ๋นหยิบลงมาเขย่า ส่วนหนานกงเซวียนเหอรู้สึกขำ
“ขอข้าดูหน่อย” ฉีเฟยอวิ๋นส่งเหรียญกษาปณ์ให้หนานกงเซวียนเหอ หนานกงเซวียนเหอมองไม่เห็นสิ่งใดจึงมอบให้ฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นกำลังจะจากไปแต่ถูกหนานกงเซวียนเหอเรียกเอาไว้
“ต้องการสะกดจิตข้าหรือ?”
ฉีเฟยอวิ๋นหยุดลงแล้วหันไปมองหนานกงเซวียนเหอด้วยความประหลาดใจ
หนานกงเซวียนเหอกล่าวว่า: “ข้าเคยเล่าเรียนการสะกดจิตและการสะกดจิตของอาอวี้นั้นก้าวขึ้นไปขั้นหนึ่ง”
“แล้วเช่นไรหล่ะ?” ฉีเฟยอวิ๋นถามกลับ
หนานกงเซวียนเหอจัดการกับน้ำจากนั้นเดินไปที่เตียงแล้วนั่งลง: “ดังนั้นข้าจึงต้องมีสมาธิ”
“……”ฉีเฟยอวิ๋นมองดูหนานกงเซวียนเหอด้วยความประหลาดใจ แต่เรื่องบางอย่างนางไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้ได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้อารมณ์ในชั่วขณะ
เดินไปถึงยังตรงหน้าหนานกงเซวียนเหอจากนั้นฉีเฟยอวิ๋นหยิบเหรียญกษาปณ์มาเขย่า หนานกงเซวียนเหอจึงกล่าวว่า: “วางเรื่องของอาซิวไว้ก่อน เพียงแค่ลบเรื่องสมานแผลของเจ้าทิ้ง เจ้าแค่บอกข้าว่าอาซิวทำร้ายเจ้า แต่ขณะนั้นข้อมือของเจ้ายังไม่หายดี อีกครู่หนึ่งเจ้าพันข้อมือเอาไว้ข้าก็จะเชื่อโดยธรรมชาติ”
“เพราะเหตุใด?” ฉีเฟยอวิ๋นสงสัยว่าทำไมหนานกงเซวียนเหอถึงได้ทำเช่นนี้
“ข้าไม่ต้องการ เป็นการยากที่จะมีคนทำให้ข้ารู้สึกว่าข้านั้นมีชีวิตอยู่จริงๆแต่สุดท้ายก็จางหายไป เจ้านั้นทำได้ใช่หรือไม่?”
หนานกงเซวียนเหอขมวดคิ้วและมองไปยังฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นยิ้มและเริ่มขยับเหรียญกษาปณ์
“เรื่องราวที่ท่านเห็นเป็นความจริงทั้งสิ้น ข้าสามารถสมานแผลเองได้จริงๆ ตั้งแต่วินาทีที่ท่านเห็นเข้าก็สาบานว่าท่านจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นเพื่อมาทำร้ายข้าไปชั่วชีวิต”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวจบก็หยิบเหรียญกษาปณ์ให้แก่หนานกงเซวียนเหอ: “มอบให้ท่าน!”
หนานกงเซวียนเหอเงยหน้าขึ้น: “เจ้าเชื่อข้าหรือ?”
“หากว่าทุกคนนั้นไม่เชื่อท่านงั้นข้าเชื่อคุณ” ฉีเฟยอวิ๋นมองไปโดยรอบ
“ข้าก็เหนื่อยแล้วเช่นกัน วันนี้ขอขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือจากท่าน ท่านออกไปก่อนเถอะนะ ข้าควรจะพักผ่อนได้แล้ว”