ตอนที่ 770 การพบเจอบนหนทางที่คับแคบ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ดูเหมือนว่าสัตว์ร้ายกลืนสวรรค์ตัวนี้จะกลืนกินมิติทั้งหมดไป พื้นที่ของมิติแห่งนี้เล็กลงไปเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันพื้นที่ที่ให้พวกเขาอยู่นั้นก็น้อยลงไปเรื่อยเช่นกัน

เสี่ยวหงกล่าวขึ้น “นายท่าน หากให้เจ้าหมอนั่นกลืนกินเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ พวกเราเสร็จแน่”

ในตอนนี้เอง สัตว์ร้ายจอมกลืนกินก็ได้พุ่งเข้าไปทางชิงอิ่ง มันกัดขาของเขาเอาไว้

มู่เฉียนซีเป็นกังวลยิ่งนัก “ชิงอิ่ง…..”

สัตว์ร้ายกลืนสวรรค์นี้ มันจะกลืนกินทุกสิ่งอย่าง!

ถ้าหากว่าขาของชิงอิ่งได้รับบาดเจ็บเข้าละก็ นางนั้นไม่รู้เลยว่าจะสามารถรักษาเขาได้เช่นไร

แต่ที่สัตว์ร้ายกลืนสวรรค์ได้กัดขาของชิงอิ่งลงไปนั้น มันกลับกัดไม่เข้า!

นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้พบเจอกับสิ่งที่มันไม่สามารถกลืนกินได้ และชิงอิ่งได้ซัดเข้าไปที่มันทันทีหนึ่งหมัด!

ปัง! สัตว์ร้ายกลืนสวรรค์ตัวนั้นได้ถูกซัดกระเด็นลอยออกไป

มู่เฉียนซีเองก็โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง ชิงอิ่งไม่เป็นอะไรแล้วก็ดี

แต่ทว่าพื้นที่ในมิติที่พวกเขาอยู่นั้นได้เหลือน้อยลงไปทุกที มู่เฉียนซีมองไปที่สัตว์ร้ายกลืนสวรรค์ที่ดำสนิทตัวนั้น นางแอบกล่าวออกมา “พวกเจ้าชอบกลืนกินนักมิใช่เหรอ? เดี๋ยวจะให้พวกเจ้ากินให้พอ!”

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ชิงอิ่ง เสี่ยวหง พวกเจ้ากันพวกมันเอาไว้”

มู่เฉียนซีได้หยิบเอาหม้อวิญญาณนิรันดร์ออกมา และได้นำสมุนไพรวิญญาณใส่ลงไปในนั้นอย่างมากมายในทีเดียว ไม่นานนัก มันก็สำเร็จออกมาเป็นเม็ดยา

มู่เฉียนซีได้สะบัดมือยกขึ้น เม็ดยาเหล่านั้นก็ได้ถูกมู่เฉียนซีโยนออกไป

สัตว์ร้ายกลืนสวรรค์เหล่านั้นได้กลิ่นหอมของยา พวกมันที่รู้จักแต่กินเท่านั้นรู้สึกว่ายาเม็ดที่ละเอียดลออนี้เป็นสิ่งที่รสชาติดีกว่าสิ่งอื่นๆ

พวกมันจึงได้กรูกันเข้าไปเพื่อที่จะกิน และเมื่อยิ่งกินนั้นก็ยิ่งเสพติด

เสี่ยวหงกล่าวขั้น “นายท่าน ท่านให้เจ้าพวกนี้กินยาเม็ด มิใช่ว่าจะเป็นการเพิ่มพลังให้พวกมันหรอกหรือ?”

มู่เฉียนซีกล่าวตอบ “เจ้าคิดว่าพวกมันเป็นชิงอิ่งหรือ?”

เสี่ยวหงตอบกลับ “นั่นก็จริง มีเพียงชิงอิ่งผู้เดียวที่พิเศษเช่นนั้น ผู้อื่นกินเข้าไปเช่นนั้น คาดว่าคงได้จุกท้องตาย”

เมื่อเห็นว่าสัตว์ร้ายกลืนสวรรค์กินยาเม็ดเข้าไปด้วยความรวดเร็วที่มากขึ้นเรื่อยไป มู่เฉียนซีจึงได้เริ่มปรุงยาหม้อที่สองขึ้น และให้พวกมันกินให้เต็มที่

อย่างไรเสียหลังจากที่สัตว์ร้ายกลืนสวรรค์พวกนี้ได้กินยาเม็ดของมู่เฉียนซีเข้าไปแล้ว มันก็ไม่มีความสนใจที่สิ่งอื่นใดอีก

เสี่ยวหงกล่าว “ให้มันกินเช่นนี้ต่อไปข้ากลัวว่าพวกมันจะไม่ได้ถูกทำให้อิ่มท้อง แต่กลับจะทำให้นายท่านเหนื่อยเสียแทน”

มุมปากของมู่เฉียนซียกโค้งขึ้นเล็กน้อย “นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก!”

จากนั้นยาที่มู่เฉียนซีได้ปรุงต่อจากนี้มิใช่ยาแบบที่เป็นเม็ดอีกต่อไป แต่มันเป็นยาน้ำ!

ยาน้ำนั้นพวกมันก็ชอบที่จะกิน แต่หลังจากที่ได้กินไปแล้วนั้น พลังของยาก็ได้กลับกลายเป็นออกฤทธิ์อย่างดุดันที่สุดขึ้นมา

ฤทธิ์ยาที่รุนแรงนั้นเกิดการตีกันมั่วขึ้นมาในตัวของสัตว์ร้ายกลืนสวรรค์ และได้ทำให้พวกมันสลบไปในทันที

ตุบ ตุบ ตุบ! พวกสัตว์ตะกละตะกลามพวกนั้นได้ล้มลงนอนบนพื้นทีละตัวๆ

มู่เฉียนซีปรบมือแล้วกล่าวขึ้น “จัดการเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปก็ต้องมาดูกันว่าจะออกไปจากที่นี่อย่างไร!”

อาถิงกล่าวขึ้น “ทางด้านซ้ายของมิติมีรอยแตกอยู่ เจ้าให้ชิงอิ่งไปเปิดมันออก!”

มู่เฉียนซีเองก็รู้สึกได้อย่างว่องไวถึงรอยแตกตรงนั้น นางกล่าวกับชิงอิ่ง “ชิงอิ่ง ทำลายรอยแตกนั่นเสีย!”

ปัง! ชิงอิ่งชกเข้าไปในหมัดเดียวอย่างสุดกำลัง และก็ได้ทำให้รอยแตกนั้นพังทลายลงจริงๆ

พวกนางได้ออกมาจากในมิตินั้นอย่างปลอดภัย หลังจากที่ออกมาได้แล้วนั้นเสี่ยวหงก็ได้หัวเราะพร้อมกล่าวขึ้น “ฮ่าฮ่าฮ่า! นายท่านเก่งกาจยิ่งนัก ข้านับถือจริงๆที่สามารถทำให้สัตว์ประหลาดอย่างสัตว์ร้ายกลืนสวรรค์จุกท้องเสียจนสลบไป”

“ยาน้ำนั้นสามารถทำให้พลังวิญญาณในยาเม็ดเหล่านั้นระเบิดพลังออกมาได้อย่างถึงที่สุดและทำให้พวกมันสลบไปเท่านั้น ถ้าหากว่าพวกเราไม่รีบหาทางออกมาละก็ เกรงว่าเมื่อพวกมันตื่นขึ้นมาพวกมันคงไม่ติดกับเป็นครั้งที่สองแน่” มู่เฉียนซีกล่าว

นางมองไปยังทางเดินข้างหน้าที่ยาวเหยียดอย่างไร้ที่สิ้นสุด เสียงที่สดใสเสียงนั้นได้ถูกส่งออกมาอีกครั้งหนึ่ง

“สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ เจ้านั้นนับว่าเป็นผู้แรกแน่นอน ข้าอยู่ที่สุดทางเดินอันยาวเหยียดนี่ ขอแค่เพียงเจ้าเดินเข้ามาก็จะสามารถหาตัวข้าได้พบ”

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าคิดว่า ข้าจะเชื่อในคำพูดภูตผีของเจ้ารึ?”

“แต่ว่าข้างหน้าเจ้านั้นมีทางเดินเพียงทางเดียว แม้ไม่เชื่อแต่ก็ต้องเดินมามิใช่หรือ? สาวน้อย………”

“อีกอย่างนึง ข้านั้นเป็นเศษส่วนหนึ่งของวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งเป็นคนละสิ่งกันกับผี เจ้าจะสับสนมิได้”

มันพูดถูก ตรงหน้านั้นมีทางเดินเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้น

แต่เมื่อมู่เฉียนซีเพิ่งเริ่มก้าวเดินขึ้นมา ก็ได้เข้าไปสู่มิติอีกแห่งหนึ่ง

มู่เฉียนซีพึมพำขึ้นมา “เป็นกับดักอีกแล้ว ลูกเล่นเช่นนี้ยังเล่นไม่เบื่อกันอีก”

ในห้องแห่งนี้ไม่มีคนอยู่ แล้วก็ไม่มีสัตว์วิญญาณที่มีสันดานในการโจมตีด้วย

เสี่ยวหงพึมพำ “สถานที่ทรุดโทรมแห่งนี้ก็คงจะสามารถเลี้ยงพวกสัตว์ประหลาดที่ขาดสารอาหารเหล่านั้นได้เท่านั้น ข้าว่าเจ้าหมอนั่นนอกจากจะเล่นสนุกสนานกับเรื่องของมิติแล้ว ยังจะต้องทำอะไรเพื่อที่จะลอบทำร้ายนายท่านอีกแน่นอน”

เจ้าเสี่ยวหงนั้นเป็นพวกปากอีกาอัปมงคลอย่างแน่นอน

เพราะทันทีที่มันกล่าวจบ ประตูอีกบานหนึ่งก็ได้เปิดออก

เงาร่างสีแดงสดเงานั้นชัดเจนเป็นอย่างมาก

อวี้จีได้เดินเข้ามา เมื่อนางเห็นเงาร่างสีม่วงเงานั้นนางก็ยิ้มแล้วกล่าวขึ้น “น้องสาวสตรีศักดิ์สิทธิ์ ช่างบังเอิญเสียจริงนะ!”

มู่เฉียนซีแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย บังเอิญที่ไหนกัน? นี่มันคู่แค้นเจอกันในตรอกแคบชัดๆ

อวี้จีลูบไล้ที่รอยแดงบนใบหน้ารูปไข่ของนาง “ตอนนี้ข้ายังเจ็บที่จุดนี้อยู่เลยนะ! น้องสาวสตรีศักดิ์สิทธิ์ เจ้าว่าทำเช่นไรถึงจะดี?”

กระบี่นั้นของเฟิงอวิ๋นซิวไม่เบาเลย อวี้จีได้ใช้ยาที่ดีที่สุดที่นางมี แต่รอยแผลนี้มันก็มิได้หายไปง่ายดายเช่นนั้น

มู่เฉียนซีโบกมือแล้วกล่าว “อย่าได้พูดพร่ำมากความ เจ้าอยากจะลงมือก็ลงมือเลย!”

ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก อวี้จีนั้นก็มิได้มีเจตนาดีอยู่แล้ว มาตอนนี้ได้มาเจอกันในหนทางที่บีบบังคับ มู่เฉียนซีนั้นก็ไม่คิดว่านางจะปล่อยตนเองไปอย่างง่ายดายเป็นแน่

อวี้จียิ้มแล้วกล่าว “น้องสาวสตรีศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน! อย่างไรเสียก็เป็นครั้งแรกที่เห็นน้องอวิ๋นซิวใส่ใจกับสตรีนางหนึ่งมากเช่นนี้”

ปากกล่าวไป แต่ตัวนางได้พุ่งไปทางมู่เฉียนซีแล้ว

ปัง! ชิงอิ่งรีบชิงจังหวะเข้าป้องกันเอาไว้

อวี้จีถอยร่นไปหลายก้าว นางกล่าวขึ้น “น้องสาวนั้นโชคดี เจ้ามิได้แยกทางกันกับองครักษ์ของเจ้า มิน่าละถึงได้มาถึงที่นี่ได้”

บึ้ม! ชิงอิ่งเองก็ไม่ชอบที่จะให้ผู้หญิงนางนี้กล่าวไร้สาระมากความกับมู่เฉียนซี จึงได้ลงมืออย่างโหดเหี้ยมในทันที

“นายท่าน ท่านหาวิธีที่จะออกไป! ข้าจะรั้งนางนี่เอาไว้”

มู่เฉียนซียังไม่ทันที่จะหาทางออกได้พบ ประตูอีกบานหนึ่งก็ได้เปิดออก และมีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา

พวกนั้นเป็นคนของตำหนักเป่ยหาน ใบหน้าของอวี้จีเผยความยินดีออกมา นางกล่าวออกคำสั่ง “จับตัวสาวน้อยนั่นเอาไว้!”

“ขอรับ ผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา!”

คนผู้นั้นได้พุ่งตรงไปทางมู่เฉียนซี แต่ในตอนนี้เอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งได้ปรากฏขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย!

ใบหน้าของอวี้จีฉายแววของความประหลาดใจออกมา “หลิง นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะช่วยข้า!”

เมื่อเผชิญกับดาบเล่มนั้นที่ใกล้เข้ามา มู่เฉียนซีนั้นไม่ขยับตัวหลบเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ตานางก็ยังไม่กะพริบ

บึ้ม!

เมื่อประตูอีกบานหนึ่งถูกเปิดออก เฟิงอวิ๋นซิวที่ได้เห็นฉากนี้เข้าก็ร้อนรนดั่งไฟเผาใจ

“เฉียนซี! รีบหลบไป!”

“เร็วเข้า!”

“อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวนเสียงหนึ่งดังลอยมา

ดาบนั้นกลับมิได้ทำร้ายมู่เฉียนซี แต่ดาบนั้นได้ฆ่าผู้ที่มุ่งเข้ามาจะทำร้ายนาง

อวี้จีแทบจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ “หลิง เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่? เจ้า….”

เฟิงอวิ๋นซิวรีบดึงมู่เฉียนซีมาไว้ข้างตัว เขากล่าวขึ้นอย่างห่วงใย “เฉียนซี! เจ้าไม่เป็นไร!”

ความห่วงใยในดวงตาสีเหลืองอำพันคู่นั้นไม่ใช่เรื่องโกหก

ในตอนนี้ความห่วงใยของเขานั้นเหมือนจะมิได้เป็นเพราะว่านางนั้นหน้าตาคล้ายกับใครบางคน เขานั้นแค่ไม่อยากให้มันกลายเป็นการผจญภัยครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาที่มีสาวน้อยผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บด้วยความบริสุทธิ์ใจ